ตอนที่แล้วบทที่ 104: แม็กนีโต: รอร์ชาคทำลายสำนักงาน CIA งั้นเหรอ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 106: ผู้อำนวยการแฮนเซ่น: เขาไม่ใช่คนที่สำนักงาน CIAของเราจะรับมือได้!

บทที่ 105 รอร์ชาค: ฉันกำลังจะทำเรื่องใหญ่! (ฟรี)


เอริคและชาร์ลส์ต่างก็ทำตัวสุดโต่ง คนหนึ่งหัวรุนแรงเกินไป อีกคนอ่อนโยนเกินไป

แต่ต้องยอมรับว่าสำหรับกลุ่มมิวแทนท์แล้ว ทั้งเอริคและชาร์ลส์ต่างก็ขาดไม่ได้

หากไม่มีเอริคคอยก่อเรื่องทั้งวัน ผู้คนก็จะไม่เคารพหรือเกรงกลัวมิวแทนท์

จากนั้นทุกฝ่ายก็จะรุมเข้ามาแทะมิวแทนท์จนถึงกระดูก

ไม่มีใครจะเมตตากลุ่มที่ไม่มีอารมณ์และยอมจำนน

แต่ถ้าไม่มีชาร์ลส์ มิวแทนท์ก็จะกลายเป็นศัตรูของมนุษยชาติทั้งหมดและต่อต้านมนุษยชาติอย่างเต็มกำลัง!

ในเวลานั้น ไม่มีใครรู้ว่ามิวแทนท์จะเอาชนะคนธรรมดาได้หรือไม่ แต่มิวแทนท์จะตกที่นั่งลำบากอย่างแน่นอน

มนุษย์ไม่ใช่สิ่งที่จะกำจัดได้ง่ายๆ

สงครามระหว่างสองกลุ่มเป็นหายนะสำหรับมนุษย์ แต่ก็เป็นหายนะสำหรับมิวแทนท์เช่นเดียวกัน

เอริคและชาร์ลส์ไม่เห็นด้วยกับความคิดของกันและกัน และต่างก็ดื้อดึงปกป้องมิวแทนท์ในแบบของตัวเอง พวกเขาจึงต่อสู้กันมาตลอดชีวิต

แต่การต่อสู้แบบนี้นี่แหละที่ทำให้มิวแทนท์ได้มีพื้นที่ในการใช้ชีวิตในสังคมมนุษย์

พวกเขาไม่ลงรอยกันและต่อสู้กัน แต่กลับสร้างการวางแผนที่สมบูรณ์แบบที่สุดในความมืด และร่วมกันสร้างสถานการณ์ที่เอื้อประโยชน์ที่สุดสำหรับมิวแทนท์

นั่นคือเหตุผลที่รอร์ชาคบอกว่ามิวแทนท์ต้องการเอริค เช่นเดียวกับที่มิวแทนท์ต้องการชาร์ลส์

เอริคทำให้โลกเห็นพลังของมิวแทนท์ เพื่อให้ทุกคนไม่กล้าทำอะไรกับมิวแทนท์ตามใจชอบ เอริคเป็นตัวแทนกำปั้นของมิวแทนท์

ชาร์ลส์เป็นมิตรกับทุกคน เพื่อให้ทุกคนลดความเป็นศัตรูต่อมิวแทนท์และยอมรับมิวแทนท์ เขาเป็นตัวแทนรอยยิ้มของมิวแทนท์

ทั้งสองเติมเต็มซึ่งกันและกัน

จะขาดใครคนใดคนหนึ่งไปไม่ได้

แต่สำหรับกลุ่มมิวแทนท์แล้ว แค่กำปั้นและรอยยิ้มนั้นยังไม่พอ ยังขาดสิ่งที่สำคัญที่สุด: การข่มขวัญที่แท้จริง!

การข่มขวัญเหมือนอาวุธนิวเคลียร์

แล้วรอร์ชาคก็ไม่รังเกียจที่จะกลายเป็นอาวุธนิวเคลียร์ให้กับมิวแทนท์

"รอร์ชาค!"

ไวท์ควีนพูดต่อ เธอมองรอร์ชาคด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยและอยากรู้

"ในเมื่อนายไม่มีแผนที่จะต่อสู้กับมนุษย์เพื่อพวกเรา นายจะทำอะไรให้พวกเรามิวแทนท์ได้?"

"สร้างครอบครัวใหญ่ที่เป็นของพวกเรามิวแทนท์อย่างแท้จริง"

"อย่างที่เอริคพูด มิวแทนท์ทั้งหมดรวมตัวกันและใช้ชีวิตอย่างภาคภูมิและเป็นอิสระในโลกนี้!"

"ไม่ต้องซ่อนตัว ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องหวาดหวั่น สามารถบอกโลกอย่างภาคภูมิว่าพวกเราเป็นมิวแทนท์"

"เมื่อถึงตอนนั้น โลกจะไม่มีอคติ การเลือกปฏิบัติ หรือมุมมองที่แตกต่างต่อพวกเราอีกต่อไป!"

"พวกเขาจะอิจฉาเราด้วยซ้ำ เพราะเราทำในสิ่งที่พวกเขาทำไม่ได้ และเราสมบูรณ์แบบกว่าพวกเขา"

สีหน้าของรอร์ชาคดูสบายๆ ขณะเขากล่าวถ้อยคำเช่นนั้นออกมา

แม้ว่าเสียงของรอร์ชาคจะไม่ดัง แต่มันมีพลังที่ไม่อาจโต้แย้งได้

ไวท์ควีน ก็อปปี้แคท และแม้แต่ชายปีกนกและชายผมเดดล็อคที่เอริคพามา ต่างก็ถูกภาพฝันอันงดงามที่รอร์ชาคบรรยายสะกดใจ

ถ้าวันที่รอร์ชาคพูดถึงมาถึงจริง มันต้องเป็นสวรรค์แน่ๆ ใช่ไหม?

นั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่กล้าจินตนาการถึงเลยในตอนนี้

"เอ็มม่า ฉันรู้ว่าสิ่งที่ฉันไขว่คว้าต่างจากชอว์ แต่เธอเต็มใจช่วยฉันทำให้ทั้งหมดนี้ให้สำเร็จไหม?" :รอร์ชาคมองไวท์ควีนและถาม

"นายต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ"

ไวท์ควีนประหลาดใจ แต่เธอต้องยอมรับว่าภาพฝันที่รอร์ชาควาดนั้นน่าติดตามมาก

"ชอว์ตายแล้ว และฉันก็ไม่มีที่ไป"

ได้ยินเช่นนั้น รอร์ชาคเผยรอยยิ้มบางๆ

จริงๆ แล้ว ไม่ว่าไวท์ควีนจะเต็มใจหรือไม่ รอร์ชาคก็จะไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆ เขาไปที่สำนักงาน CIAเพื่อก่อเรื่อง ไม่ใช่เพื่อทำความดี

จุดประสงค์ดั้งเดิมของเขาคือการปราบพยศไวท์ควีน

แต่โชคดีที่ไวท์ควีนเต็มใจติดตามเขา

"ฉันคงบ้าเหมือนกัน"

ก็อปปี้แคทที่ดูขี้เกียจก็กระโดดลงมาจากฝากระโปรง: "ชั่วขณะหนึ่ง ฉันเชื่อจริงๆ ว่านายทำได้"

"นายอ่อนต่อโลกเกินไป รอร์ชาค" :เอริคยังคงเยาะเย้ยเรื่องนี้: "พวกเขาเป็นศัตรูของเรา นี่เป็นธรรมชาติของพวกเขา นายเปลี่ยนมันไม่ได้!"

"วันที่นายพูดถึงจะไม่มีวันมาถึง!"

"ไม่ มันจะมาถึงแน่นอน เอริค" :รอร์ชาคพูดกับเอริคด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

"รอร์ชาค นายยังเด็กเกินไปจริงๆ"

เอริคอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าและถอนหายใจ แสดงสีหน้าหมดหนทาง และไม่มีพลังจะโต้เถียงกับอีกฝ่ายอีก

เพราะตอนนี้เอริคเพิ่งเข้าใจว่ารอร์ชาคแตกต่างจากเขาจริงๆ และเหมือนกับชาร์ลส์ ที่เอริคไม่มีทางที่จะโน้มน้าวเขาได้

น่าเสียดาย…

คงจะเป็นการโกหกถ้าเอริคบอกว่าเขาไม่ผิดหวัง

แต่อย่างไรก็ตาม รอร์ชาคดีกว่าชาร์ลส์มาก

ชาร์ลส์ในฐานะมิวแทนท์ กลับคิดถึงแต่มนุษย์ธรรมดา นั่นแหละคนที่สิ้นหวังจริงๆ

"ดีใจที่ได้เจอนายอีก เพื่อน แต่ตอนนี้ฉันต้องไปแล้ว! รักษาตัวด้วย!"

เอริคกล่าวลาและโบกมือให้รอร์ชาค

"รักษาตัวด้วย เอริค!"

ทั้งสองฝ่ายกล่าวลา

"รอร์ชาค นายจะทำอะไรต่อไป?"

หลังจากเอริคและพรรคพวกจากไป ไวท์ควีนเดินเข้ามาหารอร์ชาค จ้องมองรอร์ชาคอย่างคาดหวังและถาม

"ฉันวางแผนจะ...ทำเรื่องใหญ่!"

รอร์ชาคแสดงรอยยิ้มที่มีความหมาย

จากนั้นเขาก็เล่าให้ไวท์ควีนและก็อปปี้แคทฟังเกี่ยวกับแผนของเขา

หลังจากได้ยินเรื่องนี้ ไวท์ควีนก็ตกใจ

หลังจากผ่านไปไม่กี่วินาที เธอจ้องมองรอร์ชาคราวกับไม่รู้จักเขา: "นี่มันแผนบ้าๆ จริงๆ ตอนนี้ฉันเริ่มเชื่อในฝันหวานที่นายวาดไว้ก่อนหน้านี้แล้ว"

"มันบ้าพอสมควร แต่... ฉันชอบ!" :ดวงตาของก็อปปี้แคทก็มุ่งมั่นขึ้นเช่นกัน

ตอนนี้เธอรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าการเข้าร่วมกับรอร์ชาคเป็นตัวเลือกที่ถูกต้อง

"รอร์ชาค การทำแบบนี้จะไม่เป็นไรจริงๆ เหรอ?"

เรเวนตะลึงงัน งุนงง บนใบหน้ามีร่องรอยความกังวล เธอถูกแผนของรอร์ชาคทำให้ตกใจจริงๆ

"ฉันบอกว่าจะให้ความยุติธรรมกับพวกเรามิวแทนท์ และฉันจะทำตามที่พูด!" :รอร์ชาคหัวเราะอย่างมีความหมาย

ครั้งนี้ที่เขาไปสำนักงาน CIAเพื่อพิชิตไวท์ควีน ไม่ใช่แค่เพื่อพิชิตผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีความสามารถ

และเขากำลังเตรียมการสำหรับแผนขั้นต่อไป

FB Page: Rubybibi นิยายแปล [ฝากกดติดตามเพจด้วยนะคะ อัพเดททุกวัน อ่านตอนใหม่ก่อนใคร จิ้มที่นี่เลยค่ะ]

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด