ฟาร์มขั้นเทพกับประตูมิติตามใจนึก ตอนที่ 063 กลับมายังโลกที่อันตราย

ฟาร์มขั้นเทพกับประตูมิติตามใจนึก ตอนที่ 063 กลับมายังโลกที่อันตราย

“ไม่มีแผนการอะไร...” หงอี้ส่ายหัว

ที่จริงแล้ว การมาเยือนของอารยธรรมระดับสอง สินค้าที่พวกเขานำมา ถือว่าเป็นสินค้าระดับสูงมากสำหรับฟาร์มบนโลกแล้ว

และราคาก็ถือว่าถูกมากสำหรับเจ้าของฟาร์มบนโลก

น่าเสียดายที่ ตอนนี้เจ้าของฟาร์มบนโลกส่วนใหญ่ไม่มีคุณสมบัติในการซื้อมากนัก

หงอี้สามารถซื้อได้ แต่เขาไม่ต้องการสินค้าพวกนั้น

“จริงสิ การมาเยือนของอารยธรรมระดับสองครั้งนี้ ต้องส่งผลกระทบอย่างมากต่อโลกแน่ ๆ!”

คิดอยู่ครู่หนึ่ง หงอี้ก็พูดขึ้น

“ในระยะสั้น คงไม่น่าเป็นไปได้มั้ง?”

“ยังไงตอนนี้โลกก็ไม่มีกำลังซื้อมากนัก...”

“แทบจะเรียกว่าไม่มีเลยก็ว่าได้...”

ซูหลินส่ายหัว ไม่ค่อยเห็นด้วย

“พวกเขาคงไม่มาเสียเที่ยวหรอก”

“ถึงแม้ว่าเจ้าของฟาร์มบนโลกตอนนี้จะไม่มีกำลังซื้อ แต่พวกเขาสามารถกู้ยืมได้ กู้ยืมโดยตรงจากอารยธรรมระดับสอง”

“ถ้าฉันเดาไม่ผิด พวกเขาน่าจะนำหุ่นยนต์ AI หรือหุ่นยนต์ชีวภาพมาด้วย!”

“เธอลองคิดดูสิ ถ้าหุ่นยนต์ชีวภาพหรือหุ่นยนต์ AI เหล่านี้สามารถนำเข้าไปในพื้นที่ฟาร์มได้ เจ้าของฟาร์มบนโลกจะบ้าคลั่งขนาดไหน?”

“นักเก็งกำไรหลายคน คงจะคลั่งไคล้กันน่าดู!”

หงอี้กล่าว

“แต่นำหุ่นยนต์ AI จากโลกภายนอกเข้าไปในพื้นที่ฟาร์มได้จริง ๆ เหรอ?”

ซูหลินถามอย่างเคลือบแคลงใจ

“ได้สิ!”

“เพราะหุ่นยนต์เหล่านี้ ต้องมาจากพื้นที่ฟาร์มของอารยธรรมระดับสองอย่างแน่นอน”

“สินค้าที่ผลิตในพื้นที่ฟาร์ม แน่นอนว่าสามารถนำเข้าไปในพื้นที่ฟาร์มได้...”

หงอี้พูดอย่างมั่นใจ

แน่นอนว่า หุ่นยนต์เหล่านี้เป็นสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจจะเกิดความผิดพลาดได้เป็นครั้งคราว

แต่สำหรับเจ้าของฟาร์มคนอื่น ๆ บนโลกแล้ว มันก็เพียงพอแล้ว

“ถ้าอย่างนั้น ฉันควรจะซื้อบ้างไหม?”

ซูหลินถาม

“ไม่ต้อง ฉันให้ทอเรนกับเธอมากพอแล้ว”

“ถ้าไม่พอ ฉันก็ยังมีอีก”

“เงินของเธอ เก็บไว้เถอะ”

“ถึงเวลานั้น ค่อยซื้อที่ดินทำกินเพิ่ม”

“การมาเยือนของอารยธรรมระดับสอง บวกกับการผลักดันของฉัน ทุกฟาร์มจะอัพเกรดอย่างรวดเร็ว”

หงอี้กล่าว

“การผลักดันของเธอ?”

ซูหลินรู้สึกอยากรู้อยากเห็นมาก

“ถ้าฟาร์มของฉันอัพเกรดเร็วเกินไป ฟาร์มทั้งหมดบนโลกก็จะถูกบังคับให้อัพเกรดเช่นกัน”

“นี่ไม่ใช่เรื่องดี”

“ถ้าเข้าร่วมฟาร์มระหว่างดวงดาว ฟาร์มอื่น ๆ บนโลกจะไม่มีความสามารถในการแข่งขันเลย”

“ถ้าสร้างผลิตภัณฑ์ระดับสองไม่ได้ ก็จะถูกอารยธรรมอื่น ๆ กอบโกยความมั่งคั่งไป...”

หงอี้ส่ายหัว “แน่นอนว่าไม่เสมอไป แค่บอกว่า ถ้าฟาร์มของฉันอัพเกรดเร็วเกินไป ก็มีโอกาสที่ฟาร์มทั่วโลกจะถูกยกระดับขึ้นมาด้วย”

ก่อนหน้านี้ เขาคุยกับเปิ่นซีมากมาย รู้กฎเกณฑ์และเบื้องหลังของฟาร์มมากมาย

ด้วยข้อมูลเหล่านี้ หงอี้สามารถหลีกเลี่ยงปัญหาต่าง ๆ ได้มากมาย

ต่อไปนี้ สายตาของหงอี้ การแข่งขันของเขาจะไม่อยู่บนโลกอีกต่อไป แต่จะมองไปยังดวงดาว มองไปยังจักรวาล

นั่นคือเวทีที่ยิ่งใหญ่ของเขา

ยิ่งไปกว่านั้น อีกไม่นาน อารยธรรมระดับสอง อารยธรรมระดับสาม จะถูกเขาทิ้งห่าง

ทั้งสองคนคุยกันอยู่นาน จนกระทั่งฟ้ามืด หงอี้ก็จากไป

ซูหลินดูเหมือนจะลังเลเล็กน้อย เธอเหมือนจะตัดสินใจบางอย่าง แต่ก็ไม่กล้าเอ่ยปากรั้งหงอี้ไว้

หงอี้ได้แต่ยิ้ม

เขาเข้าใจความหมายของซูหลิน

แต่เขายังมีเรื่องอื่น ๆ ที่ต้องทำอีกมากมาย

หงอี้วาร์ปไปยังเกาะเผ่านาคโดยตรง

อีกสองคืนข้างหน้า ก็ถึงเวลาเซ่นไหว้ของเผ่านาคแล้ว

หงอี้อยากจะรู้ข้อมูลเพิ่มเติม

เขาอยู่บนเกาะนาคหนึ่งคืน

หลังจากฟ้าสาง หงอี้ก็สำรวจเกาะอีกครั้ง ก่อนจะเลือกที่จะจากไป

ตอนที่เขากลับมา ก็เห็นเอลฟ์เริ่มทำงานกันอย่างขยันขันแข็งแล้ว

คึกคักจอแจ

เดิมทีหงอี้ตั้งใจจะปลูกเมล็ดพันธุ์ข้าวสาลีระดับสอง

แต่เขาเปลี่ยนใจแล้ว

เพราะเมื่อวานนี้ เขาเพิ่งจะยืนยันข้อมูลสำคัญมากจากเปิ่นซี

การใช้ดินระดับต่ำเพาะปลูกพืชผลระดับสูง รางวัลจะมากมายมหาศาล

อารยธรรมระดับสูงหลายแห่ง กำลังทุ่มเทให้กับการวิจัยนี้

การใช้เวทมนตร์ปลูกข้าวสาลีธรรมดา มีโอกาสที่จะปลูกข้าวสาลีระดับสองได้

แน่นอนว่าหงอี้ต้องลองเสี่ยงดู

ถ้าทำสำเร็จ พลังของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด

“ฮู่...”

สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ หงอี้ตัดสินใจที่จะไปยังโลกใหม่อีกครั้ง

“ถึงแม้จะไม่ได้รับความเชื่อใจจากพวกเขา แต่ถ้าไปบ่อย ๆ ไปหลาย ๆ ครั้ง ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก อย่างน้อยก็ทำให้พวกเขารู้จักฉัน...”

หงอี้คิดในใจ

จากนั้น เขาก็ซื้อสินค้ามาอีกจำนวนหนึ่ง

“ระบบ ครั้งนี้จะวาร์ปไปยังหมู่บ้านเดิมหรือเปล่า?”

หงอี้ถาม

“ใช่แล้ว นั่นคือจุดเริ่มต้นที่เจ้าภาพวาร์ปไป”

ระบบตอบ

“งั้นก็วาร์ปเลย...”

สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ หงอี้กล่าว “ระวังหน่อยนะ ถ้ารูปปั้นนั้นโจมตี ไม่ต้องรอคำสั่งของฉัน พาฉันกลับมาทันที”

เพื่อความปลอดภัย หงอี้จึงกำชับไว้ก่อน

“เข้าใจแล้ว!”

ระบบตอบรับ จากนั้นก็เริ่มสะสมพลัง

ไม่นาน หงอี้ก็หายตัวไป

“ตูม!”

ยังคงเป็นการลงจอดแบบเดิม เสียงดังสนั่นหวั่นไหว

เพียงแต่ ครั้งนี้ สถานที่ที่เขาวาร์ปไป มีเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ นั่งอยู่ข้าง ๆ

“บังเอิญจัง?”

หงอี้แอบตกใจ

เขาพบว่า เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ กำลังมองเขาอยู่ ไม่ได้ตกใจกลัวเลย

แค่แอบซ่อนชามนมไว้ข้างหลัง

เธอดูน่ารักมาก