บทที่ 23 คลื่นสัตว์อสูร
บทที่ 23 คลื่นสัตว์อสูร
ใบหน้าของแม็กซ์ก็ซีดลงด้วยความหวาดกลัว เขารู้เรื่องคลื่นสัตว์อสูรเนื่องจากเขาไปห้องสมุดบ่อยมากในปัจจุบันและได้รู้เรื่องราวต่างๆ มากมาย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงรู้ว่าคลื่นสัตว์อสูรนั้นน่ากลัวเพียงใด
“ลิลลี่ หมาป่าสีเงินตัวนั้น มันเป็นสัตว์อสูรระดับไหน?” แม็กซ์ถามด้วยอาการหวั่นไหวอย่างเห็นได้ชัดจากการเปิดเผยนี้ และเนื่องจากเขาไม่สามารถบอกลำดับชั้นของสัตว์อสูรได้เพียงแค่ดูพวกมัน
เขาจึงอยากทราบลำดับชั้นของมัน แม้ว่าเขาจะเดาไว้แล้ว เนื่องจากพวกเขารีบถอยหนีทันทีหลังจากเห็นมันจากระยะไกล
*เฮ้อ...!*
ลิลลี่หายใจแรงขึ้น ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเมื่อเธอคิดถึงเรื่องนั้น เธอพูดอย่างช้าๆ
"มันคือสัตว์อสูรระดับสองดาว!"
สีหน้าของแม็กซ์เปลี่ยนไปเมื่อเขาพยักหน้าเล็กน้อย เขาคิดถูก เขาหายใจสม่ำเสมอ พยายามสงบสติอารมณ์ “เป็นเรื่องดีที่ฉันพาเธอมาด้วย ไม่เช่นนั้นฉันคงถูกหมาป่าตัวนั้นฆ่าตายแน่ๆ” เขาสั่นสะท้านในใจเมื่อตระหนักได้ว่าเขาเข้าใกล้สัตว์อสุรตัวนั้นแค่ไหน และถ้าเขาทำเช่นนั้น หมาป่าสีเงินคงจะฉีกเขาเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
“กลับกันเถอะ...” แม็กซ์หันไปมองลิลลี่แล้วพูด
จากนั้นจู่ๆ ดูเหมือนจะมีเหตุการณ์ที่เลวร้ายยิ่งไปกว่าเดิม
คำราม!
โฮกกก!
เมื่อพวกเขาเริ่มวิ่ง พื้นดินก็เริ่มสั่นสะเทือน เสียงคำรามและคำรามของสัตว์อสูรดังมาจากภายในป่าลึก
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เสียงต่างๆ ก็ดังเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้าของลิลลี่และแม็กซ์ก็ซีดลงเพราะอันตรายที่กำลังใกล้เข้ามา
ลิลลี่คิดว่าเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนที่ฝูงสัตว์อสูจะมองเห็นพวกเขา เธอจึงตอบสนองอย่างรวดเร็ว เธอคว้ามือของเขาและกระโดดลงไปในหลุมใกล้ๆ ซึ่งนักล่าบางคนขุดไว้เพื่อดักสัตว์ หลังจากกระโดดเข้าไปแล้ว เธอก็ยกมือทั้งสองขึ้นและตะโกนด้วยเสียงต่ำ
"กำแพงน้ำแข็ง!"
มานาของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นน้ำแข็ง แผ่นน้ำแข็งหนาปกคลุมหลุมภายในเวลาไม่กี่วินาที ใบหน้าของเธอซีดเผือกราวกับว่าเลือดทั้งหมดถูกดูดออกไป หน้าอกของเธอขึ้นลงอย่างหนักขณะที่เธอหายใจแรง แม้จะมีใบหน้าของเธอจะขาวซีด แต่เธอก็ยังคงสวยงาม
แม็กซ์ซึ่งมองดูสิ่งนี้ก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจกับภาพอันงดงามนี้ แต่เขารู้ว่านี่ไม่ใช่เวลาที่จะคิดเช่นนั้น เขาจึงถามด้วยความเป็นห่วงว่า “เธอไม่เป็นไรใช่ไหม”
“ใช่แล้ว ฉันสบายดีคุณชาย ฉันเพิ่งใช้มานาส่วนใหญ่ไปร่ายกำแพงป้องกันนี้” ลิลลี่ยิ้มเมื่อเห็นความกังวลในดวงตาของเขา
“ดีที่เธอไม่เป็นไร!” แม็กซ์พยักหน้า เขาไม่คิดจะเตือนเธอไม่ให้เรียกเขาว่าคุณชายหรือถามว่าเธอปลุกธาตุน้ำแข็งได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ในสถานการณ์เช่นนี้
“ลิลลี่ เธอคิดว่าตอนนี้ข้างนอกเกิดอะไรขึ้น?” แม็กซ์ถามออกมา เขาได้ยินเสียงสัตว์อสูรวิ่งไปมาอยู่ตลอด เวลา
“ฉันคิดว่า... สัตว์อสูรน่าจะเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว อีกไม่นานเมืองเคลย์มอร์ก็จะถูกโจมตี” เธอกล่าวหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
“โอ้!” แม็กซ์อุทาน จากนั้นเขาก็เสริมว่า “แต่พ่อของฉันสามารถปกป้องเมืองจากการโจมตีของพวกมันได้ด้วยกองทัพอัศวินคฤหาสน์ของเราและคนอื่นๆ ใช่มั้ย” เขาถามด้วยน้ำเสียงวิตกกังวลเล็กน้อย
ลิลลี่ไม่ตอบ เธอทำเหมือนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงตอบกลับ
“ใช่แล้ว ท่านลอร์ดแอชตัน ในฐานะนักเวทย์ระดับสามดาวพร้อมกองทัพอัศวิน เขามีความสามารถในการต้านทานคลื่นสัตว์อสูรได้อย่างแน่นอน เว้นแต่...” เธอไม่กล้าพูดอะไรเพิ่มเติมอีก
แม็กซ์ตั้งหูขึ้นเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เขาถามว่า "เว้นแต่อะไร?"
ลิลลี่มองดูเขาอย่างเงียบๆ จากนั้นอธิบายอย่างช้าๆ "เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีข่าวลือว่าเมื่อกลุ่มนักเวทย์ระดับสองดาวมาล่าสัตว์อสูรระดับสองดาว และขณะที่ออกล่า..พวกเขาก็เดินทางเข้าไปลึกขึ้น"
“ที่นั่นพวกเขาเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรระดับสามดาวซึ่งทำลายล้างกลุ่มของพวกเขา และด้วยโชคช่วย มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่รอดชีวิตมาได้พร้อมอาการบาดเจ็บสาหัส เขาเล่าให้ผู้คนฟังเกี่ยวกับสัตว์อสูรตัวนั้นและความแข็งแกร่งอันน่าสะพรึงกลัวของมัน แต่เขาไม่สามารถรายงานเรื่องนี้ให้คฤหาสน์วิสเคานต์ทราบได้และเสียชีวิตลงจากอาการบาดเจ็บ”
“เมื่อข่าวลือนี้ไปถึงท่านลอร์ดแอชตัน เขาจึงนำคณะไปล่าสัตว์อสูรตัวนี้ด้วยตัวเองแต่ก็ไม่พบมัน ดังนั้นผู้คนจึงคิดว่าเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น แต่ท่านลอร์ดแอชตันก็กังวลเรื่องนี้อยู่หลายวัน ฉันคิดว่าเขาคงรู้แล้วว่านี่ไม่ใช่ข่าวลือที่ไร้เหตุผล”
"แต่ถ้าสิ่งนั้นเป็นความจริง ฉันก็กลัวว่าทุกคนจะตกอยู่ในอันตรายใหญ่หลวง เว้นแต่ลอร์ดแอชตันจะสามารถฆ่าสัตว์อสูรระดับสามดาวตัวนี้ก่อนที่มันจะสร้างความหายนะให้กับเมือง"
หลังจากลิลลี่หยุดพูด แม็กซ์ก็อดกังวลไม่ได้ เขาไม่ได้กังวลเรื่องคนในเมืองหรืออะไรทำนองนั้น เขาเป็นห่วงความปลอดภัยของพ่อเขาต่างหาก
เขาพึมพำว่า “พ่อของฉันก็เป็นนักเวทย์ระดับสามดาวเหมือนกัน ฉันคิดว่าเขาสามารถจัดการกับสัตว์อสูรตัวนั้นได้ถ้ามันโผล่มา” เขาพูดแบบนี้ไม่เพียงแต่ปลอบใจลิลลี่เท่านั้นแต่ยังปลอบใจกับตัวเองด้วย
ทันใดนั้น ก็มีสิ่งน่ากลัวปรากฏขึ้นในป่าและมุ่งหน้าสู่เมือง ภายใต้ออร่าที่แข็งแกร่งนั้น แม็กซ์และลิลลี่หยุดหายใจโดยไม่รู้ตัวและไม่กล้าขยับ แม้ว่าจะมีกำแพงน้ำแข็งปกป้องอยู่แล้วก็ตาม
เรพาะท้ายที่สุดแล้ว ตัวตนที่สามารถแผ่พลังรุนแรงเช่นนี้ออกมาได้ ย่อมสามารถทำลายกำแพงที่นักเวทย์มือใหม่สร้างขึ้นได้อย่างแน่นอน
เวลาผ่านไปราวกับนานชั่วนิรันดร์ เสียงสัตว์อสูรที่วิ่งไปมาก็หยุดลง
“ลิลลี่ เราควรรีบกลับแล้ว ฉันอยากกลับบ้านโดยเร็วที่สุด” แม็กซ์พูดด้วยท่าทีประหม่า
ลิลลี่ก็มีสีหน้าแบบเดียวกันเพราะเธอรู้สึกถึงการมีอยู่ของสิ่งนั้นเช่นกัน เธอมีลางสังหรณ์ร้าย แม้ว่าเธอไม่อยากให้เขาไปตอนนี้เพราะตอนนี้น่าจะมีการนองเลือดเกิดขึ้น
แต่การอยู่ในป่านั้นยิ่งอันตรายกว่า ใครจะรู้ว่าเมื่อใดสัตว์อสูรที่ทรงพลังบางตัวจะพบและฆ่าพวกเขา
พวกเขารีบมุ่งหน้าไปยังเมือง เมื่อออกจากป่าไปแล้ว ทั้งคู่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งใจ
ขณะที่พวกเขากำลังวิ่งเข้าไปในเมือง ท่าทางของพวกเขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นน่าเกลียด….
………………………………