ตอนที่ 31 กำเนิดบุตร
ตอนที่ 31 กำเนิดบุตร
เมื่อเวลาการถือกำเนิดของเจ้าตัวน้อยทั้งสองใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ พลังชีวิตของเจียงเหลียนซินก็ถูกดึงออกไปมากขึ้นทุกวัน
โชคดีที่กู้ฉางชิงเดินทางไปยังต่างแดนเพื่อนำวัตถุดิบมาปรุงโอสถฟื้นฟูพลังวิญญาณจำนวนมหาศาลกลับมา
มิฉะนั้น เจียงเหลียนซินอาจถูกเจ้าตัวน้อยทั้งสองดูดพลังจนหมดสิ้น!
กู้ฉางชิงเองก็เริ่มคาดหวังการลืมตาดูโลกของเด็กทั้งสองมากขึ้นทุกที
"เคยเห็นเด็กเจ็ดแปดขวบล้มยอดฝีมือในทำเนียบวิญญาณหรือไม่?"
"ยังไม่เคยใช่ไหม? รอให้ลูกของข้าทั้งสองลืมตาดูโลก เจ้าก็จะได้เห็นเอง"
หนึ่งเดือนก่อนการคลอด กู้ฉางชิงพาเจียงเหลียนซินออกจากเมืองเจียงหลิน ไปยังสถานที่ร้างห่างไกลผู้คนก่อนจะสร้างค่ายกลลับขึ้นด้วยตัวเอง
เขารู้ดีว่าการถือกำเนิดของลูกทั้งสองจะต้องก่อให้เกิดปรากฏการณ์ฟ้าดิน หากอยู่ในเมืองที่ผู้คนพลุกพล่าน ย่อมดึงดูดสายตาและความสนใจได้ง่าย
เขาสร้างกระท่อมไม้หลังหนึ่งไว้กลางป่า พร้อมเชิญหมอผดุงครรภ์ที่เก่งที่สุดในตระกูลมาช่วยดูแล
ทุกอย่างเตรียมพร้อมสำหรับการลืมตาดูโลกของทารกแฝด
ในวันนั้น ท้องฟ้าที่เคยสดใสกลับเกิดความแปรปรวนขึ้นอย่างกะทันหัน
เพียงชั่วอึดใจจากแสงอาทิตย์สาดส่อง กลับมืดมิดราวกลางคืน
ลำแสงสีแดงเพลิงประหลาดสาดลงมาจากฟากฟ้า ตรงไปยังกระท่อมไม้ที่กู้ฉางชิงและเจียงเหลียนซินอาศัยอยู่ แต่กลับไม่สร้างความเสียหายใด ๆ
ต่อมาสายฟ้าฟาดผ่านท้องนภา เผยให้เห็นเงาร่างขนาดมหึมาที่ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนกลุ่มเมฆ
ร่างเงานั้นเปี่ยมด้วยความศักดิ์สิทธิ์และสง่างามราวกับจักรพรรดินีผู้สูงสุด ทำให้ทุกคนอดไม่ได้ที่จะก้มกราบบูชา
“สามี…”
กู้ฉางชิงบีบมือภรรยาเบา ๆ เพื่อส่งสัญญาณให้นางสงบใจ
เจียงเหลียนซินที่เคยคิดว่าการที่สามีพานางมาอยู่ในสถานที่ลับนี้ก็เพื่อหาที่สงบสุขสำหรับการคลอด
แต่ในเวลานี้ นางจึงได้รู้ว่าความจริงไม่ใช่อย่างที่คิด!
ปรากฏการณ์ฟ้าดินที่เกิดขึ้นตรงหน้า ทำให้เจียงเหลียนซินตกตะลึง
แค่ให้กำเนิดบุตรเท่านั้น ไฉนถึงได้ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงเช่นนี้?
หมอผดุงครรภ์ที่ถูกเชิญมาจากตระกูล ณ ขณะนั้น กลับทรุดตัวลงกราบเงาร่างจักรพรรดินีบนฟากฟ้าโดยไม่รู้ตัว
ร่างกายของนางราวกับถูกควบคุมจนไม่อาจขัดขืนได้
ในขณะเดียวกัน กู้ฉางชิงที่มีพลังจากดาบแห่งความโกลาหลปกป้อง กลับไม่ถูกปรากฏการณ์นี้ส่งผลกระทบใด ๆ
โชคดีที่ปรากฏการณ์ฟ้าดินไม่ได้ดำรงอยู่นาน
หลังจากธูปดอกหนึ่งเผาไหม้จนหมด ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติก็สลายไป ท้องฟ้ากลับมาสดใสดังเดิม
แต่ในเวลาเดียวกัน ท้องของเจียงเหลียนซินกลับปวดรุนแรงขึ้นอย่างฉับพลัน
“ถึงเวลาแล้ว!”
หมอผดุงครรภ์ไม่มีเวลาจะคิดถึงเรื่องประหลาดก่อนหน้านี้ รีบวิ่งเข้ามาเพื่อช่วยทำคลอด
ผ่านไปไม่นาน
ด้วยความพยายามของหมอผดุงครรภ์ ในที่สุดเจียงเหลียนซินและบุตรทั้งสองก็ปลอดภัย
“เหลียนซิน เจ้าลำบากแล้ว”
กู้ฉางชิงอุ้มลูกน้อยทั้งสองไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะกุมมือหยกของนางแล้วเอ่ยอย่างอ่อนโยน
“ไม่ลำบากเลย ข้า…สุขล้นนัก”
“เร็วเถิด ข้าขอดูเจ้าตัวน้อยทั้งสองหน่อย”
กู้ฉางชิงย่อตัวลง วางลูกน้อยที่ยังร้องไห้โยเยอยู่ข้าง ๆ เจียงเหลียนซิน
“ระดับวิญญาณแท้จริงขั้นหนึ่ง? ระดับวิญญาณแท้จริงขั้นสาม?”
เพียงแค่เหลือบมอง เจียงเหลียนซินก็ถึงกับตะลึงงัน
เด็กทั้งสอง…
เพิ่งลืมตาดูโลก ก็มีพลังถึงระดับวิญญาณแท้จริงแล้วอย่างนั้นหรือ?
นี่มัน…
ข้ากำเนิดตัวอะไรกันแน่…
เอ่อ…
‘เฮอะ! ช่างไร้มารยาทนัก ไฉนข้าถึงเปรียบลูกตัวเองเช่นนั้น’
ที่เจียงเหลียนซินตกตะลึงปานนี้ ย่อมไม่ใช่เรื่องแปลก
เพราะแม้แต่ตัวนางที่ถือว่าเป็นผู้มีพรสวรรค์ ก็เพิ่งจะบรรลุระดับวิญญาณแท้จริงในวัยสิบปี
ส่วนกู้ฉางชิงนั้นเล่าช่างน่าเวทนากว่า เพราะเขากว่าจะบรรลุระดับวิญญาณแท้จริงได้ ก็ปาเข้าไปเกือบถึงวัยผู้ใหญ่
เมื่อเทียบกับลูกทั้งสองแล้ว…
ช่างน่าทดท้อใจนัก!
แต่ก็ดีแล้วที่เด็กทั้งสองเป็นสายเลือดของพวกเขา มิเช่นนั้นสามีภรรยาคู่นี้คงอดอิจฉาริษยาไม่ได้จริง ๆ
แม้กระทั่งกู้ฉางชิงที่เตรียมใจไว้แล้วก็ยังอดตกใจกับพลังของเจ้าตัวน้อยทั้งสองไม่ได้
สมแล้วที่เริ่มฝึกฝนตั้งแต่อยู่ในครรภ์
โอสถที่ข้าทุ่มเทไปมากมายก็ไม่ได้สูญเปล่า
โชคดีที่บิดาอย่างข้ามีชะตาสีแดงและร่างดาบแห่งความโกลาหล ไม่เช่นนั้นในอนาคต ข้าคงถูกลูกทั้งสองกวาดล้างให้กลายเป็นอดีตไปเสียแล้ว
หลังจากพักฟื้นอยู่ที่กระท่อมไม้อีกหลายวัน กู้ฉางชิงและเจียงเหลียนซินก็เดินทางกลับสู่ตระกูล
เมื่อกู้หยวน บิดาของกู้ฉางชิงเห็นหลานทั้งสองครั้งแรกก็ดีใจจนแทบลืมตัว อุ้มเด็กน้อยเดินไปมาทั่วคฤหาสน์ตระกูลกู้อย่างมีความสุข
สำหรับเรื่องปรากฏการณ์ฟ้าดิน กู้ฉางชิงเลือกบอกเพียงบิดาเท่านั้น และปกปิดจากคนอื่นทั้งหมด
เรื่องเช่นนี้ยิ่งมีคนน้อยที่ล่วงรู้ยิ่งดี
เพราะผู้ที่สามารถก่อให้เกิดปรากฏการณ์ฟ้าดินได้ ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิก็ยังต้องสนใจ
หากหวังเพียงรับเป็นศิษย์ก็แล้วไป แต่หากผู้ใดมีจิตคิดร้าย… ด้วยพลังของกู้ฉางชิงในตอนนี้ ย่อมไม่อาจปกป้องลูกทั้งสองได้
ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังให้ถึงที่สุด
ส่วนหมอผดุงครรภ์ที่ช่วยทำคลอด กู้ฉางชิงลบความทรงจำเกี่ยวกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นออกจากสมองนางทันที
เวลาล่วงเลยไปอย่างรวดเร็ว
พริบตาเดียวก็ผ่านไปสองปี
ในปีนั้น กู้ฉางชิงอายุครบสิบเก้าปี
ส่วนลูกทั้งสอง กู้หยุนซีและกู้ชิงเฉินก็อายุครบสองขวบแล้ว
แม้จะมีอายุเพียงสองปี แต่พัฒนาการของร่างกายรวดเร็วยิ่งนัก หากมองจากภายนอกคล้ายเด็กอายุสี่ถึงห้าปี
ตลอดสองปีที่ผ่านมา กู้ฉางชิงทุ่มเทเวลาไปกับการฝึกฝนเป็นส่วนใหญ่ เวลาที่เหลือเขาใช้ไปกับการดูแลเจียงเหลียนซินและอบรมลูกทั้งสอง
ภายในเวลาเพียงสองปี กู้ฉางชิงสามารถพัฒนาจากขอบเขตวิบากกรรมขั้นสี่ ไปถึงระดับกลางของขอบเขตราชาลึกลับ!
ความเร็วในการฝึกฝนเช่นนี้ นับว่าน่าเกรงขาม
เพราะเมื่อระดับพลังเพิ่มขึ้น การบรรลุในแต่ละขั้นก็ยิ่งยากขึ้น
โดยปกติผู้ฝึกฝนในขอบเขตวิบากกรรมแต่ละขั้นมักต้องใช้เวลาหลายปี แต่กู้ฉางชิงกลับใช้เวลาเพียงสองปี ไม่เพียงทะลุขอบเขตราชา แต่ยังไปถึงระดับกลางของขอบเขตราชาลึกลับ และห่างจากระดับปลายเพียงก้าวเดียวเท่านั้น!
ในช่วงเวลาสองปีนี้ กู้ฉางชิงไม่เพียงแต่เพิ่มระดับพลังของตนเอง เขายังมุ่งมั่นที่จะสอนและดูแลลูกทั้งสองอย่างใกล้ชิด
กู้หยุนซีและกู้ชิงเฉิน แม้จะอายุเพียงสองปี แต่กลับแสดงความสามารถเหนือธรรมชาติ ทั้งความเข้าใจในวิชาฝึกฝนและการควบคุมพลังวิญญาณ
กู้ฉางชิงมักใช้เวลาส่วนใหญ่กับลูกทั้งสองในลานฝึกฝน เขาได้เห็นพัฒนาการที่ไม่ธรรมดาของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง
แม้หยุนซีจะเป็นพี่ แต่กลับมีนิสัยขี้เล่นและชอบเอาชนะ ส่วนชิงเฉิน แม้จะเป็นน้อง แต่กลับสุขุมและนิ่งสงบยิ่งกว่า
ทั้งสองคนมักจะแข่งขันกันเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้หรือการเรียนรู้วิชาใหม่ๆ
วันหนึ่งขณะที่กู้ฉางชิงกำลังเฝ้าดูพวกเขาฝึกฝนในลานกว้าง เจียงเหลียนซินก็เดินเข้ามาพร้อมกับน้ำชาที่นางเตรียมมาให้
“สามี เจ้าตัวเล็กทั้งสองกำลังแข่งขันกันอีกแล้วหรือ?”
กู้ฉางชิงพยักหน้า ก่อนจะยิ้มอย่างภูมิใจ “พวกเขามีพรสวรรค์เกินกว่าที่ข้าคาดคิด หากฝึกฝนอย่างถูกวิธี ต่อไปจะต้องเป็นผู้แข็งแกร่งแห่งยุคอย่างแน่นอน”
เจียงเหลียนซินมองลูกทั้งสองด้วยสายตาอ่อนโยน นางรู้ดีว่าพลังและพรสวรรค์ที่พวกเขาแสดงออกมาในวันนี้ อาจนำพาให้พวกเขาเผชิญกับชะตากรรมที่ไม่ธรรมดา
“สามี พรสวรรค์เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ แต่ข้าก็อดกังวลไม่ได้ว่ามันอาจนำพาความยุ่งยากมาสู่พวกเขาในอนาคต”
กู้ฉางชิงถอนหายใจ เขาเองก็เข้าใจถึงความกังวลของภรรยา
“เหลียนซิน ข้าเองก็คิดเช่นนั้น แต่หน้าที่ของเราในตอนนี้คือทำให้พวกเขาเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่สุด เพื่อให้สามารถเผชิญกับทุกสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในวันข้างหน้า”
หลังจากพูดจบ เขาหันไปมองลูกทั้งสองที่กำลังใช้พลังวิญญาณต่อสู้กันอย่างดุเดือด สายตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
ไม่ว่าพายุใดจะพัดผ่านเข้ามาในอนาคต เขาจะปกป้องครอบครัวนี้อย่างสุดความสามารถ