(อ่านฟรีชั่วคราว) บทที่ 1240 การต่อสู้ครั้งแรกกับอาณาจักรโยว่เริ่มต้นขึ้น
จักรพรรดิอสูรแห่งเผ่าชิงกุ้ยตะโกนอย่างอวดดี ราวกับว่าสามารถบรรเทาความเจ็บปวดจากบาดแผลที่มังกรไม้สร้างไว้ได้
มังกรไม้เหลือบมองจักรพรรดิอสูรแห่งเผ่าชิงกุ้ยก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย
“เจ้านี่พูดมากเกินไปแล้ว ระวังเถอะ ข้าจะใช้หมัดสังหารเจ้าให้จบเรื่อง”
“ข้ายอมแล้ว…” จักรพรรดิอสูรแห่งเผ่าชิงกุ้ยถึงกับเงียบเสียงไปในทันที เพราะรู้ดีว่าเป้าหมายของราชวงศ์อาณาจักรโยว่คือจอมมารดาบ ไม่ใช่มังกรไม้
ในฐานะผู้ร่วมศึก เขารู้ดีกว่าผู้ใดถึงความแตกต่างของพลังระหว่างเขากับมังกรไม้ หากการต่อสู้นี้ดำเนินต่อไปอีกครึ่งวัน เขาอาจจะถูกมังกรไม้สังหารด้วยหมัดที่ไร้ปรานีจริง ๆ
อ๋องซือ อ๋องอู๋จี๋ และอ๋องปิงที่เห็นจักรพรรดิอสูรแห่งเผ่าชิงกุ้ยยอมแพ้ ก็อดประหลาดใจไม่ได้ แต่ยังคงถือคำสั่งม้วนทองไว้แน่น
คำสั่งม้วนทองนี้แสดงถึงอำนาจสูงสุดของอาณาจักรโยว่!
การขัดคำสั่งเท่ากับเป็นกบฏ ต่อให้มังกรไม้แข็งแกร่งเพียงใด ก็ไม่อาจสู้กับอำนาจของราชวงศ์อาณาจักรโยว่ได้
“จับตัวจอมมารดาบ!” เมื่อกองทัพเสิ่นโหยวมาถึง อ๋องซือก็ออกคำสั่งทันที แต่เขาไม่กล้าสั่งประหารในทันที
ขณะที่กองทัพเสิ่นโหยวเตรียมเคลื่อนพล มังกรไม้กล่าวเสียงดัง
“คนของสำนักอมตะ หากพวกเจ้าคิดจะฆ่า ก็จงพิจารณาผลที่จะตามมาให้ดี เจ้าสำนักของข้าไม่ใช่คนที่จะพูดง่ายเหมือนข้า ก่อนจะลงมือ ถามตัวเองก่อนว่าเจ้าเก่งกว่าซื่อหม่าเทียนเสวียนหรือไม่”
“สำนักอมตะของพวกเจ้า คิดจะเป็นศัตรูกับราชวงศ์จริง ๆ หรือ?” อ๋องซือกล่าวเสียงหนัก เขารู้อยู่แล้วว่าสำนักอมตะจัดการยาก แต่ไม่คิดว่าจะยากถึงเพียงนี้
มังกรไม้หัวเราะเยาะ “ตอนที่สำนักภูเขาดาบถูกทำลาย ทำไมราชวงศ์ถึงไม่ออกมาปกป้องความยุติธรรมให้พวกเขา?”
อ๋องซือไม่ตอบ แต่ตะโกนออกคำสั่ง
“จับตัวไว้!”
กองทัพเสิ่นโหยวที่ได้รับคำสั่งก็ตั้งรูปขบวนเคล็ดวิชาชีพจรลมปราณทันที และมุ่งหน้าสู่จอมมารดาบ
“ช่างรนหาที่ตายจริง ๆ !” มังกรไม้กล่าวพร้อมปลดปล่อยพลังอสูรอันมหาศาล ก่อนจะแสดงร่างอสูรขนาดมหึมา
เขาอ้าปากพ่นเปลวไฟสามสีออกมา ซึ่งในชั่วพริบตาเดียว เปลวไฟนี้ก็ทำลายขบวนป้องกันเคล็ดวิชาชีพจรลมปราณของกองทัพเสิ่นโหยวลงสิ้น แม้เคล็ดวิชานี้จะสามารถต้านทานการโจมตีของยอดฝีมือระดับสถาปนาตนได้ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเปลวไฟสามสีของมังกรไม้ มันกลับเปราะบางเหมือนปีกแมลง
เมื่อขบวนเคล็ดวิชาชีพจรลมปราณแตกสลาย กองทัพเสิ่นโหยวก็พ่นเลือดออกมาพร้อมกัน ก่อนจะถอยหลังไปสิบกว่าก้าว และต้องประคองกันเพื่อรักษาขบวนไว้
“มังกรไม้ เจ้านี่ช่างกล้าหาญนัก นี่ถือเป็นการขัดขืนคำสั่งราชวงศ์!” อ๋องซือตะโกนลั่น พร้อมปลดชีพจรวิญญาณทั้งห้า และชักค้อนยักษ์สีเงินออกมา
เขารู้ว่าไม่อาจสู้ชนะได้ แต่ไม่มีทางเลือก เพราะหากปล่อยให้จอมมารดาบหนีไปได้ง่าย ๆ ความผิดย่อมตกอยู่ที่เขา
ค้อนยักษ์สีเงินถูกยกขึ้น เสียงสะท้อนก้องดังทั่วฟ้า พร้อมคลื่นพลังสีเหลืองหมุนวนขยายออกไปจนท้องฟ้าสั่นสะเทือนราวกับจะถล่มลงมา
ทันใดนั้น อ๋องซือพุ่งเข้าหามังกรไม้ด้วยความเร็วสูง พร้อมฟาดค้อนยักษ์ในมืออย่างบ้าคลั่ง เพียงชั่วลมหายใจเดียว ค้อนถูกเหวี่ยงลงมานับพันครั้ง!
แรงลมที่เกิดจากการโจมตีเหมือนพายุพัดถล่ม ทะเลเมฆหายไปในพริบตา และเทือกเขาด้านล่างพังทลายลง
แต่ทว่า มังกรไม้ยังคงยืนนิ่ง ไม่ขยับแม้แต่น้อย ปล่อยให้อ๋องซือฟาดค้อนใส่จนสุดแรงหมื่นครั้ง โดยไม่แสดงอาการใด ๆ
ภาพนี้ทำให้ผู้ชมถึงกับอึ้ง ไม่เว้นแม้แต่อ๋องอู๋จี๋และอ๋องปิง รวมถึงตัวอ๋องซือเอง
เขารู้สึกอึดอัดอย่างมาก แม้เขาจะใช้เคล็ดวิชาลมปราณประจำสายระดับสวรรค์ขั้นกลางที่สมบูรณ์แบบ แต่เมื่อฟาดใส่ร่างอสูรของมังกรไม้ กลับเหมือนไม่ได้สร้างความเสียหายใด ๆ เลย
“เจ้าฟาดข้าหมื่นครั้ง ข้าขอตบเจ้าทีหนึ่ง คงไม่มากเกินไปใช่ไหม?” มังกรไม้กล่าวพร้อมกับรวบพลังอสูรรอบตัวให้เข้มข้นขึ้น
พลังนั้นแปรเปลี่ยนเป็นกรงขังล่องหนล็อกตัวอ๋องซือไว้แน่น ก่อนที่หางมังกรอันมหึมาจะฟาดลงมาอย่างรุนแรง
“ไม่ดีแล้ว!” อ๋องซืออุทาน แต่ก็ไม่อาจหลุดพ้นจากพันธนาการของพลังอสูรได้ ทำได้เพียงมองหางมังกรที่เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ
ตูม!
อ๋องซือร่วงลงเหมือนดาวตก กระแทกพื้นดินข้างบึงฟูหลงจนเกิดหลุมลึกกว้างหมื่นจั้ง
เมื่อน้ำจากบึงฟูหลงไหลเข้าสู่หลุม ไม่ช้าก็จะกลายเป็นทะเลสาบแห่งใหม่
อ๋องอู๋จี๋และอ๋องปิงยืนนิ่งงัน ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไป เพราะแผนเดิมของพวกเขาคือช่วยจอมมารดาบหลบหนี และหากจำเป็นก็ขัดขวางมือสังหารที่อ๋องหลงหยางส่งมา เพื่อให้สำนักอมตะต้องถูกตัดสินว่ากบฏและเป็นศัตรูกับราชวงศ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่ตอนนี้พวกเขายังไม่ได้ทำอะไรเลย เรื่องทุกอย่างกลับสำเร็จไปแล้ว!
แล้วต่อจากนี้ควรทำอย่างไร? ช่วยอ๋องซือ? หรือร่วมต่อสู้กับอ๋องซือและโดนซ้อมไปด้วยกัน? หรือไม่เอาดีกว่า?
ในขณะนั้นเอง อ๋องซือที่พยายามปีนออกจากหลุมอย่างยากลำบาก พลางร้องขอความช่วยเหลือ
“ฝ่าบาททั้งสอง โปรดช่วยข้าด้วย!”
“ท่านก่อนหรือ?”
“ทำไมไม่เป็นท่านก่อนล่ะ?”
อ๋องปิงและอ๋องอู๋จี๋ต่างจ้องหน้ากันด้วยสายตาเย็นชา
จักรพรรดิอสูรแห่งเผ่าชิงกุ้ยที่เห็นฉากนี้ก็ได้แต่ส่ายหน้า ก่อนจะถอยกลับลงบึงฟูหลงด้วยความเบื่อหน่าย เขาคิดว่ามันจะเป็นศึกที่ยิ่งใหญ่และดุเดือด แต่กลับพบว่าราชวงศ์อาณาจักรโยว่ผู้สถาปนาตนดูเหมือนจะถูกสำนักอมตะข่มขู่จนขวัญเสียไปแล้ว
ในตอนนั้นเอง เหวินผิงที่ยืนอยู่ในหอจิ้นจือ หันไปพูดกับกระบี่ชิงเหลียนที่อยู่ข้าง ๆ ว่า
“เหลือแค่อ๋องซือ ที่เหลือฆ่าให้หมด”
กระบี่ชิงเหลียนพยักหน้า
เพียงชั่วลมหายใจ แสงสีขาวสายหนึ่งพุ่งตกลงมาที่บึงฟูหลง
ตูม!
หลังจากแสงขาวตกลงมาได้ยินเสียงตะโกนดังลั่นของอ๋องปิง
“สำนักอมตะ พวกเจ้าจงรอการล่มสลายเถอะ!”
พูดจบ อ๋องปิงตั้งท่าจะหลบหนี
อ๋องอู๋จี๋รีบตามหลังไป ทั้งสองไม่มีเจตนาจะช่วยอ๋องซือเลยแม้แต่น้อย
แต่แล้วแสงขาวที่ตกลงมาก็ทำให้ทั้งสองชะงักฝีเท้า พวกเขาเห็นชายชราผู้หนึ่งเดินออกมาจากแสงนั้น
ไม่ใช่เจ้าสำนักแห่งสำนักอมตะ
ไม่เคยเห็นมาก่อน
แต่เขาถือกระบี่
อ๋องปิงและอ๋องอู๋จี๋ยืนตะลึง ความรู้สึกไม่ดีเริ่มก่อตัวขึ้นในใจ ทั้งสองเปิดประตูชีพจรวิญญาณในทันที
ปัง!
ในขณะที่ประตูชีพจรวิญญาณเปิดออก กระบี่ชิงเหลียนที่เดินออกมาจากวงเวทย์เคลื่อนย้ายมิติก็ปล่อยเจตจำนงกระบี่ออกไปทันที
“เทพกระบี่แซ่หลี่!”
อ๋องอู๋จี๋อุทาน ก่อนจะปลดปล่อยเคล็ดวิชาลมปราณประจำสายระดับสวรรค์ขั้นกลางเพื่อป้องกันตัวเอง
แต่เมื่อเจตจำนงกระบี่ชิงเหลียนปะทะกับเคล็ดวิชาลมปราณประจำสาย การป้องกันนั้นกลับถูกทำลายลงราวกับไม่เคยมีอยู่
ฉัวะ!
เจตจำนงกระบี่ชิงเหลียนกลืนกินอ๋องอู๋จี๋ในทันที และทำให้อ๋องปิงที่อยู่ข้าง ๆ ถึงกับตัวสั่น รีบหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เพราะเขาเห็นว่าในขณะที่เจตจำนงกระบี่ชิงเหลียนกลืนกินอ๋องอู๋จี๋ ร่างของอ๋องอู๋จี๋ก็ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในชั่วพริบตา
“พวกเจ้าก่อกบฏ! กบฏ!” อ๋องปิงตะโกนด้วยความตื่นตระหนกขณะหลบหนี พร้อมใช้เสียงดังลั่นประกาศออกไป
ภาพนี้ทำให้ยอดฝีมือระดับกลางที่เฝ้าดูอยู่ไกล ๆ และเผ่าชิงกุ้ยต่างตกตะลึงจนไม่มีใครกล้าพูดอะไร
เมื่อยอดฝีมือระดับกลางเหล่านั้นได้สติ พวกเขารีบหลบหนีออกไปในทันที
เพราะการที่สำนักอมตะสังหารราชวงศ์ผู้สถาปนาตน เท่ากับเป็นการก่อกบฏ
ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่ถูกฆ่าด้วยเช่นกัน เพราะพวกเขาเองก็เคยลงมือกับจอมมารดาบแห่งสำนักอมตะมาก่อน
ในตอนนี้ คนทั้งสามสิบกว่าคนรู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง
ทำไมถึงต้องมาที่นี่?
ทำไมถึงโลภกับรางวัลเล็กน้อย?
พวกเขาช่างคิดสั้นจริง ๆ!
อย่างไรก็ตาม เมื่อมองกลับไปและไม่พบว่ายอดฝีมือของสำนักอมตะไล่ตามมาฆ่าปิดปาก พวกเขาจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก
จากนั้นมองหน้ากันด้วยความหวาดกลัว
“อาณาจักรโยว่คงจะวุ่นวายในไม่ช้า”
“สำนักแรกที่กล้าต่อต้านราชวงศ์ได้ปรากฏขึ้นแล้ว!”
.
(จบตอน)