บทที่ 504
【แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ】
【แค่ คอมเมนต์ ก็เหมือนการให้กำลังใจแล้วนะครับ รบกวน comment กันหน่อยน๊า ;-;】
【Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย】
บทที่ 504
“หยุดนะ! จิเรน! ถ้ายังทำแบบนี้ต่อไป นายจะฆ่าโบรลี่ตาย!”
โกคูตวาดลั่นเมื่อเห็นจิเรนรุกไล่โบรลี่อย่างบ้าคลั่ง ความปรารถนาที่จะเข้าไปช่วยเหลือพลุ่งพล่านอยู่ในอก
ทว่าดิสโปะที่ยืนขวางอยู่กลับไม่เปิดช่องว่างให้เขาแม้แต่น้อย แม้พลังของดิสโปะจะไม่ได้เหนือกว่ามากนัก แต่ความเร็วอันปราดเปรียวประกอบกับสภาพร่างกายของโกคูที่อ่อนล้าลงทุกขณะ ทำให้เขาไม่อาจสลัดหลุดจากการปิดล้อมนี้ได้
ขณะเดียวกัน ความโหดเหี้ยมผิดวิสัยของจิเรนก็สร้างความประหลาดใจให้กับเหล่านักสู้จากจักรวาลที่ 11 เช่นกัน
“ท็อปโปะ เกิดอะไรขึ้น? จิเรนเป็นอะไรไป?”
“ฉันไม่เคยเห็นจิเรนเป็นแบบนี้มาก่อน? เขาไม่ใช่คนที่ยึดมั่นในหลักการไม่ฆ่าไม่ใช่เหรอ?”
บนอัฒจันทร์ คาเซรัลเอ่ยถามท็อปโปะที่ฟื้นคืนสติแล้วด้วยน้ำเสียงฉงน
อีกฝ่ายทำสีหน้าเคร่งขรึมพลางกล่าวว่า “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เคยได้ยินมาว่าอาจารย์ของจิเรนถูกสังหารโดยมนุษย์ผมทองมีหาง…”
“ผมทอง… มีหาง?”
คาเซรัลครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ดวงตาเบิกกว้างพลางหันไปมองโบรลี่ในสนามประลอง
“หมายความว่าคนที่ฆ่าอาจารย์ของจิเรนคือเขางั้นหรือ?”
“ไม่ใช่อย่างแน่นอน!” เบลม็อทแทรกขึ้นในขณะนั้น
“อาจารย์ของจิเรนเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว ตอนนั้นปู่ของโบรลี่คงยังไม่เกิดด้วยซ้ำ”
“ถ้าอย่างนั้น…”
“น่าจะเป็นคนที่มีลักษณะคล้ายกัน โบรลี่คนนี้คือซูเปอร์ไซย่าในตำนาน รูปร่างหน้าตาก็คล้ายกับคนผู้นั้น…” เบลม็อทพึมพำเบา ๆ
“ใครงั้นเหรอครับ?” คาเซรัลเอ่ยถามอย่างลังเล เสียงแผ่วเบาแทบจะกลืนหายไปกับเสียงรอบข้าง
“เขาก็คือ…” เบลม็อทเอ่ยเสียงแผ่วเบาเช่นกัน ราวกับกำลังเผยความลับสำคัญ
…
“จิเรน!”
กลางเวที โบรลี่ที่แทบจะหมดแรง กู่ร้องชื่อนั้นออกมาสุดเสียง ทันใดนั้น พลังสีเขียวสดใสก็ปะทุขึ้นจากร่าง ขยายตัวออกไปอย่างรวดเร็วราวกับการระเบิด
เบจิต้าที่เห็นภาพอันคุ้นเคยถึงกับผุดลุกขึ้น ใบหน้าซีดเผือดด้วยความตื่นตระหนก
“แย่แล้ว! โบรลี่กำลังจะระเบิดตัวเอง!”
“อะไรนะ?” เสียงอุทานดังขึ้นพร้อมกัน ทุกคนต่างตกอยู่ในความหวาดผวา สีหน้าซีดเผือดราวกับไร้เลือด
หรือว่า… ความคิดเลวร้ายแล่นผ่านเข้ามาในหัวของทุกคน
ทว่าในเสี้ยววินาทีนั้น ร่างสีแดงเข้มก็พุ่งเข้ามาขวางกั้นระหว่างโบรลี่และจิเรน ราวกับสายฟ้าฟาด
ตูม!
เสียงกระทบดังสนั่น ร่างนั้นปล่อยหมัดหนักหน่วงเข้ากลางอกของโบรลี่อย่างแม่นยำ
ทันใดนั้น พลังออร่าของโบรลี่ที่กำลังปะทุอย่างบ้าคลั่งก็สงบลง ราวกับเปลวไฟที่ถูกดับลงด้วยน้ำ
ตัวโบรลี่เองก็กลับคืนสู่สภาวะปกติ ก่อนจะทรุดลงกับพื้นอย่างหมดแรง
ร่างนั้นประคองโบรลี่ไว้พลางเอ่ยว่า “โบรลี่ ขอบใจนะที่ให้เวลาฉันได้พักบ้าง ถึงตานายพักบ้างแล้วล่ะ”
ว่าจบก็เหวี่ยงโบรลี่ออกจากสนามประลอง ร่างของโบรลี่ลอยละลิ่วกลับไปยังที่นั่งผู้ชมราวกับใบไม้ปลิวลม
“จักรวาลที่ 7 โบรลี่ ถูกคัดออก!”
“คุณวิส ช่วยรักษาโบรลี่ที”
“ได้” วิสพยักหน้ารับคำ ก่อนจะโบกคทาเบา ๆ แสงสีขาวนวลเปล่งประกายออกมาห่อหุ้มร่างของโบรลี่ไว้ทั้งหมด
ใบหน้าบูดบึ้ง ดวงตาแดงก่ำดุร้ายของโบรลี่พลันสงบลง เปลือกตาปิดลงช้า ๆ ราวกับเด็กน้อยที่ผล็อยหลับอย่างเป็นสุข
แม้โบรลี่จะปลอดภัยแล้ว แต่ทุกคนที่นั่งอยู่บนอัฒจันทร์ยังคงนั่งไม่ติดเก้าอี้ สายตาทุกคู่จับจ้องไปยังสนามประลองเบื้องหน้าด้วยแววตาไม่อยากเชื่อ
บิลส์เบิกตากว้าง ความฉงนฉายชัดในดวงตา หันไปถามวิสเสียงแผ่ว “วิส นั่น...นั่นมันอะไรกัน? คนผู้นั้นคือหลินเฉินงั้นเหรอ?”
“ถูกแล้ว นี่คือท่าไม้ตายของหลินเฉิน ร่างตามใจ กายตามจิตครับ”
“ร่างตามใจ กายตามจิต?!”
เสียงอุทานดังกึกก้องไปทั่วอัฒจันทร์ แสดงความประหลาดใจของผู้ชมอย่างชัดเจน
หลินเฉินที่กลับคืนสู่สภาพเดิม บัดนี้เส้นผมกลับแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน ราวกับชโลมด้วยโลหิตสด ๆ
ขณะเดียวกัน ออร่าสีแดงฉานก็โชติช่วงรอบกายเขา แผ่พลังอันน่าเกรงขาม
รูปลักษณ์ของออร่านั้น เหมือนกับร่างนำใจกายนำจิตของจิเรนทุกประการ หากแต่สีสันนั้นต่างกันราวกับหยินกับหยาง
“ร่างตามใจ กายตามจิต? มันคืออะไรกัน?” จิเรนเอ่ยถามด้วยความฉงน
“มันคือภาวะที่สามารถรับมือกับร่างนำใจกายนำจิตของนายได้ยังไงล่ะ” หลินเฉินกล่าวพร้อมรอยยิ้มจาง ๆ ที่มุมปาก
ริมฝีปากของจิเรนกระตุกเล็กน้อย ความเย็นชาฉาบไล้ทั่วใบหน้า “ไร้สาระ! เมื่อไหร่กันที่โลกนี้มีสิ่งเช่นนี้?”
“นั่นสิ ข้าก็ไม่เคยได้ยินเรื่อง ‘ร่างตามใจ กายตามจิต’ นี่มาก่อนเหมือนกัน!” เบลม็อทร้องเสียงดัง
“ถ้าเช่นนั้น ฉันจะแสดงให้พวกนายประจักษ์แก่สายตาก็แล้วกัน”
“น่าขัน! ด้วยพลังที่นายฟื้นฟูมาเพียงน้อยนิดเช่นนี้ นายจะทำอะไรได้? พวกไซย่าสมควรตายให้หมดสิ้น!”
สิ้นคำ สายฟ้าก็แลบแปลบ หมัดของจิเรนพุ่งเข้าใส่เขาด้วยความเร็วเหนือสายตา
ปัง!
หมัดของหลินเฉินและจิเรนปะทะกันกลางอากาศ เสียงดังสนั่นหวั่นไหว
ความตกตะลึงฉายชัดในดวงตาของจิเรน แม้หลินเฉินจะกลับคืนสู่สภาพเดิม แต่พลังที่อัดแน่นอยู่ในหมัดกลับเทียบเท่ากับเขาอย่างไม่น่าเชื่อ
“นายยังมีพลังหลงเหลืออยู่อีกมากเพียงใดกัน?”
“ทำไมนายไม่ลองค้นหาด้วยตัวเองดูล่ะ?”
ถัดมา การโต้กลับของหลินเฉินก็มาถึง เป็นหมัดตรงเรียบง่าย ไร้ซึ่งลวดลาย ไร้ซึ่งลูกเล่นใด ๆ มีเพียงพลังบริสุทธิ์ที่อัดแน่นอยู่ภายใน
แต่สำหรับจิเรน ผู้ครอบครองร่างนำใจกายนำจิต หมัดเรียบง่ายเช่นนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นภัยคุกคามแม้แต่น้อยราวกับสายลมแผ่วเบา
อย่างไรก็ตาม…
ตูม!
เสียงดังสนั่นหวั่นไหว กึกก้องไปทั่ว ร่างของจิเรนถูกกระแทกออกไปราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่ จนแทบมองไม่ทัน!
“อะไรนะ?!” เบลม็อทอุทานออกมาอย่างตื่นตะลึง ดวงตาเบิกกว้างด้วยความไม่อยากเชื่อ
บิลส์ก็พลันลุกขึ้นยืนเช่นเดียวกัน สีหน้าบ่งบอกถึงความตกตะลึงไม่ต่างกัน
เกิดอะไรขึ้น?
ทั้งคู่ต่างฉงนงุนงง ความสงสัยก่อตัวขึ้นในใจ
เห็นได้ชัดว่าจิเรนอยู่ในสภาวะร่างนำใจกายนำจิต แล้วเหตุใดเขาจึงถูกหลินเฉินโจมตีได้ง่ายดายเช่นนี้?
ไม่ใช่ว่าในสภาวะร่างนำใจกายนำจิต ร่างกายจะตอบสนองการโจมตีได้เองโดยอัตโนมัติหรอกเหรอ? เหตุใดจิเรนจึงยังคงโดนโจมตีเข้าเต็ม ๆ ?
“บังเอิญอย่างนั้นเหรอ... จะต้องเป็นเรื่องบังเอิญแน่...” เบลม็อทพึมพำเสียงแผ่ว
จิเรนลุกขึ้นจากพื้น ปาดเลือดที่มุมปากพลางพึมพำในน้ำเสียงที่คล้ายกับจะปลอบใจตัวเอง “บังเอิญ... มันต้องเป็นแค่เรื่องบังเอิญ...”
“บังเอิญหรือไม่ ลองดูอีกครั้งก็รู้!”
หมัดของหลินเฉินพุ่งออกไปราวกับกระสุนปืนใหญ่ โหมกระหน่ำซัดใส่จิเรนไม่ยั่น
แววตาของจิเรนวาวโรจน์ขึ้นมาในทันที สีหน้ากลับสงบนิ่งอย่างน่าประหลาด
ร่างกายรับรู้ถึงอันตรายที่กำลังคืบคลานเข้ามา
ทันทีที่หมัดของหลินเฉินเข้าใกล้ ร่างกายของจิเรนก็ขยับหลบหลีกไปโดยอัตโนมัติราวกับสัญชาตญาณ
ท่าทางของจิเรนดูราวกับว่าเขาสามารถหลบการโจมตีของหลินเฉินได้อย่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ
ทว่าเหนือความคาดหมาย หมัดของหลินเฉินกลับพุ่งเข้าใส่ราวกับขีปนาวุธนำวิถีที่ล็อกเป้าหมายไว้แล้ว กระแทกเข้าเต็มใบหน้าอันนิ่งสงบของจิเรนอย่างจัง
ปัง ปัง ปัง!
ด้วยเสียงแตกเปรี๊ยะราวกับฟ้าผ่า คลื่นอากาศโดยรอบบิดเบี้ยวคำรามก้องสะเทือนแก้วหู เสียงนั้นดังสนั่นหวั่นไหวราวกับโลกกำลังจะแตกสลาย
พลังงานอันไร้ขีดจำกัดถาโถมลงมา จิเรนแปรเปลี่ยนเป็นภาพแสงสีขาว พร่างพรายหายวับไปกับตา ร่างของเขาพุ่งทะยานออกไปด้วยความเร็วสูงดุจลูกธนูที่พุ่งออกจากแล่ง
ตูม! กลุ่มควันและฝุ่นผงตลบอบอวลฟุ้งกระจายไปทั่ว จิเรนร่วงลงกระแทกพื้นอย่างรุนแรง เกิดเป็นหลุมขนาดมหึมาบนผืนดินที่แข็งแกร่งราวกับเหล็กกล้า แรงกระแทกอันน่าสะพรึงกลัวแผ่ขยายออกไปโดยรอบ ก่อเกิดรอยแตกร้าวเป็นริ้ว ๆ คล้ายใยแมงมุม
จิเรนนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น ร่างกายบอบช้ำจนไม่อาจขยับเขยื้อนได้ในทันที
เขากระพริบตาอย่างเชื่องช้า มองขึ้นไปบนท้องฟ้า ดวงตาว่างเปล่าไร้ซึ่งแววแห่งการต่อสู้ “เป็นไปได้… เป็นไปได้ยังไง? ฉันหลบมันได้แล้วนี่นา? ทำไม…” เสียงแผ่วเบาเอ่ยถามราวกับคนละเมอ
“ใช่ จิเรนดูเหมือนจะหลบการโจมตีได้เมื่อครู่นี้ ทำไมถึงเป็นแบบนี้กันนะ?” บิลส์เอ่ยขึ้นอย่างสงสัย น้ำเสียงเต็มไปด้วยความฉงน
ข้าง ๆ พวกเขา วิสหันไปไขปริศนาให้หลินเฉิน
“ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นผลพวงมาจากร่างตามใจกายตามจิตของคุณหลินเฉิน มันเหมือนเป็นวิชาปรปักษ์ต่อผู้ฝึกฝนร่างนำใจกายนำจิต! การที่คุณหลินเฉินสามารถฝึกฝนวิชานี้ได้ถึงขั้นเชี่ยวชาญเช่นนี้ นับว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์ยิ่งนัก”
“ร่างตามใจกายตามจิต? มันคือสิ่งใดกันแน่?” บิลส์ถามต่อ
“ท่านบิลส์ ลืมตาให้กว้างเถิดครับ แล้วเฝ้ามองการเคลื่อนไหวของคุณหลินเฉิน ท่านจะพบคำตอบด้วยตนเอง” ผู้เฒ่าไคกล่าวขึ้นอย่างฉับพลันจากทางด้านข้าง
บทที่ 504 ลงมือ ร่างตามใจ กายตามจิตปรากฏ
ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_