ตอนที่แล้วตอนที่ 98 นิค ฟิวรี่ผิวขาว!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 100 ข้าไม่บอกอะไรเจ้าหรอก แต่ถ้าเจ้าอยากรู้ ก็ลองค้าหาดูเอาเองสิ!

ตอนที่ 99 ผู้พิทักษ์กำแพง และ เดอะวอชเชอร์!


ตอนที่ 99 ผู้พิทักษ์กำแพง และ เดอะวอชเชอร์!

นี่สินะตัวบอสที่แท้จริง!

เอริคยืนยันได้ทันทีว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ก่อนที่เขาจะยกเท้าถีบกลับไปด้านหลังอย่างรุนแรง จนทำให้นิค ฟิวรี่ร่างยักษ์ที่กำลังพยายามลุกขึ้นหมดสติลงทันที

“ฉันควรเรียกคุณว่าอะไรดี? นิค ฟิวรี่? หรือ ‘ผู้พิทักษ์กำแพง’?”

“อะไรก็ได้ทั้งนั้น ชื่อมันก็แค่รหัส ตอนที่ฉันรับหน้าที่นี้ ฉันได้ละทิ้งชื่อของตัวเองไปแล้ว” นิค ฟิวรี่ผิวขาว หรือผู้พิทักษ์กำแพง เดินเข้ามาหานิค ฟิวรี่ร่างยักษ์ช้า ๆ ก่อนจะใช้เท้าเขี่ยเบา ๆ แล้วถามว่า “นายแน่ใจใช่ไหมว่าจะไม่ฆ่าเขา?”

เอริคหรี่ตามองผู้พิทักษ์กำแพง แม้หน้าตาจะคล้ายกับนิค ฟิวรี่บนโลกมาก แต่มีจุดต่างหลายอย่าง อย่างแรกคือ เขาเป็นคนผิวขาว และอย่างที่สอง . . . เขามีผม

ใช่แล้ว นี่คือไข่ต้มที่ทั้งปอกเปลือกและยังมีผมขึ้นอีก! เป็นไข่ต้มฟิวรี่ในรูปแบบของวายร้าย!

“ทำไมฉันต้องฆ่าเขาด้วย?”

“เพราะเขาต้องการฆ่านายไง”

“ไม่ เขาไม่ได้ต้องการ มันเป็นเพราะนายควบคุมเขา นายนั่นแหละที่ต้องการฆ่าฉัน!”

“งั้นนายจะฆ่าฉันไหม? ลองดูสิ!” ผู้พิทักษ์กำแพงดึงปืนพกออกมาและโยนให้กับเอริค

เอริคยื่นมือรับปืนแล้วเปิดดูแมกกาซีนข้างใน ตอนี้กระสุนข้างในกำลังเปล่งแสงสีฟ้าจาง ๆ แฝงไปด้วยพลังงานที่อันตรายจนทำให้เอริครู้สึกขนลุกและดวงตาหดลงเหลือเท่าเข็มหมุด

“กระสุนแกมมา?” เอริคเลื่อนแมกกาซีนกลับเข้าไปในปืนอย่างเบามือและจ้องมองผู้พิทักษ์กำแพง

“ใช่ มันฆ่าได้ทุกคน รวมถึงฉันด้วย เอาสิ ยิงมาเลย!” ผู้พิทักษ์กำแพงค่อย ๆ หลับตาลง พร้อมกับกางแขนเหมือนยอมรับความตาย

เอริคถึงกับพูดไม่ออก แต่ตอนนี้เขาก็เดาเจตนาของผู้พิทักษ์กำแพงได้แล้วในระดับหนึ่ง ดังนั้นเขาจึงโยนปืนกลับไปให้อีกฝ่าย “ถ้านายอยากตายก็ทำเองเถอะ ฉันเป็นคนดีแล้ว!”

“คนดี? ฮึ ไม่มีคนดีในโลกนี้หรอก!” ผู้พิทักษ์กำแพงรับปืนกลับมา ก่อนจะหัวเราะเยาะและลั่นไกยิงนิค ฟิวรี่ร่างยักษ์ที่นอนอยู่บนพื้นจนเสียชีวิตทันที!

“เฮ้! อย่าโหดร้ายขนาดนี้สิ! เขาก็เป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนกันนะ!”

“ภารกิจของเขาสิ้นสุดแล้ว” ผู้พิทักษ์กำแพงหันหลังกลับและเตรียมเดินจากไป “ไปที่กลางห้อง ฉันจะส่งนายกลับโลกให้”

“แค่นี้? นายพาฉันมาที่นี่โดยไม่มีเหตุผล ให้ฉันสู้แบบไม่มีเหตุผล แล้วส่งฉันกลับไปแบบไม่มีเหตุผล?” เอริคก้าวตามไปพร้อมพูดจี้จุด

ผู้พิทักษ์กำแพงหยุดนิ่งชั่วครู่ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ฉันตั้งใจจะเลือกนายเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งของฉัน แต่นายสอบไม่ผ่าน เพราะงั้นอยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์”

“จะให้ฉันไปง่าย ๆ แบบนี้? ฉันขอปฏิเสธ!” เอริคเร่งฝีเท้าขึ้นเดินตัดหน้าผู้พิทักษ์กำแพงและขวางทางไว้ “อย่างน้อยที่สุด ฉันก็อยากเจอ เขา!

“เขา? เขาก็แค่มนุษย์ต่างดาว ไม่ใช่พระเจ้า!” ผู้พิทักษ์กำแพงพูดอย่างเย็นชา อย่างไรก็ตามถึงแม้เขาจะพูดอย่างนั้น แต่เขาก็ไม่ได้พูดการส่งเอริคกลับโลกขึ้นมาอีกครั้ง เขาเพียงโบกมือเปิดประตูที่ซ่อนอยู่บนผนัง ราวกับตกลงตามเงื่อนไขของเอริค

เมื่อเดินผ่านประตูไป เอริครู้สึกว่าร่างกายของเขาเบาขึ้น และสัมผัสได้ถึงสนามแม่เหล็กและสนามแรงโน้มถ่วงที่คุ้นเคยอีกครั้ง พลังพิเศษของเขากลับคืนมาแล้ว!

ทันใดนั้นคลื่นสนามแม่เหล็กก็กระจายตัวไปทั่วฐานทันที แต่สิ่งที่เขาค้นพบกลับเป็นเรื่องไร้สาระทั้งนั้น เพราะความลับที่แท้จริงถูกผู้พิทักษ์กำแพงซ่อนอยู่ใต้เกราะป้องกันสนามแม่เหล็ก

“ฉันไม่เข้าใจ นายควรรู้ว่าฉันมาจากอีกโลกหนึ่ง ทำไมถึงเลือกฉันเป็นผู้สืบทอด?” เอริคถามสิ่งที่อยู่ในใจระหว่างเดินตามผู้พิทักษ์กำแพง

“ตั้งแต่นายมาถึงโลกนี้ ฉันก็จับตามองนายมาโดยตลอด และนายก็เป็นผู้สืบทอดที่เหมาะสม นายเยือกเย็น ไร้ปรานี รู้จักอดทน และรับมือกับความโดดเดี่ยวได้ดี”

ผู้พิทักษ์กำแพงพูดพร้อมเคาะที่ข้อมือ ทันใดนั้นภาพเหตุการณ์ที่เอริคแย่งชิงเซรุ่มซูเปอร์โซลเยอร์หลังจากมาถึงโลกนี้ก็ถูกฉายขึ้นตรงหน้า ทำให้เอริคถึงกับเบิกตากว้าง

ดูเหมือนความลับของเขาจะไม่ใช่ความลับอีกต่อไป! แม้แต่คนธรรมดาอย่างผู้พิทักษ์กำแพงยังสามารถเฝ้าติดตามเขาได้!

“แต่เพราะเหตุผลบางอย่าง หลังจากนายถูกพวกนักเวทกลุ่มนั้นจับไป นายก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนเป็นคนละคน” ผู้พิทักษ์กำแพงเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย “ซึ่งตอนนี้ฉันกำลังสงสัยอยู่ว่าพวกนักเวทพวกนั้นมันล้างสมองนายไปแล้ว!”

เอริคแตะจมูกตัวเองแล้วไม่พูดอะไร เพราะเมื่อลองคิดดูดี ๆ แล้วมันก็จริงอย่างที่ไข้ต้มปลอกเปลือกพูด—จากวายร้ายเยือกเย็นที่กลายเป็นตัวตลกที่พยายามทำความดี ดังนั้นการที่ทุกคนจะรู้สึกแปลกมันจึงเป็นเรื่องปกติ

“ฉันเฝ้าสังเกตการณ์นายมานาน และยากที่จะตัดสินได้ว่ามันผิดพลาดตรงไหน จนต้องตัดชื่อนายออกจากรายชื่อผู้สืบทอด . . . จนกระทั่งวันนี้ ระบบของฉันตรวจพบว่านายกำลังค้นหาเกี่ยวกับ 'ผู้พิทักษ์กำแพง' ฉันเลยอยากลองดูอีกครั้งว่านายยังมีโอกาสที่จะได้รับสืบทอดตำแหน่งนี้ต่อจากฉันไหม”

เอริคกลอกตาทันทีเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ นี่คือคุณค่าของ ‘ผู้พิทักษ์กำแพง’ อย่างนั้นเหรอ? คนที่เป็นคนดีจริง ๆ กลับถูกมองข้าม แต่กับคนเลือดเย็นไร้ความปรานีอย่างเขากลับมีคุณสมบัติเหมาะสม?

“ดวงตาของฉันได้รับบาดเจ็บในสงครามโลกครั้งที่สอง และศาสตราจารย์เบอร์โธลด์ สเติร์นเบิร์กก็เซรุ่มอินฟินิตให้ ซึ่งไม่เพียงแต่ระงับบาดแผลของฉัน แต่ยังช่วยชะลอความแก่ของฉันได้อย่างมาก”

อาจจะเป็นเพราะผู้พิทักษ์กำแพงไม่ได้พูดคุยกับใครมานาน ดังนั้นเมื่อเขาเปิดปากพูดเขาจึงพล่ามขึ้นมาไม่หยุด ทำให้ความลับต่าง ๆ หลุดออกมาราวกับน้ำหลาก

“ต่อมาฉันรับตำแหน่งจาก 'บราเธอร์ฮูดออฟชีลด์' และกลายเป็นแนวป้องกันสุดท้ายของโลก ที่มีหน้าที่กำจัดสิ่งมีชีวิตที่คุกคามโลก ส่วนนิค ฟิวรี่ที่อยู่บนโลกก็เป็นไซบอร์กที่ฉันสร้างขึ้น”

“แล้วทำไมถึงมีนิค ฟิวรี่สองคนบนโลก?” เอริคถามพร้อมเลิกคิ้ว นี่มันจุดอ่อนชัด ๆ ทำไมถึงปล่อยให้เกิดเรื่องนี้ได้?

เมื่อได้ยินคำถามนี้ ผู้พิทักษ์กำแพงก็ถอนหายใจเล็กน้อย “นิค ฟิวรี่คนแรกมีความทรงจำของฉันทั้งหมด และเขาก็เข้าร่วมกับ หน่วยคอมมานโดคำราม ของสตีฟ โรเจอร์ส โดยหลังจากที่สตีฟตกเครื่องบิน เขาก็หาทางขึ้นมาบนดวงจันทร์จนได้! และในระหว่างที่โต้เถียงกันเรื่องช่วยสตีฟ ฉันก็เผลอ . . . ฆ่าเขาตาย”

เอริคมองอีกฝ่ายด้วยสายตาแปลก ๆ ‘เผลอ’ ฆ่าหรือว่าตั้งใจฆ่ากันแน่?

“ต่อมา เพื่อควบคุมสถานการณ์บนโลกได้ง่ายขึ้น ฉันจึงหาวิธีลบหลักฐานการมีตัวตนของเขา และสร้างนิค ฟิวรี่คนปัจจุบันขึ้นมา โดยทำให้เขามีความทรงจำว่างเปล่า และแทบจะแยกไม่ออกจากมนุษย์ธรรมดา”

ใช่ . . . แทบจะแยกไม่ออก ยกเว้นจะมีปุ่มสวิตช์ที่สามารถควบคุมเขาได้ใช่ไหม?

เอริคเต็มไปด้วยความดูถูกในสิ่งที่เขาทำ ผู้พิทักษ์กำแพงคนนี้แย่ยิ่งกว่านิค ฟิวรี่บนโลกเสียอีก!

“เซรุ่มอินฟินิตกำลังจะหมดลงแล้ว ดังนั้นฉันจึงจำเป็นต้องหาผู้สืบทอดโดยเร็วที่สุด . . .”

พวกเขาทั้งสองพูดคุยกันตลอดทาง จนกระทั่งขึ้นยานอวกาศ ผู้พิทักษ์กำแพงก็ควบคุมยานให้บินไปยังปล่องภูเขาไฟอีกแห่งหนึ่ง และหลังจากทำการบางอย่าง ยานก็เข้าสู่พื้นที่ประหลาด

พื้นที่แห่งนี้ไม่ใหญ่มากนัก คล้ายกับถ้ำเล็ก ๆ ภายในถ้ำนั้นว่างเปล่า มีเพียงสิ่งมีชีวิตประหลาดสูงกว่า 10 เมตร มีศีรษะใหญ่และสวมผ้าคลุมสีน้ำเงินกำลังลอยตัวอยู่กลางอากาศ

เมื่อเห็นคนสองคนเดินเข้ามา สิ่งมีชีวิตหัวโตก็ค่อย ๆ หันมามองเอริคและผู้พิทักษ์กำแพงด้วยดวงตาขาวล้วน ก่อนจะหันกลับไปเหมือนไม่สนใจอะไร

“นี่คือมนุษย์ต่างดาวที่นายต้องการเจอ—เดอะวอชเชอร์!

โปรดติดตามตอนต่อไป …

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด