ตอนที่ 125 ใครให้ความกล้าพวกแกมาทำร้ายลูกสาวของฉัน!
ตอนที่ 125 ใครให้ความกล้าพวกแกมาทำร้ายลูกสาวของฉัน!
สกายไล่ตามไอรอนมองเกอร์ไปอย่างไม่ลดละ พร้อมทั้งปล่อยคลื่นสะเทือนใส่เป็นระยะ ราวกับเพิ่มความตื่นเต้นให้การบินของไอรอนมองเกอร์
ถึงแม้ไอรอนมองเกอร์จะมีน้ำหนักมาก แต่ด้วยพลังจากเครื่องปฏิกรณ์อาร์คหลายสิบตัวที่ทำงานพร้อมกัน มันก็เร่งความเร็วได้ถึงขีดสุด ทำให้สกายตามไม่ทัน และต้องพยายามเร่งความเร็วอย่างหนักเพื่อไม่ให้ถูกทิ้งห่าง
สองชุดเกราะเหล็กบินพุ่งผ่านฟากฟ้าต่อเนื่อง จนในที่สุดก็ไปเตะตากองทัพอากาศสหรัฐฯ ทำให้เอริคที่กำลังมองดูผ่านจอมอนิเตอร์รีบติดต่อนายพลรอสส์ทันที พร้อมเจรจาด่วนว่า ถ้าหากปล่อยผ่านเหตุการณ์นี้ไป เขาจะมอบชุดเกราะไอรอนมองเกอร์ให้เป็นของขวัญ ทำให้นายพลรอสส์ยอมตกลงทันที และไม่ส่งกองกำลังเข้าแทรกแซง และช่วยกันแรงกดดันจากกองทัพให้เอริค
ไอรอนมองเกอร์บินไปอย่างไร้ทิศทาง ราวกับตั้งใจเพียงบินหนีไปข้างหน้า ขณะที่สกายไม่มีความคิดที่จะปล่อยให้ศัตรูหลุดมือ สำหรับเธอแล้วศัตรูตัวแรกในชีวิตจะต้องถูกจัดการให้สิ้นซาก!
ทั้งสองยังคงไล่ล่ากันต่อไป จนกระทั่งบินพ้นเขตนิวยอร์ก ออกนอกชายฝั่งอเมริกา และเข้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิก
ทำให้เอริคที่มองดูเหตุการณ์อยู่ถึงกับยกมือกุมขมับ “นี่มันอะไรกันเนี่ย! ฉันให้เธอฝึกต่อสู้ ไม่ใช่แข่งบินกัน!”
ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้สกายตกอยู่ในอันตราย เอริคจึงเปิดประตูมิติไปดักหน้าของไอรอนมองเกอร์ พร้อมซ่อนตัวเฝ้ารออยู่เงียบ ๆ
ไม่นานนักไอรอนมองเกอร์ก็ปรากฏในสายตา ทำให้เอริคที่เห็นเช่นนั้นก็ชี้นิ้วไปที่รองเท้าอีกข้างที่ยังใช้งานได้ของไอรอนมองเกอร์ จากนั้นเครื่องยนต์ก็เกิดควันดำและหยุดทำงาน ทำให้ไอรอนมองเกอร์ร่วงลงจากบนท้องฟ้าทันที
“รีสตาร์ตเดี๋ยวนี้! เร็วเข้า!” โอบาไดอาห์ในชุดเกราะกรีดร้องลั่น พร้อมทั้งทุบแผงควบคุมด้วยความโกรธจัด
แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหน เครื่องยนต์ก็ไม่ตอบสนอง ทำให้เขาต้องอาศัยเครื่องยนต์ที่มือและหลังเพื่อชะลอความเร็วไม่ให้พุ่งชนพื้นจนเสียชีวิต
ส่วนสกายที่บินตามมาข้างหลังเมื่อเห็นไอรอนมองเกอร์ร่วงลงไป เธอก็นึกว่าเป็นผลจากการโจมตีของตัวเอง ทำให้เธอหัวเราะอย่างภาคภูมิใจและรีบบินตามลงไปที่พื้นทันที
แน่นอนว่าก่อนหน้านี้เอริคได้เลือกพื้นที่ที่เหมาะสมที่สุดเอาไว้แล้ว ทำให้ไอรอนมองเกอร์ตกลงบนเกาะเล็ก ๆ ที่มีชายหาดนุ่มช่วยลดแรงกระแทก ทำให้โอบาไดอาห์ไม่ถึงกับเสียชีวิต แม้จะหมดสติและมึนงงก็ตาม
หลังจากนั้นไม่นานสกายก็บินลงจอดกับพื้นด้วยความมั่นใจ เธอเดินตรวจสอบรอบ ๆ ไอรอนมองเกอร์ที่นอนนิ่งอยู่ ก่อนจะยิงคลื่นสะเทือนใส่ท้ายทอยอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ จากนั้นเธอก็ค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้ ๆ
“ฟิวเจอร์ เขาเป็นยังไงบ้าง?”
ฟิวเจอร์ที่ได้รับคำสั่งจากเอริครีบแฮ็กเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ของไอรอนมองเกอร์ทันที และรายงานกลับว่า “คุณหนู เขาหมดสติแล้วค่ะ”
“จริงเหรอ? เยี่ยม! เราชนะแล้ว!” สกายกระโดดด้วยความดีใจ และวิ่งวนรอบไอรอนมองเกอร์อย่างตื่นเต้น พร้อมกับเคาะชุดเกราะของเขาเป็นระยะ
ทำให้เอริคที่ตั้งใจจะออกมาสรุปบทเรียนให้ลูกสาว แต่เมื่อเขาเห็นรอยยิ้มเปี่ยมสุขของเธอ เขาก็เปลี่ยนใจ และไม่อยากรบกวนบรรยากาศของเธอในตอนนี้
แต่ไม่นานนักใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด เมื่อสัมผัสได้ว่าภายใต้เกาะแห่งนี้ซ่อนอาวุธจำนวนมาก และยังพบสัญญาณของคนคุ้นเคยอีกด้วย
“นามอร์? เจ้าหมอนี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หรือว่าจะถูกจับอีกแล้ว?”
ทันใดนั้นภาพในหัวของเอริคก็นึกถึงนามอร์ที่โดนจับตัวอยู่บ่อยครั้ง แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ส่ายหัวและตัดสินใจจะเตือนสกาย แต่เขาก็ต้องส่ายหัวอีกครั้ง “ช่างเถอะ ให้เธอได้บทเรียนบ้าง เวลาอยู่ในสถานที่ไม่คุ้นเคย ควรสำรวจให้ดีกว่านี้”
ในขณะที่สกายกำลังฉลองชัยชนะ ทำให้เธอไม่ทันสังเกตเลยว่าก้อนหินในระยะไม่ไกลกำลังแยกออก และปรากฏปากกระบอกปืนสีดำสนิทโผล่ออกมา
ทันใดนั้นเสียงปืนก็ดังสนั่น ‘ปังปังปังปัง!’ กระสุนจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งตรงใส่ชุดเกราะของสกาย ทำให้เกิดประกายไฟระยิบระยับ
เพราะหลังจากรู้ว่าโอบาไดอาห์หมดสติ สกายก็ปิดระบบป้องกันทั้งหมด ทำให้เธอสะดุ้งตกใจทันทีเมื่อถูกโจมตีรัว ๆ จากกระสุน ถึงแม้ว่ากระสุนจะไม่สามารถทะลุเกราะไวเบรเนียมได้ แต่แรงปะทะก็ผลักเธอให้ถอยหลังไปไกล
สกายใช้เวลาพักใหญ่ กว่าเธอจะตั้งสติและรีบหลบไปอยู่หลังร่างของไอรอนมองเกอร์เพื่อใช้เป็นโล่กำบังจากกระสุนที่ยังคงพุ่งมาไม่หยุด
“ฟิวเจอร์ เกิดอะไรขึ้น? นี่มันเรื่องอะไร? ใครกำลังโจมตีเรา?”
“สวัสดีค่ะ ผู้ช่วยส่วนตัวของคุณ ‘ฟิวเจอร์’ ได้ออฟไลน์แล้วค่ะ” เสียงตอบกลับของฟิวเจอร์แฝงความขี้เล่น หลังได้รับคำสั่งจากเอริค ก่อนเงียบหายไปโดยไม่ตอบสนองต่อการเรียกของสกายอีกต่อไป
“ฟิวเจอร์ อย่าเล่นแบบนี้! ออกมาช่วยฉันเดี๋ยวนี้เลย ฉันสัญญาว่าจะไม่ใส่โค้ดเสียงตดให้เธออีกแล้ว! เอ๊ะ! ฉันจะลบโค้ดที่เปลี่ยนเธอเป็นลิงกอริลล่าทิ้งด้วย ออกมาเถอะ ช่วยฉันที . . .”
ในขณะเดียวกันเอริคที่ซ่อนตัวอยู่บนฟ้าถึงกับอึ้ง เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าลูกสาวของเขาเล่นสนุกกับฟิวเจอร์แบบนี้! เขาเพิ่งเข้าใจว่าทำไมครั้งก่อน มายาถึงบอกว่าระบบของฟิวเจอร์ติดไวรัส เปลี่ยนรูปลักษณ์เป็นลิงกอริลลา และพูดด้วยเสียงเหมือนเสียงตด ซึ่งตอนนั้นเขาคิดว่ามายาแค่พูดเล่น แต่ความจริงแล้วเรื่องนี้มันเกิดขึ้นจริง!
ถึงแม้คำสัญญาของสกายจะทำให้ฟิวเจอร์ใจอ่อนได้ แต่มันไม่ได้ผลกับเอริค เขาหัวเราะเบา ๆ กับความโก๊ะของลูกสาว และออกคำสั่งให้ฟิวเจอร์เงียบสนิทไม่พูดอะไร
ขณะเดียวกันศัตรูปริศนาบนเกาะที่พบว่าอาวุธของตนไม่สามารถทำอะไรสกายได้ พวกเขาก็เปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ทันที
ทันใดนั้นพื้นทรายด้านหลังสกายก็แยกออก เผยให้เห็นอุปกรณ์ขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนฝาหม้อขนาดมหึมาค่อย ๆ ยกตัวขึ้น
‘อาวุธคลื่นเสียงอีกแล้ว? นอกจากของฉันแล้ว พวกแกนี่ไม่มีอะไรใหม่เป็นของตัวเองเลยหรือไง?’ เอริคคิดในใจอย่างเหนื่อยหน่าย และอยากไปทุบอุปกรณ์ฝาหม้อนั่นให้พังไปซะ
ซึ่งก่อนที่สกายจะรู้ตัว คลื่นเสียงรุนแรงก็พุ่งเข้าใส่เธอโดยตรงผลักร่างเธอกระเด็นออกไป พร้อมกับเสียงก้องดังที่สะเทือนจนเธอรู้สึกมึนงง
เอริคที่มองจากด้านบนได้แต่ส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจ “ลูกสาวของฉันนี่นะ ไม่มีคำเตือนจากฟิวเจอร์แค่นี้ ถึงกับลืมเปิดโล่แม่เหล็กเลยหรือไง สงสัยยังต้องฝึกฝนอีกเยอะ!”
สกายส่งเสียงกรีดร้องขณะลอยอยู่กลางอากาศ เสียงสูงแหลมของเธอทะลุผ่านชุดเกราะออกมา เนื่องจากไม่มีการปิดกั้นเสียงจากฟิวเจอร์อีกต่อไป
น่าเสียดายที่ศัตรูปริศนาไม่ได้เห็นใจในความเป็นหญิงของเธอเลย ทำให้สกายที่เพิ่งทรงตัวได้ในอากาศก็พบกับตาข่ายไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ยิงมาจากพื้นทันที โดยตาข่ายนี้เต็มไปด้วยกระแสไฟฟ้าที่สว่างวาบ และจับเธอเอาไว้อย่างแน่นหนา
และก่อนที่สกายจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เสียงเครื่องยนต์ก็ดังขึ้นจากพื้น พร้อมกับตาข่ายที่จับเธอไว้เริ่มถูกดึงลงมายังพื้นเบื้องล่างอย่างรวดเร็ว
สกายถูกจับตัวโดยไม่ทันได้เห็นหน้าศัตรูด้วยซ้ำ!
เมื่อร่างของเธอสัมผัสพื้นดิน ศัตรูที่ซ่อนตัวอยู่ก็ปรากฏตัวออกมาในที่สุด พวกเขาเรียงแถวเป็นรูปแบบการโจมตีที่ดูเป็นระเบียบ สวมเครื่องแบบที่เหมือนกัน และถืออาวุธหลากหลายชนิดด้วยใบหน้าไร้อารมณ์
ในขณะเดียวกันชายร่างใหญ่ที่ดูเหมือนหัวหน้ากลุ่มก็ส่งสัญญาณให้ลูกน้องนำตาข่ายอีกสองแผ่นมาคลุมสกายเพิ่มเติม จากนั้นพวกเขาก็หยิบอุปกรณ์ตัดโลหะที่ดูทรงพลังออกมาเตรียมจะตัดชุดเกราะของเธอ
เอริคที่ซุ่มดูเหตุการณ์เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มเลยเถิดไปไกล เขาก็ค่อย ๆ ร่อนลงมายังพื้นด้วยท่าทีสงบนิ่ง ยกมือไพล่หลังและยกเลิกโหมดล่องหน ก่อนที่สายตาของเขาจะกวาดมองรอบ ๆ อย่างเย็นชา และพูดด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจขึ้นมาเสียงดังว่า “หยุดเดี๋ยวนี้! ใครให้ความกล้าพวกแกมาทำร้ายลูกสาวของฉัน!”
โปรดติดตามตอนต่อไป …