บทที่ 38 การแบ่งกลุ่ม

บทที่ 38 การแบ่งกลุ่ม

คืนวันอาทิตย์ เวลาแปดโมง ชุยเจี้ยนทำความสะอาดตู้เย็น เก็บกวาดพื้นที่พักอาศัยและสำนักงาน ช่วงสุดสัปดาห์นี้เขามีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมสี่คน ทำให้มีขยะเพิ่มขึ้น ซึ่งเขาก็จัดการทิ้งให้เรียบร้อย จากนั้นปิดเครื่องปั่นไฟและออกไปติดป้ายว่า “ผู้ดูแลไม่อยู่ชั่วคราว มีเรื่องติดต่อทางโทรศัพท์”

เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ชุยเจี้ยนขับรถบรรทุกเล็กไปที่เมืองเล็ก ๆ และขึ้นรถโดยสารเที่ยวสุดท้ายเข้าเมืองใหญ่ ต่อด้วยนั่งรถไฟใต้ดินจากฝั่งตะวันตกไปยังฝั่งตะวันออกของฮันเฉิง จากนั้นเช่าจักรยานสีเหลือง ปั่นกลับมาถึงสถาบันฝึกบอดี้การ์ดตอนสิบเอ็ดโมงคืน

ในหอพัก หยี่หมิงนั่งเล่นอินเทอร์เน็ตอยู่คนเดียว เมื่อเห็นชุยเจี้ยนกลับมาก็ดีใจเป็นพิเศษ เขารับอาหารมื้อดึกที่ชุยเจี้ยนซื้อมาวางบนโต๊ะและถามว่า “มีครูฝึกโทรหานายบ้างหรือเปล่า?”

ชุยเจี้ยนงง “ครูฝึกโทรหาฉันทำไม?”

หยี่หมิงมองชุยเจี้ยนแวบหนึ่งก่อนจะโกหกอย่างเนียน ๆ ว่า “เพื่อตรวจสอบข้อมูลของนายไง”

ชุยเจี้ยน “…”

หยี่หมิงถอนใจเล็กน้อยและอธิบายว่า “เป็นการเชิญเข้ากลุ่มน่ะ ฉันคิดว่านายเองก็น่าจะได้รับคำเชิญเหมือนกัน ก็เลยถามดู”

ชุยเจี้ยนว่า “คิดว่าฉันจะไปอยู่แค่ห้องฝึกทั่วไปเหรอ?”

“ห้องฝึกทั่วไปก็แค่ทีมสนับสนุนนอกวงนั่นแหละ” หยี่หมิงตอบ “เว้นแต่นายจะโดดเด่นเป็นพิเศษในห้องฝึกทั่วไป ไม่อย่างนั้นเมื่อเรียนจบก็จะไปเป็นแค่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย คอยช่วยเหลือบอดี้การ์ดทำงานสนับสนุนนอกวง อย่างเช่น ถ้านายต้องคุ้มครองดาราดังสักคน คนที่เปิดทางข้างหน้าจะเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย คอยจัดการความเรียบร้อย คอยกันแฟนคลับที่เข้ามาใกล้ ส่วนงานหลักของนายคือคุ้มครองดาราดังไม่ให้ได้รับอันตราย ถ้าจบไปแล้วต้องไปอยู่แค่ห้องฝึกทั่วไป ฉันแนะนำว่าอย่าเสียเวลาไปเลย เพราะรายได้ที่นายได้อยู่ตอนนี้ในซีเฟิงซานก็ดีอยู่แล้ว”

ชุยเจี้ยนก็เห็นด้วย เพราะถ้าต้องไปเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย รายได้ก็คงจะไม่ดีเท่าการเป็นผู้ดูแล และสภาพแวดล้อมการทำงานก็คงเทียบกันไม่ได้

หยี่หมิงกล่าวต่อว่า “ฉันเลยคิดว่านายควรจะได้รับเชิญเข้าสักกลุ่ม ถ้านายยังไม่ได้รับเชิญ ตอนเช้านายก็คงต้องคิดให้ดีหากจะส่งใบสมัคร ถ้าไปไม่ได้จริง ๆ ก็เลียขาน้องหลินเฉินไปเลย นายควรจะเอาใจเธอไว้ เธอคงช่วยนายได้”

ชุยเจี้ยนส่ายหน้าแรง ๆ “ฉันเป็นคนที่มีหลักการนะ”

หยี่หมิงกล่าวยิ้ม ๆ ว่า “ถึงเราจะเพิ่งรู้จักกันแค่สัปดาห์เดียว แต่ฉันก็คิดว่านายควรลดทิฐิสักหน่อยนะเพื่อน”

ชุยเจี้ยนตอบว่า “ขอทางลงด้วยละกัน”

หยี่หมิงกล่าวว่า “ถ้าเธอให้เยอะก็เอาเลย”

ชุยเจี้ยนพยักหน้าตอบ “โอเค งั้นฉันจะถือว่าเสียสละตัวเองสักหน่อย”

หยี่หมิงยิ้มแล้วชนกระป๋องโคล่ากับชุยเจี้ยนพร้อมกล่าวว่า “ที่บริษัทนักสืบของเจ้านายฉันงานเยอะ โดยเฉพาะงานจับชู้มีมากจริง ๆ ฉันเองไม่ค่อยรับงานประเภทนี้ ถ้านายสนใจฉันจะหาคนช่วยให้ได้ รายได้จากงานพวกนี้ก็ดีทีเดียว แล้วก็ เจ้านายฉันสวยมาก นิสัยดูใสซื่อจนออกจะน่าขำ”

ชุยเจี้ยนว่า “แค่ของกินเล็ก ๆ น้อย ๆ นายก็ยอมเอานายตัวเองมาขายแล้วเหรอ? ว่าแต่ถ้าต้องเลือก นายว่าอยู่กลุ่มไหนดีที่สุด”

หยี่หมิงตอบทันทีว่า “แอลลี่”

ชุยเจี้ยนถามกลับ “หลี่หรานไม่ดังกว่าหรือ?”

หยี่หมิงอธิบายว่า “ฉันบอกนายไปแล้วเมื่อวันก่อนว่าแอลลี่น่าจะเป็นสมาชิกของ ‘บิงชือ’ หน่วยพิเศษของกรมอาชญากรรม นั่นหมายความว่าเธอมีระบบข่าวกรองของตัวเอง งานบอดี้การ์ดถ้ามีระบบเตือนภัยล่วงหน้ากับไม่มีมันต่างกันมาก แต่ถ้านายสามารถ อดทนรับการฝึกที่หนักหน่วงของคุณหนูหลินเฉินได้ กลุ่มหลินเฉินก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี แต่หากไม่มีการโกงเกิดขึ้น กลุ่มหลินเฉินก็น่าจะถูกคัดออกไป และลูกทีมของเธอก็จะได้เป็นแค่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขั้นสูง”

หยี่หมิงกล่าวต่อว่า “แต่นายอยู่ที่อเมริกามานาน ถ้าฝีมือการยิงปืนดี กลุ่มหลี่หรานก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี หลี่หรานเป็นสายภาคสนาม ความสามารถในการใช้กลยุทธ์ ความแม่นปืน การตระหนักถึงสนามรบของเขาโดดเด่นมาก อยู่กับเขานายจะพัฒนาตัวเองได้มาก ว่าแต่นายแม่นปืนแค่ไหน?”

ชุยเจี้ยนตอบว่า “หลังเรียนจบมัธยมปลายฉันเคยทำงานพิเศษที่สนามยิงปืนอยู่สองปี” นี่เป็นทักษะพิเศษที่ “เจี้ยน” ใส่ไว้ในโปรไฟล์ให้เขา เป็นคนที่สนใจการต่อสู้แบบผสมผสานและการยิงปืน เพื่อใช้ปิดช่องโหว่ในอนาคต

หยี่หมิงกล่าวปลอบใจว่า “การเป็นบอดี้การ์ดไม่ใช่งานที่มีความเสี่ยงสูงเท่าไรนะ ฉันเคยตรวจสอบสถิติอาชญากรรมของฮันเฉิงในช่วงสิบปีที่ผ่านมาแล้ว อาชญากรรมส่วนใหญ่เป็นเรื่องความรุนแรงจากอารมณ์ชั่ววูบและอาชญากรรมทางเพศ คดีลักพาตัวที่มุ่งเป้าไปยังบุคคลที่มีบอดี้การ์ดนั้นมีน้อยมาก ส่วนคดีลอบสังหารมักจำกัดอยู่ในวงการมาเฟียเกาหลีเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในช่วงสามปีที่ผ่านมาเริ่มมีแนวโน้มที่จะเกิดอาชญากรรมข้ามชาติมากขึ้น อย่างเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ลูกชายคนหนึ่งของตระกูลจวี้มู่ถูกลักพาตัวไป คนร้ายมีเพียงคนเดียว แต่ใช้ปืนเพียงกระบอกเดียวควบคุมบอดี้การ์ดถึงแปดคนและพาตัวลูกชายคนนั้นไปจนได้ สุดท้ายตระกูลจวี้มู่ต้องสูญเสียทั้งทรัพย์สินและบุคคล ตอนนี้ระบุได้แล้วว่าคนร้ายมีสามถึงสี่คน ซึ่งทั้งหมดเป็นชาวต่างชาติ”

หยี่หมิงกล่าวว่า “นอกจากนี้ คดีจ้างวานฆ่าเริ่มมีจำนวนเพิ่มขึ้นเช่นกัน ส่วนมากทำการติดต่อซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตหรือเครือข่ายผิดกฏหมาย ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า ในอีกสิบปีข้างหน้า ฮันเฉิงจะมีความปลอดภัยที่มั่นคง แต่คดีอาชญากรรมที่มุ่งเป้าหมายไปยังมหาเศรษฐีและผู้มีอำนาจจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ข้อมูลจากสายสืบระบุว่าขณะนี้มีหลายกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติที่เริ่มตั้งฐานในฮันเฉิง โดยมีเป้าหมายขยายอิทธิพลไปยังเกาหลีและญี่ปุ่น”

หยี่หมิงกล่าวต่อว่า “นี่คือเหตุผลว่าทำไมนักเรียนบอดี้การ์ดถึงต้องรีบร้อนก่อตั้งกลุ่มขึ้นมาในสภาพแวดล้อมที่อุปกรณ์ยังไม่พร้อม นกที่คอยเฝ้าดูความเปลี่ยนแปลงของลำธารย่อมรู้ดี แต่ที่น่ารังเกียจกว่านั้นคือ มีหลายคนที่แอบสนับสนุนเบื้องหลังเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง”

ชุยเจี้ยนกล่าวว่า “อย่างเช่น สถาบันฝึกบอดี้การ์ดใช่ไหม”

หยี่หมิงยิ้มและพยักหน้า “ใช่แล้ว” คนที่เรียนจบจากสถาบันฝึกบอดี้การ์ดย่อมต้องมีงานทำ และงานนั้นก็ต้องมีรายได้ แต่จะทำยังไงให้พวกมหาเศรษฐีและผู้มีอำนาจจ้างบอดี้การ์ดคุณภาพสูง? ก็คือต้องเพิ่มอัตราการเกิดอาชญากรรมที่มุ่งเป้าไปที่พวกเขา เมื่อไม่มีอาชญากร บอดี้การ์ดก็ไม่มีงานทำ

เช้าวันจันทร์ในสัปดาห์ที่สอง รถบัสหลายคันแล่นเข้ามาในสถาบันและจอดเรียงอยู่ด้านข้าง

ด้านนอกห้องเรียนมีโต๊ะตั้งอยู่สี่ตัว โดยมีเจ้าหน้าที่ของสถาบันสองคนและนักเรียนสองคนนั่งอยู่หลังโต๊ะที่เตรียมไว้ แอลลี่มีอดีตครูฝึกแบล็กการ์ดชื่อสือเฟิงรับหน้าที่ดูแลโต๊ะสำหรับกลุ่มของเธอ ส่วนกลุ่มของหลี่หรานมีนักเรียนหญิงอดีตสายลับเป็นผู้ดูแล เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนนี้เป็นคนของแอลลี่และหลี่หรานที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มนักเรียน รถเหว่ยและหลินเฉินไม่ได้มีความคิดแบบนี้ หน้าที่ของพวกเขาจึงปล่อยให้เจ้าหน้าที่ของสถาบันจัดการแทน

รถเหว่ยหยิบโทรโข่งขึ้นประกาศว่า “เวลาแปดโมง ระบบจะส่งคำเชิญผ่านแอปพลิเคชันไปยังนักเรียนทุกคน นักเรียนที่ไม่ได้รับคำเชิญสามารถลงนามสมัครเข้าร่วมกับหนึ่งในกลุ่มที่จัดตั้งไว้ ส่วนผู้ที่ได้รับคำเชิญแล้ว หากพอใจกับกลุ่มนั้นก็สามารถไปลงชื่อที่โต๊ะของกลุ่มนั้นเพื่อเข้าร่วมได้เลย หากได้รับคำเชิญจากหลายกลุ่ม นักเรียนสามารถเลือกเข้าร่วมกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้ตามใจชอบ และหากไม่พอใจกับคำเชิญที่ได้รับ สามารถเพิกเฉยได้”

รถเหว่ยกล่าวต่อว่า “แต่ละโต๊ะมีรายละเอียดเกี่ยวกับแต่ละกลุ่มและรายชื่อสมาชิกชั่วคราวของกลุ่มนั้น ๆ ผมพูดจบแล้ว แยกย้ายได้”

รายละเอียดคุณสมบัติและจำนวนสมาชิกชั่วคราวของแต่ละกลุ่มมีดังนี้:

- กลุ่มหลินเฉิน: ต้องการคนที่มีความอึดและมีสมาธิสูง จำนวนสมาชิกชั่วคราว 20 คน

- กลุ่มรถเหว่ย: ให้ความสำคัญกับการเชื่อฟังคำสั่งและการทำงานร่วมกัน จำนวนสมาชิกชั่วคราว 12 คน

- กลุ่มแอลลี่: รับคนที่มีความสามารถพิเศษ โดยไม่จำกัดเฉพาะทักษะอย่างเช่นการสะเดาะกุญแจ การขับรถ การยิงปืน หรือการต่อสู้ จำนวนสมาชิกชั่วคราว 12 คน

- กลุ่มหลี่หราน: ต้องมีความรู้พื้นฐานด้านอาวุธปืนและสามารถใช้ปืนพกได้อย่างชำนาญพอสมควร จำนวนสมาชิกชั่วคราว 15 คน

หยี่หมิงขยับเข้ามาข้าง ๆ ชุยเจี้ยนแล้วกล่าวว่า “จากคุณสมบัติของนาย น่าจะมีโอกาสสูงที่จะได้เข้ากลุ่มของหลี่หรานนะ แต่ดูจากลักษณะแล้ว งานในกลุ่มนั้นคงจะเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม”