บทที่ 1156: ไม่รู้จักชื่อนี้จริงดิ?
【แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ】
【แค่ คอมเมนต์ ก็เหมือนการให้กำลังใจแล้วนะครับ รบกวน comment กันหน่อยน๊า ;-;】
【Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย】
บทที่ 1156: ไม่รู้จักชื่อนี้จริงดิ?
กลุ่มของคินเอมอนเองก็ไม่รู้เรื่องของคุโรซึมิ โอโรจิเช่นกัน ก่อนที่สงครามใหญ่กับไคโดจะเริ่ม พวกเขาที่เป็นเพียงแค่คนอ่อนแอถูกไล่ออกมา คินเอมอนคิดว่าโอโรจิหลอกโคสึกิ โอเด้ง และตอนนี้โอโรจิน่าจะเป็นผู้ปกครองที่นี่
แต่คำตอบที่เขาได้รับกลับทำให้เขาตกใจ ปีศาจตนนั้นตายไป 20 ปีแล้ว
นั่นหมายความว่า ตอนที่พวกเขาถูกส่งมาอนาคต โอโรจิก็ตายไปแล้ว
"พี่ฮิโตะ พี่พูดผิดแล้ว คนที่ฆ่าโอโรจิไม่ใช่ท่านวินยราช แต่เป็นเทพเจ้าอามัตสึมิกาโบชิต่างหาก"
ชายหนุ่มร่างผอมบางใส่แว่นที่อยู่ด้านหลังสะกิดหัวโจกนักเลงแล้วแก้ไขคำพูดของเขา
ไม่ว่าจะเป็นโอนิฮิเมะ วิทยราช ยามาโตะ หรือไคโด ต่างก็มีชื่อเรียกพิเศษของตัวเอง อาร์เซอุสก็เช่นกัน
ในตำนานของวาโนะคุนิ เทพเจ้าอามัตสึมิกาโบชิเป็นเทพเจ้าในตำนาน ภายใต้อิทธิพลของลัทธิอาร์เซอุส ความเชื่อดั้งเดิมของวาโนะคุนิจึงเปลี่ยนไป
ชื่อเป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ เทพเจ้าแห่งการสร้างสรรค์มีชื่อเรียกต่างกันไปในแต่ละยุคสมัยและภูมิภาค อีกทั้งพลังที่อาร์เซอุสแสดงออกมาก็ทำให้ชาววาโนะเชื่อว่าเขาคือเทพเจ้าอามัตสึมิกาโบชิ ซึ่งเป็นคำอธิบายเดียวสำหรับปาฏิหาริย์เหล่านั้น
"หา? นายบอกว่าฉันพูดผิด?"
"นายก็รู้อยู่ว่าประวัติศาสตร์นายได้คะแนนเท่าไหร่ ป้าโยชิมิถึงให้ฉันมาติวให้นายไง ฉันถึงได้ออกมาด้วย"
"อะแฮ่ม ๆ งั้นเราแก้คำตอบใหม่ เป็นเทพเจ้าอามัตสึมิกาโบชิที่ฆ่าเขา"
เมื่อเผชิญหน้ากับความจริง เขาก็เลือกที่จะยอมแพ้ ไม่ยืนกรานในคำตอบที่ผิดของตัวเอง
การที่โอโรจิตาย ถือเป็นข่าวดีสำหรับคินเอมอน แต่สำหรับคันจูโร่แล้วไม่ใช่
แม้คันจูโร่จะเป็นข้ารับใช้ของโคสึกิ โอเด้ง แต่เขาก็เป็นคนของตระกูลคุโรซึไม่เช่นกัน มีชื่อเต็มว่าคุโรซึมิ คันจูโร่ ตัวตนที่แท้จริงคือสายลับที่โอโรจิส่งมา
ในไทม์ไลน์เดิม เขาคอยส่งข่าวให้โอโรจิตลอด แต่ตอนนี้พอข้ามเวลามา 20 ปี ข่าวแรกที่ได้รับคือเจ้านายของตัวเองตายไปแล้ว
แม้เขาจะเป็นสายลับมากประสบการณ์ สีหน้าก็ยังแข็งค้างไปชั่วขณะ แต่ก็กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว
คันจูโร่ใช้ชีวิตอยู่กับการแสดงบทบาทมาตลอด หลังจากพ่อแม่เสียชีวิต เขาก็พบความสุขได้จากการแสดงเป็นคนอื่นเท่านั้น ช่วงเวลานี้ เขาได้สวมบทบาทเป็นข้ารับใช้ของตระกูลโคสึกิอย่างสมบูรณ์
เมื่อมีคำสั่งจากโอโรจิ คันจูโร่ก็พร้อมที่จะทรยศได้ทุกเมื่อ แต่เมื่อไม่มีโอโรจิแล้ว เขาก็จะสวมบทบาทปัจจุบันอย่างเต็มที่ กลายเป็นข้ารับใช้ที่แท้จริง คิดและทำเพื่อโคสึกิ โมโมโนะสุเกะอย่างสุดหัวใจ
"วิทยราช? เทพเจ้าอามัตสึมิกาโบชิ? นั่นใครกัน?"
"ท่านไคโดกับท่านอาร์เซอุสไง พวกแกเป็นรายการอะไรกันเนี่ย ถามคำถามแบบนี้ได้ด้วยเหรอ?"
การจะหาคนที่ไม่รู้จักชื่อไคโดในวาโนะคุนิยุคปัจจุบันนั้นยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร ความลังเลและการพึมพำของคินเอมอนทำให้คนตรงหน้าเริ่มสงสัย
เมื่อเจอสถานการณ์แบบนี้ พวกเขาทั้งสามจึงเลือกที่จะเผ่นแน่บ นักเลงธรรมดาไม่มีทางวิ่งตามพวกเขาได้ทัน ก่อนที่กลุ่มคนพวกนั้นจะพูดอะไรออกมา คินเอมอนกับพวกก็หายวับไปแล้ว
เมื่อฮิโตะเปิดกระเป๋าใบนั้นดู กลับพบว่าข้างในมีแต่ก้อนหิน
"พวกสารเลวนี่ รายการแกล้งคนเหรอ?"
วาโนะคุนิสงบสุขมานาน แม้จะเกิดเรื่องแบบนี้ สิ่งแรกที่พวกเขาคิดก็ไม่ใช่ว่าเจอมิจฉาชีพ แต่เป็นการแกล้งกันเล่น ๆ
"ไม่สิ เป็นไปไม่ได้ ไม่มีใครกล้าเอาท่านวิทยราชมาล้อเล่น ไปแจ้งความที่หน่วยชินเซ็นกุมิกันเถอะ บอกว่าเจอมิจฉาชีพ ฉันว่าพวกนี้มีพิรุธ"
เพียงไม่กี่คำพูด ก็มีคนเริ่มสงสัยพวกเขาแล้ว ช่องว่างระหว่างยุคสมัย 20 ปีนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะลบเลือน คำพูดของพวกที่มาจาก 20 ปีก่อนดูไม่เข้ากับวาโนะคุนิในยุคปัจจุบัน
เรื่องนี้ก็ช่วยไม่ได้ วาโนะคุนิ 20 ปีมานี้พัฒนาไปเร็วมาก ทั้งความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนและเทคโนโลยี
ถ้าให้คน ๆ หนึ่งข้ามเวลาจากยุค 2000 มาสู่ยุคปัจจุบัน เขาก็คงจะสับสนไม่แพ้กัน เพียงแต่สภาพแวดล้อมของคินเอมอนกับพวกอันตรายกว่า
หลังจากเปลี่ยนไปถามคนหลายคน พวกเขาก็พอจะเข้าใจสถานการณ์คร่าว ๆ
แต่ไม่ว่าจะเป็นใคร ต่างก็พอใจกับชีวิตในตอนนี้ มีคนเสียดายที่โอเด้งตายไปแล้ว และคิดว่าโอเด้งคงจะมีความสุขถ้าได้เห็นสภาพในตอนนี้ แต่ไม่มีใครคิดถึงชีวิตในสมัยก่อนเลยสักคน
ขณะเดียวกัน พวกเขาก็ได้รู้ว่า โชกุนของวาโนะคุนิในตอนนี้คือโคสึกิ ฮิโยริ
"ท่านฮิโยริได้เป็นโชกุนงั้นเหรอ?"
"เด็นจิโร่กับคนอื่น ๆ ก็อยู่ที่นี่ แถมยังเป็นขุนนางด้วย? เราควรจะไปหาพวกเขามั้ย?"
"ไม่ พวกเขาน่าจะถูกบังคับ มีคนคอยจับตาดูพวกเขาอยู่แน่ ๆ ถ้าเราไปหาพวกเขา ก็เท่ากับเอาตัวเข้าไปติดกับดักน่ะสิ"
คินเอมอนปฏิเสธข้อเสนอนี้ จากนั้นไรโซก็เสนอความคิดใหม่
"ไปถามเฮียวโกโร่ล่ะ?"
"เฮียวโกโร่? ตอนนั้นอาจเป็นเขาที่ทรยศท่านโอเด้งก็ได้ ไปหาเขาจะมีประโยชน์อะไร? ที่นี่อันตรายเกินไป รีบหนีออกไปกันเถอะ"
เฮียวโกโร่ไม่ได้ปรากฏตัวในสนามรบครั้งสุดท้าย อีกทั้งชื่อของเขายังอยู่ในรายชื่อที่กลุ่มร้อยอสูรจงใจปล่อยออกมา พวกเขาจึงไม่ไว้ใจเฮียวโกโร่เช่นกัน สำหรับพวกเขาตอนนี้ วาโนะคุนิเต็มไปด้วยเรื่องน่าสงสัย
พวกคนหนุ่มสาวรู้ว่าตระกูลโคสึกิเป็นโชกุน แต่กลับไม่เคารพโชกุนเท่าไหร่ เด็กบางคนถึงขั้นจำชื่อโชกุนไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่ไม่ว่าใครก็ตาม ต่างก็พูดถึงแต่คุณงามความดีของท่านวิทยราช
ในสายตาของคินเอมอน วาโนะคุนิทั้งประเทศถูกชะล้างสมองแล้ว ตอนนี้วาโนะคุนิน่ากลัวเกินไป พวกเขาต้องรีบหนีออกจากที่นี่ เพื่อหาโอกาสขอความช่วยเหลือจากภายนอก แล้วขับไล่ไคโดออกไป
ในเวลาเดียวกัน หน่วยชินเซ็นกุมิแห่งคุริก็ได้รับแจ้งความหลายครั้ง ประชาชนจำนวนมากแจ้งว่าพบกลุ่มคนแปลกหน้า ดูเหมือนจะทำการหลอกลวง เพื่อสืบหาความจริง หน่วยชินเซ็นกุมิจึงเริ่มส่งคนออกไปสืบสวนคดีนี้
มีการส่งกำลังคนออกไปมากมาย ช่วงนี้วาโนะคุนิสงบสุขเกินไป นอกจากการลักขโมย ทะเลาะวิวาท และอาชญากรเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้ว ก็แทบไม่มีคดีร้ายแรงเกิดขึ้นเลย
สำหรับประชาชน นี่เป็นเรื่องดี แต่ก็หมายความว่าหน่วยชินเซ็นกุมิไม่มีผลงาน ตอนนี้มีแก๊งมิจฉาชีพโผล่มา ถือเป็นผลงานอันล้ำค่า คนที่ว่างงานเกือบทั้งหมดจึงออกไปสืบสวน
ฝั่งคินเอมอนเพิ่งเสร็จสิ้นการสำรวจของตัวเอง กำลังจะกลับไปรวมตัวกับโมโมโนะสุเกะ แต่โมโมโนะสุเกะกลับพบกับคนอื่นเสียก่อน
เหมียวกับวูล์ฟอยู่ห่างจากจุดที่โมโมโนะสุเกะกับพวกปรากฏตัวเพียงแค่เนินดินเตี้ย ๆ ตอนที่ไรโซสำรวจรอบ ๆ พวกเขากำลังจับปลาอยู่ในน้ำ ไรโซจึงไม่ทันสังเกตเห็น
แต่พอแมวเหมียวกับวูลฟ์เริ่มตัดต้นไม้ทำแพ เหมียวกับวูล์ฟก็สังเกตเห็นพวกเขา
"พี่ชาย ตรงนี้ไม่ใช่เขตตัดไม้ใช่มั้ย?"
เสียงต้นไม้ล้มและฝูงนกที่บินหนีไปทำให้พวกเขาสนใจ วาโนะคุนิมีพื้นที่ป่าไม้ไม่น้อย ต้นไม้เหล่านี้มีทั้งต้นผลไม้เศรษฐกิจ ต้นไม้ที่ใช้เป็นวัสดุก่อสร้าง และป่าปลูกเร็วที่ใช้เป็นเชื้อเพลิง
ป่าปลูกเร็วอนุญาตให้ตัดได้อย่างอิสระ ส่วนพื้นที่อื่น ๆ อนุญาตให้เก็บแค่กิ่งไม้แห้งที่ร่วงหล่นเท่านั้น เสียงดังขนาดนี้ชัดเจนว่าผิดกฎ
"ไม่ใช่ ไปดูกันเถอะ ทำไมถึงมีคนมาตัดไม้ที่นี่ได้"
วูล์ฟที่ปีนขึ้นมาจากแม่น้ำสะบัดน้ำออกจากตัว ก่อนหน้านี้มีแค่เขากับเมโลที่ลงไปในน้ำ เหมียวนั่งย่างปลาอยู่ริมฝั่งตลอด
เมโลเป็นมนุษย์เงือก วูล์ฟไม่สนใจ แต่เหมียวไม่อยากให้ขนเปียก
แต่การไม่ได้ลงน้ำไม่ได้หมายความว่าเธอไม่มีวิธีจับปลา เถาวัลย์ที่ยื่นออกมาจากฝ่ามือของเธอบ่งบอกวิธีจับปลาของเธอได้เป็นอย่างดี
"เมโล เธอกับคุมะรอพวกเราอยู่ที่นี่นะ จำไว้ว่าดูไฟด้วย อย่าให้ปลาไหม้ล่ะ พวกเรากลับมาเร็ว ๆ นี้"
"โอเค ฉันรู้แล้ว"
สองพี่น้องไม่ได้พาเมโลไปด้วย แต่ให้เธออยู่กับคิเทรุกุมะ ถึงจะมีสัตว์ร้ายตัวไหนบังเอิญวิ่งมาที่นี่ในช่วงนี้ สุดท้ายก็คงจะโดนคิเทรุกุมะตบออกไปเท่านั้น
"ท่านโมโมโนะสุเกะ กรุณาหลบหน่อย เดี๋ยวจะโดนไม้ทับเอานะขอรับ"
อินุอาราชิให้โมโมโนะสุเกะย้ายไปอยู่ในตำแหน่งที่ปลอดภัย แล้วก็กลับไปทำหน้าที่ตัดไม้ต่อ การต่อแพสองคนนั้นค่อนข้างลำบาก แต่โมโมโนะสุเกะก็ไม่ได้ช่วยอะไร แค่ยืนดูอยู่ข้าง ๆ ด้วยความกังวลใจ
ความทรงจำของเขายังคงหยุดอยู่ที่ปราสาทโอเด้งที่กำลังลุกไหม้ ความกลัวในตอนนั้นยังไม่จางหายไป
กระแสน้ำรอบนอกของวาโนะคุนิค่อนข้างอันตราย พวกเขาจึงอยากจะสร้างเรือให้แข็งแรง ดังนั้นจึงต้องตัดไม้จำนวนมาก
ตอนที่อินุอาราชิกับเนโกะมามุชิกำลังจะตัดไม้ต่อ ก็มีเสียงตะโกนดังมาจากข้าง ๆ
"หยุดนะ! ใครอนุญาตให้พวกนายมาตัดไม้ที่นี่!"
"ใช่แล้ว พวกนายมากับใคร? ถ้ายังทำแบบนี้อีก ต่อไปจะไม่ได้มาเที่ยวที่นี่แล้วนะ!"
เสียงของเหมียวกับวูล์ฟดังขึ้นติด ๆ กัน ลักษณะเด่นของเผ่ามิ้งค์นั้นสังเกตได้ง่าย เพียงแค่เหลือบมองก็รู้ เหมียวกับวูล์ฟจำหน้าอินุอาราชิกับเนโกะมามุชิไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไร
เผ่ามิ้งค์บนโซวมีเยอะ พวกเขาไม่ได้จำทุกคนได้ จำได้แค่เพื่อนเล่นของตัวเองเท่านั้น
ทุกปีจะมีเผ่ามิ้งค์ที่ไม่เคยมาวาโนะคุนิมาก่อนมาเที่ยวพักผ่อนที่นี่ พวกเขาจึงค่อนข้างชินแล้ว แต่อินุอาราชิกับเนโกะมามุชิกลับทำสิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกผิดปกติ
"เด็กน้อย อย่ามายุ่งกับงานของผู้ใหญ่"
เนโกะมามุชิก้มหน้าทำงาน ไม่สนใจทั้งสองคนเลย แค่เหลือบมองเล็กน้อยก็ตัดไม้ต่อ ซึ่งนี่แหละคือจุดที่ไม่สมเหตุสมผลที่สุด
พวกเขาจำคนบนโซวไม่ได้ก็จริง แต่คนบนโซวจำพวกเขาได้ ลูกของท่านดยุคคนปัจจุบัน และยังเป็นลูกของท่านดยุคที่พิเศษที่สุดในประวัติศาสตร์อีกด้วย
ไม่ต้องพูดถึงเผ่ามิงค์ที่อาศัยอยู่บนโซว แม้แต่ลินด์เบิร์กที่ไม่ค่อยได้กลับบ้านยังจำพวกเขาได้
"พวกเจ้าสองคนเป็นเผ่ามิงค์มาจากไหนกัน?!"
ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_