ตอนที่ 809 ห้าพันล้านไม่พอ ผมสามารถเพิ่มให้อีกหมื่นล้านได้
“คุณไม่ต้องกังวลแทนพวกเขาหรอก คุณควรห่วงตัวเองดีกว่าว่าจะทำยังไงต่อไป เพราะคุณก็โดนไล่ออกเหมือนกัน”
เย่เฉิน หันไปมอง จาง หลินน่า ผู้ที่เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ทั้งหมด
“คุณ... คุณจะไล่ฉันออกเหรอ?!”
จาง หลินน่า ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
“ฉันทำงานที่ อี้เหม่ย มาตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท จนถึงปีนี้ก็ครบยี่สิบปีแล้ว คุณจะไล่ฉันออกตอนนี้เนี่ยนะ?!”
เธอคือผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท อี้เหมย คอสเมติกส์ และเป็นบุคคลสำคัญระดับสูง แล้วจะถูกไล่ออกได้ง่ายๆ แบบนี้เหรอ?
นี่มันเรื่องตลกชัดๆ
คนอื่นในห้องประชุมต่างก็ตกตะลึงกับคำพูดของ เย่เฉิน และไม่อยากเชื่อว่าเขาจะกล้าทำถึงขนาดนี้
“ท่านประธานซู ช่วยพูดกับแฟนคุณหน่อยเถอะ”
“ใช่แล้ว รองประธานจางเป็นถึงผู้ก่อตั้งบริษัท จะมาไล่ออกง่ายๆ ได้ยังไง?!”
“มันไม่ถูกต้องเลย...”
หลายคนหันไปมอง ซู หนิงซวง หวังว่าเธอจะช่วยพูดกับ เย่เฉิน ให้ได้
“คำสั่งของแฟนฉัน ฉันสนับสนุนทั้งหมด!”
ซู หนิงซวง ตอบอย่างไม่ลังเล เธอเลือกยืนเคียงข้าง เย่เฉิน อย่างเต็มที่ ในใจเธอรู้สึกซาบซึ้ง เพราะเธอรู้ดีว่า เย่เฉิน ทำแบบนี้ก็เพื่อเธอ
“รองประธานจาง คุณออกไปได้แล้ว”
ซู หนิงซวง หันไปหา จาง หลินน่า ก่อนจะพูดออกมา
จาง หลินน่า ยังไม่เต็มใจยอมแพ้ เธอเลือกที่จะพยายามอีกครั้ง
“ฉันจะคุยกับ ท่านประธานใหญ่ซู และฉันจะฟ้องพวกคุณ!”
เธอไม่คิดว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้ แผนการของเธอคลาดเคลื่อนเกินไป ก่อนหน้านี้เมื่อรู้ว่า ท่านประธานซู โอนบริษัทให้กับเด็กสาวอายุยี่สิบ เธอจึงคิดแผนการใหญ่นี้ขึ้นมาอย่างอาจหาญ
ในฐานะที่เป็นผู้ก่อตั้งอายุของเธอเองก็สี่สิบกว่าปีให้แล้ว เธอจะมายอมอยู่ภายใต้คำสั่งของเด็กสาวที่อายุเพียงแค่ยี่สิบปีได้อย่างไร?
เธอวางแผนจะใช้โอกาสนี้รวบอำนาจทั้งหมด ปล่อยให้ ซู หนิงซวง เป็นแค่หุ่นเชิด ขณะที่เธอจะเป็นผู้กุมอำนาจอย่างแท้จริง
แต่ไม่ทันที่แผนจะได้เริ่ม ซู หนิงซวง กับแฟนหนุ่มของเธอกลับไล่เธอออกเสียได้!
สิ่งนี้ทำให้ จาง หลินน่า ถึงกับทำอะไรไม่ถูก
“ตามสบายเลยค่ะ”
ซู หนิงซวง ตอบอย่างเยือกเย็น
ในเมื่อคุณพ่อมอบบริษัท อี้เหมย คอสเมติกส์ ให้เธอดูแล ก็แปลว่าคุณพ่อย่อมเห็นด้วยกับการตัดสินใจทุกอย่างของเธอ และยิ่งเป็นคำสั่งของ เย่เฉิน คุณพ่อก็ยิ่งมีแต่จะสนับสนุนมากขึ้น
จาง หลินน่า ที่หมดหนทางแล้ว ดังนั้นเธอจึงโทรไปหาพ่อของ ซู หนิงซวง ทันที
แต่เมื่อโทรติด พ่อของ ซู หนิงซวง กลับบอกว่า ตอนนี้บริษัทอยู่ในการดูแลของลูกสาว และคำพูดของลูกสาวของเขาก็คือคำสั่งของเขา
ยังไม่ทันที่ จาง หลินน่า จะพูดอะไรต่อ พ่อของ ซู หนิงซวง ก็วางสายไป
จาง หลินน่า ยืนอึ้งอยู่ตรงนั้นไปราวกับวิญญาณหลุดออกจากร่าง
“อีกอย่าง ฉันมีการลงทุนมูลค่า 1.5 พันล้านในมือ ถ้าคุณไล่ฉันออก การลงทุนนี้ก็จะถูกยกเลิก”
ทันใดนั้น จู่ๆ จาง หลินน่า ก็นึกถึงไพ่ตายสุดท้ายที่จะช่วยชีวิตเธอได้
ไม่นานมานี้ เธอได้เจรจากับนักลงทุนจากต่างเมืองที่ตกลงจะลงทุน 1.5 พันล้านโดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับการบริหารบริษัท แค่รอรับส่วนแบ่งกำไรเท่านั้น
สำหรับบริษัท อี้เหมย คอสเมติกส์ที่มีสินทรัพย์แท้จริงรวมเพียงสี่ถึงห้าพันล้าน เงิน 1.5 พันล้านถือเป็นจำนวนมหาศาล หากสูญเสียไปย่อมเป็นความเสียหายครั้งใหญ่!
จาง หลินน่า หวังใช้เงินก้อนนี้ข่มขู่ ซู หนิงซวง และเย่เฉิน
“แค่ไม่ไล่ฉันออก ทุกอย่างก็จะเหมือนเดิม ฉันรับประกันว่าจะทำให้เงิน 1.5 พันล้านเข้าบริษัทภายในหนึ่งเดือน”
จาง หลินน่า กล่าวด้วยความสิ้นหวัง เธอหวังเพียงรักษาตำแหน่งนี้ไว้ให้ได้
“การลงทุนแค่ 1.5 พันล้านน่ะเหรอ เงินแค่นี้มีความหมายอะไร?”
เย่เฉิน กล่าวขึ้นมาอย่างดูแคลน
เย่เฉิน หยิบบัตรธนาคารใบหนึ่งก่อนโยนมันลงไปบนโต๊ะประชุมอย่างไม่ใส่ใจ
“ผมจะลงทุนในบริษัท อี้เหมย คอสเมติกส์ 5 พันล้าน ถ้าไม่พอ ผมสามารถเพิ่มให้อีก 1 หมื่นล้าน”
ท่าทีของ เย่เฉิน นั้นดูธรรมดาเหมือนเป็นเรื่องปกติที่ใครๆ ก็ทำได้
5 พันล้าน?!
ทุกคนในห้องประชุมจ้องมองบัตรธนาคารบนโต๊ะประชุมตรงหน้า เย่เฉิน ด้วยความตกตะลึง
การลงทุน 5 พันล้าน?!
นี่มากพอจะซื้อบริษัท อี้เหมย คอสเมติกส์ได้ทั้งบริษัทเลย!
แถมแฟนหนุ่มของ ท่านประธานซู ยังบอกอีกว่า ถ้า 5 พันล้านไม่พอ ก็สามารถเพิ่มให้อีก 1 หมื่นล้านได้...
แฟนของ ท่านประธานซู คนนี้เป็นใครกันแน่ ถึงกับหยิบเงินมหาศาลขนาดนี้ได้ราวกับเป็นแค่ตัวเลขเท่านั้น?
จาง หลินน่า มองบัตรธนาคารบนโต๊ะของ เย่เฉิน อย่างตะลึงงัน
‘ไพ่ตาย’ ที่เธอใช้ข่มขู่ ซู หนิงซวง กลับถูกแฟนหนุ่มของ ซู หนิงซวง ทำลายลงได้อย่างง่ายดาย
เธอเคยคิดว่า เย่เฉิน เป็นแค่ผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกิน แต่ตอนนี้ถึงได้รู้ว่าเธอคิดผิดอย่างมหันต์ แฟนหนุ่มของ ซู หนิงซวง คนนี้ต่างหากที่เป็นตัวจริง เป็นคนที่ร่ำรวยมหาศาล และเป็น..ผู้ที่มีอำนาจอย่างล้นเหลือ
ชายหนุ่มที่อายุยังน้อย แต่สามารถควักเงิน 5 พันล้าน หรือแม้กระทั่ง 1 หมื่นล้านได้ง่ายดาย นี่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
“ฉันนึกออกแล้ว!”
จู่ๆ ผู้อำนวยการจ้าวก็ตบโต๊ะ พร้อมกับอุทานออกมาอย่างตื่นเต้น ก่อนหน้านี้เขาเคยนึกคิดอยู่ว่าเขาเคยเห็น เย่เฉิน ที่ไหนมาก่อน
“คุณคือผู้ที่ได้อันดับ 1 ใน 10 ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่โดดเด่นในเซี่ยงไฮ้ – เย่เฉิน ใช่ไหมครับ?”
ผู้อำนวยการจ้าว ถามด้วยความตื่นเต้น
“ใช่”
เย่เฉิน พยักหน้าเบาๆ
ทันใดนั้น ทุกคนในห้องต่างตกใจสุดขีด
อันดับ 1 ใน 10 ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่โดดเด่นในเซี่ยงไฮ้?!
แค่ติดอันดับ 10 ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่โดดเด่นก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว แต่นี่คืออันดับ 1!
แฟนหนุ่มของ ท่านประธานซู ไม่ใช่ผู้ชายที่ยอดเยี่ยมธรรมดา ไม่แปลกใจเลยที่เขาสามารถควักเงินออกมาได้ขนาดนี้
“10 ผู้ประกอบการรุ่นใหม่..ที่โดดเด่นในเซี่ยงไฮ้...”
จาง หลินน่า ถึงกับแทบหายใจไม่ออก ตำแหน่งนี้สำหรับเธอแล้วช่างห่างไกลเกินเอื้อมจริงๆ
ตอนนี้ จาง หลินน่า สิ้นหวังอย่างแท้จริง
เมื่อ จาง หลินน่า ยอมแพ้ในจุดนี้แล้ว เหล่าผู้บริหารที่มาสายก็ยิ่งหมดหนทางต่อกร
“ผู้อำนวยการจ้าว ยังยืนเฉยทำไม ไปดำเนินการเรื่องการลาออกซะ”
เย่เฉิน หันไปสั่ง ผู้อำนวยการจ้าว
“คะ...ครับ ครับ!”
ผู้อำนวยการจ้าว รีบไปจัดการเรื่องเอกสารลาออกของผู้บริหารเหล่านั้นทันที
หลังจากรู้ว่าแฟนหนุ่มของ ท่านประธานซู ไม่ธรรมดาขนาดนี้ ผู้บริหารคนอื่นๆ ต่างก็ให้ความเคารพ ซู หนิงซวง มากขึ้น และทำงานอย่างกระตือรือร้นยิ่งกว่าเดิม
แม้จะมีผู้บริหารถูกไล่ออกไปหลายคน แต่การดำเนินงานของบริษัท อี้เหมย คอสเมติกส์ก็ไม่ได้หยุดชะงักแต่อย่างใด
สองถึงสามชั่วโมงต่อมา เย่เฉิน ได้เรียกทีมงานใหม่มาทำงานจนบริษัทกลับมาทำงานได้ตามปกติ และมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
การกำจัด ‘เนื้อร้าย’ ภายในครั้งนี้ ทำให้ ซู หนิงซวง สามารถบริหารบริษัทได้อย่างสบายใจ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีปัญหาภายในอะไรเกิดขึ้น ..อีกในอนาคต
ขณะที่ เย่เฉิน กำลังสอน ซู หนิงซวง เกี่ยวกับการบริหารบริษัท อีกด้านหนึ่ง เซวีย ฉีเหวิน และเว่ย อวี้เตี๋ย คู่แข่งที่พลาดโอกาสการเป็นอันดับ 1 ใน 10 ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่โดดเด่นในเซี่ยงไฮ้ ต่างก็ได้รับข้อมูลบางส่วนเกี่ยวกับ เย่เฉิน
แต่เมื่อได้รู้จัก เย่เฉิน แล้ว ปฏิกิริยาของพวกเขาทั้งสองกลับแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง!