ฟาร์มขั้นเทพกับประตูมิติตามใจนึก ตอนที่ 046 เทพีนาค
ฟาร์มขั้นเทพกับประตูมิติตามใจนึก ตอนที่ 046 เทพีนาค
“อืม!”
เมื่อปรากฏตัวอีกครั้ง หงอี้พบว่าตัวเองอยู่บนเกาะร้างแห่งหนึ่ง
“เกาะใหญ่มาก!”
หลังจากสำรวจสภาพแวดล้อมโดยรอบ หงอี้ก็อุทานในใจ
รอบเกาะร้าง ล้วนเป็นทะเลกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา
ทั่วทั้งเกาะ มีความชื้นสูง
ในอากาศ เต็มไปด้วยไอน้ำ
หมอกหนาทึบ ปกคลุมแสงสว่างไว้ทั้งหมด
ในต่างโลก ณ เวลานี้ ท้องฟ้าก็เพิ่งจะสาง
ลมทะเลพัดแรง แต่กลับไม่สามารถพัดหมอกหนาบนเกาะให้จางหายไปได้
ดูเหมือนว่า หมอกหนาเหล่านี้ เกิดจากเวทมนตร์
“ถ้านาคลงทะเล คงจะจับพวกเธอยาก”
หงอี้พึมพำ
นี่เป็นปัญหาอย่างหนึ่ง ดังนั้นหงอี้จึงเตรียมอวนขนาดใหญ่ไว้หลายอัน
“จำนวนของเผ่านาค มีน้อยมาก”
“สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ ล้วนเป็นเพศหญิง ไม่รู้ว่ามาจากไหน...”
หงอี้รู้สึกอยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างมาก
ต่างโลก มักจะเต็มไปด้วยเวทมนตร์
“เวลาต่อสู้จริง ๆ คงจะแสดงพลังมากไม่ได้ ไม่งั้นจะทำให้พวกเธอกลัวจนหนีไป”
“ต้องแกล้งทำเป็นอ่อนแอ และควรจะยั่วยุพวกนาคให้โกรธ ให้พวกเธอไล่ล่า และล้อมโจมตีฉันอย่างไม่ลดละ...”
“แต่ ถ้าทำแบบนั้น พวกเธอคงจะเกลียดฉันเข้ากระดูกดำ ต่อไปคงจะเลี้ยงดูพวกเธอยาก”
หงอี้คิดในใจ
เผ่านาค มักจะอยู่โดดเดี่ยว แม้แต่เผ่ามังกรยักษ์ พวกเธอก็ไม่สนใจ
อยากจะปราบพวกเธอ?
หงอี้รู้สึกว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้
พวกเธอไม่เหมือนเผ่าทอเรน แค่ให้ข้าวสารหนึ่งถุง พวกเขาก็ยอมสวามิภักดิ์
และก็ไม่เหมือนเผ่าเอลฟ์ ที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่เลวร้าย
“ช่างเถอะ จับได้ก่อนค่อยว่ากัน ยังไงพวกเธอก็ถูกนิยามว่าเป็นสัตว์อสูร!”
หงอี้สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นก็เดินเข้าไปในหมอกหนา
ท่ามกลางหมอกหนา หงอี้เห็นว่าไกลออกไป ดูเหมือนจะมีสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่
ทั่วทั้งเกาะเงียบสงบ
หงอี้ได้ยินเสียงหัวเราะมาจากทะเล
น่าจะเป็นนาคไซเรน
ไซเรน ไม่ใช่ชื่อที่ดี
ในระดับหนึ่ง พวกเธอเป็นตัวแทนของความโหดร้าย
อย่างน้อย สำหรับสิ่งมีชีวิตบนบก ก็เป็นเช่นนั้น
หงอี้ไม่มีทางรับมือนาคในทะเลได้
ถ้าสามารถใช้สติปัญญาได้ ก็คงจะดีที่สุด
“ทั่วทั้งเกาะ กลับไม่มีการป้องกันหรือยามเฝ้าเลย...”
“ดูเหมือนว่า เผ่านาคบนเกาะแห่งนี้ คงจะไม่มีศัตรู คงจะไม่มีใครเทียบได้...”
หงอี้คิดในใจ
ยิ่งไปกว่านั้น ระหว่างทาง เขาก็ไม่พบสิ่งปลูกสร้างใด ๆ
“เผ่านาค คงจะอาศัยอยู่ในทะเล...”
หงอี้พึมพำ ถ้าเป็นแบบนั้น ก็คงจะลำบาก
แต่ เอวิยาบอกว่าที่นี่คือที่รวมตัวของเผ่านาค
ในที่สุด หงอี้ก็มองเห็นสิ่งปลูกสร้างเพียงหนึ่งเดียว
“รูปปั้น...”
“นี่คือรูปปั้นเทพีนาคหรือ?”
หลังจากมองเห็นสิ่งปลูกสร้างในหมอกหนา หงอี้ก็รู้สึกประหลาดใจ
นั่นคือรูปปั้น สูงกว่าร้อยเมตร
รูปปั้นซัคคิวบัส เหมือนมีชีวิต
ครึ่งคนครึ่งงู ส่วนบนเป็นรูปปั้นหญิงสาวที่งดงาม ส่วนล่างเป็นรูปปั้นหางงูสีทอง
ทอดยาวไปบนเกาะ หงอี้คาดว่าน่าจะยาวกว่าสองร้อยเมตร
เกล็ดสีทอง แต่ละเกล็ดมีขนาดเท่าชาม
ดูเหมือนว่าทำจากทองคำ
รูปปั้นหญิงสาว ไม่สวมใส่อะไรเลย แสดงให้เห็นถึงรูปร่างที่สมบูรณ์แบบ
ราวกับเป็นผลงานศิลปะชั้นยอด
แขนหกข้าง กางออกเป็นรูปดอกบัว
แต่ละข้างถืออาวุธ มีหอกเทพ โล่เทพ ขวานรบ คทา และตำรา อีกข้างชี้ไปบนฟ้า
ใบหน้าที่งดงามของรูปปั้น ดูเคร่งขรึม
“ดูเหมือนว่า พลังต่อสู้ของเผ่านาค คงจะน่ากลัวมาก”
“การต่อสู้แบบตัวต่อตัว คงจะไม่มีใครเทียบได้...”
หงอี้รู้สึกทึ่ง
รูปปั้นเทพีนาค แสดงท่าทางต่อสู้ นั่นก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าเผ่านาคบูชาพลัง และบูชาสงคราม
สองมือสู้สี่มือไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหกมือ
“หรือว่าจะมีเทพีนาคจริง ๆ?”
“ถ้าอย่างนั้น โลกใบนี้จะมีเทพเจ้าจริง ๆ หรือ?”
หงอี้คิดในใจ
คำถามนี้ เขาเคยถามแคทเธอรีน
แคทเธอรีนเชื่อมั่นว่ามีเทพีแห่งธรรมชาติ
เผ่าพันธุ์เอลฟ์ นับถือเทพีแห่งธรรมชาติ
ส่วนอีเซราที่นับถือเทพมังกร ก็เชื่อมั่นว่าโลกใบนี้มีเทพมังกร
“ถ้ามีเทพเจ้าจริง ๆ เทพเจ้าในโลกปีศาจระดับต่ำ คงจะไม่แข็งแกร่งมากนัก”
“ถ้าวันหนึ่ง ฉันสามารถหาเทพเจ้าได้จริง ๆ”
“การเลี้ยงเทพเจ้าจะเป็นอย่างไร?”
“จะมีรางวัลหรือไม่?”
หงอี้พบว่า ความคิดของตัวเองเริ่มบ้าคลั่งอีกแล้ว
“ดูเหมือนว่า โลกปีศาจระดับต่ำ ก็มีข้อดีของมัน”
“อย่างน้อย ก็เหมาะกับการพัฒนาของฉัน”
“ตอนนี้ ก็แค่รอให้ฟาร์มปศุสัตว์เปิด หรือรอรับรางวัลเป็นฟาร์มปศุสัตว์...”
สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ หงอี้ค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้รูปปั้นเทพีนาค
ในเวลานี้ นาคไซเรนสองตนค่อย ๆ เดินเข้ามา
หงอี้รีบหลบ
“ต้องรีบแล้ว พิธีบูชาเทพีนาคที่สิบปีจะมีครั้งหนึ่ง อีกห้าวันก็จะเริ่มขึ้นแล้ว ตอนนี้ นาคจากทั่วทุกมุม ต่างก็มุ่งหน้ามาที่นี่ พวกเราต้องเตรียมเครื่องเซ่น...”
นาคไซเรนตนหนึ่งพูดอย่างเร่งรีบ
“อีกห้าวันก็จะเริ่มพิธีบูชาแล้ว ไซเรนทั้งหมดจะมารวมตัวกันที่นี่...”
หงอี้ร้องออกมาในใจ