บทที่ 9 พวกเขาบินได้หรือป่าว?
บทที่ 9 พวกเขาบินได้หรือป่าว?
ประมาณสองชั่วโมงต่อมา กลุ่มของพวกเขาก็มาถึงป่าทางตอนใต้ของเมืองเคลย์มอร์ ซึ่งเรียกว่า 'ป่าสัตว์วิเศษ' เป็นชื่อที่ชาวเมืองเคลย์มอร์ตั้งให้ เพราะในป่าแห่งนี้มีสัตว์อสูรมากมายที่ทรงพลังเท่ากับนักเวทย์ระดับหนึ่งดาว และบางตัวสามารถต่อสู้กับนักเวทย์ระดับสองดาวได้ด้วยซ้ำ
นี่คือป่าเดียวกันกับที่ร่างของแม็กซ์คนก่อนและองครักษ์ของเขาซึ่งเป็นนักเวทย์มือใหม่ถูกสัตว์อสูรสังหาร ครั้งนี้มันแตกต่างออกไปเพราะเขาอยู่กับเอมิลี่ นักเวทย์ระดับสองดาวและกลุ่มอัศวิน
โดยปกติแล้วอัศวินทุกคนจะเป็นนักเวทย์ระดับหนึ่งดาว แต่ไม่ใช่ว่านักเวทย์ระดับหนึ่งดาวทุกคนจะสามารถเป็นอัศวินได้ พวกเขาต้องผ่านการทดสอบมาตรฐานที่จัดทำโดยสมาคมนักเวทย์จึงจะมีคุณสมบัติเป็นอัศวินได้
ในทำนองเดียวกัน หากต้องการเลื่อนระดับหลังจากนักเวทย์มือใหม่ พวกเขาจะต้องไปที่สมาคมนักเวทย์เพื่อรับการประเมิน สมาคมนักเวทย์จะกำหนดตามมาตรฐานที่กำหนดว่าคุณมีสิทธิ์เลื่อนระดับหรือไม่ โดยปกติแล้ว พวกเขาจะประเมินพวกเขาตาม 'หน่วยมานา'
“เอมิลี่ เธอจะแสดงเวทมนตร์ให้ฉันดูที่นี่ได้อย่างไร เราต้องมาที่ป่าเพื่อจุดประสงค์นั้นงั้นเหรอ?” แม็กซ์ถามเอมิลี่เมื่อพวกเขามาถึงป่า แม้ว่าเขาจะรู้แล้วว่าเธอวางแผนอะไรไว้ก็ตาม
“ใช่แล้ว เราจำเป็นต้องทำในสถานที่นี่ นายจะเห็นฉันและอัศวินเหล่านี้ในการต่อสู้ในขณะที่เราเผชิญหน้ากับสัตว์อสูร ยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนว่าจำนวนสัตว์อสูรจะเพิ่มขึ้นมากพอสมควรในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
กองคาราวานพ่อค้าจำนวนมากที่เดินทางไปใกล้ป่าเพื่อไปยังเมืองอื่นๆ จึงถูกพวกมันโจมตี ดังนั้นคฤหาสน์ของเราจึงได้รับคำขอให้แก้ไขสถานการณ์นี้ เช่นนั้นเราจึงมาที่นี่เพื่อช่วยลดจำนวนพวกมันลงได้บ้าง” เอมิลี่อธิบาย
“อ๋อ! เป็นอย่างนั้นจริงๆ” หลังจากฟังเธอพูด แม็กซ์ก็ตระหนักได้ว่า ถ้าอยากสัมผัสประสบการณ์บางอย่าง ก็ให้ลงมือทำ เพราะจากการำสิ่งนี้นี้ แม็กซ์ยังมองเห็นว่าถึงแม้สัตว์อสูรเหล่านี้จะแข็งแกร่ง แต่ก็สามารถจัดการได้ง่าย ดังนั้นจึงจะทำให้เขาไม่กลัวสัตว์อสูรอีกต่อไป
แม็กซ์ส่ายหัวในใจเมื่อได้ยินเช่นนี้ เธอคิดว่าเขาจะกลัวเพียงเพราะถูกโจมตีเพียงครั้งเดียวอย่างนั้นจริงหรือ
ไม่หรอก เขาแค่ต้องการเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองก่อนออกผจญภัยก็เท่านั้น
เขาหันความสนใจไปที่เอวที่เรียวบางและเรียบเนียนของลิลลี่ เขาเอาหัวพิงไหล่ขวาของเธอและสูดกลิ่นของเธอ เขาเริ่มรู้สึกหื่นกระหายและ 'น้องชายคนเล็ก' ของเขาซึ่งไม่ได้ตัวเล็กเลยก็เริ่มลุกขึ้นและแทงตัวเองเข้าที่หลังของลิลลี่ในที่สุด
จู่ๆ ลิลลี่ก็ตัวสั่นเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ทำอะไรและขี่ม้าต่อไป แต่…
แม็กซ์ก็ควบคุมตัวเองได้และไม่ทำอะไรเพิ่มเติมเพราะมีเอมิลี่และคนอื่นๆ อยู่กับพวกเขา
หลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดพวกเขาก็พบกับเสือดำตัวหนึ่งที่มีลายแดงทั่วทั้งตัว มันสูง 3 เมตรและตัวใหญ่โตมาก มันดูดุร้ายมาก แต่ลูกทีมทุกคนรวมถึงลิลลี่ก็ไม่มีใครกลัวเลย สิ่งนี้ทำให้แม็กซ์ประหลาดใจเพราะเขารู้ว่าลิลลี่เป็นเพียงคนรับใช้ ในสถานการณ์เช่นนี้เธอจะสงบสติอารมณ์ได้อย่างไร?
“ว้าว เสือดำลายแดงนี่เทียบได้กับนักเวทย์ระดับหนึ่งดาวเลยนะ” อัศวิน
“ใช่แล้ว มันเป็นคู่ต่อสู้ที่ดี สามารถต่อสู้กับนักเวทย์ระดับหนึ่งดาว 2-3 คนพร้อมกัน”
“มันเป็นโอกาสที่ดีที่จะแสดงความแข็งแกร่งของเราต่อหน้าคุณหนูเอมิลี่”
อัศวินทุกคนต่างตื่นเต้นและอยากต่อสู้เพื่อแสดงความแข็งแกร่งต่อหน้าเอมิลี่ หากนักเวทย์ระดับสองดาวรับพวกเขาเป็นลูกน้อง ก็จะง่ายมากที่พวกเขาจะพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเองได้
“เงียบ!” เอมิลี่ยกมือขึ้นและตะโกน
หลังจากที่เธอตะโกน ทุกคนก็หยุดพูดคุยและมุ่งความสนใจไปที่เธอ
เอมิลี่หันไปหาแม็กซ์แล้วพูดว่า “ตอนนี้อัศวินเหล่านี้จะต่อสู้กับเสือตัวนี้ ดูดีๆ นะ”
“พวกนายสามคนไปฆ่ามันซ่ะ” เอมิลี่ชี้ไปที่เสือแล้วสั่ง เมื่อพูดจบ อัศวินสามคนก็ชักดาบออกมาและร่ายมนตร์บางอย่าง
“เอมิลี่ ทำไมพวกเขาถึงดึงอาวุธออกมา พวกเขาไม่สามารถใช้เวทมนตร์ฆ่ามันได้งั้นเหรอ?” แม็กซ์ถามเธอด้วยความสับสน
เอมิลี่มองแม็กซ์ราวกับว่าเธอกำลังมองคนโง่ จากนั้นเธอจึงอธิบายว่า "เว้นแต่นายจะเป็นจอมเวทย์ระดับเจ็ดดาวหรือพูดอีกอย่างก็คือ เว้นแต่นายจะเป็นจอมเวทย์ระดับราชาหรือสูงกว่านั้น นายจะไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้โดยตรงหากไม่มีสื่อกลาง ดาบเหล่านี้ถูกเสกด้วยเวทมนตร์ มันเป็นสื่อกลางเพื่อร่ายคาถาและทำสิ่งต่างๆ หากไม่มีสิ่งเหล่านี้ พวกเขาก็ไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้"
“เอ่อ... ทำไมถึงต้องใช้สื่อกลางถึงจะใช้เวทมนตร์ในการต่อสู้ได้” แม็กซ์ถามอีกครั้งด้วยความอยากรู้
“นั่นเป็นเพราะว่าเราไม่สามารถควบคุมมานาได้ดีพอ และมานาก็มีธรรมชาติที่บ้าคลั่ง ดังนั้นมันมักจะส่งผลเสียเมื่อเราพยายามใช้เวทมนตร์ขั้นสูงหรือในการต่อสู้ที่ต้องใช้การควบคุมที่แม่นยำ หากมีข้อผิดพลาดแม้แต่ครั้งเดียวก็อาจทำให้นายเสียชีวิตได้ แต่หลังจากที่นายกลายเป็นจอมเวทย์ราชาหรือเหนือกว่านั้น การควบคุมมานาของนายก็ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งแล้ว ดังนั้นจึงใช้งานง่ายตามที่นายต้องการ” เอมิลี่อธิบาย
“นั่นหมายความว่าจำเป็นต้องมีสื่อกลางจึงจะใช้เวทย์มนตร์ได้ใช่ไหม? แต่ถ้าฉันไม่ใช่จอมเวทย์ราชาและไม่อยากใช้ดาบหรืออาวุธอื่นๆ ฉันก็ทำอะไรไม่ได้เลยงั้นหรือ?” แม็กซ์ถามออกมา
“ในกรณีนี้นายสามารถใช้ 'เครื่องราง' ได้ มันมีเครื่องรางพิเศษสำหรับจุดประสงค์นั้น นายสามารถสวมใส่มันแล้วจึงใช้เวทมนตร์ในการต่อสู้หรืออะไรก็ได้ที่นายต้องการ แต่ต้องทำหลังจากที่นายควบคุมมานาภายในของนายได้แล้วเท่านั้น นอกจากนี้เครื่องรางเหล่านั้นยังมีราคาแพงมากอีกด้วย” เอมิลี่ยิ้มหลังจากพูดประโยคสุดท้ายจบ
ปัง! ปัง! ปัง!
จากนั้นพวกเขาก็มุ่งความสนใจไปที่การต่อสู้ เสือดำเคลื่อนไหวเร็วมากและโจมตีด้วยกรงเล็บเป็นครั้งคราวและยิงลำแสงสีดำออกมาจากปากของมัน
อัศวินบางคนก็ร่ายมนตร์บางอย่าง ดาบของพวกเขาบางเล่มก็เรืองแสง ในขณะที่บางเล่มก็ยิงลูกศรมานา มานารูปดาบ ฯลฯ จากดาบของพวกเขา เราสามารถเห็นการโจมตีของพวกเขาเคลื่อนไหวได้ด้วยตาเปล่า มันเป็นฉากเหมือนกับในหนังเลย
“น่าทึ่งมาก! นี่มันสุดยอดมาก ..สถานที่นี่เป็นโลกมหัศจรรย์จริงๆ ฉันสงสัยว่าพวกเขาจะบินได้ด้วยหรือป่าว?” แม็กซ์สงสัย….
………………………