ตอนที่ 1620 เปิดโปง (1) (ฟรี)
ตอนที่ 1620 เปิดโปง (1)
จักรพรรดิซางจางที่ยังพยายามรักษาความสุภาพเอาไว้เพื่อเห็นแก่หยวนเอ๋อกับหอยสังข์ ตอนนี้เขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไป “เจ้าทำเหมือนกับว่าคนทั้งโลกมัวเมา มีเพียงแค่เจ้าเท่านั้นแหละที่ยังคงมีสติ พวกเจ้าคิดว่าทุกอย่างที่ดินแดนแห่งความว่างเปล่าพยายามรักษาเอาไว้นั้นเป็นของปลอมงั้นเหรอ?” เขาหัวเราะเยาะ
“ดวงดาวศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบดวงเรียงตัวกันเป็นปรากฏการณ์ของสวรรค์และโลกก็จริง แต่มันเกี่ยวข้องอะไรกับการพังทลายลงของเสาหลักแห่งหายนะด้วย?” ลู่โจวที่เห็นว่าท่าทางของจักรพรรดิซางจางเปลี่ยนไปเล็กน้อยรู้ว่าเขาไม่ควรจะทำอะไรที่มากเกินไปถามกลับ
“ทุกครั้งที่มีปรากฏการณ์ เสาหลักแห่งหายนะก็ยังสั่นสะเทือน แบบนี้ยังไม่อธิบายทุกอย่างได้อีกงั้นเหรอ?” จักรพรรดิซางจางกล่าว
“บรรพบุรุษของเขาคือหมอผีแห่งดินแดนแห่งความว่างเปล่าไม่ใช่เหรอ?” ลู่โจวที่ชี้นิ้วไปที่หวู่สิงถาม
“แล้วมันยังไง?” จักรพรรดิซางจางถาม
“หมอผีเชี่ยวชาญเรื่องเวทมนตร์คาถา ไม่ใช่เรื่องของโหราศาสตร์ ในสมัยโบราณ โหราศาสตร์ได้สูญหายไปนานแล้ว หลังจากที่ผืนดินแยกตัวออกจากกันแล้ว หมอผีจะมีความสามารถในการดูดาว ทำนาย และตัดสินความดีความชั่วได้ยังไง?” ลู่โจวถาม
“เอ่อ...” จักรพรรดิซางจางพูดไม่ออก
เวทมนตร์คาถาคืออะไร? มันคือพลังงานที่ควบคุมพลังของธรรมชาติและพลังจิต มันถูกแบ่งออกเป็นศาสตร์มืดกับศาสตร์ขาว ผู้ฝึกฝนศาสตร์ขาวคอยนำทางและปกป้องมนุษยชาติ ส่วนผู้ฝึกฝนศาสตร์มืดนั้นสาปแช่งมนุษยชาติ ทำลายวิญญาณ และทำให้หัวใจของพวกเขาต้องมืดบอด ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน มันก็ไม่ได้รวมโหราศาสตร์
ลู่โจวมีความทรงจำของผู้มีมลทิน ด้วยความรู้และความทรงจำของผู้มีมลทินและความมั่นใจของเขา เขามั่นใจว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องโกหก “ตอบข้ามา” เขาตะโกน
“บรรพบุรุษของข้าเชี่ยวชาญการฝึกฝนมากมายหลากหลายเส้นทาง การที่เขารู้เรื่องโหราศาสตร์และการดูดาวนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก” หวู่สิงที่อดทนต่อความเจ็บปวดกล่าว
“งั้นก็เรียกเขามาคุยกับข้า บังเอิญที่ข้ามีความรู้เรื่องโหราศาสตร์อยู่บ้าง” ลู่โจวกล่าว
“...”
หวู่สิงที่ใจสั่น
จักรพรรดิซางจางดูเหมือนกับว่าจะตกตะลึง
“บรรพบุรุษของข้าเพิ่งจะออกจากการเก็บตัว เขากำลังพักผ่อนอยู่ที่โถงเสวียนเมิ่ง หากท่านอยากจะพบเขา ก็เชิญท่ามาที่โถงเสวียนเมิ่งกับข้าสิ” หวู่สิงกล่าว
“หากหมอผีผู้ยิ่งใหญ่ไม่รู้เรื่องโหราศาสตร์ มันหมายความว่ายังไง?” จักรพรรดิซางจางถาม
“หากเขาไม่รู้เรื่องโหราศาสตร์ แล้วการเรียงตัวกันของดวงดาวศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบดวงจะเป็นสัญลักษณ์แห่งหายนะได้ยังไง? แล้วบุตรสาวของเจ้าจะเป็นผู้ที่นำพาหายนะมาให้ได้ยังไง?” ลู่โจวหัวเราะเยาะ “และก็เป็นไปตามที่ข้าคิดเอาไว้ พวกเจ้าก็เป็นแค่คนโง่งม มันยากที่จะเข้าใจขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ?” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
จักรพรรดิซางจางมีชีวิตอยู่มานานมาก เขาได้ประสบกับความทุกข์ยากของมนุษย์ เขารู้สึกถึงความหนาวเย็นและอบอุ่นของการฝึกฝน เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่มือของเขาสั่น ลู่โจวทำให้มือเขาต้องสั่น เขาเข้าใจความหมายของลู่โจว
“ใส่ร้าย! นี่คือการใส่ร้าย! ไม่ใช่แค่บรรพบุรุษของข้าเท่านั้นที่ได้เห็นผลลัพธ์อันเลวร้ายจากการมาของผู้ที่นำพาหายนะมาให้! ยอดฝีมือมากมายในดินแดนแห่งความว่างเปล่าก็ยังคงเห็นเช่นกัน! ตอนที่ดวงดาวศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบดวงเรียงตัวกัน เสาหลักแห่งหายนะทั้งหลายต่างก็สั่นสะเทือนจริงๆ! หากไม่ใช่เพราะสิบวิหาร ดินแดนแห่งความว่างเปล่าคงจะพังทลายไปแล้ว!” หวู่สิงที่กระวนกระวายใจมากตะโกน
“ในสมัยโบราณ หวู่จู่ประสบความสำเร็จในการเป็นสิ่งมีชีวิตสูงสุด เขากลายเป็นหมอผีคนเดียวในดินแดนแห่งความว่างเปล่าที่เป็นสิ่งมีชีวิตสูงสุด เขามีสถานะและได้รับความเคารพอย่างสูง แต่น่าเสียดาย เขาไม่พอใจกับสิ่งนี้ เพื่อที่จะตามหาเส้นทางในการเป็นสิ่งมีชีวิตสูงสุดระดับเทพหรือแม้แต่สิ่งมีชีวิตสูงสุดระดับมหาเทพ เขาได้ลองทุกอย่าง รวมทั้งเคล็ดวิชาต้องห้ามโบราณ เมื่อ 110,000 ปีก่อน ในหุบเขาอันยิ่งใหญ่ ทางทิศตะวันออกของดินแดนแห่งความว่างเปล่า การแยกตัวครั้งแรกได้เกิดขึ้น พืชพรรณต่างๆ ในระยะ 30,000 ลี้ เหี่ยวเฉาลง สัตว์ร้ายมากมายต่างก็ล้มตายอย่างลึกลับ ศพมากมายกองพะเนินเหมือนกับภูเขา เลือดไหลนองเหมือนกับแม่น้ำ ดินแดนแห่งความว่างเปล่าได้ตรวจสอบเรื่องนี้ แต่จำนวนผู้เสียชีวิตนั้นมีมากเกินไป พวกเขาจึงได้ไม่ประกาศให้คนทั้งโลกรับรู้ เหตุการณ์นั้นถูกเรียกว่า ‘การแยกตัวแห่งความตาย’” ลู่โจวที่ไม่ได้สนใจหวู่สิงกล่าว
ห้องโถงทั้งห้องเงียบกริบ
ลู่โจวเหมือนกับชายชราที่กำลังเล่านิทานให้กับคนรุ่นหลังฟัง
ในห้องโถงมีเพียงแค่สามคนเท่านั้นแหละที่ไม่สงสัยในเรื่องนี้ สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและตกตะลึง ส่วนคนอื่นๆ พวกเขานั้นไม่อยากจะเชื่อ
“แล้วเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องอะไรกับบรรพบุรุษของข้าด้วย?” หวู่สิงถาม
“เล่าต่อเถอะ ข้าไม่ชอบที่จะค้างคา” จักรพรรดิซางจางกล่าว
“ตอนนั้นมีผู้ฝึกยุทธคนหนึ่งได้พบกับรอยประทับของเวทมนตร์คาถาในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการแยกตัว มีเพียงแค่สิ่งมีชีวิตสูงสุดเท่านั้นแหละที่จะสามารถใช้รอยประทับนี้ได้ พวกเจ้ายังต้องให้ข้าอธิบายทุกอย่างให้ฟังอีกงั้นเหรอ?” ลู่โจวที่ไม่ได้รีบร้อนกล่าวอย่างช้าๆ
“ท่านกำลังพูดเรื่องไร้สาระ! 110,000 ปี ผ่านไปแล้ว! ท่านจะพูดอะไรก็ได้ แล้วท่านมีหลักฐานอะไร? โถงเสวียนเมิ่งคงจะไม่ยอมให้ท่านใส่ร้ายพวกเราแบบนี้แน่! ฝ่าบาท ท่านต้องทวงคืนความยุติธรรมให้กับข้าและบรรพบุรุษของข้า!” หวู่สิงที่กระวนกระวายใจตะโกนอีกครั้ง
“ท่านกำลังบอกว่าคนคนนั้นที่เป็นต้นเหตุของการแตกแยกถึงตายคือหวู่จู่งั้นเหรอ?” จักรพรรดิซางจางที่รู้สึกว่าคำพูดของลู่โจวนั้นค่อนข้างเกินจริงถาม
“ดูเหมือนกับว่าเจ้าจะไม่ได้โง่ไปซะทีเดียว”
“ท่านมีหลักฐานรึเปล่าล่ะ?” จักรพรรดิซางจางถาม
“ข้าคือหลักฐาน”
“...”
คำพูดพวกนี้ทำให้อีกฝ่ายโกรธมาก “ท่านต้องการจะพูดอะไรกันแน่?” จักรพรรดิซางจางที่ใจสั่นถามอีกครั้ง
“พวกเจ้าไม่เข้าใจจริงๆ งั้นเหรอ? หวู่จู่อยากจะใช้บุตรสาวของพวกเจ้าเป็นเครื่องสังเวย เขาจึงได้ปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับดวงดาวศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบดวงเพื่อที่จะทำให้ทุกคนไขว้เขว! ช่างน่ารังเกียจจริงๆ!” ซวนอี้ที่ทนไม่ไหวพูดแทรก
คำพูดเหล่านี้เหมือนกับก้อนหินที่ทำให้เกิดระลอกคลื่นมากมาย
จักรพรรดิซางจางเงียบ
ทุกคนมองดูซวนอี้กับลู่โจวอย่างไม่อยากจะเชื่อ พวกเขาไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้ได้
ขงจุนฮัวที่หัวว่างเปล่าเซถอยหลัง
การที่พวกเขาจะโน้มน้าวคนที่จิตใจอ่อนแอนั้นไม่ใช่เรื่องยาก ต่อให้พวกเขาจะไม่มีหลักฐานก็ตาม ในฐานะมารดาแล้ว ขงจุนฮัวรักบุตรสาวของนาง เมื่อคนอื่นๆ เรียกบุตรสาวของนางว่าเป็นตัวซวย นางได้แต่ตั้งคำถาม ท้าทาย และเผชิญหน้ากับพวกเขามากที่สุด แต่สุดท้ายแล้วนางก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องยอมรับความจริง