บทที่ 10 เพื่อศักดิ์ศรีของลูกสาว
บทที่ 10 เพื่อศักดิ์ศรีของลูกสาว
โต๊ะทำอาหารหมายเลข 1 เป็นของผู้ปกครองสายทุ่มทุน
แม้ว่าจะไม่ทราบแน่ชัดว่าทำไมสายทุ่มทุนถึงเลือกทำก๋วยเตี๋ยวต้มยำสามรส แต่เครื่องปรุงที่พวกเขาเตรียมมาก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว
รสชาติดีมาก
น่าเสียดายเพียงอย่างเดียวคือ เด็กนักเรียนประถมอาจไม่ชอบกินก๋วยเตี๋ยวมากนัก จำนวนเด็กที่มาชิมจึงไม่เยอะนัก ความนิยมยังสู้ชานมไข่มุกที่ใส่น้ำตาลมากเกินไปของผู้ปกครองบ้านหวังอี้หานไม่ได้เลย
ฉินหวยดูดก๋วยเตี๋ยวต้มยำคำสุดท้าย พลางแอบเสียดายแทนผู้ปกครองโต๊ะที่ 1 แล้วก็เติมอีกชามอย่างไม่รีรอ
ในขณะเดียวกัน เฉินฮุ่ยฮุ่ยที่กำลังกินก๋วยเตี๋ยวต้มยำสามรสอยู่ด้วย เดินมาหาฉินหวยพร้อมชามในมือ แล้วถามด้วยเสียงใส ๆ ว่า “พี่ฉินหวย คุณแม่ไม่ต้องการความช่วยเหลือจริง ๆ เหรอคะ?”
แม้ฉินหวยจะเรียกเฉินฮุ่ยหงว่า “พี่ฮุ่ยหง” แต่ตอนนี้สถานะของเขาคือคุณอาของเฉินฮุ่ยฮุ่ย ทว่าเฉินฮุ่ยฮุ่ยก็ยังคงรักษามารยาทในการเรียกแบบแยกแยะชัดเจน
“ตอนนี้ยังไม่ต้อง” ฉินหวยเหลือบมองเฉินฮุ่ยหงที่กำลังง่วนอยู่กับการกดแม่พิมพ์ด้วยความกระตือรือร้น “ฮุ่ยฮุ่ย แผนของเราคืออะไร?”
“ให้ทุกคนได้ชิมก่อน แล้วค่อยให้ทุกคนได้สนุก!” เฉินฮุ่ยฮุ่ยตอบด้วยเสียงหนักแน่น
“ถูกต้อง อีก 9 นาทีซาลาเปาจะพร้อมเสิร์ฟ เราจะเริ่มด้วยการให้ทุกคนได้ชิมก่อน”
ถ้าเริ่มด้วยการให้เด็ก ๆ เล่นก่อน โดยที่ไม่มีใครคุม เด็ก ๆ อาจจะปั้นแป้งและยัดไส้กันแบบมั่ว ๆ จนฉินหวยไม่อยากจินตนาการว่าซาลาเปาที่ออกมาจากแม่พิมพ์จะเป็นยังไง
แม้ว่าการใช้แม่พิมพ์ทำซาลาเปาจะไม่ได้ซับซ้อนอะไร แต่ก็ไม่ควรให้มันง่ายเกินไปจนไม่มีมาตรฐานเลย
7 นาทีผ่านไป เฉินฮุ่ยฮุ่ยที่ได้รับมอบหมายหน้าที่ประชาสัมพันธ์ก็เริ่มเคลื่อนไหว เด็กหญิงเดินวนไปตามกลุ่มเพื่อนด้วยท่าทีคล้ายสายลับ พลางกระซิบว่า “ซาลาเปาที่แม่ฉันทำกำลังจะพร้อมแล้ว พวกเธออยากชิมก่อนเป็นกลุ่มแรกไหม?”
ทันทีที่ได้ยินคำว่า “กลุ่มแรก” และ “ชิมก่อน” สัญชาตญาณการแข่งขันในตัวเด็ก ๆ ก็ถูกกระตุ้นขึ้นมาทันที
“ฉันอยากชิมก่อน!”
“ฉันต้องได้ชิมก่อนนะ ฮุ่ยฮุ่ย เธอสัญญาแล้วว่าฉันจะได้ชิมก่อน!”
“ฉันด้วย! ฮุ่ยฮุ่ย ฉันแบ่งสลัดที่แม่ฉันทำให้เธอกินไปแล้วนะ ฉันต้องได้ชิมก่อน!”
“ฉันก็อยากชิม ฉันชอบกินซาลาเปาที่สุดเลย!”
“ฉันด้วย ฉันด้วย!”
“ฉันก็อยากชิม!”
เหล่าผู้ปกครองที่กำลังทำอาหารอยู่: ?
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ลูกของฉันชอบกินซาลาเปา? เมื่อตอนเช้ายังร้องไห้งอแงไม่ยอมกินข้าวอยู่เลยนี่นา
1 นาทีต่อมา รอบตัวเฉินฮุ่ยหงเต็มไปด้วยนักเรียนที่กำลังรอซาลาเปาออกจากเตาเพื่อจะได้เป็นกลุ่มแรกที่ได้กิน
ยังไม่พอ ยังมีผู้ปกครองบางคนที่เข้ามาดูด้วย
เพราะตั้งแต่ต้น เฉินฮุ่ยหงทั้งนวดแป้ง ห่อไส้ และใช้แม่พิมพ์อย่างแข็งขัน เสียงและการเคลื่อนไหวของเธอดูจริงจัง แม้ว่ากระบวนการจะไม่ได้ซับซ้อนอะไร แต่ก็ดูน่าประทับใจ ประกอบกับเธอเป็นผู้ปกครองเพียงคนเดียวที่ทำอาหารจีนแบบแป้งในงานนี้ ทำให้เธอดูเหมือนผู้เข้าแข่งขันที่มีศักยภาพ จนผู้ปกครองสายมืออาชีพยังต้องมาสอดแนม
“ฮุ่ยฮุ่ย ช่วยแบ่งให้ทุกคนด้วยนะ”
“ได้เลยค่ะแม่!” เฉินฮุ่ยฮุ่ยเริ่มแจกซาลาเปาทีละตัว
ซาลาเปากระต่ายน้อย หนูน้อย หมูน้อย ควายน้อย และช้าง รวมทั้งหมด 5 แบบ แต่ละแบบมีรูปร่างน่ารักมาก แม้ว่าจะยังไม่ได้แต่งสีหรือลงรายละเอียดเพิ่ม แต่แค่นี้ก็น่าดึงดูดในครัวสำหรับครอบครัวนี้แล้ว
“ว้าว!” ไม่มีเด็กคนไหนปฏิเสธเสน่ห์ของซาลาเปารูปร่างแปลกตาแบบนี้ได้
“โห!” ผู้ปกครองที่ไม่คาดคิดว่าแม่พิมพ์จะทำซาลาเปาออกมาสวยได้ขนาดนี้ต่างพากันถอนหายใจด้วยความเสียดาย
“อันนี้ไส้ถั่วแดงนะคะ อันนี้ไส้ถั่วเขียว รสชาติของไส้ถั่วแดงนั้น…”
ไม่มีใครสนใจคำบรรยายของเฉินฮุ่ยฮุ่ยเลย นักเรียนและผู้ปกครองที่ใจร้อนต่างเป่าซาลาเปาแค่สองสามครั้งแล้วกัดกินทันที
โอ้โห!
แป้งนุ่มละมุน ไส้หวานหอมชวนหลงใหล
โอ๊ย—
คุณแม่ของเฉินฮุ่ยฮุ่ยน่ากลัวขนาดนี้เลยเหรอ!
น่าทึ่งจริง ๆ เธอเป็นถึงเชฟขนมปังระดับเทพเลยหรือเปล่า!
อย่างนี้จะแข่งยังไงกันอีก!
“ว้าว! แม่ของเธอเก่งมากเลยฮุ่ยฮุ่ย!”
“ฮุ่ยฮุ่ย ฉันอยากได้ซาลาเปากระต่ายน้อยอีกตัว ขออีกตัวได้ไหม!”
“ฮุ่ยฮุ่ย เราสลับแม่กันดีไหม?”
“ฮุ่ยฮุ่ย ฉันอยากกินไส้ถั่วเขียว ขออีกตัวได้ไหม!”
“ฮุ่ยฮุ่ย ฉันก็อยากลองทำซาลาเปาเหมือนกัน ให้ฉันลองเล่นด้วยสิ!”
เมื่อเห็นเฉินฮุ่ยฮุ่ยกลายเป็นจุดสนใจของเด็ก ๆ เฉินฮุ่ยหงยิ้มจนแก้มแทบแตก การกดแม่พิมพ์ยิ่งทำด้วยความฮึกเหิม ราวกับจะทำออกมาอีกสิบชุดในตอนนี้
เฉินฮุ่ยฮุ่ยก็เป็นคนที่รู้วิธีแบ่งปันเช่นกัน เธอปฏิเสธคำขอเปลี่ยนแม่อย่างสุภาพ และจดความต้องการของทุกคนไว้ว่าใครอยากได้อะไร หากไม่มีซาลาเปารูปนั้นก็ให้เลือกแบบอื่นแทน เมื่อเด็ก ๆ เริ่มหมดความสนใจเพราะเห็นว่าชุดใหม่ยังต้องรออีกนาน และตอนนี้ยังไม่ได้ลองทำซาลาเปาด้วยตัวเอง เด็ก ๆ ก็แยกย้ายกลับไปหาผู้ปกครองของตัวเอง
เฉินฮุ่ยฮุ่ยจึงวิ่งเล็ก ๆ มาหาฉินหวยพร้อมกับชูชามใบเล็กที่มีซาลาเปาร้อน ๆ ไส้ถั่วเขียวรูปกระต่ายในมือขึ้นมา
“พี่ฉินหวย นี่สำหรับพี่ค่ะ!”
"ซาลาเปานี้ฉันห่อไส้เอง ตั้งใจเก็บไว้ให้พี่ฉินหวยเลยค่ะ”
“ขอบคุณพี่ฉินหวยนะคะ ฉันไม่ได้เห็นแม่มีความสุขแบบนี้มานานมากแล้ว!”
ฉินหวยยิ้มรับชามเล็ก ๆ นั้น พร้อมกับคิดว่าคู่นี้ช่างน่าสนใจจริง ๆ
แม่ที่ตั้งใจเต็มที่เพื่อสร้างชื่อเสียงให้ลูกสาว อยากให้ลูกได้ที่หนึ่งและภูมิใจในตัวเอง ส่วนลูกสาวกลับมุ่งมั่นเพียงแค่อยากเห็นแม่มีความสุข
ถือว่าเป็นความรักที่ตอบแทนกันทั้งสองฝ่าย
“ฮุ่ยฮุ่ยมีความสุข คุณแม่ของเธอก็ต้องมีความสุขด้วยแน่นอน” ฉินหวยพูดด้วยรอยยิ้ม “คุณแม่ของเธอต้องรักเธอมากที่สุดแน่ ๆ”
“คนที่ฉันรักที่สุดก็คือแม่ค่ะ!” เฉินฮุ่ยฮุ่ยพูดอย่างภูมิใจ “พี่ฉินหวย ฉันบอกให้ฟังนะ ฉันฝันบ่อยมากว่าแม่กอดฉัน แล้วฉันก็เรียกเธอว่าแม่”
“ตอนที่ไปทัศนศึกษาช่วงฤดูใบไม้ผลิปีที่แล้ว ฉันเสียเงิน 20 หยวนให้คนช่วยทำนายความฝัน เขาบอกว่านี่หมายความว่าชาติที่แล้วฉันเป็นลูกสาวของแม่ ชาตินี้ฉันก็เป็นลูกสาวของแม่ ชาติหน้าฉันก็ยังอยากเป็นลูกสาวของแม่ ฉันคือคนที่ถูกกำหนดไว้แล้วให้เป็นลูกสาวของแม่!”
ฉินหวยฟังแล้วกลั้นหัวเราะไม่อยู่ เธอพูดได้ดีมาก เป็นแม่ลูกกันนี่ถึงกับถูกลิขิตไว้เลย
เขาส่ายหัวแล้วยื่นมือไปหยิบซาลาเปากระต่าย
ทันทีที่ปลายนิ้วแตะซาลาเปา
“ติ๊ง ขอแสดงความยินดี คุณได้รับ【ความฝันส่วนหนึ่งของเฉินฮุ่ยหง】”
หืม?
ความฝันส่วนหนึ่งของเฉินฮุ่ยหง?
ลูกสาวเพิ่งเล่าความฝันของตัวเองเสร็จ เขากลับได้ความฝันของแม่มาอีก นี่เป็นโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 หรือยังไง?
แต่การได้แอบดูความฝันของคนอื่นแบบนี้ มันจะดูแปลก ๆ ไหมนะ?