ตอนที่ 20 หนึ่งดาบ สังหารสิ้น
ตอนที่ 20 หนึ่งดาบ สังหารสิ้น
เสียง หึ่ง ดังขึ้น
แสงดาบพุ่งทะลุฟ้า!
เป้าหมายของมันคือชายชราในชุดคลุมดำ
ในขณะที่กู้ฉางชิงฟาดดาบ ชายชราในชุดคลุมดำก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติทันที
แต่ดาบนี้รวดเร็วเกินไป รวดเร็วจนแม้แต่เขายังไม่มีเวลาจะหลบหนี!
แสงดาบสีขาวบริสุทธิ์สลายไป พื้นที่โดยรอบบิดเบี้ยวเล็กน้อย ร่างของชายชราในชุดคลุมดำได้หายไปอย่างสมบูรณ์ ไม่มีแม้แต่เศษซากหลงเหลือ
เพียงหนึ่งดาบ ทุกอย่างกลับเข้าสู่ความเงียบสงัด
ทั้งเกาะไห่เยว่เงียบกริบ ทุกคนตกตะลึงจนไม่อาจพูดอะไรออกมา
ในใจของพวกเขาสั่นสะเทือนรุนแรง!
ผู้แข็งแกร่งระดับครึ่งราชาสัมบูรณ์เพียงหนึ่งก้าวจากขอบเขตราชาถูกฆ่าตายในพริบตา?
นั่นไม่ใช่คนธรรมดา หรือผู้ไร้ค่าทั่วไป!
ในตอนนี้ทุกสายตาจับจ้องไปยังกู้ฉางชิง เต็มไปด้วยความนับถือและเกรงกลัว
“ก่อนหน้านี้ไม่เคยมี ตอนนี้ ข้ามีแล้ว”
กู้ฉางชิงพูดเรียบ ๆ พร้อมจ้องไปยังตำแหน่งที่ชายชราในชุดคลุมดำเคยยืนอยู่
เสียใจหรือไม่?
กู้ฉางชิงเชื่อว่าก่อนตาย ชายชราในชุดคลุมดำคงเสียใจอย่างแน่นอน
เสียใจที่เขาประมาทมากเกินไป และยิ่งเสียใจที่ไม่ยอมให้กู้ฉางชิงจากไปโดยสงบ...
ถ้าในตอนนั้นเขาเลือกปล่อยให้กู้ฉางชิงออกจากเกาะไป เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น เขาคงไม่ต้องตาย
“เขาไม่ใช่ขอบเขตราชา?”
ในใจของอาวุโสหยินเองก็ปั่นป่วนไม่ต่างกัน
ก่อนหน้านี้ เขาคิดมาตลอดว่ากู้ฉางชิงน่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งขอบเขตราชา แต่เมื่อครู่ ตอนที่กู้ฉางชิงลงมือ กลิ่นอายพลังที่แผ่ออกมาชัดเจนว่าอยู่ในขอบเขตวิบากกรรมขั้นต้นเท่านั้น!
แต่ความตื่นตะลึงในใจของอาวุโสหยินกลับยิ่งทวีคูณ
หากกู้ฉางชิงเป็นผู้แข็งแกร่งขอบเขตราชา เขาก็คงไม่แปลกใจนัก
ผู้แข็งแกร่งขอบเขตราชาสังหารครึ่งราชาสัมบูรณ์ แม้จะเป็นครึ่งราชาสัมบูรณ์ที่ทรงพลัง ก็เป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายดาย
แต่... กู้ฉางชิงไม่ได้อยู่ในขอบเขตราชา เขาอยู่ในขอบเขตวิบากกรรมขั้นต้น!
ขอบเขตวิบากกรรมขั้นต้น สังหารครึ่งราชาสัมบูรณ์ด้วยดาบเดียว?
มันช่างดูเหมือนไม่ใช่เรื่องจริง
เบื้องล่าง โม่ห่าวไป่บุตรชายตระกูลโม่ อ้าปากค้าง ร่างกายของเขาสั่นสะท้าน ความหวาดกลัวอันบอกไม่ถูกแผ่ซ่านออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ...
ร่างกายของโม่ห่าวไป่ถึงกับสั่นเทิ้มโดยไม่อาจควบคุมได้
เมื่อไม่นานมานี้ เขายังกล้าคิดอย่างโง่เขลาว่าจะไปหาเรื่องกู้ฉางชิง?
หาเรื่องกับผู้ที่มีพลังขอบเขตราชา?
เขาคิดว่าชีวิตตัวเองยาวนานเกินไปหรืออย่างไร?
โชคดีที่บิดาของเขาด่าจนสติกลับคืนมาในเวลานั้น…
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ โม่ห่าวไป่ก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ
ถ้าตอนนั้นตระกูลโม่ลงมือแก้แค้นกู้ฉางชิงจริง ๆ… ผลลัพธ์คงเลวร้ายจนไม่อาจจินตนาการได้!
หลายคนที่เคยเข้าร่วมงานประมูลยังจำกู้ฉางชิงได้ดี
ฉากที่เขาแสดงความหยิ่งผยองในหอประมูลติดตาและตรึงใจพวกเขา
การข่มขู่โม่ห่าวไป่ รวมถึงตระกูลโม่ซึ่งเป็นหนึ่งในห้าตระกูลใหญ่บนเกาะไห่เยว่
ในตอนนั้น หลายคนคิดว่ากู้ฉางชิงคงไม่มีทางรอดออกจากเกาะไห่เยว่ไปได้ แต่ตอนนี้…
พวกเขาเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมตอนนั้นกู้ฉางชิงถึงกล้าแสดงความดุดันและหยิ่งยโสได้ถึงเพียงนั้น
หนึ่งดาบที่สังหารครึ่งราชาสัมบูรณ์ได้ในพริบตา พลังเช่นนี้เหตุใดเขาต้องแยแสห้าตระกูลใหญ่ของเกาะไห่เยว่?
หากทุกอย่างจบเพียงเท่านี้ ก็คงไม่มีปัญหาอะไร
แต่หากตระกูลโม่กล้าหาเรื่องเขาหลังจากนั้น การลบตระกูลโม่ออกไปจากเกาะไห่เยว่ ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องยากสำหรับกู้ฉางชิง
ตอนนี้ทุกคนเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมหลังจากที่กู้ฉางชิงประกาศว่าจะอยู่บนเกาะไห่เยว่อีกสองวัน ตระกูลโม่ถึงไม่กล้าทำอะไร
ตระกูลโม่อาจจะรู้อะไรบางอย่าง ไม่ใช่ว่าไม่อยากลงมือ แต่เป็นเพราะไม่กล้าลงมือ
คนที่เคยหัวเราะเยาะตระกูลโม่ว่าขี้ขลาด ตอนนี้กลับพบว่าตัวเองนั่นแหละที่โง่เขลายิ่งกว่า
“หนี!”
หลังจากได้เห็นชายชราในชุดคลุมดำถูกกู้ฉางชิงสังหารด้วยดาบเพียงดาบเดียว กลุ่มผู้แข็งแกร่งระดับครึ่งราชาของสำนักจันทร์มืดที่เหลือ รวมถึงชายชราในชุดคลุมขาว ซึ่งเป็นครึ่งราชาสัมบูรณ์อีกคน ต่างตกตะลึงจนไร้คำพูด
ปฏิกิริยาแรกของพวกเขาไม่ใช่การรวมตัวกันเพื่อล้อมสังหารกู้ฉางชิง หรือแก้แค้นให้ชายชราในชุดคลุมดำ แต่เป็น…หนี!
กลุ่มผู้แข็งแกร่งระดับครึ่งราชากว่าสิบคนพุ่งตัวเป็นแสงสว่างหลายสาย แยกย้ายกันหลบหนีไปคนละทิศละทาง
ภาพที่เกิดขึ้นทำให้ทุกคนบนเกาะไห่เยว่ตะลึงงันไปตาม ๆ กัน
เมื่อกลุ่มชายชุดดำที่ก่อนหน้านี้โอ้อวดอย่างหยิ่งยโสว่าจะปิดล้อมเกาะไห่เยว่และสังหารทุกชีวิตบนเกาะ พากันหนีแตกกระเจิง ผู้คนบนเกาะก็ได้แต่ตกตะลึง
แต่เมื่อคิดถึงพลังอันน่าสะพรึงของกู้ฉางชิง ทุกคนก็เข้าใจได้
เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้แข็งแกร่งระดับนี้ที่อาจเทียบได้กับขอบเขตราชา หากไม่หนีก็ต้องรอความตายเท่านั้น
แต่กู้ฉางชิงจะปล่อยให้พวกเขาหนีไปจริงหรือ?
การฆ่าคนหนึ่งก็เหมือนฆ่าหมู่ หากปล่อยไปอาจก่อปัญหาในภายหลัง
เพียงแค่คิด ดาบวิญญาณสี่เล่มที่เป็นส่วนหนึ่งของค่ายกลก็พุ่งออกจากอากาศ
ในเวลาไม่ถึงชั่วพริบตา ผู้แข็งแกร่งระดับครึ่งราชาทั้งสิบกว่าคนก็ถูกสังหารจนหมดสิ้น
เหลือเพียงชายชราในชุดคลุมขาว ระดับครึ่งราชาสัมบูรณ์ ที่ถูกกู้ฉางชิงจับไว้ในมือ เขาดิ้นรนและอ้อนวอนขอชีวิต
"ท่านโปรดไว้ชีวิต ข้าคืออาวุโสสูงสุดแห่งสำนักจันทร์มืด ข้ายินดีรับใช้ท่านทุกอย่าง ขอเพียงให้ข้ารอดชีวิต"
เดิมที กู้ฉางชิงตั้งใจจะฆ่าเขาทิ้งทันที แต่คำพูดของชายชรากลับทำให้เขาฉุกคิด
ในตอนนี้ ตระกูลกู้มีเพียงเขาคนเดียวที่เป็นผู้แข็งแกร่งขอบเขตราชา แม้เจียงเหลียนซินจะมีพรสวรรค์สูงส่ง แต่ยังคงห่างไกลจากการบรรลุถึงขอบเขตราชา อีกทั้งนางยังมีครรภ์ซึ่งทำให้การฝึกตนต้องหยุดชะงัก
หากเขาต้องเดินทางออกไป ตระกูลกู้จะไม่มีใครที่มีพลังเพียงพอจะปกป้องตระกูล
ชายชราในชุดคลุมขาวแม้จะไม่ใช่ขอบเขตราชา แต่เขาคือผู้แข็งแกร่งระดับครึ่งราชาสัมบูรณ์
สำหรับกู้ฉางชิง การช่วยให้ผู้แข็งแกร่งระดับครึ่งราชาสัมบูรณ์บรรลุถึงขอบเขตราชาไม่ใช่เรื่องยาก
ในคัมภีร์โอสถจักรพรรดิ มีสูตรยาโบราณระดับสี่ที่เรียกว่า "โอสถสามต้นกำเนิดทำลายอุปสรรค" ซึ่งสามารถเพิ่มโอกาสในการบรรลุขอบเขตราชาได้อย่างมาก
ยานี้เขาได้หลอมไว้แล้วสามเม็ด กู้ฉางชิงเองไม่จำเป็นต้องใช้ เพราะด้วยพรสวรรค์ของเขา ไม่มีความจำเป็นต้องพึ่งยาเพื่อช่วยบรรลุขอบเขตราชา
แต่สำหรับคนใกล้ตัวของเขาที่พรสวรรค์ไม่ได้สูงเท่ากัน เช่น บิดาของเขา หรืออาวุโสใหญ่และรอง เมื่อพวกเขาบรรลุถึงขอบเขตวิบากกรรมขั้นเก้าในระดับสัมบูรณ์ ก็อาจใช้ยานี้ได้
กู้ฉางชิงหลอมยาไว้เผื่อใช้ในอนาคต แต่ดูเหมือนว่ายานี้อาจต้องถูกนำมาใช้ก่อนกำหนด
"ข้าจะไว้ชีวิตเจ้าก็ไม่ใช่เรื่องยาก"
กู้ฉางชิงโยนยาเม็ดสีดำเม็ดหนึ่งให้เขา "กินมันซะ แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า"
ชายชราในชุดคลุมขาวมองยาเม็ดนั้นเพียงครู่เดียวก่อนกลืนลงไปโดยไม่ลังเล ในตอนนี้เขาขอเพียงมีชีวิตรอดเท่านั้น
แม้เพียงการลังเลครู่เดียวอาจทำให้กู้ฉางชิงไม่พอใจ และนั่นหมายถึงความตาย
หลังจากกลืนยาเม็ดดำไป เขารู้สึกได้ว่าจิตวิญญาณของเขาถูกมือที่มองไม่เห็นกำแน่นไว้ หากกู้ฉางชิงเพียงแค่คิด เขาก็อาจตายได้ทันที
ยานี้คือสิ่งที่กู้ฉางชิงหลอมขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อน มีคุณสมบัติในการควบคุมจิตวิญญาณของผู้อื่น และผลลัพธ์ก็เป็นไปตามที่ชายชราในชุดคลุมขาวคาดไว้ ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ใด หากกู้ฉางชิงต้องการสังหารเขา เพียงแค่ความคิดเดียวก็เพียงพอ!
“รู้สึกไม่พอใจอยู่บ้างหรือเปล่า?”
กู้ฉางชิงมองชายชราในชุดคลุมขาวแล้วถาม
“ข้าน้อยไม่กล้า!” ชายชราในชุดคลุมขาวรีบคุกเข่าลงทันที
“อืม” กู้ฉางชิงพยักหน้าเล็กน้อยแล้วกล่าวต่อ
“การติดตามข้า อาจไม่ใช่เรื่องเลวร้ายสำหรับเจ้า ด้วยพรสวรรค์ของเจ้า หากไม่ได้โอกาสครั้งใหญ่ เจ้าคงไม่มีหวังบรรลุถึงขอบเขตราชาในชาตินี้ แต่หากติดตามข้า ขอบเขตราชาก็จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น”
คำพูดของกู้ฉางชิงไม่ได้เป็นการล่อลวงหรือให้ความหวังลม ๆ แล้ง ๆ เขามั่นใจในความสามารถของตัวเอง
ชายชราในชุดคลุมขาวนั้นเป็นถึงผู้แข็งแกร่งระดับครึ่งราชาสัมบูรณ์ ซึ่งอยู่ห่างจากขอบเขตราชาเพียงก้าวเดียว
แน่นอนว่า “ก้าวเดียว” นี้ ได้ขวางผู้แข็งแกร่งระดับครึ่งราชาไว้มากมาย และหลายคนก็ติดอยู่ตรงนี้ไปตลอดชีวิต
ในตอนนี้ จิตใจของชายชราในชุดคลุมขาวเต็มไปด้วยความซับซ้อน เขาเสียใจที่สูญเสียอิสรภาพ แต่ก็ดีใจที่อาจมีโอกาสบรรลุถึงขอบเขตราชาในอนาคต
เขาเชื่อมั่นในคำพูดของกู้ฉางชิงอย่างหมดใจ
พรสวรรค์ของกู้ฉางชิงเห็นได้ชัดอยู่ตรงหน้า แม้อยู่ในขอบเขตวิบากกรรมขั้นต้น แต่เขากลับมีพลังที่เทียบได้กับขอบเขตราชา นี่เป็นศักยภาพที่น่าทึ่งเพียงใด
บางทีแม้แต่เหล่าผู้ที่อยู่ในรายชื่ออัจฉริยะบนกระดานสวรรค์ที่เลื่องลือไปทั่ว ยังอาจไม่สามารถเทียบได้
สำหรับชายชราในชุดคลุมขาว นี่อาจเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต
หากบุคคลเช่นกู้ฉางชิงเติบโตขึ้นในอนาคต ไม่ใช่แค่เขา แต่แม้แต่ผู้แข็งแกร่งขอบเขตราชาตัวจริงก็คงอยากติดตามเขา
บางทีวันหนึ่งในอนาคต หากกู้ฉางชิงต้องการให้เขาจากไป เขาเองอาจจะปฏิเสธเสียด้วยซ้ำ
“นายท่าน ข้ามีนามว่าไป๋ฮวน” ชายชราในชุดคลุมขาวกล่าวพร้อมกับโค้งศีรษะให้กู้ฉางชิงอย่างเคารพ