บทที่ 16 ณ ห้องฝึกซ้อม
บทที่ 16 ณ ห้องฝึกซ้อม
แม็กซ์เดินไปยังส่วนนอกของคฤหาสน์การ์ฟิลด์ เนื่องจากคฤหาสน์แห่งนี้เป็นที่พักอาศัยของวิสเคานต์ จึงทำให้คฤหาสน์หลังนี้ใหญ่โตและโอ่อ่าอย่างมาก
มันเป็นที่พักอาศัยของทั้งครอบครัวการ์ฟิลด์ มีที่พักของอัศวิน องครักษ์ และคนรับใช้ สวนที่มีต้นไม้นานาพันธุ์และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกมากมาย
ห้องฝึกซ้อมก็เป็นหนึ่งในสถานที่ดังกล่าว เป็นสถานที่ที่อัศวินและองครักษ์ใช้ฝึกฝนในตอนเช้า ก่อนหน้านี้เจ้าของร่างกายคนก่อนไม่รู้ว่าความสามารถของเขาแย่มาก เขาจึงเคยมาฝึกฝนที่นี่เช่นกัน
และจากนั้นเขาก็ไม่ได้ไปเยือนสถานที่แห่งนี้มาหลายปีแล้ว ปกติเขาจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในห้องสมุดเพื่ออ่านหนังสือหรือดูแลต้นไม้และดอกไม้ที่เขาปลูกไว้
ดังนั้นทุกคนจึงประหลาดใจมากเมื่อเห็นเขาเข้าไปในห้องฝึกซ้อม
ยิ่งไปกว่านั้นในเวลานี้…
“นายท่าน!” เสียงดังมาจากด้านนอกห้องทำงานของวิสเคานต์แอชตัน
“เข้ามา” เสียงคำสั่งอันเฉยเมยดังขึ้น
ชายวัยกลางคนที่น่าจะมีอายุราวๆ สี่สิบกว่าๆ เดินเข้ามา เขาสวมกางเกงขายาวสีดำ เสื้อเชิ้ตสีขาวและผูกเน็คไทสีดำ เขาโค้งคำนับต่อหน้าแอชตัน การ์ฟิลด์ เพื่อทักทายอย่างนอบน้อม
"มีอะไรเหรอจอร์จ" เขาคือพ่อบ้านแห่งคฤหาสน์การ์ฟิลด์ ชื่อจอร์จ
“นายท่าน! มีคนเห็นนายน้อยแม็กซ์เวลล์กำลังเข้าไปในห้องฝึกซ้อม ฉันคิดว่านายน้อยต้องการฝึกฝนตัวเอง” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นเล็กน้อย ซึ่งต่างจากบุคลิกของเขา เพราะโดยปกติแล้วเขาเป็นคนเคร่งครัดและจริงจังอย่าง และไม่ค่อยแสดงอารมณ์ใดๆ ออกมาบนใบหน้าอย่างง่ายดาย
แอชตันซึ่งยังคงยุ่งอยู่กับการดูเอกสารบางอย่างก็หยุดกะทันหันและถามว่า "จริงเหรอ?"
เขารู้สึกยินดีที่ได้ยินเช่นนี้ แม็กซ์ ลูกชายสุดที่รักของเขาสูญเสียความมั่นใจในตัวเองเมื่อรู้ว่าพรสวรรค์ของเขาไม่มีประโยชน์และเลิกฝึกฝนไปเลย
เขาในฐานะพ่อย่อมเป็นห่วงลูกชายเสมอ ถ้าแม็กซ์พยายามอย่างหนักสักนิด เขาอาจช่วยให้ลูกชายกลายเป็นนักเวทย์ระดับสองดาวด้วยทรัพยากรที่มี แต่แม็กซ์กลับไม่สนใจเลย ดังนั้นเขาจึงไม่รู้จะทำอย่างไรเช่นกัน
ทำให้นี่เป็นข่าวดีอย่างมากสำหรับเขาที่ได้ยินว่าแม็กซ์ได้กลับไปเยี่ยมห้องฝึกซ้อมอีกครั้ง
“ฉันแค่หวังว่าเขาจะไม่สูญเสียความตั้งใจที่จะแข็งแกร่งขึ้น เพราะโลกจะไม่สงบสุขอีกต่อไปแล้ว” เขาพึมพำกับตัวเอง
ณ ห้องฝึกซ้อม
มันเป็นอาคารทรงกลมค่อนข้างใหญ่ มีห้องโถงขนาดใหญ่ และมีอุปกรณ์ต่างๆ นานาวางเรียงรายอยู่ทั่วทุกแห่ง
เมื่อเขาเดินเข้าไปในห้องโถง ผู้ดูแลห้องโถงที่มีหน้าที่ดูแลห้องฝึกฝนและเป็นนักเวทย์ระดับสองดาวได้เข้ามาต้อนรับเขา
“สวัสดีตอนเย็น คุณชายมาอยู่ที่นี่ตอนนี้ต้องการอะไรเป็นพิเศษหรือป่าว?” เขาทักทายแม็กซ์อย่างห้วนๆ และถามออกมา
“สวัสดีตอนเย็นตาแก่ ไม่เป็นไรหรอก ฉันแค่มาออกกำลังกาย นายทำต่อไปเถอะ ไม่ต้องสนใจฉัน” แม็กซ์ทักทายเขาและโบกมือราวกับว่าอีกฝ่ายเป็นแมลงวัน เขาทำแบบนี้เพราะเห็นชัดว่าอีกฝ่ายไม่มีความเคารพต่อเขา แล้วทำไมเขาต้องแสดงความเคารพอีกฝ่ายด้วย
เมื่อเพื่อนที่เขาเรียกว่าเพื่อนสนิทได้ทำลายความรู้สึกของเขาก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เขาจึงตระหนักทันทีว่าตลอดเวลาที่เขาปฏิบัติต่อเพื่อนคนนี้เหมือนเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด แต่อีกฝ่ายไม่เคยทำแบบเดียวกันเลย
คำพูดที่อีกฝ่ายเคยพูดเล่นๆ และมักจะถูกมองว่าเป็นเรื่องตลก แต่แท้จริงแล้วกลับกลายเป็นการล้อเลียนเขา ตอนนี้เขาจึงตัดสินใจปฏิบัติต่อทุกคนตามวิธีที่ทุกคนจะปฏิบัติต่อเขา เช่น ลิลลี่ เธอแสดงความเอาใจใส่และความรักอย่างสุดซึ้งต่อเขา ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจปฏิบัติต่อเธอด้วยความรักและความเอาใจใส่เช่นกัน
ชายชราคนสั้นตกตะลึงกับเรื่องนี้ เป็นเพราะแม็กซ์ไม่เคยกล้าพูดแบบนี้กับใคร และมักจะเงียบเฉยและไม่สนใจแม้ว่าจะมีคนล้อเลียนเขา แต่เขาก็ตั้งสติได้เร็วและขอตัวออกไป
ชายชราจ้องมองเขาด้วยท่าทางทะนงตนราวกับว่าเขาเป็นราชาประเภทหนึ่ง เขาพึมพำเบาๆ ว่า "ทัศนคติอย่างนี้สมกับเป็นขยะชิ้นหนึ่งจริงๆ!" เขาเยาะเย้ยและกลับไปทำงานตัวเอง และไม่สนใจแม็กซ์อีกต่อไป
แม็กซ์ยืดเส้นยืดสายสักสองสามนาทีเพื่อให้ควบคุมการเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น จากนั้นจึงยกน้ำหนัก เขาต้องการทดสอบความแข็งแรงของตัวเองก่อน เพราะเมื่อไม่นานนี้ เขาไม่สามารถยกลิลลี่ได้เลยแม้แต่ครั้งเดียวเมื่อกำลังทำกิจ
มีที่ยกน้ำหนักที่แตกต่างกันตั้งแต่ยี่สิบปอนด์ไปจนถึงสองพันปอนด์ 'มีใครสามารถยกสองพันปอนด์ได้จริงๆหรือ?' แม็กซ์คิด แต่เขาส่ายหัวอย่างรวดเร็วพร้อมกับยิ้มออกมา แน่นอนว่าพวกเขาสามารถยกน้ำหนักได้
เหตุผลนะหรือ เพราะนี่ไม่ใช่โลกที่มนุษย์อาศัยอยู่ แต่นี่คือโลกแห่งเวทมนตร์และทุกสิ่งสามารถเป็นไปได้ในโลกแห่งนี้
เขายืดหลังตรงและย่อตัวลงเพื่อยกน้ำหนักห้าสิบปอนด์
เขาสามารถยกมันได้อย่างง่ายดาย จากนั้นจึงเพิ่มน้ำหนักขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็พบว่าน้ำหนักสูงสุดของเขาคือ 120 ปอนด์
*เฮ้อ!*
เขาถอนหายใจยาว และเขาพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ เพราะเขาคิดว่าการที่เด็กอายุ 18 ปีสามารถยกของหนักได้ 120 ปอนด์นั้นถือว่าดีมากเลยทีเดียว
นอกจากนี้เขายังมีคะแนนความใคร่เหลืออยู่มาก เขาสามารถเพิ่มค่าสถานะความแข็งแกร่งได้อีกเล็กน้อยหากจำเป็น
จากนั้นเขาก็ทดสอบคุณสมบัติอื่นๆ ของเขาทีละอย่าง เขาทำการฝึกความเร็วเพื่อประเมินความคล่องตัว เขาวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดเป็นเวลาหลายนาทีเพื่อตรวจสอบความอึดของเขา สำหรับพลังชีวิตของเขานั้น เขารู้สึกได้ถึงสุขภาพที่แข็งแรงและมีพลังมากกว่าเดิมมาก ผิวของเขาที่เคยซีดเซียวก็หายไปแล้ว ใบหน้าของเขายังมีความเปล่งปลั่งของความมีสุขภาพดีอีกด้วย
หลังจากทำแบบทดสอบต่างๆ เสร็จแล้ว ในที่สุดเขาก็สรุปได้ว่าตอนนี้เขา "ปกติ" แล้ว
ใช่ ปกติ! แม้ว่าเขาจะแข็งแรง รวดเร็ว และมีสุขภาพดีกว่าตอนที่เขาตื่นขึ้นมาในโลกนี้ แต่เขาก็เทียบได้กับมนุษย์ปกติเท่านั้น
'ตอนนี้มันก็ดีมากพอแล้ว ฉันควรจะทำความคุ้นเคยกับร่างกายของตัวเองก่อน หลังจากนั้นฉันจะค่อยๆ เพิ่มค่าสถานะของตัวเองขึ้น ตอนนี้... ถึงเวลาที่จะใส่คะแนนความใคร่ที่เหลือทั้งหมดลงในมานาแล้ว' แม็กซ์ตัดสินใจและเปิดหน้าจอสถิติของเขา
[ ชื่อ : แม็กซ์เวลล์ การ์ฟิลด์
อายุ: 18
ความแข็งแกร่ง: 10
ความคล่องตัว : 10
ความอดทน: 10
พลังชีวิต: 10
สติปัญญา : 15
มานา : 10
ธาตุ : ไฟ
คะแนนความใคร่: 2985 ]
จากนั้นเขาก็แตะที่มานาซ้ำๆ และใส่คะแนนความใคร่มากกว่าครึ่งหนึ่งลงในมานา เมื่อเขาลองพยายามเพิ่มค่าสถานะอย่างอื่น เขาก็ต้องตกใจเพราะต้องใช้คะแนนความใคร่หนึ่งร้อยแต้มเพียงเพื่อเพิ่มค่าสถานะอย่างอื่นหนึ่งแต้ม ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจใส่คะแนนความใคร่ที่เหลือทั้งหมดลงในมานา เนื่องจากต้องใช้คะแนนความใคร่เพียงสิบแต้มสำหรับมานาหนึ่งแต้ม
ไม่กี่วินาทีต่อมาเขาก็ทำสำเร็จ เขาสัมผัสได้ถึงหมอกที่หมุนวนรอบตัวเขาและเข้าสู่ร่างกายของเขาจากที่ไหนก็ไม่รู้ มันเป็นความรู้สึกที่ดีและเย็นสบายอย่างมาก
'นี่คือมานางั้นเหรอ' หลังจากไม่มีคะแนนความใคร่เหลืออยู่ เขาก็มองไปที่หน้าจอสถิติของตัวเอง
[ ชื่อ : แม็กซ์เวลล์ การ์ฟิลด์
อายุ: 18
ความแข็งแกร่ง: 10
ความคล่องตัว : 10
ความอดทน: 10
พลังชีวิต: 10
สติปัญญา : 15
มานา : 308
ธาตุ : ไฟ
คะแนนความใคร่: 5 ]
“เยี่ยมมาก!” แม็กซ์อุทานเมื่อเห็นว่ามานาของเขาเพิ่มขึ้นมาก “ด้วยมานามากขนาดนี้ ฉันน่าจะถือว่าเป็นนักเวทย์มือใหม่ได้แล้วใช่ไหม?” เขาคิดกับตัวเอง….
…………………………….