ตอนที่ 38 เฉินอ๋องกับซีหวง
ตอนที่ 38 เฉินอ๋องกับซีหวง
“พี่สาว ฮ่าฮ่าฮ่า! มันว่ายเร็วมาก! อีกนิดก็จะตามทันแล้ว! เราใช้มันสองตัวนี้ขี่ไปที่ทางเข้าแดนลับกันเถอะ”
“อสูรสองตัวนี้มันอะไรน่ะ? พอถึงที่นั่นข้าจะให้ท่านพ่อเลี้ยงไว้สักตัว”
เด็กชายตัวน้อยสองมือเกาะขนหลังของอสูรทะเลแน่น พลางกระโดดโลดเต้นด้วยความสนุกสนาน
“อสูรสองตัวนี้…หรือว่ามันจะเป็นสัตว์เลี้ยงของใครบางคน?”
บนเรือทะเล มีคนพูดขึ้นอย่างไม่แน่ใจ และคนรอบข้างต่างพยักหน้าเห็นด้วย
หากเป็นเช่นนั้น อย่างน้อยพวกเขาก็พอทำใจยอมรับได้
“ไม่ใช่ อสูรสองตัวนี้ไม่ใช่สัตว์เลี้ยง มันมีพลังชั่วร้ายและความป่าเถื่อนที่แผ่ออกมา ไม่ใช่สิ่งที่สัตว์เลี้ยงจะมีได้” ผู้ฝึกตนขอบเขตวิบากกรรมที่เชี่ยวชาญด้านพลังจิตวิญญาณส่ายหน้า
แม้เขาจะไม่อยากเชื่อ แต่ความจริงตรงหน้าก็เป็นเช่นนั้น
“ถ้าเช่นนั้น คงเหลือเพียงความเป็นไปได้เดียว…”
ความเป็นไปได้ที่ว่านี้ช่างเหลือเชื่อจนพวกเขาไม่อยากยอมรับ
เด็กสองคนที่ดูเหมือนจะอายุเพียงสี่หรือห้าขวบ?
สามารถควบคุมอสูรทะเลสองตัวได้?
และอสูรทะเลทั้งสองตัวนี้ยังเป็นอสูรในขอบเขตวิบากกรรม!
สายตาของทุกคนจับจ้องไปยังเด็กชายกู้ชิงเฉินและเด็กหญิงกู้หยุนซีด้วยความไม่อยากเชื่อ คล้ายกับกำลังมองสิ่งมีชีวิตประหลาดสองตัว
การควบคุมอสูรทะเลขอบเขตวิบากกรรมได้ หมายความว่าเด็กสองคนนี้ต้องมีพลัง…อย่างน้อยก็อยู่ในขอบเขตวิบากกรรม!
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่?
หากไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง ไม่มีทางที่พวกเขาจะเชื่อ
“โฮ่——”
ในที่สุด อสูรทะเลตัวที่กู้ชิงเฉินขี่อยู่ก็หมดความอดทน มันฉวยโอกาสพลิกตัวอย่างรุนแรง พยายามสะบัดเด็กน้อยที่อยู่บนหลังให้กระเด็นออกไป
“เฮ้!”
แต่สองมือเล็กๆ ของกู้ชิงเฉินกลับเกาะขนของอสูรทะเลแน่น ไม่มีทางที่มันจะสะบัดเขาออกไปได้
“เจ้ายักษ์นี่ไม่เชื่อฟังเอาเสียเลย!”
เด็กชายที่เกือบถูกสะบัดจนตกถึงกับโมโห เขาเงื้อหมัดเล็กๆ ของเขาขึ้นแล้วต่อยเข้าไปที่ศีรษะของอสูรทะเล
ปัง——
“โฮ้ววว——!”
เสียงร้องโหยหวนของอสูรทะเลดังสนั่นไปทั่ว!
หมัดของกู้ชิงเฉินในครั้งนี้ มีพลังเทียบเท่ากับการโจมตีเต็มกำลังของผู้แข็งแกร่งขอบเขตวิบากกรรมขั้นสามหรือสี่ แต่ทว่าอสูรทะเลที่เขาขี่อยู่นั้นมีพลังเพียงขอบเขตวิบากกรรมขั้นสองเท่านั้น และที่สำคัญหมัดนี้พุ่งตรงไปยังศีรษะของมัน
ผลลัพธ์คือเพียงหมัดเดียว อสูรทะเลตัวนั้นก็ล้มลงเสียชีวิตทันที!
ร่างเล็กของกู้ชิงเฉินกระโดดจากซากอสูรทะเลที่ตายแล้ว ขึ้นไปยืนบนหลังของอสูรทะเลอีกตัวที่พี่สาวของเขากำลังขี่อยู่ พร้อมกับลูบตัวมันเบาๆ ด้วยรอยยิ้ม
“เจ้านี่แหละเชื่อฟังดี”
ภาพเหตุการณ์นี้ทำให้เหล่าผู้ฝึกตนอิสระบนเรือถึงกับตะลึงงันไปหมด
ผู้ที่เคยสงสัยหรือไม่อยากเชื่อในตอนแรก บัดนี้กลับพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว
อสูรทะเลขอบเขตวิบากกรรม ถูกเด็กชายฆ่าด้วยหมัดเดียว!
เด็กประหลาดคนนี้…
เขาไม่เพียงเป็นผู้แข็งแกร่งขอบเขตวิบากกรรม แต่ยังเป็นขอบเขตวิบากกรรมที่ไม่ธรรมดาอีกด้วย!
ในตอนนั้นเอง ผู้คนก็พลันนึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของผู้ฝึกตนขอบเขตวิบากกรรมที่เชี่ยวชาญด้านพลังจิตวิญญาณ
อสูรทะเลสองตัว ตัวที่เด็กชายขี่…
คืออสูรที่อ่อนแอที่สุด…
สายตาของทุกคนพลันหันไปจับจ้องที่เด็กหญิงตัวน้อย ซึ่งดูมีอายุมากกว่าเล็กน้อย
เด็กหญิงผู้นั้นไม่ได้จับขนของอสูรทะเลที่อยู่ใต้เท้าเลยแม้แต่น้อย แต่ทว่าอสูรทะเลตัวนั้นกลับไม่กล้าขัดขืนแม้แต่นิดเดียว
เด็กหญิงคนนี้…ยิ่งน่าเกรงขามกว่าเสียอีก
ภาพนี้ถูกจารึกลงในความทรงจำของทุกคนอย่างลึกซึ้ง
สิ่งที่พวกเขาได้เห็นในวันนี้ หากเล่าออกไปภายหลังคงไม่มีใครเชื่อ และคงถูกหาว่าแต่งเรื่องขึ้นมา
อสูรทะเลทั้งสองตัวไม่ได้โจมตีเรือทะเลลำเล็กนี้เลยแม้แต่น้อย แต่กลับว่ายน้ำผ่านพวกเขาไป มุ่งตรงไปยังทางเข้าแดนลับจักรพรรดิคุนอย่างรวดเร็ว
“เจ้าเฉิน จำไว้ให้ดี เมื่อเข้าไปในแดนลับจักรพรรดิคุนแล้ว อย่าให้ใครรู้ชื่อจริงของเจ้า เข้าใจหรือไม่?”
“ทำไมล่ะ?” กู้ชิงเฉินถามด้วยความสงสัย
“อย่าก่อปัญหาให้ท่านพ่อสิ”
“แล้วข้าจะเรียกตัวเองว่าอะไรล่ะ?”
“เจ้า…เจ้า…” กู้หยุนซีขมวดคิ้วเล็กน้อย คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า “เจ้าก็เรียกตัวเองว่า ‘เฉินอ๋อง’ ก็แล้วกัน”
“เฉินอ๋อง?” กู้ชิงเฉินทวนคำ พลางพยักหน้าด้วยความพอใจ
“แล้วพี่สาวล่ะ จะเรียกตัวเองว่าอะไร?”
“ข้า…ข้าก็ต้องเป็น ‘ซีหวง’ อยู่แล้ว”
สีหน้าของกู้ชิงเฉินพลันเปลี่ยนไปทันที ดูเหมือนไม่ค่อยพอใจนัก!
"ทำไมข้าต้องเป็น 'เฉินอ๋อง' แต่ท่านเป็น 'ซีหวง' ล่ะ!" เด็กชายทำหน้าบึ้งอย่างไม่พอใจ
กู้หยุนซีตบหัวน้องชายไปหนึ่งที กู้ชิงเฉินถึงกับร้องด้วยความเจ็บปวด น้ำตาเริ่มคลอเบ้า
"เพราะข้าเก่งกว่าเจ้า! เพราะข้าเป็นพี่สาวของเจ้า! ทำไม? เจ้าจะไม่พอใจหรือไง?" กู้หยุนซีกำหมัดแน่น มองน้องชายด้วยสายตาข่มขู่ราวกับจะพูดว่า "เจ้ากล้าขัดขืนข้าไหม?"
ลืมไปหรือเปล่าว่าใครเป็นพี่คนโต?
ตั้งแต่เล็กจนโต กู้ชิงเฉินมักตกเป็นเหยื่อของพี่สาวเสมอ ไม่เพียงเพราะกู้หยุนซีเป็นพี่สาว แต่ที่สำคัญกว่านั้น…เขาสู้พี่สาวไม่ได้
พลังของกู้หยุนซีเหนือกว่ากู้ชิงเฉินมากนัก ความสามารถของนางใกล้เคียงกับเจียงเหลียนซินเสียด้วยซ้ำ
ด้วยร่างศักดิ์สิทธิ์สายฟ้าสีม่วงซึ่งเป็นหนึ่งในร่างเทพระดับเก้าย่อมไม่ธรรมดา
ทันใดนั้น บนท้องฟ้าปรากฏแสงสายฟ้าพุ่งผ่านไป ทำให้ทั้งสองพี่น้องหันไปสนใจ
"ผู้แข็งแกร่งขอบเขตราชา และไม่ได้มีแค่คนเดียว"
"เจ้าเฉิน รีบปกปิดพลังของเจ้าเร็ว!"
ในขณะที่ทั้งสองพี่น้องสังเกตเห็นคนกลุ่มนั้น อีกฝ่ายก็สังเกตเห็นพวกเขาที่อยู่บนหลังอสูรทะเลเช่นกัน
"เด็กสองคน? ทำไมถึงมีเด็กอยู่ที่นี่?"
เจียงไป๋เวยถึงกับชะงักเมื่อเห็นเด็กทั้งสอง ดูจากรูปร่าง พวกเขาไม่น่าจะมีอายุมากกว่า 4 หรือ 5 ปี แต่กลับมาอยู่ในทะเลที่เต็มไปด้วยอันตรายแห่งนี้ได้อย่างไร?
นี่มันใกล้กับเขตทะเลลึกแล้ว พ่อแม่ของพวกเขาคงช่างไม่ห่วงลูกเอาเสียเลย
ใช่แล้ว กลุ่มคนที่กำลังบินผ่านฟากฟ้าไปนี้ไม่ใช่ใครอื่น นั่นคือกลุ่มของตระกูลเจียง พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปยังแดนลับจักรพรรดิคุน
คำพูดของเจียงไป๋เวยทำให้เจียงเทียนหวาง ผู้ที่กำลังหลับตาพักผ่อน เปิดเปลือกตาขึ้นมามองเพียงเล็กน้อย
แต่เพียงแค่ชำเลืองมอง เจียงเทียนหวางถึงกับหยุดชะงักกลางอากาศ
แม้แต่เจียงเทียนหวาง ผู้อยู่ในระดับราชาสวรรค์ยังต้องตกใจเมื่อรับรู้ถึงพลังของพี่น้องคู่นี้
แม้ทั้งสองจะรีบปกปิดพลังของตนเองทันทีที่พบกลุ่มของเจียงเทียนหวาง แต่สำหรับผู้แข็งแกร่งระดับราชาสวรรค์อย่างเขา การปกปิดพลังของเด็กทั้งสองไม่อาจรอดพ้นสายตาของเขาไปได้
เพียงแค่มองปราดเดียว พลังในระดับของพี่น้องทั้งสองก็ถูกเปิดเผยออกมา
"เกิดอะไรขึ้นหรือ ท่านบรรพชน?"
เจียงไป๋เวยถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นสีหน้าตกตะลึงของเจียงเทียนหวาง
เด็กแค่สองคนอายุสี่ห้าขวบ จะทำให้บรรพชนผู้ถึงขั้นราชาสวรรค์ตกใจได้ขนาดนี้เชียวหรือ?
เจียงเทียนหวางมองเจียงไป๋เวยแวบหนึ่งก่อนพูดอย่างเรียบๆ
“เด็กสองคนนี้ไม่ธรรมดา”
“อ้อ? ไม่ธรรมดาอย่างไรเล่า?” เจียงไป๋เวยมองไปที่กู้ชิงเฉินและกู้หยุนซีอีกครั้ง แต่ก็ไม่พบว่ามีอะไรพิเศษ
หากจะมีก็แค่คำถามว่าเด็กทั้งสองมาอยู่ในเขตทะเลอันตรายนี้ได้อย่างไร
“ตอนที่พวกเราปรากฏตัว พวกเขาก็ปกปิดพลังของตัวเองทันทีนั่นจึงเป็นเหตุผลที่เจ้าสัมผัสอะไรไม่ได้”
เจียงเทียนหวางกล่าวต่อ “เด็กชายคนนี้ พลังอยู่ในขอบเขตวิบากกรรมขั้นแรก”
“อะไรนะ!?” เจียงไป๋เวยถึงกับตัวสั่น และคำพูดต่อมาของเจียงเทียนหวางทำให้ใบหน้าที่งดงามของนางเต็มไปด้วยความตกตะลึง
“ส่วนเด็กหญิง พลังอยู่ในขอบเขตวิบากกรรมขั้นหก”
“ขอบเขตวิบากกรรมขั้นหก!?” น้ำเสียงของเจียงไป๋เวยเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ
เด็กสองคนที่ดูเหมือนจะอายุแค่สี่หรือห้าขวบ เด็กชายอยู่ในขอบเขตวิบากกรรมขั้นแรก ส่วนเด็กหญิงอยู่ในขอบเขตวิบากกรรมขั้นหก?
นี่มันล้อเล่นอะไรกัน!
แต่เพราะคำพูดนี้ออกมาจากปากของเจียงเทียนหวาง นางจึงไม่อาจปฏิเสธความจริงได้
โดยเฉพาะเด็กหญิงที่มีพลังถึงขอบเขตวิบากกรรมขั้นหกในวัยแค่สี่หรือห้าขวบ
ต้องเข้าใจว่าเจียงไป๋เวยซึ่งมีอายุ 20 ปีและปลุกพลังวิญญาณแล้วนั้น นางมั่นใจว่าตัวเองไม่ด้อยกว่าเจียงเหลียนซินในอดีต และอาจจะเหนือกว่าด้วยซ้ำ
แต่ถึงอย่างนั้น นางก็เพิ่งจะอยู่ในขอบเขตวิบากกรรมขั้นห้าเท่านั้นเอง
ไม่น่าแปลกใจที่แม้แต่บรรพชนยังต้องตกใจ
นี่มันไม่ใช่เด็กสองคนธรรมดา แต่เป็น…ปีศาจตัวน้อยสองตัว!
เจียงไป๋เวยรู้สึกว่าตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ ช่างเหมือนตนเสียเวลาเปล่า ฝึกฝนมาหลายปี กลับเทียบไม่ได้กับเด็กอายุสี่ห้าขวบเลย
ความรู้สึกที่ได้รับในตอนนี้ เป็นเหมือนแรงกระแทกมหาศาลสำหรับนาง
“ไปกันเถอะ เด็กสองคนนี้น่าจะมาจากขุมกำลังที่ไม่ธรรมดา ข้าใช้ชีวิตมาหลายปี แต่ยังไม่เคยเห็นอัจฉริยะที่น่ากลัวเช่นนี้เลย” เจียงเทียนหวางส่ายหัวเบาๆ ก่อนพากลุ่มคนบินผ่านพี่น้องทั้งสองไป มุ่งหน้าสู่แดนลับจักรพรรดิคุน
ก่อนจะจากไป เจียงเทียนหวางหันกลับมามองกู้หยุนซีและกู้ชิงเฉินอีกครั้ง
เขาไม่รู้ว่าทำไม แต่เด็กทั้งสองคนนี้ทำให้เขารู้สึกแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก
แปลกจริงๆ แต่มันคือความรู้สึกอะไรกัน…