ตอนที่แล้ว47 - วันหยุด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป49 - สำนึกผิด

48 - มีเรื่องอีกแล้ว


ระหว่างทางกลับบ้าน ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีเด็กซนมากวนใจ จูผิงอันขี่วัวแก่กลับมาบ้านพร้อมกับจูผิงจวิ้นอย่างสงบสุข

แต่ยังไม่ทันถึงบ้าน จูผิงอันก็เห็นว่าหน้าประตูบ้านตระกูลจูมีผู้คนล้อมอยู่เต็มไปหมด ต่างพากันชี้ไม้ชี้มือและพูดคุยกันเสียงดัง โดยเฉพาะบรรดาป้าๆ ที่แสดงท่าทางรังเกียจอย่างเห็นได้ชัด

จูผิงอันใจสั่น บ้านจะต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่ๆ รีบเร่งวัวให้วิ่งเร็วขึ้น และจูผิงจวิ้นก็เบียดฝูงคนเข้าไปในบ้านตามมา

เมื่อเข้ามาในลานบ้าน สิ่งที่เห็นคือความโกลาหลวุ่นวาย เสียงร้องไห้ด่าทอและทะเลาะกันดังลั่นจนฟังไม่เป็นภาษา ท่านแม่ของจูผิงอันและสะใภ้ทั้งหลายที่ไม่ค่อยจะลงรอยกันนัก คราวนี้กลับยืนอยู่ฝ่ายเดียวกัน พยายามปลอบใจป้าสะไภ้ใหญ่ที่กำลังร้องไห้ด่าทออย่างเดือดดาล

“เมื่อคืนมีฟ้าแลบ ฝนตกปรอยๆ นางยืนอยู่ตรงนั้นคนเดียว ดูผอมบางจนเหมือนลมพัดก็จะปลิว นางแต่งตัวบางจนเหมือนจะถูกลมหนาวจนแข็ง ข้าเห็นว่านางต้องการความอบอุ่น เลยให้เงินนางไปซื้อเสื้อผ้า แต่ใครจะคิดว่านางจะตอบแทนด้วยร่างกายของนางเอง” ท่านลุงใหญ่ยืนอยู่ตรงนั้น พูดด้วยสีหน้าจริงจัง ราวกับเป็นผู้เสียสละเพื่อผู้อื่น

“เฮ้ย! นี่คือข้ออ้างที่เจ้าพานังผู้หญิงไม่มีศีลธรรมกลับมาบ้านหรือ” ป้าสะไภ้ใหญ่ถุยน้ำลายด้วยความโกรธ พร้อมร้องไห้ด่าทอ ไม่ทันไรนางก็พุ่งเข้าหาท่านลุงใหญ่ ราวกับอยากจะกัดเขาให้เลือดไหล

จูผิงอันได้ฟังเหตุผลของท่านลุงก็ได้แต่คิดในใจว่า "ยอดเยี่ยมจริงๆ ลุงเรา! ไม่อายเลยสักนิด พูดเรื่องฝนตกทั้งที่ฝนไม่ได้ตกมาหลายเดือนแล้ว ไหนจะเรื่องหนาวอีก ทั้งๆ ที่ช่วงนี้ตอนกลางคืนร้อนจะตาย"

ท่านปู่ของจูผิงอันได้ยินดังนั้นก็โกรธจนถือไม้ไล่ตีท่านลุงใหญ่ทั่วลานบ้าน ท่านย่าก็พยายามห้ามท่านปู่ไว้ กลัวว่าท่านปู่จะตีท่านลุงจนบาดเจ็บสาหัส ท่านลุงที่ดูท่าทีสง่างามแบบผู้มีการศึกษา คราวนี้หัวกระเซอะกระเซิง ผมยุ่งเหยิงเหมือนโดนข่วน วิ่งหนีไปทั่วลานเหมือนไก่เปียก กลัวว่าจะถูกไม้ของท่านปู่ฟาดเข้าที่หน้า

“อู้ย ท่านปู่ค่อยๆ หน่อย อย่าตีคุณท่านพี่แรงเกินไป”

ที่มุมหนึ่งของลานบ้าน มีหญิงสาวแต่งตัวฉูดฉาดยืนไขว้มือเคาะเมล็ดแตงอย่างสบายอารมณ์ หน้าตาธรรมดาแต่รู้จักแต่งตัว ท่าทางดูแปลกๆ เสียงพูดทำท่าทางเสแสร้ง ดูยังไงก็รู้ว่าไม่ใช่หญิงที่มีความเป็นกุลสตรี

เอ่อ... จูผิงอันเริ่มเข้าใจเรื่องราว ท่านลุงใหญ่ไปในตัวเมืองแค่สองวัน กลับพาผู้หญิงคนนี้มาด้วย ทั้งที่บอกว่าไปพบเพื่อนเพื่อศึกษาธรรม ทำไมถึงกลับมาพร้อมหญิงที่ดูไม่เรียบร้อยแบบนี้? แล้วเงินที่ใช้ซื้อตัวมาจากไหน?

“เฮ้ย! นังผู้หญิงไร้ยางอาย ใครเป็นท่านพี่ของเจ้า นั่นสามีของข้า!” ป้าสะไภ้ใหญ่เดือดหนักจนหมดความสง่างาม พุ่งเข้าไปถุยน้ำลายใส่หญิงคนนั้น ก่อนจะตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย

ฝ่ายหญิงคนนั้นก็ไม่ใช่ย่อย โดนถุยน้ำลายใส่แล้วร้องเสียงหลง ก่อนจะพุ่งเข้าไปจะตบตีกับป้าสะไภ้ใหญ่คราวนี้สะใภ้ทั้งหลายอย่างท่านแม่ของจูผิงอัน อาสะใภ้สี่ และอาสะใภ้สาม พากันทิ้งความบาดหมางชั่วคราว เข้าไปช่วยป้าสะไภ้ใหญ่จับหญิงคนนั้นและรุมตบตี บางคนแอบใช้เท้าเตะอย่างแรงจนหญิงคนนั้นเสื้อผ้าหลุดลุ่ย ผมยุ่งเหยิง นอนหมดสภาพอยู่กับพื้น

“จูโซ่วเหริน ตอนมารับข้าพูดอะไรไว้ เจ้ายังเป็นลูกผู้ชายอยู่หรือไม่!” หญิงคนนั้นถูกทำร้ายจนทนไม่ไหว ตะโกนใส่ท่านลุงที่กำลังวิ่งหนีท่านปู่

แต่ก็ไม่มีประโยชน์ เขาเองยังเอาตัวไม่รอด

จูผิงอันกับจูผิงจวิ้นที่เพิ่งเข้ามาในลาน ต่างยืนนิ่งตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นจนพูดอะไรไม่ออก

ทางด้านท่านปู่ก็ได้จังหวะฟาดไม้ไปที่ท่านลุงใหญ่สองครั้ง ท่านย่าที่ยืนข้างๆ ก็ร้องห้ามอย่างน่าสงสาร

“ท่านพ่อๆ ฟังข้าก่อน” ท่านลุงใหญ่หลบไปอยู่หลังท่านย่า พูดอย่างลนลาน

พ่อของจูผิงอันและอาสามยืนอึ้ง ไม่รู้จะทำอย่างไรดี มีเพียงอาสี่ที่แอบมองหญิงคนนั้นที่นอนอยู่บนพื้นด้วยสายตาโลมเลีย ราวกับถือโอกาสสำราญสายตา!

จูผิงอันได้สติ รีบลงจากหลังวัว แล้วตรงไปปิดประตูบ้านทันที เพื่อป้องกันไม่ให้คนนอกเห็นเรื่องวุ่นวายในบ้านเป็นเรื่องสนุกสนานของพวกเขา

ในลานบ้าน การทะเลาะวิวาทกินเวลานาน จนในที่สุดก็เริ่มสงบลง ทุกคนในบ้านรวมตัวกันตั้งวง “ศาลครอบครัว” อย่างเรียบง่าย ท่านปู่ของจูผิงอันนั่งอยู่บนเก้าอี้ ส่วนคนอื่นๆ ยกเว้นท่านลุงใหญ่และหญิงแปลกหน้า ต่างหาที่นั่งสองฟาก ท่านลุงใหญ่กับหญิงคนนั้นยืนอยู่กลางลานด้วยสภาพอิดโรย

“ไอ้ลูกไม่รักดี ยังไม่รีบคุกเข่าอีก!” ท่านปู่ตะโกนด้วยความโกรธจนไอไม่หยุด

ท่านย่าของจูผิงอันรีบเข้าไปช่วยลูบหลังท่านปู่เพื่อบรรเทาอาการ แต่กลับถูกท่านปู่ผลักออกพร้อมกับตำหนิว่า “ก็เพราะเจ้านั่นแหละที่ตามใจเขา!”

ท่านลุงใหญ่ถูกท่านปู่ด่าว่าไม่ทันไร ก็รีบทรุดตัวคุกเข่าลง สีหน้าที่เคยเรียบร้อยตอนนี้ดูอับอายอย่างเห็นได้ชัด

“ท่านพ่อ ได้โปรดฟังลูกก่อน นี่ไม่ใช่ความคิดของลูกเลย!” ท่านลุงใหญ่พยายามแก้ตัว

“ไม่ใช่ความคิดของเจ้า แล้วใครลากนางนี่เข้าบ้านมา!” ท่านปู่พูดพลางหยิบกล้องยาสูบในมือปาใส่ท่านลุงใหญ่ แต่ท่านลุงใหญ่ไวพอที่จะหลบ กล้องยาสูบตกลงพื้นกระแทกจนฝุ่นกระจาย

“เจ้าบอกว่าจะไปเรียนหนังสือ ไปศึกษาธรรมะ แล้วเจ้ากลับมาพร้อมผู้หญิงเนี่ยนะ!” ท่านปู่ชี้นิ้วสั่นด้วยความโกรธ

หน้าท่านลุงใหญ่แดงก่ำ ไม่รู้ว่าเพราะอายหรือเหนื่อยจากการวิ่งหนี แต่เขายังพยายามแก้ตัวต่อไป “ท่านพ่อ ลูกแค่ไปหามิตรสหายเพื่อศึกษาวิชาความรู้ แต่เพื่อนของลูกชื่นชมความรู้ของลูกมาก จึงเชิญไปกินเหล้าที่บ้าน ตอนนั้นฝนตกปรอยๆ แม่นางเจวียนยืนอยู่หน้าบ้านด้วยชุดบางๆ ลูกเลยสงสารให้เงินไปซื้อเสื้อกันหนาว ใครจะคิดว่าแม่นางนี่จะมอบตัวให้ลูก เพื่อนลูกเห็นว่าลูกอยู่ตัวคนเดียว เลยยกนางให้ลูกฟรีๆ ลูกพยายามปฏิเสธแล้ว แต่เพื่อนบอกว่าถ้าลูกไม่รับ จะตัดความเป็นเพื่อนและไม่แบ่งปันความรู้ที่อาจารย์ของเขาสอนมาให้”

คำแก้ตัวของท่านลุงใหญ่สรุปง่ายๆ คือ “ข้าไม่ได้ซื้อแม่นางคนนี้มา เพื่อนยกให้ฟรี แถมข้ายังไม่อยากได้ด้วยซ้ำ”

จูผิงอันฟังแล้วพูดไม่ออก หันไปเห็นหญิงสาวที่ยืนอยู่ ยิ้มเย้ยหยันออกมาเล็กน้อย

“อย่าโกรธไปเลยท่านปู่ ไหนๆ เขาก็บอกว่าเพื่อนยกให้ ก็ส่งนางคืนเพื่อนไปก็สิ้นเรื่อง” ท่านย่าพยายามช่วยพูดแก้ตัวให้ลุงใหญ่

อาสะใภ้สี่พูดแทรกเบาๆ “ถ้าเพื่อนให้ฟรี แล้วเงินที่พี่ใหญ่เอาไปล่ะ?”

แม่ของจูผิงอันมองอาสะใภ้สี่ด้วยสายตาเห็นด้วย

“เงินยังอยู่ขอรับ” ท่านลุงใหญ่ตอบเสียงเบา

“แล้วเงินอยู่ไหน?” อาสะใภ้สี่ซักต่อ

ท่านลุงใหญ่ล้วงมือเข้าไปในแขนเสื้อ หยิบเหรียญออกมาหนึ่งกำส่งให้ท่านย่า ซึ่งมีเพียงไม่ถึงสิบเหรียญ

ท่านปู่ที่กำลังอารมณ์เสียอยู่แล้ว ยิ่งโกรธหนัก รีบคว้าไม้เท้าเตรียมจะฟาดท่านลุงใหญ่อีกครั้ง ท่านย่าต้องกระโจนเข้าไปยึดไม้ไว้ พร้อมหันไปตะโกนใส่ท่านลุงว่า “ไอ้ลูกเวร รีบอธิบายเดี๋ยวนี้!”

“ลูก... ลูกพาเพื่อนและอาจารย์ไปเลี้ยงอาหารที่เมือง เลยใช้เงินไปเยอะ...” ท่านลุงใหญ่พูดเสียงสั่น

“สองตำลึงเงินเลยนะพี่ใหญ่ เงินนั้นครอบครัวเรากินได้ครึ่งปีเลยนะ!” ท่านแม่ของจูผิงอันถอนหายใจด้วยความเสียดาย

แต่แทนที่ท่านย่าจะตำหนิท่านลุงใหญ่ กลับถลึงตาใส่แม่ของจูผิงอันและสะใภ้สี่ ราวกับจะเตือนให้หยุดพูด!

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด