ตอนที่แล้วบทที่ 219 ลูกแก้วแลกหินเถียนหวง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 221 การจัดซื้อ

บทที่ 220 เก็บถั่วฝักยาว


โจวอี้หมินพูดว่า “เรื่องนี้ เดี๋ยวฉันจะลองคิดหาวิธีแก้ในอนาคต แต่ตอนนี้ยังไงก็ซื้อไม่ได้แน่นอน”

“ได้ งั้นตามที่นายบอก” หลัวไป่ต้าวได้แต่ยอมรับชะตากรรม

เขารู้ดีว่า ถ้าทำตัวโอ้อวดเกินไปจนถูกคนที่ไม่หวังดีจับตามอง การค้าขายวัสดุจำนวนมากที่เขาทำอยู่ อาจทำให้เขาต้องถูกจำคุกเป็นสิบๆปี หรืออาจจบชีวิตด้วย “ถั่วลิสงหนึ่งเม็ด” (เปรียบเปรยถึงการถูกยิง)

โจวอี้หมินพูดว่า “คืนนี้เอาแค่นี้ก่อน รออีกสักพักเราค่อยนัดพบกันอีกที พรุ่งนี้เช้าฉันมีงานต้องทำ”

“ตกลง นายไปทำงานเถอะ” หลัวไป่ต้าวตอบอย่างเข้าใจ

เขารู้ดีว่า ครอบครัวของเขาที่เปลี่ยนแปลงไปได้มากขนาดนี้ เป็นเพราะโอกาสที่โจวอี้หมินมอบให้ ไม่อย่างนั้นเขาคงยังวนเวียนอยู่ตามถนนเหมือนเดิม

หลังจากที่หวังเจี้ยนกั๋วกลับมาที่หมู่บ้านซ่างสุ่ย เขาก็แจ้งข่าวเกี่ยวกับการสั่งซื้อผัก 8,000 จินในวันพรุ่งนี้ให้หัวหน้าหมู่บ้านฟัง

หัวหน้าหมู่บ้านหวังจึงเรียกชาวบ้านทั้งหมดในหมู่บ้านมาประชุมทันที เพราะ 8,000 จินไม่ใช่จำนวนเล็กน้อย หากไม่เตรียมตัวล่วงหน้าให้พร้อม พอถึงเวลาที่โจวอี้หมินพาคนมารับของ แล้วการเก็บผักยังไม่เสร็จ มันจะสร้างความประทับใจที่ไม่ดี ซึ่งนี่เป็นการร่วมมืออย่างเป็นทางการครั้งแรก

เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านเรียกประชุม ชาวบ้านในหมู่บ้านซ่างสุ่ยก็มาถึงที่ประชุมในเวลาไม่นาน

สถานที่ประชุมก็คือลานตากข้าว

หัวหน้าหมู่บ้านหวังเห็นว่าคนมาครบแล้วจึงพูดเสียงดังว่า “สหายโจวอี้หมินจากหมู่บ้านโจวจะพาคนจากโรงงานเหล็กมาซื้อผักจำนวน 8,000 จินในวันพรุ่งนี้ เพราะฉะนั้นเราต้องเริ่มทำงานตั้งแต่เช้า”

ชาวบ้านก็เข้าใจถึงความสำคัญของเรื่องนี้ จึงไม่มีใครพูดแย้ง มีเพียงแค่รับฟังคำสั่งของหัวหน้าหมู่บ้าน

ในตอนนั้นหวังเจี้ยนกั๋ว ถามว่า “หัวหน้าหมู่บ้าน เราจะเริ่มตอนกี่โมงดีครับ?”

“เริ่มตอนตีสี่พรุ่งนี้เช้า” หัวหน้าหมู่บ้านหวังคิดสักครู่ก่อนจะให้คำตอบ

ชาวบ้านรอบๆแม้จะมีความคิดเห็นบ้าง แต่เพราะการเก็บผักเป็นเรื่องสำคัญของทั้งหมู่บ้าน จึงมีเพียงเสียงบ่นเล็กๆน้อยๆ เท่านั้น

หลังจากหัวหน้าหมู่บ้านจัดการสั่งการเรียบร้อย ทุกคนก็กลับไปพักผ่อน เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้ากันมาก ถ้าไม่นอนเร็ว เวลาก็จะพักผ่อนไม่พอ

เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านหวังพูดจัดการงานเสร็จ ชาวบ้านทั้งหมดก็กลับไปพักผ่อน เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า ถ้าไม่นอนเร็ว เวลาพักผ่อนก็จะไม่พอ

เช้าวันรุ่งขึ้น เวลาตีสามกว่า ๆ ชาวบ้านในหมู่บ้านซ่างสุ่ยก็เริ่มตื่นขึ้นมาทำภารกิจเก็บผักของวันนี้

เนื่องจากภารกิจวันนี้ค่อนข้างหนัก หัวหน้าหมู่บ้านหวังจึงแบ่งกลุ่มงานและพูดว่า “เจี้ยนกั๋ว เดี๋ยวนายพาคนบางส่วนไปทางนั้นเพื่อเก็บผักฝั่งนั้น”

เขาตั้งใจฝึกฝนหวังเจี้ยนกั๋ว เพราะตัวเขาเองก็อายุมากแล้ว และจำเป็นต้องมองหาคนสืบทอดตำแหน่งในอนาคต

หลังจากแบ่งกลุ่มเสร็จ ทุกคนก็เริ่มลงมือทำงานทันที

เนื่องจากภารกิจนี้สำคัญมาก ทุกคนที่พอจะทำงานได้จึงลุกขึ้นมาช่วยกัน มีเพียงคนสูงอายุหรือเด็กเล็กเท่านั้นที่ไม่ได้มาร่วมงาน ส่วนคนที่เหลือต่างออกมาเก็บถั่วฝักยาว

หัวหน้าหมู่บ้านหวังเดินมาที่ไร่และจัดแบ่งกลุ่มอีกครั้ง “เราจะแบ่งเป็นสี่กลุ่ม จากนั้นแยกกันไปเก็บ จำไว้ว่า เก็บให้ดี อย่าทำแบบลวกๆ”

ถั่วฝักยาวมีผลผลิตสูง และเมื่อเก็บเกี่ยวครั้งหนึ่ง มันก็สามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้อีก เหมือนกับต้นกุยช่าย (ต้นหอมจีน) นั่นเอง ด้วยเหตุนี้เอง ชาวบ้านจึงชื่นชอบมาก

อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่ไม่ชอบกินถั่วฝักยาว นี่ถือเป็นความทรมาน เพราะต้องกินถั่วฝักยาวทุกวันหลายเดือนติดจนรู้สึกเบื่อหน่ายแค่เห็นก็กลัว

พูดถึงเรื่องนี้ ก็อดนึกถึง ชาวซานตงที่นิยมกินถั่วฝักยาวไม่ได้

อีกเรื่องน่าสนใจที่บางคนอาจไม่รู้คือ ถั่วฝักยาวสามารถทำให้เกิดพิษได้

หลายคนอาจคิดว่านี่เป็นเรื่องไม่น่าเชื่อ แต่ความจริงแล้วถั่วฝักยาวมีพิษเล็กน้อย ซึ่งคนที่ไม่คุ้นเคยกินอาจไม่เคยรู้สึก

สาเหตุหลักมาจากการกินถั่วฝักยาวที่ไม่ได้ปรุงสุกจนดีพอ ทำให้สารพิษในถั่วฝักยาวยังไม่ถูกทำลาย จนเกิดปฏิกิริยาพิษ

มีรายงานว่าถั่วฝักยาวมีสารพิษหลักสองชนิด คือ ซาโปนิน และ เลคติน (โปรตีนที่ทำให้เลือดจับตัวกัน)

โดยซาโปนินมีฤทธิ์กระตุ้นต่อเยื่อเมือกอย่างรุนแรง ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการในทางเดินอาหารได้

ไม่ทันรู้ตัว ชาวบ้านในหมู่บ้านซ่างสุ่ยก็ทำงานต่อเนื่องมาเกินสามชั่วโมงแล้ว

เวลาประมาณเจ็ดโมงเช้า โจวอี้หมินก็ตื่นตรงเวลา หากวันนี้ไม่มีภารกิจ เขาคงนอนจนตื่นเองโดยธรรมชาติ เพราะเขาเชื่อว่าไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเองตราบใดที่งานเสร็จสมบูรณ์

เมื่อเขาเดินออกจากบ้าน เห็นกลุ่มผู้หญิงกำลังซักผ้า หรือทำงานอื่นๆอยู่

เมื่อเขาเดินออกมาถึงประตูใหญ่ของลานสี่ห้องคฤหาสน์  ก็เห็นว่าห้องน้ำสาธารณะข้างๆมีคิวคนต่อแถวยาว

ทุกครั้งที่เห็นภาพแบบนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่า การสร้างห้องน้ำในบ้านตัวเองนั้นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุด เพราะถ้าเขาต้องเบียดเสียดไปใช้ห้องน้ำสาธารณะ แค่คิดถึงกลิ่นก็ทำให้เขาหนาวสั่นขึ้นมาทันที

โดยปกติแล้ว หากปั่นจักรยานจะใช้เวลาประมาณสิบกว่านาที แต่พอเดินกลับกลายเป็นว่าต้องใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง

จ้าวเต๋อจื้อทักขึ้นว่า “หัวหน้าแผนกโจว วันนี้มาเช้าจัง?”

ปกติแล้วเขามักจะเห็นโจวอี้หมินตอนสายๆใกล้เที่ยง หรือบางวันก็ไม่เห็นเลย การที่เขามาเช้าขนาดนี้ถือว่าเป็นครั้งแรก

โจวอี้หมินตอบว่า “พี่จ้าว วันนี้ผมต้องไปหมู่บ้านหนึ่งเพื่อรับซื้อผัก เลยต้องรีบหน่อย”

พูดจบ เขาหยิบซองบุหรี่ออกมา ดึงบุหรี่มวนหนึ่งแล้วยื่นให้จ้าวเต๋อจื้อ

จ้าวเต๋อจื้อรับไปโดยไม่เกรงใจและจุดสูบทันที

โจวอี้หมินเดินเข้าไปในโรงงานเหล็ก และแวะที่ฝ่ายการเงินก่อน เพราะการซื้อผักจำนวนมากเช่นนี้ควรมีคนจากฝ่ายการเงินติดตามไปด้วย

ในอดีตตอนที่รับซื้อจากหมู่บ้านโจว มันไม่สำคัญมาก เพราะชาวบ้านมั่นใจว่าเงินจะถูกจ่ายให้แน่นอน แต่หมู่บ้านซ่างสุ่ยนั้นแตกต่าง ทางที่ดีที่สุดคือต้องชำระเงินให้เสร็จสิ้นในทันที

เมื่อมาถึงฝ่ายการเงิน โจวอี้หมินก็เห็นว่ามีคนมารออยู่แล้ว

เมื่อหญิงสาวคนนั้นเห็นโจวอี้หมิน ก็รีบก้าวเข้ามาทักทาย “หัวหน้าแผนกโจว สวัสดีค่ะ ฉันชื่อจางอี๋จากฝ่ายการเงิน”

เธอเองก็เพิ่งได้เจอโจวอี้หมินในระยะใกล้ๆเป็นครั้งแรก ต้องยอมรับว่าผู้ชายคนนี้ในโรงงานเหล็กเป็นที่พูดถึงไม่น้อย เพราะทั้งมีความสามารถ อายุยังน้อย และหน้าตาก็ดีอีกด้วย

“ขอโทษที่ให้คุณต้องรอนาน” โจวอี้หมินพูดด้วยน้ำเสียงขอโทษ

จางอี๋ตอบเบาๆว่า “ไม่เลยค่ะ หัวหน้าโจว ฉันเองก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน”

“เวลาค่อนข้างเร่งด่วน เราคุยกันไประหว่างเดินทางดีกว่า” โจวอี้หมินเสนอ

จากนั้นเขาก็พาจางอี๋เดินไปยังฝ่ายขนส่ง โรงงานเหล็กที่มีพนักงานเป็นหมื่นคนแห่งนี้มีพื้นที่กว้างขวางมาก และฝ่ายขนส่งยังตั้งอยู่ในมุมที่ไกลที่สุด การเดินไปใช้เวลาถึงสิบกว่านาที

เมื่อไปถึงฝ่ายขนส่ง โจวอี้หมินก็ไปหาผู้รับผิดชอบและพูดว่า “ผมโจวอี้หมินจากฝ่ายจัดซื้อ นี่คือใบคำสั่งจากหัวหน้าแผนกของเรา”

เขายื่นใบคำสั่งให้คนที่รับผิดชอบตรวจสอบ

“อ๋อ หัวหน้าโจว ผมชื่อหลี่เฟิงหัวหน้าฝ่ายขนส่งครับ” หลี่เฟิงแนะนำตัว

หลี่เฟิงรับใบคำสั่งไปตรวจดูอย่างละเอียด เมื่อพบว่าไม่มีปัญหาก็พูดว่า “คุณโจว จะออกเดินทางตอนนี้เลยใช่ไหมครับ?”

โจวอี้หมินตอบว่า “ใช่ครับ แม้เส้นทางจะไม่ไกล แต่ไปเช้า กลับเช้าดีกว่า”

“เข้าใจแล้วครับ งั้นเราออกเดินทางกันเลย” หลี่เฟิงตอบโดยไม่เสียเวลา

(จบบท)

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด