บทที่ 498: หลินเฉิน ปะทะ จิเรนและโกคู
【แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ】
【แค่ คอมเมนต์ ก็เหมือนการให้กำลังใจแล้วนะครับ รบกวน comment กันหน่อยน๊า ;-;】
【Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย】
บทที่ 498: หลินเฉิน ปะทะ จิเรนและโกคู
หา!
หลังจากได้ยินคำพูดของบิลส์ ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างรู้สึกงุนงงสงสัย
เหตุใดโกคูถึงมีร่างนำใจกายนำจิตได้? นี่มันขอบเขตพลังที่แม้แต่หลินเฉินยังไม่อาจเอื้อมถึง แล้วเหตุใดโกคูที่ไม่ได้ติดหนึ่งในสองของจักรวาลที่ 7 จึงสามารถเรียนรู้ได้? เบื้องหลังเรื่องนี้มีเหตุผลอันใดซ่อนเร้นอยู่?
“หรือว่าจะเป็นตอนนั้น?” พิคโกโร่ที่นั่งอยู่ริมขอบพึมพำขึ้นมาทันที
ในการประลองชิงจ้าวยุทธภพทั่วจักรวาลครั้งนี้ พิคโกโร่คือคนแรกของจักรวาลที่ 7 ที่ถูกกำจัด เขาจึงไม่ได้รับความสนใจจากเทพทำลายล้างอย่างบิลส์เลยแม้แต่น้อย ถูกเมินเฉยราวกับเป็นเพียงอากาศธาตุ
ทว่าบัดนี้ เมื่อบิลส์ได้ยินคำพึมพำของพิคโกโร่ ดวงตาของเทพทำลายล้างกลับเปล่งประกายขึ้น
“พิคโกโร่ เจ้าพูดว่าอะไรนะ เมื่อไหร่?” เสียงหวือดังขึ้นพร้อมกับร่างของบิลส์ที่ปรากฏกายขึ้นเคียงข้างพิคโกโร่ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งพลางเอ่ยถาม
พิคโกโร่รู้สึกถึงแรงกดดันจนใจสั่น รีบตอบอย่างตะกุกตะกัก “ท่านบิลส์ ประมาณครึ่งเดือนก่อน โกคูได้ไปเยือนวังพระเจ้าครับ”
“ข้ารู้ เขาบอกว่าไปฝึก... หรือว่าจะเป็นตอนนั้นกันนะ? แต่เดี๋ยวก่อน ร่างนำใจกายนำจิตไม่ใช่เคล็ดวิชาเฉพาะของเหล่าเทวดาหรอกเหรอ? โกคูเรียนรู้ได้เองบนโลกมนุษย์ได้ยังไงกัน?”
“เอ่อ... ผมคาดว่า มิสเตอร์โปโป้ อาจจะเป็นผู้ถ่ายทอดวิชานี้ให้เขาก็เป็นได้ครับ”
“โปโป้? แล้วนั่นใครอีกล่ะ?” บิลส์ถามด้วยความฉงน
หารู้ไม่ว่าการคาดเดาของพิคโกโร่นั้นแม่นยำยิ่งนัก โกคูได้ฝึกฝนวิชาร่างนำใจกายนำจิตสำเร็จลุล่วงแล้วภายใต้การชี้แนะของมิสเตอร์โปโป้
ย้อนเวลากลับไปครึ่งเดือนก่อน...
ณ วังพระเจ้าบนสรวงสวรรค์
“คุณโกคู คุณกำลังตามหามิสเตอร์โปโป้อยู่เหรอครับ?” เดนเด้มองโกคูด้วยแววตาฉงนเมื่อร่างของชายหนุ่มปรากฏขึ้นตรงหน้าอย่างรวดเร็วราวกับวาป
“ใช่แล้วล่ะเดนเด้ ฉันมีเรื่องสำคัญอยากจะปรึกษากับมิสเตอร์โปโป้เป็นการส่วนตัวน่ะ” โกคูกล่าวพลางแย้มยิ้ม
“ถ้าเช่นนั้นเชิญเลยครับ” เดนเด้พยักหน้ารับ ก่อนจะผละจากไป ปล่อยให้มิสเตอร์โปโป้อยู่กับโกคูเพียงลำพัง
เมื่อโกคูเดินจากไปไกลพอสมควร เขาก็หมุนตัวกลับมาหามิสเตอร์โปโป้ ก่อนเอ่ยถาม “มิสเตอร์โปโป้ ผมอยากถามคุณว่า คุณพอจะสอนเรื่องร่างนำใจกายนำจิตให้ผมให้ผมได้ไหมครับ?”
มิสเตอร์โปโป้ยืนนิ่งสงบ มือประสานไว้ด้านหลัง ใบหน้ายังคงเรียบเฉย ไร้ซึ่งคำตอบใด ๆ กลับไปยังโกคู
เห็นดังนั้นโกคูจึงเอ่ยว่า “มิสเตอร์โปโป้ ไม่ต้องปิดบังผมหรอก! บอกตามตรง เมื่อไม่นานมานี้ ผมอยากเรียน”ร่างนำใจกายนำจิต“กับคนอื่น แต่เขาบอกให้ผมเข้าใจด้วยตัวเอง เพราะเขาเห็นว่าผมมีพื้นฐานของ”ร่างนำใจกายนำจิต“อยู่แล้ว คน ๆ นั้นชื่อ เทวดา วิส มิสเตอร์โปโป้รู้จักเขาไหม?”
โกคูพูดความจริง
เพราะรู้ว่า “ศึกชิงจ้าวยุทธภพทั่วจักรวาล” ซึ่งจะมีนักสู้ยอดฝีมือจากแปดจักรวาลเข้าร่วม จะจัดขึ้นในอีกครึ่งเดือนข้างหน้า ความกระหายในพลังที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นจึงพลุ่งพล่านในใจของเขา ไม่ต่างจากนักสู้คนอื่น ๆ ที่ต่างเตรียมตัวเพื่อการประลองครั้งสำคัญนี้
เหลือเวลาอีกเพียงครึ่งเดือน วิธีที่จะเพิ่มพลังได้นั้นมีอยู่อย่างจำกัด วิธีแรกที่โกคูคิดถึงคือการเรียนรู้ “ร่างนำใจกายนำจิต” ซึ่งหลินเฉินและบิลส์เคยแสดงให้ประจักษ์ในการต่อสู้
ด้วยเหตุนี้ โกคูจึงตรงไปขอคำแนะนำจากวิสโดยเฉพาะ
แต่วิสกลับชี้แนะโกคูเพียงไม่กี่ครั้งก็หยุด พร้อมกับเปิดเผยเรื่องน่าตกใจให้โกคูฟัง
ดูเหมือนว่าโกคูจะมีพื้นฐานของ “ร่างนำใจกายนำจิต” ซ่อนเร้นอยู่ในร่างกายอยู่แล้ว
ดังนั้น วิสจึงแนะนำให้โกคูไปหาผู้ที่เคยถ่ายทอดพื้นฐานของ “ร่างนำใจกายนำจิต” ให้เขามาก่อน
โกคูงุนงงอย่างสิ้นเชิง เขาไม่เข้าใจว่าตัวเองได้เรียนรู้พื้นฐานของ "ร่างนำใจกายนำจิต" มาตั้งแต่เมื่อไหร่ และแม้แต่ชื่อของวิสที่เอ่ยถึง เขาก็ไม่คุ้นเคยเอาเสียเลย
จนกระทั่งวิสอธิบายแก่นแท้ของ "ร่างนำใจกายนำจิต" ให้ฟังอย่างละเอียด โกคูจึงพลันนึกถึงใครบางคนขึ้นมาได้ คนที่วิสกล่าวถึง...มิสเตอร์โปโป้!
ย้อนกลับไปในสมัยที่โกคูยังเป็นเด็กน้อย เขาเคยฝึกวิชากับมิสเตอร์โปโป้บนวังพระเจ้า
ในครั้งนั้น มิสเตอร์โปโป้ได้เสกเงาร่างของโกคูขึ้นมา เพื่อฝึกฝนการโต้ตอบโดยสัญชาตญาณ ให้โกคูได้ต่อสู้กับร่างเงาของตนเอง
และตามที่วิสเล่า แก่นแท้ของการฝึกฝนในครั้งนั้น คือพื้นฐานของ "ร่างนำใจกายนำจิต" นั่นเอง
พอเผชิญหน้ากับคำถามของโกคู มิสเตอร์โปโป้จึงเอ่ยขึ้น “โกคู ผมรอวันนี้มานานแล้ว ตอนคุณยังเด็ก ร่างกายของคุณยังแบกรับพลังของ”ร่างนำใจกายนำจิต“ไม่ไหว แต่บัดนี้ ด้วยพลังที่คุณมี อาจเป็นไปได้”
“จริงเหรอ?”
เมื่อเห็นมิสเตอร์โปโป้เอ่ยรับ โกคูก็ดีใจจนตัวสั่นระริก “มิสเตอร์โปโป้ ฉันฝากตัวด้วยนะ! ฉันจะต้องฝึก”ร่างนำใจกายนำจิต“ให้สำเร็จให้ได้!”
“เช่นนั้นคุณต้องเตรียมตัวให้พร้อม ถึงแม้คุณจะมีพื้นฐาน แต่การฝึก”ร่างนำใจกายนำจิต“ให้สำเร็จ แม้แต่เทวดาก็ไม่อาจรับประกันได้”
“ครับ!”
และแล้ว โกคูและมิสเตอร์โปโป้ก็ฝึกฝนร่วมกันเป็นเวลาครึ่งเดือน จนกระทั่งบัดนี้…
ขณะที่โกคูเคลื่อนกายเข้ามาใกล้จิเรนอย่างเชื่องช้า ดวงตาสีเงินของจิเรนฉายแววตื่นตะลึงอย่างเห็นได้ชัด
“โกคู นายก็รู้จักร่างนำใจกายนำจิตเช่นกันอย่างนั้นเหรอ?”
“จิเรน เรามาร่วมมือกันเถอะ! แม้แต่กับร่างนำใจกายนำจิตนี้ พวกเราก็อาจไม่สามารถเอาชนะหลินเฉินได้หรอก พวกเราต้องร่วมมือกัน”
“ร่วมมือ…” แววตาของจิเรนเย็นเยียบลงในฉับพลัน “ฉัน จิเรน ไม่ต้องการความร่วมมือ ฉันไม่ต้องการสหาย นายแค่ยืนดูอยู่เฉย ๆ ก็พอ!”
กล่าวจบ จิเรนก็หันหลังพุ่งตรงไปยังหลินเฉินทันที
“หลินเฉิน คู่ต่อสู้ของนายคือฉัน!”
“ร่างนำใจกายนำจิตสินะ… มาเลย”
แววตาหลินเฉินลุกโชนด้วยเพลิงโทสะ มือของเขายกขึ้น ปล่อยกระสุนพลังนับร้อยพุ่งเข้าใส่จิเรนราวกับกระสุนปืนกล ทว่าภาพน่าสะพรึงกลัวปรากฏขึ้น เมื่อกระสุนพลังเข้าใกล้ จิเรนกลับมองเห็นอนาคตล่วงหน้า ร่างกายเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่ว เดินผ่านห่ากระสุนไปอย่างง่ายดายราวกับเดินเล่นในสวน หลบได้ทุกนัดอย่างน่าเหลือเชื่อ ก่อนจะมาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าหลินเฉิน
หลินเฉินปล่อยหมัดออกไปอย่างรวดเร็ว แต่จิเรนก็หลบได้อย่างแคล่วคล่องว่องไว
ทันใดนั้น หมัดสีเงินขาวก็กระแทกเข้าที่ท้องของหลินเฉินอย่างจัง ความเจ็บปวดแล่นริ้ว ทำให้เขาก้มลง ร่างกายโค้งงอเหมือนกุ้งโดนน้ำร้อน
แต่ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง หลินเฉินกลับแสยะยิ้ม ริมฝีปากขยับกระซิบข้างหูจิเรนแผ่วเบา “ยังไม่พอหรอก!”
“หือ?” จิเรนนิ่งงัน แววตาฉายแววประหลาดใจ
จากนั้น แสงสีแดงก็พวยพุ่งออกมาจากร่างของหลินเฉิน สว่างวาบไปทั่วบริเวณ
“หมัดเจ้าพิภพขั้นสุดยอด!”
บูม! บูม! บูม!
เสียงระเบิดคำรามลั่นท้องฟ้า กึกก้องสะท้านสะเทือน ขณะที่หมัดของหลินเฉินพุ่งทะยานเข้าหาจิเรนด้วยความเร็วเหลือคณานับ
ในทีแรก ร่างสีเงินวาววับของจิเรนยังเคลื่อนไหวหลบหลีกได้อย่างคล่องแคล่วราวกับสายลม แต่ทว่า ภายใต้อิทธิฤทธิ์ของหมัดเจ้าพิภพ ความเร็วของหลินเฉินกลับทวีคูณขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราวกับมังกรทะยานฟ้า
กระทั่งในที่สุด เมื่อความเร็วพุ่งทะลุกำแพงขีดจำกัด แม้แต่ร่างกายที่เคลื่อนไหวด้วยความเร็วเหนือจินตนาการของจิเรนก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงคมหมัดพิฆาตนั้นได้
ทั้งสองปะทะกันดุเดือดในที่สุด!
แต่ทว่า ในเสี้ยววินาทีแห่งความเป็นความตายนั้นเอง ปรากฏมืออีกคู่หนึ่งแทรกเข้ามาขวางกั้นกลางระหว่างคนทั้งสอง ราวกับกำแพงเหล็กกล้า
“โกคู?” จิเรนอุทานเสียงหลงด้วยความแปลกใจ
“จิเรน ร่วมมือกันเถอะ!”
สิ้นคำ โกคูก็พุ่งเข้าร่วมวงการต่อสู้ในทันที โดยไม่ได้รอคำตอบจากจิเรนแม้แต่น้อย
การโจมตีสองครั้งพุ่งเข้าใส่หลินเฉินพร้อมกัน บังคับให้เขาต้องหยุดการรุกคืบลงชั่วขณะ หลังจากหลบพ้นได้ เขาจึงตั้งหลักอีกครั้ง
การต่อสู้กับคู่ต่อสู้สองคนที่เชี่ยวชาญ "ร่างนำใจกายนำจิต" นั้นช่างน่าปวดหัวเหลือเกิน
ในอดีตหลินเฉินเคยใช้ "ร่างนำใจกายนำจิต" ซัดบิลส์จนสะบักสะบอม รู้สึกสะใจยิ่งนัก แต่บัดนี้เขาเข้าใจความรู้สึกของบิลส์อย่างถ่องแท้แล้ว
ไม่ว่าเขาจะรุกไล่เช่นไร คู่ต่อสู้ทั้งสองก็ราวกับใช้กลโกง หลบหลีกการโจมตีของเขาได้อย่างคล่องแคล่ว
สิ่งที่น่าหงุดหงิดใจยิ่งกว่าสิ่งใดคือสีหน้าเรียบเฉยของคนทั้งคู่ ถึงแม้หลินเฉินจะรู้ดีว่าเป็นผลของ "ร่างนำใจกายนำจิต" แต่ก็ยังทำให้เขาเดือดดาลไม่ใช่น้อย
ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_