ตอนที่ 120
ตอนที่120
เสียงวิจารณ์ของผู้ชมไม่ได้ส่งผลต่อเทียนเต๋า
หลังจากลองเชิงในรอบแรก เขาก็เริ่มรอบที่ 2 ทันที
หลี่เม่ยเม่ยเดาทางเทียนเต๋าได้ในครั้งแรก แต่คงเดาทุกครั้งไม่ได้หรอก
สิ่งที่เธอพึ่งพาได้มากที่สุดคือวงแหวนไฟ
ถ้าโดนหลอกให้ใช้ทักษะก็แพ้แล้ว
เทียนเต๋าเริ่มรอบที่ 2 หลี่เม่ยเม่ยก็ไม่รอช้า
เธอสะบัดไม้เท้าลูกไฟมากมายขนาดเท่าอ่างพุ่งเข้าใส่เทียนเต๋า
แต่น่าเสียดาย ลูกไฟพวกนี้ช้าเกินไป
ยกเว้นลูกแรกที่โดนหน้า ลูกอื่นๆเทียนเต๋าหลบได้หมด
หลี่เม่ยเม่ยใช้ลูกไฟป้องกัน แล้วก็เล่นเกมจิตวิทยากับเทียนเต๋า
เทียนเต๋าพุ่งเข้าใส่ หลี่เม่ยเม่ยก็พุ่งเข้าหา ใช้วงแหวนไฟบังคับให้เขาขยับ
พอเทียนเต๋าวิ่งหนี หลี่เม่ยเม่ยก็วิ่งตามแล้วร่ายเวทย์!
กลยุทธ์แบบที่รุกได้ รับได้ ทำให้เทียนเต๋าปวดหัว เกือบจะใช้ท่าไม้ตายหลายครั้ง
แต่พอคิดว่าลู่คังกำลังดูอยู่ เขาก็อดทนไว้
ถ้าเขาใช้ท่าไม้ตายตอนนี้ ก็เท่ากับเปิดเผยให้ลู่คังรู้ไม่ใช่เหรอ?
ถึงจะโดนโจมตี แต่เทียนเต๋าก็ไม่บาดเจ็บ เพราะเวทย์ของหลี่เม่ยเม่ยโจมตีเขาไม่โดน
หลังจากหลบ 3 ครั้งติดต่อกัน บัฟของรองเท้ามังกรพเนจรก็ซ้อนทับจนเต็ม
ค่าหลบหลีกของเทียนเต๋าเพิ่มเป็น 100% ในขณะเคลื่อนที่
ตราบใดที่เขายังวิ่ง เวทย์ของหลี่เม่ยเม่ยก็ไม่มีทางโดน...เว้นแต่ว่าจะโดนวงแหวนไฟผลักล้ม!
ฉั๊วะ!
เทียนเต๋าแทงกระบองพลาด2ครั้ง ครั้งที่3ก็โดนหัวของหลี่เม่ยเม่ย
ลมจากกระบองพัดเส้นผม และความคิดของหลี่เม่ยเม่ยปลิวหายไป
หลี่เม่ยเม่ยเดาใจเทียนเต๋าถูก 2 ครั้ง คราวนี้ไม่กล้าเสี่ยงอีกแล้ว
เทียนเต๋าจะตีจริงหรือแกล้ง เธอไม่รู้
ทักษะแทงนี้มีผลพิการ
ถ้าโดนก็จะโดนโจมตีต่อเนื่องจนเลือดหมด แพ้ทันที
หลี่เม่ยเม่ยกัดฟัน
โครม!
เมื่อกระบองเกือบจะโดนหั วร่างของหลี่เม่ยเม่ยก็กลายเป็นควัน
หุ่นไล่กา! ผู้ชมตาโต ไม่คิดว่าหลี่เม่ยเม่ยจะใช้วิธีนี้หลบการโจมตี
แต่เหตุการณ์ต่อไปทำให้ทุกคนตกใจยิ่งกว่า
หลี่เม่ยเม่ยหายตัวไป เทียนเต๋าก็หยุดกระโดดถอยหลัง
กระโดดถอยหลัง!
สำเร็จ!
"เขาหลอกให้คู่ต่อสู้ใช้ทักษะได้แล้ว! "สตรีมเมอร์คนหนึ่งตะโกน
"ไม่ขนาดนั้น! "สตรีมเมอร์อีกคนส่ายหน้า"หุ่นไล่กาไม่ใช่ทักษะหลัก ที่ได้ผลคือวงแหวนไฟต่างหาก!"
"ไม่ใช่! สำเร็จแล้วต่างหาก "ชายชราบนชั้น2ยิ้ม"เขาใช้กล 3 ชั้น หลอกหลี่เม่ยเม่ย"
"หลี่เม่ยเม่ยเดาผิด2ครั้งติด คงเสียความมั่นใจไปเยอะในครั้งที่สาม"
"ครั้งนี้หลอกใช้หุ่นไล่กาได้แล้ว ครั้งหน้าก็จะหลอกวงแหวนไฟได้"
"ใช่ ที่ท่านอธิการพูดก็มีเหตุผล นิสัยของเม่ยเม่ยก็เป็นเช่นนั้น "ชายชราอีกคนพูดเสริม
"คู่ต่อสู้แข็งแกร่งเกินไป "ท่านอธิการส่ายหัวถอนหายใจ"เม่ยเม่ย เด็กคนนี้มีแผนสำรองแค่แผนเดียว ต้องเก็บไว้ใช้ให้ดี พอพลาดก็จบเห่ แต่คู่ต่อสู้ของเธอมีแผนเยอะแยะ ไม่กลัวพลาดเลย ไม่เพียงแต่จะบุกมากกว่า แต่ยังลองผิดลองถูกได้อีก"
"คู่ต่อสู้พลาดได้ แต่เม่ยเม่ยพลาดไม่ได้!"
"เพราะงั้นครั้งนี้เธอถึงเป็นผู้แพ้ไงละ"
เสียงวิจารณ์ไม่ส่งผลต่อการต่อสู้
หลี่เม่ยเม่ยเห็นเทียนเต๋ากระโดดถอยหลังก็รู้ว่าตัวเองเสียเปรียบ
โดนหลอกแล้ว!
3 ครั้งติด คู่ต่อสู้ใช้แต่กล ไม่ได้คิดจะโจมตีเธอ แค่หลอกให้เธอใช้ทักษะ
2 ครั้งแรกเธอมั่นใจ แต่ครั้งที่ 3 นั้นไม่กล้าเสี่ยงเลยโดนหลอก
และความรู้สึกของการโดนหลอกมันไม่ดี กระทบกระเทือนจิตใจ
แต่หลี่เม่ยเม่ยก็ไม่ยอมแพ้
ตราบใดที่วงแหวนไฟยังอยู่ในมือ ก็ยังมีโอกาส...เป็นโอกาสเดียวที่จะชนะ!
"เธอแพ้แน่!"เทียนเต๋ายิ้ม กระบองทองคำในมือพลิ้วไหว
เขาใช้ทักษะพุ่งชน
ครั้งนี้การพุ่งชนไม่เพียงแต่รุนแรง แต่ยังมั่นใจ
ผู้ชมอุทาน
"จะจบด้วยการโจมตีครั้งเดียวเลยเหรอ?"
"คงงั้น! เขาไม่ลองเชิงแล้ว "
"หลี่เม่ยเม่ยแพ้แล้ว"
"แพ้ราบคาบ...ต่อไปคงกลายเป็นปมในใจเธอแน่ๆ"
"หมอนี่มันโหดร้ายชะมัด ! "ไม่ใช่แค่ผู้ชมคนบนชั้น2ก็ส่ายหน้า
"เด็กคนนี้ใจร้ายกับเม่ยเม่ยเกินไปแล้ว!"
"ไม่หรอก...นี่จะเป็นทั้งความเสียใจและบทเรียน"
เทียนเต๋าพุ่งผ่านลูกไฟมา และหยุดอยู่หน้าหลี่เม่ยเม่ย
เขายกกระบองขึ้นสูง ฟาดลงมาสุดแรง
หลี่เม่ยเม่ยมองเทียนเต๋าด้วยแววตาสับสน
ทำอะไรไม่ได้
โครม!
-321
สถานะหวาดกลัว!
หลี่เม่ยเม่ยตาโตหวาดกลัว
เทียนเต๋าไม่รอช้า ฟาดกระบองทองคำไม่ยั้ง โจมตีต่อเนื่อง
-361
-482
-571
เพียงตัวเลขความเสียหายปรากฏขึ้นในเวลาแค่ 1 วินาที หลี่เม่ยเม่ยก็กลายเป็นแสงสีขาวออกจากสนาม
เธอแพ้
"เทียนเต๋าชนะ!"กรรมการประกาศ
คนบนชั้น2ถอนหายใจ
ผู้ชมฮือฮา
"11เกมรวด!"
"สุดยอด!"
"ฉันบอกแล้วว่าเทียนเต๋าต้องชนะ"
"เสียดายหลี่เม่ยเม่ยยังถือวงแหวนไฟไว้ ไม่ยอมใช้ "
"ก็เธอไม่กล้าใช้! "
"ใช่น่าเสียดาย..."
"เทียนเต๋าใจแข็งกว่าหลี่เม่ยเม่ยเยอะ"
"เล่นเกมจิตวิทยาเก่งกว่าสินะ!"
ลู่คังที่ยืนดูอยู่ตื่นเต้นมาก
เขาคิดว่าเทียนเต๋ามีแค่อุปกรณ์กับทักษะที่ดี ไม่คิดว่าจะเก่งเรื่องหลอกล่อ เล่นเกมจิตวิทยา
เหมือนกับฝันร้าย สายอาชีพของเขาไม่มีผิด
ตอนนี้เขารู้สึกอยากสู้กับเทียนเต๋าเต็มแก่
รีบๆลงมาสู้กันสักทีเถอะ เทียนเต๋า! ลู่คังบ่นใจในแทบรอไม่ไหวแล้ว