บทที่ 10 การล่าสัตว์อสูรและการปลุกเร้า
บทที่ 10 การล่าสัตว์อสูรและการปลุกเร้า
หลังจากนั้นไม่นาน เสือดำลายแดงก็ถูกฆ่าตาย
แต่พวกเขาก็ไม่หยุดและเดินสำรวจป่าต่อ พวกเขาพบสัตว์อสูรหลายสายพันธุ์
หลังจากเข้าไปในบริเวณที่ลึกลงไปแล้ว พวกเขาต้องการพักผ่อนเพราะทุกคนเหนื่อยล้าแล้ว
เอมิลี่สั่งให้อัศวินย่างเนื้อสัตว์เพื่อเติมท้องให้อิ่ม
พวกเขาเลือกที่จะย่างเหยื่อแรกของพวกเขาซึ่งก็คือเสือดำลายแดง เนื่องจากเนื้อของมันมีคุณค่าทางโภชนาการสูงและมีมานาเป็นจำนวนมาก
"กรีด!"
ขณะที่พวกเขากำลังจะเข้าไปในป่าลึกเพื่อล่าสัตว์อสูรอีกครั้ง ก็มีเสียงร้องแหลมสูงดังขึ้นในบริเวณนั้น
เมื่อพวกเขามองไปยังที่มาของเสียง พวกเขาก็ตะลึงเมื่อเห็นนกตัวใหญ่ตัวหนึ่งซึ่งมีปีกกว้างแปดถึงสิบเมตร มันเป็นเหยี่ยวแดงที่มีจะงอยปากแหลมและขนสีแดงแวววาว
“บ้าเอ้ย! นั่นมันสัตว์อสูรระดับสองดาว” อัศวินสาปแช่งด้วยความสยองขวัญ
“สัตว์อสูรระดับสองดาวเหรอ? โชคไม่ดีเลยที่เราต้องเจอสัตว์อสูรตัวนี้ในวันนี้” อัศวินอีกคนพูดด้วยความหงุดหงิด
หลังจากได้ยินเสียงอัศวินพูดและเห็นใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แม็กซ์ก็หันไปมองเอมิลี่โดยสัญชาตญาณ หลังจากเห็นว่าเธอไม่ได้ตื่นตระหนกแต่มีสีหน้าเคร่งขรึม แม็กซ์ก็ไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
แต่เป็นเพราะว่าสีหน้าของเธอดูเฉยเมยเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นเขาจึงโล่งใจที่ไม่เห็นสัญญาณของความกลัวหรือความตื่นตระหนก ซึ่งหมายความว่าเขาไม่ควรกลัวนกตัวนี้เช่นกัน
แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกกลัวเล็กน้อยหลังจากเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเธอ
'เธอจะเอาชนะมันได้หรือเปล่า?' แม็กซ์คิด
“คุณหนู มันเป็นสัตว์อสูรระดับสองดาว เราควรทำอย่างไรดี มันเห็นเราแล้ว ดังนั้นมันจึงไม่ยอมปล่อยเราไปง่ายๆ อย่างแน่นอน” อัศวินที่ค่อนข้างมีอายุในกลุ่มของพวกเขาพูดขึ้น ทุกคนหันไปหาเอมิลี่เพื่อฟังว่าเธอต้องการจัดการกับปัญหานี้อย่างไร
“ก่อนอื่นเลย อย่าตื่นตระหนกและเตรียมตัวช่วยฉัน ถ้าฉันบอกว่าช่วยได้..
..ประการที่สอง ปกป้องคุณชายของพวกนายไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตามในขณะที่ฉันจัดการกับเหยี่ยวแดงตัวนี้ หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเขา ฉันจะเป็นคนฆ่าพวกคุณทั้งหมด เข้าใจไหม!?” เอมิลี่เตือนด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างแข็งกร้าว
“รับทราบขอรับ คุณหนู!” ทุกคนพูดพร้อมกัน
แม็กซ์รู้สึกซาบซึ้งใจที่เห็นเธอเอาใจใส่เขา แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกอายกับความอ่อนแอของตัวเองด้วย หากตอนนี้เขาแข็งแกร่งพอ เขาก็สามารถเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรตัวนี้ได้ด้วยตัวเอง ในฐานะลูกผู้ชาย ความภาคภูมิใจของเขาถูกบั่นทอนเล็กน้อย แต่เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากดูเอมิลี่ต่อสู้กับมัน
"กรี๊ด~"
สัตว์อสูรนั้นบินอยู่เหนือพวกเขา แล้วก็พุ่งลงมาด้วยเสียงกรี๊ด
เอมิลี่ชักดาบเงินของเธอออก ซึ่งมีความยาวเพียงสามฟุตและเรียวมาก
"พายุเชือดเฉือน!"
เธอฟันสัตว์อสูรด้วยเสียงดังกึกก้องพร้อมกับลมกรรโชกแรงถูกพัดออกจากดาบของเธอ
เมื่อรู้สึกถึงภัยคุกคามจากการฟัน เหยี่ยวแดงก็สะบัดกรงเล็บและทำลายการโจมตีได้อย่างง่ายดาย
จากนั้นมันก็ฟาดกรงเล็บไปที่ทิศทางของเอมิลี่ มันเป็นการเคลื่อนไหวแบบเดียวกับของเอมิลี่แต่มีพลังเป็นสองเท่า เช่นเดียวกับเอมิลี่มันยังสามารถควบคุมธาตุลมได้เหมือนกัน
ในเวลาเดียวกัน เหยี่ยวแดงอีกตัวก็ปรากฏตัวขึ้นและพุ่งเข้าหาแม็กซ์และคนอื่นๆ หลังจากนั้นการต่อสู้ระหว่างอัศวินกับเหยี่ยวแดงตัวที่สองก็เริ่มขึ้น โชคดีที่เหยี่ยวตัวนี้ไม่แข็งแกร่งเท่ากับเหยี่ยวแดงตัวที่เอมิลี่กำลังต่อสู้ด้วย
แม้ว่ามันจะไม่ใช่สัตว์อสูรระดับสองดาว แต่มันก็ใช้การบินและความเร็วที่บ้าคลั่งของมันได้อย่างเหมาะสมที่สุด และค่อยๆ สร้างบาดแผลให้กับพวกเขา เมื่อเห็นเช่นนี้เอมิลี่ก็เริ่มกังวล เพราะเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนที่ฝ่ายกลุ่มของแม็กซ์จะได้รับบาดเจ็บหรืออาจจะเสียชีวิต
"ฮื่ม!"
"พายุเชือดเฉือนแปดทิศทาง!"
เอมิลี่สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วฟันออกไปแปดครั้งติดต่อกัน แต่ละครั้งนั้นรุนแรงกว่าการโจมตีครั้งก่อนของเธอ
ฟันของเธอสองครั้งทำลายการโจมตีของเหยี่ยวแดง ในขณะที่อีกหกครั้งที่เหลือโจมตีมันจากทิศทางต่างๆ และกำหนดเป้าหมายไปที่กรงเล็บและคอของมัน
ปัง!
เมื่อเกิดเสียงดังขึ้น กรงเล็บและคอของมันก็ได้รับบาดแผลลึก ซึ่งทำให้เลือดเริ่มไหลลงมาที่พื้น
"กรี๊ด~"
เหยี่ยวแดงร้องเสียงดังด้วยความเจ็บปวด พร้อมกระพือปีกอย่างรวดเร็วและบินหนีไป
เอมิลี่ไม่ได้ขัดขวางมันไม่ให้บินออกไป และแม้ว่าเธอต้องการจะขัดขวางมันไม่สามารถทำได้ ในขณะมันกำลังบินอยู่เธอเหลือบมองเหยี่ยวแดงตัวอื่นที่บินออกไปเหมือนกันทันที
เอมิลี่เดินตรงไปหาแม็กซ์และมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า เมื่อไม่เห็นอาการบาดเจ็บใดๆ เธอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งใจ
“เอมิลี่ เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?” แม็กซ์ถามเอมิลี่ที่กำลังหายใจหอบหนัก
“ใช่ ฉันสบายดี แค่ฉันใช้มานาไปเกือบหมดก็เท่านั้น” หลังจากพูดจบ เธอก็หายใจเข้าลึกๆ หลายครั้งเพื่อสงบสติอารมณ์ขณะหายใจแรงๆ
“เราควรกลับได้แล้ว ดูเหมือนว่าไม่เพียงแต่จำนวนเท่านั้น แต่พลังของสัตว์อสูรเหล่านี้ก็เพิ่มขึ้นด้วย เราเพิ่งผ่านป่ามาได้ครึ่งทางเท่านั้น แต่เรากลับเจอสัตว์อสูรระดับสองดาวแล้ว ถ้าเราจะเข้าไปลึกกว่านี้ เราอาจเปลี่ยนจากนักล่าเป็นเหยื่อก็ได้” เอมิลี่พูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
เธอไม่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรระดับสองดาวใดๆ เพราะเธอสามารถต่อสู้กับพวกมันเพียงลำพังและอาจจะฆ่าพวกมันได้ด้วย แต่คงต้องใช้เวลานานทีเดียว ถ้าเธออยู่ที่นี่เพียงลำพังเธอคงฆ่าเหยี่ยวแดงตัวนั้นได้แน่นอน
แต่ตอนนี้ไม่ใช่ เพราะเธอต้องเป็นห่วงความปลอดภัยของแม็กซ์
โดยปกติแล้ว สัตว์อสูรระดับหนึ่งดาวและสองดาวานั้นจะแข็งแกร่งกว่านักเวทย์ที่มีระดับเดียวกัน แต่เนื่องจากนักเวทย์มีความยืดหยุ่น สัตว์อสูรระดับต่ำจึงไม่สามารถเอาชนะนักเวทย์เหล่านี้ได้อย่างง่ายดายในการต่อสู้
ในขณะที่นักเวทย์ที่มีความสามารถบางคนสามารถฆ่าและเอาชนะนักเวทย์ระดับเดียวกันได้
“ใช่แล้ว กลับกันเถอะ” แม็กซ์พยักหน้า ถึงแม้ว่าเขาจะชอบการผจญภัยต่อไป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นอันตรายมากสำหรับพวกเขา
“กลับกันเถอะ” เมื่อพูดจบ เอมิลี่และคนอื่นๆ ก็เดินไปยังบริเวณนอกป่าที่ม้าของพวกเขาผูกอยู่
หลังจากเดินมาเป็นเวลาสองชั่วโมงโดยไม่หยุดและฆ่าสัตว์อสูรบางตัวระหว่างทาง พวกเขาก็มาถึงบริเวณที่อัศวินสองคนกำลังเฝ้าม้าของพวกเขาอยู่
แม็กซ์เหนื่อยและหายใจแรงมากหลังจากเดินมาไกลขนาดนี้ ลิลลี่คอยพยุงเขาไว้ แขนซ้ายของเขาวางพาดอยู่บนไหล่ของเธอ
อัศวินทุกคนมองมาที่เขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความดูถูก แต่พวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะเขาเป็นเจ้านายของพวกเขา และเอมิลี่ก็ใส่ใจเขามากเกินไป ก่อนหน้านี้เธอได้ฆ่าอัศวินคนหนึ่งที่ตำหนิแม็กซ์อย่างโกรธเคืองที่เดินช้า หลังจากนั้นไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีกเลย
“พักสักหน่อยก่อนไป” เอมิลี่สั่ง
ทุกคนนั่งลงเพื่อหายใจ เอมิลี่เดินเข้าไปหาเขาและยื่นยาเม็ดสีเหลืองกลมๆ ให้เขา
“รับสิ่งนี้ไปเถอะ มันจะช่วยฟื้นพลังกายของนายได้”
“เอมิลี่ เธอให้ลิลลี่ด้วยได้ไหม เธอเหนื่อยมากหลังจากคอยช่วยเหลือฉันมาตลอดทาง” แม็กซ์ถามเธอ ขณะที่ลิลลี่ก็หายใจไม่ออกเล็กน้อยเช่นกัน
เอมิลี่มองไปที่ลิลลี่ที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาสักครู่ ราวกับกำลังคิดบางอย่าง จากนั้นก็ให้ยาเม็ดหนึ่งแก่เธอ
หลังจากพักผ่อนเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง ทุกคนก็ขึ้นม้าและขี่ไปที่คฤหาสน์การ์ฟิลด์
แม็กซ์ยังคงนั่งอยู่ข้างหลังลิลลี่เช่นเดิม ขณะที่เขาเหนื่อยล้า เขาก็เพียงเอาหัวพิงไหล่ของเธอและเอามือลูบรอบเอวอันเรียวบางของเธอ
ในขณะที่ม้ากำลังวิ่ง แม็กซ์และลิลลี่ก็ถูตัวกันไปมาเพราะการควบม้า
ไม่นาน 'น้องชาย' ของเขาก็ตื่นตัวและเริ่มจิ้มหลังของเธอ แม็กซ์จับเอวของเธอแล้วให้เธอนั่งบนตักของเขา เขาสัมผัสได้ว่าน้องชายของเขาอยู่ระหว่าง 'เนิน' ที่ยื่นออกมาสองเนินนั้น
ลิลลี่ตัวสั่นเมื่อได้รับรู้สิ่งนี้และอยากจะสร้างระยะห่างระหว่างพวกเขาโดยไม่รู้ตัว แต่แม็กซ์ไม่ยอมให้เธอทำ
แล้วเขาก็กระซิบที่หูเธอว่า “อยู่แบบนี้จนกว่าเราจะถึงบ้าน”
“อืม…” ลิลลี่พยักหน้าและหยุดการต่อต้าน
ตลอดทางกลับบ้าน เขาสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของเธอซึ่งทำให้เขารู้สึกตื่นตัวมากขึ้น ในทางกลับกันลิลลี่ก็หายใจแรงขึ้นเช่นกัน
เมื่อพวกเขามาถึงคฤหาสน์ของพวกเขา แม็กซ์ก็ปล่อยเธอแล้วกระซิบว่า "ไปอาบน้ำแล้วมาที่ห้องของฉัน"
“ได้ค่ะ คุณชาย” ลิลลี่พยักหน้าขณะที่แก้มของเธอแดงเล็กน้อย
“ดี! แล้วเอาอะไรมาให้ฉันกินด้วย” พูดจบแม็กซ์ก็เดินเข้าห้องไป….
………………………