บทที่ 512
【แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ】
【แค่ คอมเมนต์ ก็เหมือนการให้กำลังใจแล้วนะครับ รบกวน comment กันหน่อยน๊า ;-;】
【Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย】
บทที่ 512
“ไปกันเลย!”
สิ้นคำของโกคู จิเรนก็พลันรวบรวมพลังงานสีแดงฉานขึ้นบนฝ่ามือในฉับพลัน
เริ่มแรกจิเรนเล็งเป้าหมายไปที่หลินเฉิน แต่หลังจากครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ เขาก็เปลี่ยนใจหันปลายกระแสพลังมุ่งตรงไปยังลานประลองใต้เท้าหลินเฉินแทน
ในเวลานั้น สถานะของหลินเฉินดูประหลาดเกินกว่าจะเข้าใจ จิเรนไม่มั่นใจว่าการโจมตีด้วยพลังจะส่งผลใด ๆ ต่อร่างกายของเขาหรือไม่ แต่โชคดีที่นี่คือการประลอง สิ่งที่จิเรนจำเป็นต้องทำมีเพียงแค่โจมตีให้หลินเฉินกระเด็นออกนอกสนามก็เพียงพอแล้ว
จิเรนเตรียมปลดปล่อยพลังงานที่รวบรวมไว้ทั้งหมด
ทว่า ก่อนที่เขาจะทันได้ลงมือ หลินเฉินก็หายวับไปจากตำแหน่งเดิมราวกับละลายหายไปในอากาศธาตุ
แล้วร่างของเขาก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง คราวนี้อยู่เบื้องหน้าจิเรนในระยะประชิด
“อะไรกัน?”
เมื่อหลินเฉินปรากฏกายเบื้องหน้าอย่างฉับพลัน สีหน้าของจิเรนก็บิดเบี้ยวด้วยความตกตะลึง
เพราะจังหวะนั้นช่างเหมาะเหม็งราวกับตั้งใจ เกิดขึ้นก่อนที่จิเรนจะปลดปล่อยพลังทำลายล้างเพียงเสี้ยววินาที เป็นห้วงเวลาที่จิเรนไม่อาจรั้งรอท่าไม้ตายเอาไว้ได้
ดังคาด พลังคลื่นจิตของจิเรนพุ่งเข้าใส่ความว่างเปล่าในสนามประลอง
หากจิเรนอยู่เพียงลำพัง ร่างกายคงแหลกสลายไร้ซึ่งชิ้นดี แต่เคราะห์ยังดีที่มีโกคูยืนเคียงข้าง
โกคูวูบไหวไปยืนเคียงข้างจิเรนในชั่วพริบตา พลังคลื่นเต่าพลุ่งพล่านเตรียมพร้อมที่จะระเบิดออก
ทว่าในจังหวะนั้นเอง ราวกับหลินเฉินล่วงรู้ความคิดของโกคู ก่อนที่พลังคลื่นเต่าจะถูกปลดปล่อย หลินเฉินก็คว้าร่างของโกคูเอาไว้ในอุ้งมือ
แสงสีเขียวสว่างวาบขึ้นบนฝ่ามือเขา ก่อนจะระเบิดพลังงานออกมาราวกับภูเขาไฟปะทุ
แรงระเบิดในระยะประชิดสร้างความปั่นป่วนให้โกคู พลังคลื่นเต่าที่กำลังรวบรวมอยู่พลันสะดุดลง
หลินเฉินฉวยโอกาสทองนั้นบิดข้อมือคว้าตัวโกคูไว้ แล้วเหวี่ยงร่างนั้นเข้าใส่จิเรนอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด
จิเรนที่เห็นพลังคลื่นเต่าพลาดเป้าหมาย กำลังจะเข้าประชิดตัวศัตรู
แต่การที่โกคูถูกเหวี่ยงมาขวางทางไว้เบื้องหน้า ทำให้จิเรนชะงักไปครู่หนึ่ง
ในจังหวะเพียงเสี้ยววินาทีนั้นเอง หลินเฉินคลายมือออก ก่อนจะยันเข่าเข้าใส่โกคูอย่างรุนแรง ส่งแรงปะทะอันมหาศาลไปยังจิเรนที่อยู่ด้านหลัง จนร่างทั้งคู่กระเด็นออกไปไกล
“เกิดอะไรขึ้น?”
ทั้งคู่ร่วงลงใกล้ขอบผาหินลอยฟ้า จิเรนตัวสั่นเทิ้มขณะพยุงตัวลุกขึ้น ทันใดนั้นรูม่านตาก็หดเล็กลงก่อนจะทรุดลงคุกเข่า พ่นน้ำสำรอกปนเลือดออกมา
“โกคู เมื่อครู่นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมฉันรู้สึกเหมือนหลินเฉินรู้ว่าพวกเราจะโจมตีแบบไหนกัน?”
“นาย…นายก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกันเหรอ?” โกคูซึ่งบาดเจ็บสาหัสกว่าจิเรนทรุดลงกับพื้น แทบจะทรงตัวไม่อยู่
ทั้งจิเรนและโกคูต่างรู้สึกถึงความแปลกประหลาดบางอย่าง การเคลื่อนไหวของหลินเฉินเมื่อครู่นั้นช่างน่าพิศวง
แม้จะปราศจากท่วงท่าอันโอ่อ่า แต่ทุกย่างก้าวกลับราวกับเขามองเห็นอนาคต รู้ว่าโกคูและจิเรนจะจู่โจมอย่างไรต่อไป
นี่ต่างจาก "ร่างนำใจกายนำจิต" และก็ต่างจาก "ร่างตามใจ กายตามจิต" ที่หลินเฉินเคยใช้มาก่อน
"ร่างนำใจกายนำจิต" คือการที่ร่างกายคาดการณ์การโจมตีและตอบสนองตามนั้น
"ร่างตามใจ กายตามจิต" นั้นเชี่ยวชาญด้านการโจมตีมากกว่าการหลบหลีก
อย่างไรก็ตาม การกระทำของหลินเฉินเมื่อครู่นี้ ชัดเจนว่าคาดการณ์การโจมตีของคู่ต่อสู้ แล้วใช้การโจมตีของตนเองสกัดกั้นไว้ก่อนที่จะเริ่มต้น
ราวกับว่าเขารวมเอาข้อดีของ "ร่างนำใจกายนำจิต" และ "ร่างตามใจ กายตามจิต" เข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน!
เบื้องหลัง เหล่าเทพต่างจับจ้องการกระทำของหลินเฉินด้วยความฉงนงงงัน ไม่ต่างอะไรกับจิเรนและโกคู
"หลินเฉินทำแบบนั้นได้ยังไงกัน?"
“ท่วงท่าเมื่อครู่นั้นคล้ายกับ ‘ร่างนำใจกายนำจิต’ แต่ก็แตกต่าง!”
“มันก็ต่างจาก ‘ร่างตามใจกายตามจิต’ ที่เขาเคยอธิบายไว้ก่อนหน้านี้ด้วย!”
“นี่ วิส เจ้ารู้ไหมว่านั่นคือท่าอะไร?” บิลส์ถาม
วิสส่ายหน้าเบา ๆ “ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ ท่านบิลส์ หรือว่าจะเป็นท่าใหม่ที่คุณหลินเฉินคิดค้นขึ้นมาเอง?”
“ท่าใหม่? ไม่ใช่!” ผู้เฒ่าไคเอ่ยขึ้นอย่างกะทันหัน เสียงหนักแน่นดังก้อง
ไคโอชินชินมองเขาอย่างสงสัย “ท่านบรรพบุรุษ ท่านรู้หรือว่านั่นคืออะไร?”
สีหน้าของผู้เฒ่าไคเคร่งขรึมลง แววตาฉายแวววิตกกังวล “ข้ารู้ แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่หลินเฉินจะเรียนรู้ท่านี้ได้ ไม่มีใครในโลกนี้น่าจะรู้จักท่านี้แล้ว...”
“เฮ้ ตาแก่ นั่นมันอะไรกันแน่?” บิลส์ถามขึ้น
“ร่างนำใจกายนำจิตสังหาร!” ผู้เฒ่าไคกล่าวแต่ละคำอย่างเชื่องช้า น้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงไว้ด้วยความขลัง
“ร่างนำใจกายนำจิตสังหาร?” บิลส์หันไปมองวิสด้วยความฉงน
วิสยักไหล่อย่างจนใจ “ท่านบิลส์ ผมก็เพิ่งเคยได้ยินเช่นกันครับ”
“เฮ้ ตาแก่ ที่ว่าร่างนำใจกายนำจิตสังหารน่ะ มันคืออะไรกัน?”
“มันเป็นวิชาที่คล้ายกับร่างนำใจกายนำจิต เหมือนกับที่หลินเฉินเคยใช้ แต่มันถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อแก้ทางร่างนำใจกายนำจิตโดยเฉพาะ มันไม่ใช่วิชาอะไร แต่เป็นท่าสังหารล้วน ๆ” ผู้เฒ่าไคอธิบาย สีหน้าเคร่งขรึมอย่างเห็นได้ชัด
“ท่าสังหารงั้นเหรอ? แต่ข้าไม่เห็นหลินเฉินใช้ท่าพิเศษอะไรเลยเมื่อกี้” บิลส์กล่าวอย่างฉงนสงสัย
“กระบวนท่าโต้กลับต่อเนื่องเมื่อครู่นั่นแหละ คือท่าสังหารของร่างนำใจกายนำจิตสังหาร!” ผู้เฒ่าไคอธิบาย “อย่างที่ข้าเคยบอกไป ร่างนำใจกายนำจิตสังหารมีความคล้ายคลึงกับร่างนำใจกายนำจิต ทักษะนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถมองเห็นการโจมตีของคู่ต่อสู้ล่วงหน้า คล้ายกับมองเห็นอนาคต จึงสามารถโต้กลับด้วยการโจมตีของตนเองได้ก่อนที่การโจมตีของฝ่ายตรงข้ามจะเริ่มขึ้นเสียอีก”
“ถ้าหากร่างนำใจกายนำจิตคือระดับที่คาดการณ์และหลบหลีกการโจมตี ร่างนำใจกายนำจิตสังหารก็เปรียบเสมือนท่าสังหารที่คาดการณ์การโจมตีและโจมตีกลับอย่างรุนแรงและเด็ดขาด!”
“เข้าใจแล้ว…”
บิลส์ฉับพลันตระหนักได้ เขาหันกลับไปมองหลินเฉินในสนามประลอง “เจ้าหมอนี่...เชี่ยวชาญวิชาแบบนี้ได้ยังไงกัน?”
ผู้เฒ่าไคมองแผ่นหลังของผู้คน ก้มหน้าครุ่นคิด “แต่คำถามก็คือ...ท่านี้ควรจะเป็นท่าไม้ตายที่ใช้โดยยอดฝีมือแห่งเผ่ามังกรในอดีต หลินเฉินเรียนรู้มันมาจากที่ไหนกันนะ?”
ณ ขณะนั้น ในสนามประลอง หลินเฉินเดินเข้าไปหาจิเรนและโกคู กล่าวอย่างใจเย็น “จิเรน โกคู พวกนายแพ้แล้ว”
“ไม่! ฉันไม่ยอมแพ้! ฉันแพ้ไม่ได้!” จิเรนส่ายหน้า พูดจาอย่างเลื่อนลอย
“การร่วมมือกันของนายกับโกคูนั้นดี แต่โชคร้ายที่พวกนายทั้งสองยังไม่ใช่คู่มือของฉัน จิเรน”
หลินเฉินพลันเคลื่อนไหว เหยียบย่ำลงบนมือของจิเรนที่หมายจะปล่อยหมัดลอบโจมตี ทว่ากลับถูกอ่านเกมออกอีกครา
ความปวดร้าวแล่นริ้วขึ้นมาจนใบหน้าของจิเรนซีดเผือด
หลินเฉินยกมือขึ้น รวบรวมพลังงานสีแดงฉานเป็นทรงกลม กดแนบลงบนใบหน้าของจิเรน
“ในที่สุด การต่อสู้อันยาวนานก็จบลง ลาก่อน” หลินเฉินกล่าว
สิ้นคำ พลังงานในมือของหลินเฉินก็ระเบิดออก ผลักจิเรนกระเด็นออกไป
ตูม!
ร่างของจิเรนปลิวว่อนราวกับใบไม้ร่วง ครั้งนี้ไร้ซึ่งผู้ใดจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ
“จักรวาลที่ 11 จิเรน ถูกกำจัด!”
ร่างของจิเรนปรากฏขึ้นบนอัฒจันทร์ผู้ชมในสภาพบาดเจ็บสาหัส
“เนื่องจากการตกรอบของจิเรนจากจักรวาลที่ 11 จักรวาลที่ 11 จึงถูกลบออก!”
หลังจากเสียงประกาศิตไร้เยื่อใยของทูตสวรรค์สูงสุดดังก้องไปทั่ว แสงสีขาวบริสุทธิ์ก็เริ่มโอบล้อมทุกสรรพสิ่งจากจักรวาลที่ 11 ไว้ในอ้อมกอด
ทว่า ก่อนที่พวกเขาจะสลายหายไปในความว่างเปล่า เหล่านักสู้จากจักรวาลที่ 11 ต่างก็พากันมารวมตัวกันรอบกายจิเรน
“จิเรน!”
เปลือกตาของจิเรนเปิดขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นนัยน์ตาที่อ่อนล้า
“จิเรน ขอบคุณนะ!” ท็อปโปะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ราวกับเป็นตัวแทนของทุกคน
จิเรนหลับตาลงอีกครั้ง ริมฝีปากขยับเบา ๆ “ขอโทษทุกคน ถ้าฉันเข้าใจถึงความสำคัญของการทำงานเป็นทีมเร็วกว่านี้…”
“ไม่ จิเรน เป็นเพราะพวกเราต่างหากที่ฉุดรั้งนายไว้ ถ้าพวกเราแข็งแกร่งกว่านี้…”
“ใช่ หากเราประเมินพลังของคุณได้อย่างแม่นยำ จิเรน คุณคงจะฝ่าฟันอุปสรรคนี้ไปได้อย่างราบรื่นกว่านี้!”
“ทุกคน…”
ก่อนร่างจะสลายหายไป รอยยิ้มอบอุ่นประหลาดใจปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของจิเรน รอยยิ้มที่ไม่เคยมีผู้ใดได้พบเห็นมาก่อน
แล้วในชั่วพริบตานั้น เหล่าผู้คนจากจักรวาลที่ 11 ก็แปรเปลี่ยนเป็นแสงดาวสีขาวระยิบระยับราวกับกองทัพดวงดาราโปรยปราย
บทที่ 512 ร่างนำใจกายนำจิตสังหาร และจิเรนถูกกำจัด
ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_