ตอนที่แล้วตอนที่ 15 เจ็ดระดับ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 17 นอกจากฉันแล้ว มีนักวางแผนเกมคนไหนที่จะพิจารณาชีวิตและความตายของผู้เล่น?

ตอนที่ 16 ความสามารถพื้นฐาน: พ่อกับแม่ผู้ส่งเค้ก


เกาหมิงวิ่งลงบันได ไม่ได้กางร่ม วิ่งฝ่าสายฝนกลับบ้าน

วันนี้เขาเหนื่อยมาก ตื่นเต้นกว่าทำงานที่เรือนจำนักโทษหนักเสียอีก

เกาหมิงปิดประตู วางภาพถ่ายขาวดำที่เขามีอยู่ทั้งหมดไว้บนโต๊ะกลาง “พอเกมสยองขวัญผสมผสานกับความเป็นจริงอย่างสมบูรณ์แล้ว คนในภาพถ่ายก็จะกลับมาได้หรือเปล่า? แต่ตอนนั้น พวกเขายังเป็นตัวเองอยู่หรือเปล่า?”

เกาหมิงมองไปที่อาจารย์เยา เป็นห่วงว่าเขาจะปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมนั้นไม่ได้ เขาเตรียมจะเอาภาพถ่ายขาวดำของพี่จ้าวกับอาจารย์เยาไปด้วย ในครั้งต่อไปที่กระตุ้นเกมเรื่องเล่าลึกลับ

กลางคืนมืดมิด ฝนตกหนัก เกาหมิงหิวมาทั้งวัน เปิดตู้เย็น แต่ไม่อยากกินของในบ้าน เกมแรกทำให้เขามีบาดแผลทางจิตใจอย่างลึกซึ้ง

“สั่งอาหารดีกว่า พอภัยพิบัติระเบิดอย่างสมบูรณ์แล้ว มีคนกล้าส่ง ฉันก็ไม่กล้ากินมั่วซั่ว” เกาหมิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาสั่งอาหาร จ้องมองหน้าจอโทรศัพท์ เงียบไป

ภาพพื้นหลังของโทรศัพท์เป็นภาพถ่าย ถ่ายที่หมู่บ้านชานเมืองซินหู เขา พ่อ และแม่นั่งกินข้าวด้วยกัน วันนั้นเขาลาพักร้อนกลับบ้าน

แม่ยังไม่ถอดผ้ากันเปื้อน ถือกับข้าวที่เพิ่งทำเสร็จ ดูเหมือนจะบ่น บอกว่าเพื่อนบ้านชั้นล่างจะแนะนำแฟนให้เขา พอเขาทำงานมั่นคงแล้ว

พ่อแอบดื่มเหล้า ตอนที่เกาหมิงดึงความสนใจของแม่ไป

เกาหมิงเองก็พยักหน้ารับอย่างไม่เต็มใจ แสดงออกถึงความไม่เต็มใจอย่างมาก

ภาพพื้นหลังโทรศัพท์อบอุ่นมาก แต่เกาหมิงกลับจับผมตัวเองอย่างเจ็บปวด

คนทั้งสามในภาพปกติ แต่ปัญหาคือ ใครถ่ายรูปนี้?

โทรศัพท์อยู่ไกล ไม่ใช่การตั้งเวลาถ่าย ตอนนั้นในบ้านเหมือนจะมีคนอยู่สี่คน แต่เกาหมิงจำไม่ได้

“เจ้าหน้าที่สืบสวนบอกว่าเหตุการณ์ผิดปกติจะทำให้การสื่อสารขาดหาย แต่ฉันรับโทรศัพท์จากพ่อกับแม่ ในช่วงสามวันที่ติดอยู่ในห้อง เสียงและน้ำเสียงเหมือนกับปกติ…” เกาหมิงกลัวที่จะคิดต่อไป

“เหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้นที่ซินหูเมื่อหกเดือนก่อน งั้นคนที่โทรมาหาฉันในช่วงหกเดือนนี้ เป็นคนอื่นเหรอ?”

เกาหมิงรู้จักครอบครัวของตัวเองดี ในฐานะที่ปรึกษาจิตวิทยา เขาเก่งเรื่องการมองทะลุจิตใจคนอื่น ยากที่จะหลอกเขา

ฝนตกหนัก ตอนนี้ไปซินหูไม่ได้ เกาหมิงกำมือ กระดูกนิ้วดังกร๊อบแกร๊บ

หลังจากลังเลอยู่นาน เกาหมิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา โทรไปยังเบอร์ที่คุ้นเคยมาก

เสียงสัญญาณดังขึ้นเรื่อยๆ เขากลัวกว่าอยู่ในเกมเรื่องเล่าลึกลับเสียอีก

“ไม่มีคนรับสาย?”

เกาหมิงเดินไปมาในห้อง โทรไปหลายครั้ง ก็ไม่มีคนรับ “ทำไมถึงโทรไม่ติด?”

เกาหมิงนั่งลงบนโซฟา มองภาพถ่ายครอบครัวเค้กขาวดำ โทรไปที่บ้านเป็นครั้งที่เจ็ด

ติ๊ดๆๆ…

เสียงฝนกระทบหน้าต่างค่อยๆ เบาลง ความเย็นยะเยือกแผ่มาจากเงามืดในห้อง ค่อยๆ พันข้อเท้าของเกาหมิง

ตอนที่เขารู้สึกว่าอุณหภูมิลดลง ก็เห็นแม่ในภาพถ่ายขาวดำยิ้ม

เสียงสัญญาณในโทรศัพท์หยุดลง โทรศัพท์ถูกต่อสายในเวลานี้

“ฮัลโหล?” เกาหมิงลุกขึ้นยืน ได้ยินเสียงกระแสไฟฟ้า และเสียงของหนักเคลื่อนไหว เหมือนมีใครกำลังเข้ามาใกล้

“ได้ยินไหม? เป็นผมเอง เกาหมิง!”

ไฟในห้องนั่งเล่นกระพริบ ตอนที่ได้ยินเสียงกระแสไฟฟ้า มีเสียงฝีเท้าดังมาจากทางเดิน เกาหมิงรู้สึกว่าความร้อนในร่างกายกำลังหายไปอย่างรวดเร็ว

“คุณเป็นใครกันแน่?”

“อยู่ที่นี่เถอะ…” เสียงของแม่แผ่วเบา ดังมาจากโทรศัพท์ เงามืดมากขึ้นเรื่อยๆ ในมุมห้อง เหมือนกับรากของต้นไม้ที่ฝังอยู่ในดิน กำลังโผล่ขึ้นมา

อุณหภูมิลดลงเร็วขึ้น เกาหมิงอยากจะวางสาย แต่เสียงทางโทรศัพท์ก็ชัดเจนขึ้น

“อยู่ที่นี่เถอะ อยู่ที่นี่เถอะ อยู่ที่นี่เถอะ!!!”

เสียงแหลมแทบจะทะลุแก้วหูของเกาหมิง ถ้ายังต่อไป เขาก็อาจจะเจอ “พ่อ” กับ “แม่” พวกนั้นอีก

เหมือนกับถูกเงาจับ ตอนที่เกาหมิงจะถูกเงามืดกลืนกิน เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น!

“ตุ๊บๆๆ!”

“อาหารมาส่งแล้วครับ!”

“มีคนอยู่ไหมครับ! อาหารของคุณ! รับโทรศัพท์ด้วย!”

เงามืดบางส่วนปีนไปที่ประตู เกาหมิงใช้แรงทั้งหมด วางสาย

อุณหภูมิในห้องสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แสงสว่างอบอุ่นปรากฏขึ้นในห้อง เกาหมิงเปิดประตูห้องนั่งเล่น วิ่งออกไปอย่างเร็วที่สุด!

พนักงานส่งอาหารที่กำลังเคาะประตู ยังไม่ทันตั้งตัว ก็เห็นเกาหมิงล้มลงที่ทางเดิน เสื้อผ้าไม่เรียบร้อย หน้าตาตกใจ หายใจหอบ

“โทรศัพท์ถูกเปลี่ยนตั้งแต่เมื่อไหร่? ฉันคุยกับผีมาครึ่งปีแล้ว?!” เกาหมิงยังรู้สึกเจ็บอยู่ มือสั่น

เห็นเขาเป็นแบบนี้ พนักงานส่งอาหารที่ถือไก่ตุ๋นก็ตกใจ ไม่กล้าเร่ง ยืนอยู่ที่มุมห้อง พูดเบาๆ “พี่ครับ…อาหารมาส่งแล้วครับ”

“ขอโทษ ทำให้คุณลำบากแล้ว” เกาหมิงตั้งสติได้ ลุกขึ้น มองพนักงานส่งอาหารด้วยความขอบคุณ ถ้าพนักงานส่งอาหารไม่เคาะประตู ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น “คุณชื่ออะไร? เคาะประตูมานานแค่ไหน? ถ้าฉันทำให้คุณส่งอาหารช้า ฉันจะให้เงินคุณ”

“ผมชื่อซูโม่ ถ้าสะดวกก็ช่วยรีวิวให้คะแนนดีๆหน่อยน่ะครับ” พนักงานส่งอาหารยกไก่ตุ๋นให้เกาหมิง แต่เกาหมิงกลับหยิบเงินออกมา ให้พนักงานส่งอาหาร

“พี่ครับ นี่พี่จะทำอะไร?”

“อย่าให้คนดีเสียใจ” เกาหมิงค้นหาอยู่นาน หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา “ฉันใช้เงินสดน้อย ดังนั้นหากคุณเพิ่มฉันเป็นเพื่อน ฉันจะโอนเงินให้คุณ”

“ไม่ต้อง แค่เกินเวลาห้านาที ไม่จำเป็นหรอกครับ” พนักงานส่งอาหารโบกมือ อยากจะคืนไก่ตุ๋นกับเงินให้เกาหมิง

“นี่เป็นสิ่งที่คุณสมควรได้รับ” เกาหมิงรอดตาย ตอนนี้เขากลัวมาก “คุณเห็นอะไรแปลกๆ ข้างนอกไหม? หรือได้ยินเสียงแปลกๆ?”

“ไม่มีครับ” พนักงานส่งอาหารส่ายหัวอย่างงงงวย

“ดูเหมือนว่าถ้าพ่อผีกับแม่ผีไม่ออกจากภาพถ่าย การ ‘เรียก’ ก็จะหยุด” เกาหมิงเปิดโทรศัพท์ ดูกล้องวงจรปิดในบ้าน

“ผีเหรอ?” พนักงานส่งอาหารไม่แน่ใจว่าตัวเองได้ยินอะไร มองหน้าจอโทรศัพท์ของเกาหมิงด้วยความอยากรู้

เกาหมิงที่เหนื่อยมาทั้งวันกลับบ้าน โทรศัพท์ แต่พอโทรไป เขาก็แข็งทื่อ มือเท้าเกร็ง

แล้วเขาก็เหมือนบ้า ยกมือขึ้นฟันอากาศ หน้าตาโหดเหี้ยมมาก!

เห็นแบบนี้ สีหน้าของพนักงานส่งอาหารเปลี่ยนไป มือที่ถือไก่ตุ๋นกับเงินสั่นไหว—คนตรงหน้าเหมือนโดนผีเข้า!

ไฟในทางเดินดับลง แสงสลัวๆ

จากหน้าจอโทรศัพท์สะท้อนใบหน้าของเกาหมิง ทั้งสองคนมองหน้ากัน

“…”

“…”

“พี่ครับ อย่ามองผมแบบนั้น ผมกลัว” พนักงานส่งอาหารจะร้องไห้แล้ว “ผมเป็นนักศึกษาใกล้ๆ นี่ มาส่งอาหารเป็นครั้งแรก ถ้ามีอะไรไม่สุภาพ อย่าถือสา”

“อย่ากลัว ฉันเป็นคนปกติ”

“คนปกติคนไหนจะเน้นว่าตัวเองเป็นคนปกติ ตอนคุยกันล่ะ!”

พนักงานส่งอาหารกลัวจริงๆ เขาเคยได้ยินว่าอพาร์ตเมนต์ลี่จิ่งไม่ดี เคยเกิดคดีฆาตกรรมหลายครั้ง วันนี้มาถึง ก็พบว่าที่นี่ “สมชื่อเสียง” จริงๆ

ก่อนที่เกาหมิงจะอธิบาย พนักงานส่งอาหารก็วางไก่ตุ๋นกับเงิน วิ่งลงบันไดไป

“นักศึกษายุคนี้ขี้อายขนาดนี้เลยเหรอ?”

เกาหมิงเก็บอาหารกับเงิน กลับเข้าไปในห้อง นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น

“ตอนที่ฉันโทรหาบ้าน ฉันมองภาพถ่ายขาวดำ พ่อผีกับแม่ผีในภาพถ่ายขาวดำก็จะเปลี่ยน ออกมาจากเงามืด”

“ฉากนี้แม้จะน่ากลัว แต่ถ้าใช้ดีๆ ก็เหมือนเป็นไพ่ตาย”

เกาหมิงนึกถึงฉากหนึ่ง ตอนที่เขาเผชิญหน้ากับพี่จ้าวในห้อง พ่อกับแม่ก็ถือเค้กมาเคาะประตู

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด