ตอนที่แล้วบทที่ 516-517
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 521-522

บทที่ 518-519


บทที่ 518 : จิตวิญญาณแห่งมรดก

ความเย่อหยิ่ง ความเหงา การดิ้นรนเอาตัวรอด การหักหลัง ความอ่อนโยน ความเจ็บปวดของอิทาจิ...

ทางเลือกของอิทาจินั้นไม่สามารถพูดได้ว่ามันถูกต้อง เพราะเขายอมแยกตระกูลอุจิวะเพื่อหมู่บ้านโคโนฮะ

เพราะหมู่บ้านมีปัญหามากมายกับครอบครัวเขา

เขาต่างหากที่ตกเป็นเหยื่อในปัญหาระหว่างตระกูลและหมู่บ้าน

คิซาเมะยืนเงียบ ๆ มองทิวทัศน์ที่ห่างไกลพูดและพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“หากลือกหมู่บ้าน ก็ต้องเสียสละครอบครัวเพื่อป้องกันการเกิดสงคราม ยุติข้อพิพาทภายในและหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่ขยายออกไปด้วยทางเลือกนั้น”

แต่ก็ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นความผิดพลาด

สายลับคือการใช้ชีวิตอยู่โดยที่ไม่สามารถมองเห็นแสงสว่างได้ เช่นเดียวกับหนูในท่อน้ำสกปรก มันสามารถมีชีวิตอยู่ได้เพียงในความมืดเท่านั้น

ตอนนี้ทั้งสองแทบจะเรียกได้ว่ากำลังสนทนาแบบเปิดใจ และคิซาเมะเองก็เริ่มรู้สึกชื่นชมและเคารพอิทาจิ

ที่ผ่านมาชีวิตของอิทาจิ เขาคืดแต่เรื่องสงครามและสันติภาพ

เมื่อตอนที่ยังเป็นเด็ก เขาได้เห็นความโหดร้ายของสงคราม ดังนั้นอิทาจิจึงอยากจะเปลี่ยนแปลงโลกนี้และมุ่งเป้าไปที่การเป็นโฮคาเงะ

ทุกอย่างเป็นจริงมากราวกับว่าคิซาเมะได้สัมผัสมันด้วยตัวเอง

เขารู้ว่าอิทาจิแบกภาระและความกดดันหนักมากเกินไป

แต่ความเย่อหยิ่งและบุคลิกของเขาทำให้เขาถูกดันโซล่อลวง ในขณะที่นักเรียนคนอื่น ๆ ยังคงสนุกสนานไปกับช่วงเวลาแห่งความสุขในโรงเรียน แต่อิทาจิได้ก้าวเข้าสู่สนามรบของเหล่านินจาแล้ว และมีส่วนร่วมในการต่อสู้แย่งชิงอำนาจระหว่างผู้บริหารอาวุโสของโคโนฮะและตระกูลอุจิวะอีกด้วย

ทุกครั้งที่มันมันเกิดขึ้น ทุกทางเลือกมาพร้อมกับการนองเลือดและสงครามมากมาย

เนตรวงแหวนอันทรงพลังของตระกูลอุจิวะทำให้ผู้คนมากมายหวาดกลัวและคลั่งไคล้มัน

จิตใจของมนุษย์นั้นบิดเบี้ยวมาก ทุกคนคิดถึงแต่ผลประโยชน์จากมุมมองของตนเองเท่านั้น

“ตอนนี้ทุกอย่างจบแล้ว ถึงเวลาของฉันแล้วล่ะ”

“อิทาจิ...” คิซาเมะมองไปข้างหน้าอย่างว่างเปล่า

ฝนตกหนักกระทบพื้นดินจนเสียงดัง

แต่ในหมู่บ้านโคโนฮะ ตระกูลเซ็นจูจะเป็นฝ่ายได้เปรียบเสมอ

และอีกด้านหนึ่ง

ตระกูลเซ็นจูได้ถ่ายทอดเกี่ยวกับความคับข้องใจกับตระกูลอุจิวะจากรุ่นสู่รุ่น

“โฮคาเงะรุ่นที่ 3 ….ดันโซ ...” อิทาจิพึมพำ

หากตระกูลเขารอดไปได้ ก็จำเป็นต้องทำการยึดตำแหน่งของโฮคาเงะ และสงครามโลกครั้งที่ 4 ของเหล่านินจาจะต้องเกิดขึ้น ปัญหาต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอก แม้ว่าการยึดอำนาจจะประสบความสำเร็จ ตระกูลอุจิวะและหมู่บ้านโคโนฮะจะถูกแยกออกจากกันถาวร และตระกูลอุจิวะเองก็จะถูกทำลายเช่นกัน.

.

.

.

“อากาศแย่จังเลยนะอิทาจิ นายยังจำวันนั้นได้ไหม? ….วันนั้นก็เป็นอากาศแบบนี้เหมือนกัน”

ที่นี่เป็นที่ที่เขาเคยหลบฝนร่วมกับอิทาจิ

“ฉันจำได้ว่าตอนที่เราพบกันครั้งแรก นายบอกว่าคนอย่างเราจะไม่มีวันจบสวย และเราอาจตายเมื่อใดก็ได้ ดูเหมือนว่านายได้ทำนายชะตากรรมของตัวเองไว้ได้แม่นจริง ๆ”

หลังจากที่คิซาเมะออกมาจากสนามรบ เขาก็พาตัวเองมาถึงหน้าผา

สายตาของเขามองข้ามป่าอันเขียวชอุ่ม และมองดูดวงอาทิตย์ที่อยู่ไกล ๆ ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ในเวลานี้

“ท้ายที่สุดแล้ว ฉันเองก็เคยฆ่าคนที่ันเรียกว่าเพื่อนเหมือนกัน…”

ทางเลือกทั้งหมดของเขาซึ่งดูเหมือนจะเป็นทางเลือก แต่่มันกลับเป็นการบังคับให้ตัดสินใจในที่สุด

ไม่ว่าจะเลือกอันไหน มันก็จะมาพร้อมกับความเจ็บปวด

เขาคิดว่าเขารู้จักอิทาจิมากพอแล้ว แต่หลังจากคิดดูแล้วก็พบว่าสิ่งที่อิทาจินั้นซับซ้อนกว่าที่เขาจินตนาการไว้มาก

บทที่ 519 : ฉันอยากอยู่คนเดียวเงียบ ๆ

“คนอย่างเราที่สามารถฆ่าใครก็ได้ มันถูกกำหนดให้จบแบบเลวร้ายเช่นนี้แหละ ฮ่าฮ่าฮ่า” คิซาเมะหัวเราะเสียงดังเมื่อเขาพูดจบ

แต่รอยยิ้มนั้นกลับมีแต่ความขมขื่น

“นายยังเคยบอกด้วยนะว่าคน ๆ หนึ่งไม่สามารถรู้ได้ว่าเขา แต่เพียงชั่วครู่ก่อนที่จะตายก็จะสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาเป็นคนแบบไหน”

“อิทาจิตอนที่นายตาย นายเห็นมันไหม แล้วนายเป็นคนแบบไหน?”

คิซาเมะแห้งพึมพำกับตัวเอง

"นายมายืนทำอะไรที่นี่?" ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลังคิซาเมะ ทันทีที่คิซาเมะได้ยินเสียง ดาบเล่มใหญ่ในมือของเขาก็ฟันไปข้างหลังทันที

ดาบขนาดใหญ่ของคิซาเมะเฉียดผ่านร่างนั้นไปเล็กน้อย

“เป็นนายนี่เอง” คิซาเมะพูดด้วยความประหลาดใจเล็กน้อยขณะมองดูใครบางคนที่จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้น และน้ำเสียงของคิซาเมะก็ไม่ได้แปลกใจเลย

เพราะโฮชิงากิ คิซาเมะไม่ชอบคน ๆ นี้มากนัก แม้ว่าทั้งคู่จะอยู่ในองค์กรแสงอุษา แต่คิซาเมะคิดว่าคน ๆ นี้เจ้าเล่ห์เกินไป

คิซาเมะไม่ชอบติดต่อกับผู้คนที่เต็มไปด้วยหัวใจและความคิดที่ซับซ้อน

“คิซาเมะ….อุจิวะ อิทาจิ ตายแล้วใช่ไหม?” คน ๆ นั้นกล่าวหลังจากเงียบไปสักพัก

“ใช่….อิทาจิเพิ่งทิ้งเราไป” เมื่อพูดถึงอิทาจิ คิซาเมะก็มีสีหน้าเศร้าขึ้นมา

“ในเมื่ออิทาจิตายไปแล้ว นายจะทำอย่างไรต่อไปล่ะ? มีแผนอะไรไหม?” คน ๆ นั้นเงยหน้าขึ้นแล้วถามคิซาเมะ

“ฉันอยากจะสงบสติอารมณ์คนเดียวสักพัก หลังจากที่อิทาจิจากไปแล้ว ฉันรู้สึกว่าฉันหมดความสนใจกับอย่าง” คิซาเมะถอนหายใจเและจากนั้นก็หันหลังเดินลงภูเขาไป

หลังจากที่คิซาเมะเดินไปได้สักพัก เขาก็พบว่าคน ๆ นั้นยังคงตามเขามา คิซาเมะจึงหยุดและพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าไม่ค่อยชอบใจ

“นี่กำลังทำอะไรอยู่กันแน่? หัวหน้าจะให้เราจับคู่กันครั้งหน้าหรือไง แต่ฉันขอโทษ ฉันไม่ชอบหน้านายเท่าไหร่และคู่ของฉันคืออิทาจิเท่านั้น ฉันยินดีที่จะทำภารกิจคนเดียว”

“ว้าว ไม่คิดเลยว่านายกับอิทาจิจะรักกันดีขนาดนี้ นั้นมันทำให้ฉันประหลาดใจจริง ๆ คิซาเมะ” จู่ ๆ น้ำเสียงของน้ำเสียงของคนตรงหน้าก็เริ่มเปลี่ยนไป และเมื่อก่อนมันไม่ใช่เสียงที่คิซาเมะคุ้นเคย

“นายเป็นใครกันแน่?” คิซาเมะได้ยินเสียงเปลี่ยนไป ใบหน้าของคิซาเมะก็เริ่ทจริงจังขึ้นมาเช่นกัน และเขาก็กำดาบที่อยู่ข้างหลังของเขาแน่นโดยไม่รู้ตัวและจ้องมองไปยังคนที่อยู่ด้านหน้าเขม่ง

“มันนานมากแล้วคิซาเมะ….ฉันจำฉันไม่ได้แล้ว” พูดและถอดหน้ากากบนใบหน้าของเขาออก

“เป็นคุณจริง ๆ ด้วย…มาดาระ” คิซาเมะมองใบหน้าภายใต้หน้ากากของมาดาระด้วยความตกใจ และกำอาวุธในมือแน่นโดยไม่รู้ตัว แต่ไม่นานคิซาเมะก็ปล่อยมืออีกครั้ง

“จริง ๆ แล้วคุณคือผู้นำที่แท้จริงมาดาระ มันน่าทึ่งจริง ๆ คุณสามารถปราบเพนที่มีพลังมหาศาลได้ คุณคือมาดาระตัวจริง ๆ ด้วย” คิซาเมะกล่าวด้วยความเคารพ

“ฮิฮิฮิ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก เราทุกคนล้วนเป็นนินจาที่มาจากหลายหมู่บ้าน เรารวมตัวกันเพื่ออุดมการณ์เดียวกัน ไม่ว่าจะจะชนชั้นสูงหรือชนชั้นต่ำก็ตาม”

มาดาระพูดเบา ๆ

“ถึงอย่างนั้น…คนอย่างมาดาระอุตส่าห์มาหาถึงที่ มีจะให้คิซาเมะคนนี้รับใช้หรือไม่ล่ะครับ?” คิซาเมะถามด้วยความเคารพ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด