ยอดระบบรีเฟรชพลังพิเศษสุดแกร่ง ตอนที่ 0011 โชคหรือความสามารถ?
ยอดระบบรีเฟรชพลังพิเศษสุดแกร่ง ตอนที่ 0011 โชคหรือความสามารถ?
เมื่อหนิงอันพาเวินจือเฉียวเข้ามาในโรงเรียน ก็ดึงดูดสายตาของใครหลายคน!
เวินจือเฉียวมีรูปโฉมงดงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออายุใกล้สามสิบปี ยิ่งงดงามสะพรั่ง บวกกับพลังอำนาจระดับนักรบของเธอ ยิ่งทำให้เธอกลายเป็นเทพธิดาในสายตาของนักเรียนหลายคน หากไม่ใช่เพราะข่าวลือที่ว่าเธอแต่งงานตั้งแต่ยังเด็ก คงมีคนมาตามจีบไม่รู้เท่าไหร่ อย่างน้อยหลายคนก็มีใจให้เวินจือเฉียว
“นั่นอาจารย์เวินนี่!”
“คนนั้นน่าจะเป็นสามีของอาจารย์เวิน!”
“ฉันรู้สึกอกหักเลย ก่อนหน้านี้ยังแอบหวังอยู่”
“ทั้งคู่เหมาะสมกันดี ใครจะไปคัดค้านได้”
นักเรียนหลายคนต่างซุบซิบ มีเสียงถอนหายใจปะปนอยู่ไม่น้อย
แน่นอนว่าในฐานะนักรบ หูของหนิงอันนั้นไวมาก
เขาได้ยินเสียงซุบซิบของนักเรียนเหล่านี้ในทันที
แต่สำหรับความนิยมของเวินจือเฉียวในหมู่นักเรียน เขาก็พอจะคาดเดาได้
อย่างน้อยในโรงเรียนนี้ เวินจือเฉียวยังคงครองตำแหน่งดาวโรงเรียนอยู่
ตอนที่เธอเลือกหนิงอัน ก็ทำให้หลายคนตกใจมาก
ในสายตาของเพื่อนร่วมชั้นหลายคนในตอนนั้น หนิงอันก็แค่โชคดีกว่าคนอื่นหน่อย ที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยนักรบหนานเจียงได้
ที่สำคัญที่สุดคือในตอนแรก มหาวิทยาลัยนักรบหนานเจียงเพิ่งก่อตั้งได้ไม่นาน แ
ม้แต่ยังมีข่าวลือว่าเพราะขาดแคลนกำลังพล
แม้แต่นักเรียนก็ต้องออกไปรบ ทำให้นักเรียนหลายคนไม่กล้าสมัครสอบ
ในรุ่นของหนิงอัน มหาวิทยาลัยนักรบหนานเจียงไม่ได้กำหนดคุณสมบัติปราณโลหิตสูงนัก
แม้แต่ในบรรดามหาวิทยาลัยนักรบทั้งหมด ก็ยังอยู่ในอันดับท้าย ๆ บวกกับจำนวนผู้สมัครที่น้อย จึงไม่มีการแข่งขันมากนัก
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยนักรบหนานเจียงยังให้สิทธิพิเศษแก่นักเรียนในพื้นที่เดียวกันด้วย
แน่นอนว่ายังมีปัจจัยอื่น ๆ อีก เช่น นักรบที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ก็ต้องไปช่วยรบอยู่แล้ว ปัจจัยหลายอย่างเหล่านี้ ทำให้หนิงอันสอบเข้ามหาวิทยาลัยนักรบหนานเจียงได้สำเร็จ
ทั้งสองไม่ได้สนใจคำพูดของนักเรียนเหล่านั้น หนิงอันเดินตามเวินจือเฉียวไปที่ห้องทำงาน
เขาไม่ค่อยคุ้นเคยกับที่นี่นัก เพราะหลายปีผ่านไป โรงเรียนก็ไม่ได้มีการปรับปรุงอะไรมากนัก ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม!
แต่ก็ไม่มีทางเลือก โรงเรียนมีงบประมาณจำกัด หลังจากมาถึงห้องทำงาน เวินจือเฉียวก็แนะนำหนิงอันให้เพื่อนร่วมงานรู้จัก
หลายคนก็เหมือนได้คลายความสงสัย ก่อนหน้านี้ เพื่อนร่วมงานบางคนที่ไม่รู้เรื่อง คิดว่าเวินจือเฉียวยังโสด ทำให้เกิดเรื่องตลกขบขันขึ้นหลายครั้ง จึงยิ่งทำให้คนอยากรู้ว่าสามีของเวินจือเฉียวคือใคร
“พี่สาวหลี่ นี่หนิงอัน สามีของฉันค่ะ!”
“นี่พี่สาวหลี่ เธอคอยดูแลฉันมาตลอดในโรงเรียน”
สำหรับพี่สาวหลี่ที่มีความสัมพันธ์ที่ดี เวินจือเฉียวก็แนะนำเป็นพิเศษ
“สวัสดีครับ พี่สาวหลี่!”
“ผมได้ยินชื่อพี่สาวหลี่จากจือเฉียวมาตลอด” หนิงอันพูดด้วยความสุภาพเช่นกัน
สามีภรรยามักจะให้เกียรติกันและกันในที่สาธารณะ แสร้งทำเป็นรักใคร่กลมเกลียวกัน หนิงอันก็ไม่ได้ปฏิเสธ เพราะเขาไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่น
“สวัสดี!!”
พี่สาวหลี่ดูตื่นเต้นกว่าเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ เพราะเธอรู้สถานะของหนิงอัน ในโรงเรียนแห่งนี้ แม้แต่ผู้อำนวยการก็มีพลังอำนาจเพียงระดับหนึ่งระยะสูงสุดเท่านั้น เมื่อเทียบกับหนิงอันแล้ว ก็ต่างกันราวฟ้ากับดิน
แต่พี่สาวหลี่ก็นึกขึ้นได้ว่า เรื่องที่เธอขอให้เวินจือเฉียวช่วยเหลือ ไม่รู้ว่าสำเร็จหรือไม่ จึงแอบส่งสายตาถามเวินจือเฉียว
ทั้งสองทำงานร่วมกันมาหลายปี มีความเข้าใจกันเป็นอย่างดี แต่เวินจือเฉียวพยักหน้าก่อน แล้วส่ายหัว ทำให้พี่สาวหลี่รู้สึกงุนงง
โชคดีที่ในช่วงบ่ายมีตารางสอนของเวินจือเฉียว หนิงอันจึงเดินตามเวินจือเฉียวไปเงียบ ๆ สังเกตนักเรียนเหล่านี้
ปีที่แล้ว คุณสมบัติปราณโลหิตขั้นต่ำสำหรับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยนักรบอยู่ที่ 500 หน่วย
เป็นมหาวิทยาลัยนักรบที่เพิ่งก่อตั้งในภูมิภาคซีเป๋ย ตอนนี้ไม่มีโอกาสให้เขาฉวยโอกาสแบบนั้นอีกแล้ว
สำหรับนักเรียนเหล่านี้ หนิงอันประเมินว่าปราณโลหิตน่าจะอยู่ที่ประมาณ 400 กว่าหน่วย ห่างจาก 500 หน่วยอยู่พอสมควร!
ยิ่งกว่านั้น ยังไม่รู้ว่าปีนี้เกณฑ์การรับสมัครจะสูงขึ้นหรือไม่ แม้แต่หนิงอันก็อดถอนหายใจไม่ได้
ไม่ต้องพูดถึงชั้นเรียนของเวินจือเฉียว แม้แต่ทั้งโรงเรียนชิงซาน 15 ก็ยังยากที่จะมีนักรบสักคน
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอัจฉริยะฟ้าประทาน
แม้แต่ทั้งฐานทัพชิงซาน ก็ยังยากที่จะมีอัจฉริยะฟ้าประทาน
อัจฉริยะฟ้าประทานคืออะไร ปัจจุบันเกณฑ์การประเมินคือการสอบเข้ามหาวิทยาลัยนักรบ 10 อันดับแรกของสหพันธ์เสิ่นเซี่ย ส่วนมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ก็ด้อยกว่าไม่น้อย