ตอนที่ 380 ไป๋จื่ออัน ปะทะ จื่อเยียนเหยียน! (ฟรี)
ตอนที่ 380 ไป๋จื่ออัน ปะทะ จื่อเยียนเหยียน!
“แท่นจำลองการต่อสู้นี่เป็นส่วนหนึ่งของหอคอยเทพสงครามจริงๆ ด้วย!”
“นี่ยังเป็นฐานของหอคอยเทพสงคราม มันยังมีผลของการจำลองการต่อสู้ ไม่แปลกใจเลยที่มันถูกเรียกว่าแท่นจำลองการต่อสู้!”
หลังจากที่ไป๋จื่ออันเข้าใจแล้ว เขาก็รู้ที่มาของแท่นจำลองการต่อสู้
อย่างที่ไป๋จื่ออันคาดเดาเอาไว้ แท่นจำลองการต่อสู้เป็นส่วนหนึ่งของหอคอยเทพสงครามจริงๆ
หอคอยเทพสงครามดั้งเดิมแตกสลาย กลายเป็นเศษชิ้นส่วนมากมาย กระจัดกระจายไปยังทุกพื้นที่
ส่วนหลักตกไปอยู่ในมือของสหพันธ์จิ่วโจว และถูกนำมาใช้เป็นการจำลองการต่อสู้จริงของการสอบเข้ามหาวิทยาลัย
ส่วนฐานของหอคอยเทพสงครามนั้นถูกมหาวิทยาภูตเร้นลับเก็บเอาไว้
เพราะมันมีความสามารถในการจำลองการต่อสู้ มันจึงถูกใช้ฝึกฝนนั่นเองศึกษานักศึกษาของมหาวิทยาภูตเร้นลับ
ส่วนเศษชิ้นส่วนอื่นๆ นั้น พวกมันตกลงไปที่อื่น
ถ้าหากมีโอกาสได้รวบรวมเศษชิ้นส่วนเหล่านี้ บางทีหอคอยเทพสงครามก็อาจจะฟื้นคืนชีพได้
“ที่มาของหอคอยจำลองการต่อสู้และแท่นจำลองการต่อสู้นี่ไม่ธรรมดาจริงๆ”
“แต่สิ่งที่ฉันสนใจมากกว่าก็คือเรื่องของเทพสงคราม แดนเทพสงคราม และสงครามศักดิ์สิทธิ์!”
ไป๋จื่ออันพึมพำในใจ เขากำลังคิดถึงเรื่องอื่น
ไป๋จื่ออันสนใจเรื่องของแดนเทพสงครามและสงครามศักดิ์สิทธิ์มาก
เพียงแต่ว่าหลังจากที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ไป๋จื่ออันมีเรื่องมากมาย เขาไม่มีเวลามาศึกษาเรื่องนี้โดยละเอียด มันเลยทำให้เขาลืมมันไป
ตอนนี้พอได้เห็นบางสิ่งบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับแดนเทพสงคราม ความอยากรู้อยากเห็นของไป๋จื่ออันก็ถูกกระตุ้นอีกครั้ง
ครั้งนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาก็ต้องรู้เรื่องพวกนี้ให้ได้
“ไป๋จื่ออัน นายมัวทำอะไรอยู่? เข้ามาเร็วๆ สิ!”
ตอนที่ไป๋จื่ออันกำลังคิดมาก เสียงของจื่อเยียนเหยียนก็ดังขึ้น
ตอนนี้จื่อเยียนเหยียนยืนอยู่ที่หน้าประตูของแท่นจำลองการต่อสู้ เธอโบกมือเรียกไป๋จื่ออัน
พอไป๋จื่ออันมาถึงแท่นจำลองการต่อสู้ เขาก็มองแท่นจำลองการต่อสู้ด้วยความตกตะลึง
“นายยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้น? หรือว่าแท่นจำลองการต่อสู้มีอะไรพิเศษ?”
จื่อเยียนเหยียนอดไม่ได้ที่จะบ่น
แน่นอนว่าเธอไม่ได้คิดแบบนั้น เธอไม่มีเวลามาคิดเรื่องพวกนี้
ตอนนี้จื่อเยียนเหยียนมุ่งความสนใจไปที่การต่อสู้ครั้งนี้ทั้งหมด เธอจะเอาเวลามาคิดเรื่องพวกนี้ได้ยังไง?
“ฉันรู้แล้วน่า ฉันกำลังไป!”
ไป๋จื่ออันยิ้มออกมาเล็กน้อย เขาพูดกับจื่อเยียนเหยียน
เขาไม่คิดเลยว่าจื่อเยียนเหยียนจะไวขนาดนี้
ถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกว่าจื่อเยียนเหยียนพูดเล่นๆ ก็จริง แต่มันบังเอิญตรงจุด
มันทำให้ไป๋จื่ออันนึกขึ้นได้ว่าการที่ศึกษารายละเอียดเรื่องของแดนเทพสงครามกับสงครามศักดิ์สิทธิ์นั้นไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน
ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการต่อสู้กับจื่อเยียนเหยียน
เมื่อคิดได้แบบนั้น ไป๋จื่ออันก็ตัดสินใจได้
หลังจากที่การต่อสู้ครั้งนี้จบลง เขาจะศึกษาเรื่องของแดนเทพสงครามกับสงครามศักดิ์สิทธิ์
ไป๋จื่ออันไม่พูดอะไรมากมาย เขาเดินตรงไปยังแท่นจำลองการต่อสู้
ไม่นานไป๋จื่ออันกับจื่อเยียนเหยียนก็มาถึงชั้นสามของแท่นจำลองการต่อสู้
พอทั้งสองคนมาถึงชั้นสามแล้ว ดวงตาของไป๋จื่ออันก็เป็นประกาย
ที่นี่เป็นพื้นที่ที่กว้างขวางมาก
พื้นดินสีขาวที่ไม่มีที่สิ้นสุด เหมือนกับพื้นที่ที่ไร้ขอบเขต
ในแง่ของพื้นที่แล้ว มันเหนือกว่าขอบเขตของแท่นจำลองการต่อสู้มาก
ดูเหมือนว่านี่จะเป็นพื้นที่ที่คล้ายกับมิติลับ
มันทำให้ไป๋จื่ออันนึกถึงห้องแห่งกาลเวลาในดราก้อนบอล ทั้งสองอย่างนี้มีความคล้ายคลึงกัน
แต่แบบนี้เขาและจื่อเยียนเหยียนก็ไม่ต้องกังวลเรื่องสนามต่อสู้
“การต่อสู้ครั้งนี้ไม่มีกฎ ตราบใดที่เป็นสัตว์วิญญาณระดับเพชร ก็สามารถใช้ได้!”
“นายมีความคิดเห็นอะไรมั้ย?”
จื่อเยียนเหยียนมองไป๋จื่ออันที่อยู่ตรงหน้า เธอกำลังกระตือรือร้นที่จะต่อสู้
การต่อสู้ครั้งนี้เป็นไปตามสัญญาที่ให้ไว้ว่าจะต่อสู้กันในระดับเพชร
จื่อเยียนเหยียนชอบการต่อสู้ที่ไม่มีกฎ
การต่อสู้ที่มีกฎ มันก็เหมือนกับการเล่นเกม ไม่ใช่การต่อสู้จริงๆ
ในการต่อสู้ที่ไม่มีกฎเกณฑ์ มันสามารถทำให้เกิดความรู้สึกที่แข็งแกร่งที่สุดได้
สำหรับจื่อเยียนเหยียน คนที่คลั่งไคล้การต่อสู้ เธอชอบการต่อสู้แบบนี้
“ฉันไม่มีความคิดเห็นอะไร หรือพูดอีกอย่างก็คือ นี่คือสิ่งที่ฉันต้องการ!”
ไป๋จื่ออันเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ดวงตาของเขาเป็นประกาย
นี่ก็คือการต่อสู้ที่เขาต้องการ
ยังไงซะตอนที่ผจญภัยในป่า ศัตรูจะไม่มีทางออมมือ
ไป๋จื่ออันกับจื่อเยียนเหยียนไม่พูดอะไรมากมาย พวกเขารีบเรียกสัตว์วิญญาณของตัวเองออกมา
สัตว์วิญญาณที่แข็งแกร่งสองตัวที่ปล่อยคลื่นความร้อนที่น่าสะพรึงกลัวปรากฏตัวขึ้นข้างๆ จื่อเยียนเหยียน
อีกาปีกเพลิง และเสือเพลิงปากโลหิต
นี่คือสัตว์วิญญาณระดับเพชรของจื่อเยียนเหยียน
อีกาปีกเพลิงระดับเพชรขั้นกลาง!
เสือเพลิงปากโลหิตระดับเพชรขั้นต้น!
ส่วนไป๋จื่ออันนั้น สิ่งที่ปรากฏตัวขึ้นข้างๆ ไป๋จื่ออันในตอนนี้คือสัตว์วิญญาณปลาขนาดใหญ่
ราชันย์วาฬเงายมโลก!
ใช่แล้ว ไป๋จื่ออันใช้สัตว์วิญญาณแค่ตัวเดียว ราชันย์วาฬเงายมโลก
แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับไป๋จื่ออัน
เดิมทีพลังต่อสู้ของสัตว์วิญญาณของไป๋จื่ออันก็เหนือกว่าสัตว์วิญญาณในระดับเดียวกันมาก
ยิ่งไปกว่านั้น ราชันย์วาฬเงายมโลกยังมีคุณสมบัติธาตุน้ำและหยิน
ในแง่ของคุณสมบัติ สัตว์วิญญาณของราชันย์วาฬเงายมโลกนั้นได้เปรียบสัตว์วิญญาณของจื่อเยียนเหยียน
แบบนี้ไป๋จื่ออันจึงไม่จำเป็นต้องเรียกสัตว์วิญญาณตัวที่สองออกมา
ยังไงซะสัตว์วิญญาณของจื่อเยียนเหยียนก็เป็นธาตุไฟทั้งหมด
นี่คือข้อเสียของการมีคุณสมบัติเดียว
“จื่อเยียนเหยียน ตอนนี้เธอไม่ใช่คู่มือของฉันแล้ว”
ไป๋จื่ออันมองจื่อเยียนเหยียน เขาพูดอย่างช้าๆ
จริงๆ แล้ว รูปแบบของการต่อสู้ครั้งนี้ไม่ได้เหมือนกับครั้งก่อน
ตอนที่เขาได้พบกับจื่อเยียนเหยียนครั้งแรก ไป๋จื่ออันยังด้อยกว่าจื่อเยียนเหยียนมาก
ไป๋จื่ออันยังคงหวาดกลัวสัตว์วิญญาณของจื่อเยียนเหยียน
แต่ไป๋จื่ออันพัฒนาอย่างรวดเร็ว
ศัตรูทุกคนสามารถสร้างปัญหาให้กับไป๋จื่ออันได้มากที่สุดก็แค่ครั้งเดียว
พอเจอกันครั้งที่สอง ไป๋จื่ออันก็จะทิ้งห่างพวกเขา
สาเหตุที่เขายอมรับการต่อสู้ครั้งนี้ เป็นเพราะสัญญาที่เขาเคยให้เอาไว้
“ถ้าหากยังไม่ได้สู้กัน แล้วใครจะรู้ผลลัพธ์ได้ล่ะ? เริ่มต่อสู้ได้!”
คำพูดของไป๋จื่ออันไม่มีผลกระทบอะไรต่อจื่อเยียนเหยียน
ดวงตาสีแดงเพลิงของเธอเต็มไปด้วยความปรารถนาที่จะต่อสู้
ตอนนี้จื่อเยียนเหยียนคิดถึงเรื่องเดียว
เธอต้องใช้ท่าอะไร ถึงจะสามารถสร้างความเสียหายให้กับสัตว์วิญญาณของไป๋จื่ออันได้มากขึ้น
จุดอ่อนของคุณสมบัติไม่ได้ส่งผลต่ออารมณ์ของจื่อเยียนเหยียน
จื่อเยียนเหยียนสมกับที่เป็นคนที่คลั่งไคล้การต่อสู้จริงๆ
ดังนั้นจื่อเยียนเหยียนจึงไม่ลังเล เธอลงมือทันที