ตอนที่แล้วบทที่ 47 เฒ่าเฉินควักบัตรตบหน้า ความสำคัญของค่าพลังชีวิต!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 49 เฒ่าเฉิน ไม่ต้องเสแสร้งแล้ว จัดการเจ้าภายในท่าเดียว!

บทที่ 48 เฒ่าเฉินแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง แผนการขั้นต่อไป!


"แค่ให้ผมได้ย้ายเข้าวันนี้ ก็เป็นการขอบคุณที่ดีที่สุดแล้ว"

เฉินเป่ยซวนพูดพร้อมรอยยิ้ม

เมื่อมองดูนักศึกษาหนุ่มคนนี้ ก็เหมือนได้เห็นตัวเองในชาติก่อน

ถ้าช่วยได้ก็อยากจะช่วย

หวังอวี้พยักหน้าซ้ำๆ

"วางใจได้ครับคุณผู้ใหญ่ วันนี้ต้องให้ท่านได้เข้าอยู่วิลล่าแน่นอนครับ"

เฉินเป่ยซวนพยักหน้าอย่างไม่ค่อยสนใจ แล้วตามไปจ่ายเงิน

ตอนนี้เขาแค่อยากรีบเข้าเกมไปฆ่าบอสเพื่อจะได้เป็นซูเปอร์แมน

บริษัทอสังหาริมทรัพย์ทำงานได้รวดเร็วมาก เที่ยงก็เริ่มส่งรถมาขนของย้ายบ้านแล้ว

ที่หมู่บ้านเหอเสีย

เมื่อรถขนของมาถึง หมู่บ้านเก่าๆ ก็เริ่มคึกคักขึ้น

"เอ๊ะ ลุงเฉิน นี่จะย้ายไปไหนเหรอ?"

ลุงติ๋นเดินเล่นผ่านมาเห็นเฉินเป่ยซวนก็ทักทันที

เฉินเป่ยซวนเห็นเขาก็ตาเป็นประกาย หัวเราะฮ่าๆ พูดว่า

"นี่ไม่ใช่ลุงติ๋นหรอกเหรอ? ทำไมรู้ว่าผมซื้อบ้านด้วยล่ะ"

"ผมถามว่าคุณจะย้ายไปไหน ไม่ได้ถามว่าซื้อบ้านไม่ซื้อสักหน่อย"

ลุงติ๋นกลอกตาอย่างหงุดหงิด พูดอย่างไม่พอใจ

"อะไรนะ? ทำไมรู้ว่าผมซื้อวิลล่าด้วย โอ้ ไม่แพงหรอก แค่ไม่กี่ล้านเอง"

ใบหน้าลุงติ๋นดำมืดลง "หูคุณหนวกหรือไง? ใครถามคุณเสียเมื่อไหร่!"

"ใช่ๆ ตกแต่งพร้อมอยู่เลย คืนนี้ก็เข้าอยู่ได้แล้ว ลุงติ๋นไม่ต้องอิจฉาหรอก..."

"โธ่เอ๊ย ผมนี่เสือกถามไปได้!"

ลุงติ๋นหน้าเขียวแล้วเดินจากไปทันที

"เอ้า ลุงติ๋น ไปไหนล่ะ คุยต่ออีกหน่อยสิ..." เฉินเป่ยซวนยิ้มกว้างพูด

"...คุยกับคุณปู่คุณน่ะสิ!"

"เชอะ แค่คุยกันเองก็โมโหแล้ว..."

เฉินเป่ยซวนเบ้ปาก

จริงๆ แล้วของที่ต้องย้ายก็ไม่มีมาก ของเก่าทิ้งไปหมด

ส่วนใหญ่เป็นของเล็กๆ น้อยๆ ที่มีความทรงจำ กับข้าวของจิปาถะ

ไม่ถึงสองชั่วโมงก็ขนของขึ้นรถเสร็จ

หลังจากจ่ายค่าเช่าและบอกลาปู่หวังข้างบ้านอย่างง่ายๆ

เฉินเป่ยซวนก็พาเสี่ยวลู่ขึ้นรถไปด้วยกัน

แน่นอน เขาต้องให้พนักงานขนของอุ้มขึ้นรถ

ตามคำขอของเขา รถเข็นเก่าๆ ถูกทิ้งไป

คนขับพาพวกเขาไปที่ร้านขายรถเข็น ใช้เงินหลายพันซื้อรถเข็นไฟฟ้าตัวใหม่

จากนั้นก็พาเสี่ยวลู่ไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ ทำให้เธอหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุข

จนกระทั่งเย็น ปู่หลานทั้งสองก็ได้ย้ายเข้าวิลล่า

"คุณปู่คะ ทำไมคุณปู่มีเงินเยอะจังเลย?"

ยามพระอาทิตย์ตกดิน ปู่หลานนั่งอยู่บนชิงช้าในสวน เสี่ยวลู่ถามคำถามที่อยู่ในใจ

เฉินเป่ยซวนได้ยินก็ยิ้ม ลูบหัวเธอแล้วพูดว่า

"เพราะปู่เป็นเศรษฐีที่แอบแฝงตัวไงล่ะ ชอบรำลึกถึงความลำบากในอดีต ตอนนี้ไม่อยากลำบากแล้ว ก็เลยไม่ลำบากอีกต่อไป"

"...งั้นที่คุณปู่เก็บกระดาษกับขวดก็แกล้งทำเหรอคะ?"

เสี่ยวลู่ทำท่างงๆ กะพริบตาปริบๆ

เฉินเป่ยซวนได้ยินแล้วรู้สึกเจ็บปวดใจอย่างบอกไม่ถูก สูดหายใจลึกแล้วยิ้มพูดว่า

"ใช่แล้วจ้ะ ปู่แสดงเก่งไหมล่ะ?"

"อ๊ะ! คุณปู่โกหกหนูเหรอ ฮึ่ม! จะจั๊กจี้แล้วนะ!"

"ฮ่าๆๆ อย่าจั๊กจี้สิ ปู่ผิดไปแล้ว ต่อไปจะไม่โกหกหนูอีกแล้ว!"

ปู่หลานหัวเราะคิกคัก เป็นภาพที่อบอุ่น

"มืดแล้ว เข้าบ้านกันเถอะ"

หลังจากเล่นกันพักหนึ่ง

เฉินเป่ยซวนมองดูท้องฟ้า แล้วนั่งรถเข็นพาเสี่ยวลู่เข้าบ้าน

หลังจากที่พวกเขาเข้าไปไม่นาน

มีรถหรูคันหนึ่งแล่นมาช้าๆ จอดอยู่หน้าวิลล่าข้างๆ

มีชายอ้วนคนหนึ่งลงจากรถ เห็นภรรยาที่เดินมาต้อนรับก็ยิ้มออกมา

"ที่รัก เหนื่อยไหมคะ วันนี้ฉันลงมือทำอาหารที่คุณชอบเองนะ"

หญิงสง่างามคนหนึ่งมองเขาด้วยสายตาเต็มไปด้วยความรัก

"ข้างนอกหนาว คราวหน้าไม่ต้องออกมารับแล้ว"

จางหมิงหยวนจัดผมที่หน้าผากของภรรยาไปไว้หลังหู พูดอย่างทะนุถนอม

"แล้วลูกล่ะคะ?"

"ลูกกำลังเรียนอยู่ในบ้าน วันนี้สอบจำลองกับครูพิเศษได้ 100 คะแนนเต็มอีกแล้ว"

"ฮ่าๆๆ ดีมาก สมแล้วที่เป็นลูกพ่อ พ่อเสือลูกก็ต้องเก่ง!"

หญิงสาวได้ยินแล้วเม้มปาก พูดอย่างเป็นห่วงว่า

"แต่ว่า... ลูกเรียนอย่างเดียวทั้งวัน ไม่ได้ออกไปเล่นกับเพื่อนเลย ฉันกลัวว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปจิตใจเขาจะมีปัญหา..."

จางหมิงหยวนเก็บรอยยิ้ม พยักหน้าอย่างจริงจัง

"พี่รู้ พี่หาเพื่อนร่วมเรียนให้ลูกแล้ว คงอีกประมาณครึ่งเดือนจะมีข่าว"

"จริงเหรอคะ ดีจังเลย มีเพื่อนวัยเดียวกันอยู่ด้วย ก็จะสบายใจขึ้นเยอะ"

หญิงสาวตาเป็นประกาย พูดอย่างดีใจ

"แน่นอนสิ ลูกพี่จะไม่รักได้ยังไง เข้าบ้านกันเถอะ!"

จางหมิงหยวนหยิบบุหรี่มาคาบไว้ที่ปาก โอบภรรยาเข้าบ้านไป...

วิลล่าแบ่งเป็นสามชั้น เฉินเป่ยซวนอยู่ชั้นล่างสุด สะดวกกว่า

หลังอาหารเย็น เฉินเป่ยซวนอยู่ในห้อง สูบบุหรี่พลางเหม่อลอย

ตอนนี้ปัญหาเรื่องบ้านแก้ไขแล้ว ชีวิตความเป็นอยู่ก็ดีขึ้น

เขาให้หวังอวี้ช่วยหาแม่บ้านมาคนหนึ่ง ทำหน้าที่ทำอาหารและทำความสะอาด

แบบนี้อาหารสามมื้อของปู่หลานก็จะมั่นคง

เมื่อจัดการเรื่องพวกนี้เสร็จ ก็เหลือแต่เรื่องหลักฐานที่เฉินฝานทอดทิ้งลูก

เรื่องนี้เขาคิดอย่างละเอียดแล้ว

มีสองทางเลือก

หนึ่งคือจ้างนักสืบเอกชนหรือติดสินบนคนรอบตัวเฉินฝาน เก็บรวบรวมหลักฐาน

ส่วนทางที่สองจะมีความเสี่ยงนิดหน่อย

นั่นคือเปิดเผยข่าวว่าตัวเองมีเงินให้เฉินฝานรู้

ถ้าทำแบบนี้

ด้วยนิสัยของลูกคนนั้น มีโอกาสสูงที่จะถอนฟ้องแล้วมาขอโทษเพื่อหวังรับมรดก

แต่การทำแบบนี้อาจจะทำให้ตัวตนในเกมของเขาถูกเปิดเผย และถูกเฉินฝานข่มขู่และเอาเปรียบได้

ถ้าเป็นไปได้ เขาไม่อยากใช้วิธีที่สอง

หลังจากคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว

เฉินเป่ยซวนตัดสินใจลองใช้วิธีแรกก่อน

พร้อมกันนั้นก็จะฆ่าบอสในเกมให้มากๆ เพื่อส่งผ่านพลังมาสู่โลกจริง เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ที่แย่ที่สุด

ถ้าจวนจะแพ้คดีจริงๆ เขาค่อยเปิดเผยข่าวว่าตัวเองรวยให้เฉินฝานรู้

ตอนนั้นด้วยพลังที่ส่งผ่านมา น่าจะรับมือกับภัยคุกคามได้บ้าง

ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น เวลายังเหลืออีกมาก

เขาจึงหยิบมือถือขึ้นมา เปิดดูกระดานสนทนาเกมหมื่นพิภพ

แค่เปิดเซิร์ฟเวอร์มาสองวัน ในกระดานก็มีกระทู้เป็นพันล้าน

นอกจากกระทู้แนวแนะนำเทคนิคและกระทู้ทั่วไปแล้ว ที่ฮิตที่สุดคือการถกเถียงเรื่องเฒ่าเฉินผู้ครองอันดับหนึ่ง

[ช็อก! ขึ้นเลเวล 10 ใน 1 วัน! เฒ่าเฉินเป็นใครกันแน่...]

[ฮอต! เลเวล 10 บดขยี้ดันเจี้ยนเลเวล 20 เป็นโปรแกรมโกงหรือตัวละครบั๊ก ทางการตอบด่วน...]

[ระเบิด! หมื่นคนร่วมลงชื่อแจ้งเฒ่าเฉินโกง ทางการตอบด่วน...]

[เผย! การปรากฏตัวของเฒ่าเฉินอาจทำให้จำนวนอาชีพจอมเวทลดลงอย่างมาก...]

เฉินเป่ยซวนขมับกระตุก รีบกดเข้าไปอ่านกระทู้ร้องเรียนเรื่องโกง

อ่านจบแล้ว เขาก็คลายคิ้วลง

ใจความหลักคือหลังจากทางการตรวจสอบแล้ว ไม่พบว่ามีการโกง

เป็นการเปลี่ยนแปลงค่าสถานะปกติในเกม ไม่มีการใช้โปรแกรมเสริมจากภายนอก

ความเห็นข้างล่างส่วนใหญ่ด่าทางการกับด่าเขา ไม่ต้องดูก็ได้

"แบบนี้นี่เอง กินองุ่นไม่ได้ก็ว่าองุ่นเปรี้ยว..."

เขาเลื่อนลงไปอีกหน่อย จู่ๆ ก็มีกระทู้หนึ่งดึงดูดความสนใจ

[ช็อก! NPC เมืองมองเต้ตายอนาถกลางถนน นี่คือการเสื่อมทรามของศีลธรรมหรือ...]

เขากดเข้าไปดู ภาพในที่เกิดเหตุปรากฏขึ้นทันที

หลังจากพิจารณาดู เขาก็ขมวดคิ้ว

เพราะคนที่ตายในภาพคือโปฉี นายกเทศมนตรีเมืองมองเต้!

โลกในเกมไม่ได้หยุดนิ่งเมื่อผู้เล่นออกไป

เรื่องนี้คงเกิดขึ้นตอนที่เขาไม่ได้ออนไลน์ในช่วงกลางวัน

และบังเอิญมีผู้เล่นที่เลือกเล่นตอนกลางวันมาเจอเข้าพอดี

เฉินเป่ยซวนมองภาพพลางครุ่นคิด ในใจมีข้อสันนิษฐาน

แต่ต้องรอเข้าเกมไปพิสูจน์สิ่งที่คิด

มองเวลาแล้ว ใกล้จะถึงเวลาออนไลน์แล้ว

เขาสวมหมวกเกมแล้วเข้าสู่เกม...

(จบบท)

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด