ตอนที่แล้วบทที่ 23 สหายร่วมบ้านเกิดสามคน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 25 ข้ากับปีศาจ ใครมีความสามารถมากกว่ากัน!

บทที่ 24 รากบัว อันตราย!


ลมปราณในอกไหลเวียนครบรอบ ค่อยๆ กระจายไปทั่วอวัยวะภายใน นำมาซึ่งความอบอุ่นและความสบายเล็กน้อย

"ฮึ หมัดวานรเหมาะกับข้าจริงๆ"

เหลียงฉวี่เช็ดเหงื่อบางๆ ที่หน้าผาก

หลายวันที่ผ่านมา เขาได้เรียนวิธีฝึกทั้งหมดจนจบ ลมปราณในอกหนาประมาณตะเกียบครึ่งด้าม ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วผิดปกติ ขณะเดียวกันก็เข้าใจ "หลัก" ของวิชายุทธ์ลึกซึ้งขึ้น

หลายสิ่งหลายอย่าง ถ้าไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเอง ก็ยากที่จะค้นพบความลับภายใน

ฝึกสามหมัดมานาน เหลียงฉวี่สรุปได้ถึงผลของกระดูก พูดง่ายๆ คือวิชาแต่ละชุดจะมีสัดส่วนร่างกายที่เหมาะสมหนึ่งหรือหลายแบบ เขาเรียกว่าความเข้ากันได้

ตัวอย่างเช่น แขนลิง เอวผึ้ง ขาตั๊กแตนของเขา เข้ากันได้ดีมากกับหมัดวานรในสามหมัด การฝึกก็เหมือนทำข้อสอบที่มีเฉลย ได้คะแนนเต็มทุกครั้ง ฝึกได้เร็วเป็นธรรมดา

ส่วนเสือหมัดและกระเรียนหมัดอีกสองวิชาไม่ค่อยเข้ากัน ทุกครั้งที่ฝึกเสร็จ รู้สึกว่าได้แค่แปดสิบและหกสิบคะแนน สะสมไปนานๆ ความต่างจะชัดเจนมาก

อย่างหลี่ลี่ปอ หมัดวานรของเขาได้ประมาณแปดสิบห้าคะแนน

ส่วนเฉินเจี๋ยฉางเข้ากันได้กับเสือหมัด แต่ก็แค่ระดับเก้าสิบคะแนน

แต่ท่ายืนในวิชาสามารถปรับแก้ได้ แค่ต้องมีคนที่มีระดับเพียงพอมาแนะนำ ก็สามารถปรับเปลี่ยนได้บ้าง เพิ่มความเข้ากันได้

เปรียบเสมือนภูเขาไม่มาหาเรา เราก็ต้องไปหาภูเขา

น่าเสียดายที่พี่ฮูฉีทำไม่ได้ ส่วนลู่เส้าฮุ่ยยิ่งไม่ต้องพูดถึง แม้จะทำได้ก็คงขี้เกียจบอก ในสำนักยุทธ์หยางทั้งหมด ว่ากันว่ามีแต่อาจารย์หยางเท่านั้นที่ทำได้ ทุกเดือนในห้าวันสุดท้าย ศิษย์ในสำนักก็มาขอคำแนะนำในเรื่องนี้

อาจารย์ที่ดีสำคัญมาก

แน่นอน นอกจากความเข้ากันได้ของสัดส่วนร่างกายที่เป็นคะแนนที่มองเห็นได้แล้ว ข้อสอบการฝึกยุทธ์นี้ยังมีคะแนนแฝง รวมทั้งหมดถึงจะเป็นพรสวรรค์ทั้งหมดของคนๆ หนึ่ง

ที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ สัดส่วนร่างกายของคุณอาจไม่เหมาะ แต่มีพลังชี่และเลือดแกร่งแต่กำเนิด หรือมีพรสวรรค์ในการเข้าใจเหนือธรรมดา ปรับเปลี่ยนวิชาด้วยตัวเอง นำลมปราณมาฝึกร่างกาย สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่การจับกระดูกดูไม่ออก หรือดูออกได้ไม่หมด

สิ่งเหล่านี้ก็สามารถทำให้การฝึกได้ผลเป็นสองเท่าเช่นกัน รวมกันแล้วอาจได้คะแนนเกินร้อยเป็นคะแนนสูงลิ่ว!

นี่ก็เป็นเหตุผลที่ฮูฉีบอกว่าสัดส่วนร่างกายไม่ดีก็ไม่เป็นไร ไม่ได้แสดงถึงพรสวรรค์ทั้งหมดของคน บางทีอาจมีคนที่สัดส่วนแย่มาก แต่กลับฝึกได้เร็วกว่าใครเพื่อน เร็วกว่าทุกคน

เหลียงฉวี่รู้สึกทึ่งกับความหลากหลายระหว่างคน มีเพียงความพยายามเป็นสองเท่าเท่านั้นที่จะสร้างปาฏิหาริย์ได้

น่าเสียดายที่เรียนมาสามวัน เงินร้อยกว่าเหวินที่ได้มาครั้งก่อนก็หมดแล้ว ถ้าไม่ทำงานก็จะไม่มีข้าวกิน

ถ้าไม่ใช่เพราะวันนี้มาได้ยินพี่เสี่ยงบอกว่าบ่ายหรือค่ำอาจารย์หยางจะมา เขาที่เพิ่งเรียนกระเรียนหมัดจบก็เตรียมจะออกเรือแล้ว ตอนนี้ได้แต่รออาจารย์หยางมาก่อนค่อยไป

อิจฉาพวกคนรวยจริงๆ

เหลียงฉวี่มองไปทางศิษย์อีกหลายสิบคน หลังจากเข้าสำนักถึงได้รู้ว่ามีแต่พวกเขาไม่กี่คนที่จ่ายแค่เจ็ดต้าที่จน คนอื่นจ่ายอย่างน้อยสิบต้าขึ้นไป เรียนแบบทุ่มเทเต็มที่ ไม่ต้องออกไปทำงานหาเงินทุกสองสามวัน ประสิทธิภาพสูงกว่าหลายเท่า

"พูดถึง นานแล้วนะที่ไม่ได้เห็นจางไค"

"เออ ใช่ วันก่อนตอนจ่ายภาษีก็ไม่เห็นเขา จะหนีภาษีหรือเปล่า?"

"ไม่น่าหรอก เขาไปขอข้าวกินที่นั่นที่นี่ทุกวัน ไม่มีใครกล้ารังแก ยังจะกลัวจ่ายภาษีไม่ไหวอีกเหรอ?"

ข้างๆ หลี่ลี่ปอกับเฉินเจี๋ยฉางนั่งพักที่ขอบแปลงดอกไม้ คุยกันไปเรื่อยเปื่อย ไม่รู้ทำไมถึงคุยมาถึงจางไค

จับคำสำคัญได้ เหลียงฉวี่ก็เงี่ยหูฟัง

เฉินเจี๋ยฉางพูดอย่างไม่พอใจ: "สนใจเขาทำไม ไม่เห็นก็ดีแล้ว เขาไม่ใช่คนดีอะไรสักหน่อย"

"ก็จริง" หลี่ลี่ปอไม่ได้คิดอะไรมาก กวาดตามองรอบๆ "เอ๊ะๆๆ ดูสิ ตรงนั้นมีเด็กสาวหลายคนด้วย อื้ม คนที่เป็นหัวหน้าดูเท่ดีนะ"

"อย่าแอบมองสิ ไม่รู้ว่าเขาจะมีฐานะอะไร เจ้าระวังหน่อย"

"แค่มองสองตาเอง"

เหลียงฉวี่เห็นหัวข้อเปลี่ยนไป ก็วางใจลง แล้วเริ่มฝึกหมัดวานรต่อ

แต่เพิ่งจะฝึกไม่ถึงครึ่ง การเชื่อมโยงจิตในสมองของเหลียงฉวี่ก็เริ่มกระตุกอย่างบ้าคลั่ง

อาเฟยกับป๋อหนึงตุ้นกำลังส่งข้อมูลมาให้เขาอย่างคลั่ง!

รากบัววิเศษในน้ำถูกโจมตี!

เป็นตัวใหญ่หรือ? สีหน้าของเหลียงฉวี่เปลี่ยนไปทันที

รากบัววิเศษ เงินก้อนแรกที่ทำให้เขาร่ำรวย

แม้ว่าจะมีเพียงยี่สิบกว่าชิ้นที่สามารถให้พลังแห่งห้วงน้ำได้ แต่แปลงรากบัวทั้งหมดมีความยาวหลายสิบเมตร รากบัวที่เหลือที่ไม่สามารถให้พลังแห่งห้วงน้ำมีอีกหลายร้อยชิ้น ก็ยังมีฤทธิ์รักษาที่ดี เขาถือเป็นสมบัติล้ำค่า ปกติก็ให้ป๋อหนึงตุ้นคอยดูแลอย่างดี

อาเฟยเวลาว่างก็ต้องอยู่ข้างๆ คอยเฝ้าด้วย

ปลาตัวเล็กกุ้งตัวน้อยที่มารบกวน ก็ถูกสัตว์ทั้งสองฆ่ากินหมด

จะเป็นตัวอะไรกันแน่ จระเข้หนึ่งตัวบวกปลาดุกหกหนวดหนึ่งตัวยังรับมือไม่ได้ ยังส่งข้อความฉุกเฉินมาไม่หยุด?

คิดถึงตรงนี้เหลียงฉวี่ก็อยู่ไม่ไหวแล้ว รีบบอกลาหลี่ลี่ปอกับเฉินเจี๋ยฉาง เก็บข้าวของเตรียมจะไป

สองคนแปลกใจมาก รีบถาม: "ทำไมจะไปตอนนี้? อาจารย์หยางอาจจะมาแล้วนะ เจ้าไม่อยู่ให้ท่านชี้แนะหน่อยเหรอ?"

เหลียงฉวี่ลังเลครู่หนึ่ง: "ตอนนี้ข้ามีธุระด่วน จัดการเสร็จน่าจะกลับมาทัน?"

ตอนนี้เป็นช่วงเช้า กลับไปรอบหนึ่งแล้วกลับมา บางทีอาจจะทันเจออาจารย์หยาง

หลี่ลี่ปอกับเฉินเจี๋ยฉางเห็นว่าเหลียงฉวี่ดูรีบร้อนจริงๆ ก็ไม่กล้าห้าม ได้แต่บอกให้เขาระวังตัวตามทาง

มองตามร่างของเหลียงฉวี่ หลี่ลี่ปอเกาหัวแกรกๆ: "แปลกจริง ครั้งที่แล้วก็แบบนี้"

"ครั้งที่แล้ว?"

"ใช่" หลี่ลี่ปอพยักหน้า "ครั้งที่แล้วอาสุ่ยก็เรียนกับอาจารย์ฮูได้ครึ่งๆ กลางๆ แล้วรีบไป ไม่เห็นมีใครมาแจ้งอะไรเขาสักหน่อย"

"คิดมากไปทำไม บางทีอาสุ่ยอาจจะนัดใครไว้ก็ได้"

"ก็จริง"

ใบไม้ร่วงโปรยปราย ทับถมเป็นชั้นๆ บนพื้นดิน กลายเป็นดินเน่าสีน้ำตาลเข้ม

ออกจากสำนัก เหลียงฉวี่วิ่งเหยาะๆ เพื่อเก็บแรง ระยะทางสิบกว่าหลี่จากเมืองผิงหยางถึงเมืองอี้สิง ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยาม

พอถึงท่าเรือ เหลียงฉวี่หยุดพักหายใจ หลังจากสงบลงแล้วก็แกล้งทำเป็นไม่มีอะไร แก้เชือกออกเรือ พอไม่เห็นเงาคน ก็รีบพายเรือไปใกล้บริเวณแปลงรากบัว เคาะผิวน้ำ

ครู่หนึ่งผ่านไป จระเข้หนึ่งตัวกับปลาดุกหกหนวดหนึ่งตัวโผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำ

เหลียงฉวี่ลูบหัวสัตว์ทั้งสอง ให้พวกมันพลิกตัวหนึ่งรอบ ดูรอบๆ พบว่าทั้งสองตัวไม่มีบาดแผล จึงวางใจลง

ก่อนหน้านี้เขาได้สั่งสัตว์ทั้งสองไว้ ให้สังเกตพวกที่มาขโมยกินรากบัวว่าสู้ไหวไหม ถ้าสู้ไหวก็เข้าไปจัดการ ถ้าสู้ไม่ไหวก็ถอย อย่าปะทะ

รักษาคนไว้เสียที่ดินก็ยังมี รักษาที่ดินไว้เสียคนก็หมด

รากบัวแม้จะมีค่า แต่ก็เทียบไม่ได้กับสัตว์น้ำสองตัวที่เหลียงฉวี่เลี้ยงไว้

สัตว์ทั้งสองที่กินปลามงคลไปแล้วผ่านการพัฒนาครั้งที่สอง ตอนนี้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ป๋อหนึงตุ้นมีความยาวเกินสองเมตรสอง อาเฟยถึงสองเมตรสี่!

ตัวใหญ่ขึ้นหลายเท่า แม้แต่พลังแห่งห้วงน้ำที่ต้องการในการวิวัฒนาการก็ลดลงคนละสี่จุดกว่า

การโตขึ้นแน่นอนว่าเป็นเรื่องดี ลูกน้องของตัวเองยิ่งแข็งแกร่งยิ่งดี

แต่เหลียงฉวี่ยิ่งสงสัย สักแค่ไหนกันที่ทำให้ป๋อหนึงตุ้นกับอาเฟยรวมกันยังต้องหลบ?

ขณะที่เขากำลังครุ่นคิด อาเฟยในน้ำก็พลันแอ่นตัว สอดหัวเข้ามาในเรือ อ้าปากแล้วคายรากบัวห้าชิ้นออกมา กระทบกับไม้กระดานดังตุบ

เหลียงฉวี่หยิบชิ้นหนึ่งขึ้นมาดู ประหลาดใจมาก: "นี่เป็นรากบัวที่มีพลังแห่งห้วงน้ำ? พวกเจ้าเอาออกมาก่อนที่สัตว์ประหลาดจะมาเหรอ?"

อาเฟยกับจระเข้สะบัดหาง กระเซ็นน้ำใส่ตัวเหลียงฉวี่ แต่เขาไม่โกรธ กลับรู้สึกซาบซึ้งใจ

ก่อนหน้านี้เขาเก็บรากบัวที่มีพลังแห่งห้วงน้ำไว้หลายชิ้นเผื่อยามจำเป็น ให้สัตว์ทั้งสองคอยดูแลเป็นพิเศษ ไม่คิดว่าทั้งสองจะฉลาดถึงขนาดนี้ ถึงกับรู้จักขนย้ายทรัพย์สินสำคัญ

เก่งขึ้นจริงๆ ไม่เสียแรงที่เลี้ยงมา

เหลียงฉวี่คว้าหอกไม้ขึ้นมา กล้ามเนื้อข้างแก้มกระตุกโดยไม่ตั้งใจ เผยให้เห็นเส้นสายคมกริบ เขาหรี่ตา

"ดีมาก ไปดูกันว่าใครกล้ามาขโมยรากบัวของข้า"

(จบบท)

ขอเปลี่ยนอาจารย์ หูฉี เป็น ฮูฉี นะคะ ใช้ตัว ฮ น่าจะดีกว่า

5 1 โหวต
Article Rating
2 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด