บทที่ 86 : ชายในชุดคลุมสีดำ (ตอนฟรี)
บทที่ 86 : ชายในชุดคลุมสีดำ (ตอนฟรี)
เมื่อท้องฟ้าทางทิศตะวันออกเริ่มปรากฏแสงสีขาวนวลของดวงอาทิตย์ แผ่นดินก็ค่อยๆสว่างขึ้น
ภายในห้องพักโรงแรม
เซียวซิงหยูตื่นขึ้นจากความฝัน ทันใดนั้นเขาก็พบว่าหัวของตัวเองกำลังหนุนอยู่บนต้นขาขาวเนียนเรียวยาวคู่หนึ่ง
“อรุณสวัสดิ์ ลูลู่”
เดลลูนั่งอยู่ข้างเตียงตลอดทั้งคืน นอกจากนี้เธอยังยอมให้ต้นขาของตัวเองเป็นหมอนให้เซียวซิงหยูหนุน
“ตื่นแล้วก็ลุกเร็วๆสิ ขาของข้าจะหมดเเรงอยู่แล้วเนี่ย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้, เซียวซิงหยูก็ผละหัวออกจากต้นขาของเดลลูอย่างอ้อยอิ่ง
จากนั้น เดลลูก็เอ่ยเตือนทันที “พรุ่งนี้เย็น เป็นเวลาประหารชีวิตเมดูซ่าแล้วนะ”
“เข้าใจเเล้ว”
เซียวซิงหยูเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ เเล้วมองตัวเองในกระจกอย่างตั้งใจ
“ทุกอย่างพร้อมแล้ว ถึงเวลาออกเดินทางสู่เส้นทางที่ไม่รู้ว่าจะรอดหรือตาย”
ถึงแม้ว่าจะวางแผนอย่างรอบคอบ และเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดไว้แล้ว
แต่ยังไงเซียวซิงหยูก็ยังเป็นแค่ปรมาจารย์อสูรระดับสองดาว เขาจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวล
เดลลูมองออกถึงความรู้สึกของเซียวซิงหยู เธอจึงอดไม่ได้ที่จะเสนอทางสบายๆให้เขา
“ตอนนี้ยังถอนตัวทันนะ”
“ยังไงเสียเจ้าก็เป็นมาสเตอร์ ส่วนข้าก็เป็นแค่อสูรของนาย…ปกติแล้ว มันไม่มีมาสเตอร์คนใหรหรอกที่จะเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงเพื่อช่วยสัตว์อสูร”
หลังจากผ่านคืนที่ “โรแมนติก” นั้นมา เดลลูก็เริ่มมองเซียวซิงหยูในเเบบที่ไม่ใช่แค่ในฐานะมาสเตอร์อีกต่อไปแล้ว
เเละเมื่อนึกได้ว่าการไปช่วยเมดูซ่าครั้งนี้อาจจะทำให้เซียวซิงหยูต้องตาย เดลลูก็เกิดลังเลใจขึ้นมาอย่างมาก
เเต่ทันใดนั้นัอง, เซียวซิงหยูก็ยกมือขึ้นโอบไหล่ของเดลลู
“ลูลู่ ฉันเคยบอกแล้วว่า เธอไม่ใช่แค่อสูรของฉัน แต่เป็นครอบครัวของฉันด้วย”
“ไม่ว่าการเดินทางครั้งนี้จะอันตรายแค่ไหน ฉันก็จะอยู่เคียงข้างเธอไปจนสุดทาง”
ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วหัวใจของเดลลู ตั้งเเต่ทำพันธสัญญาโลหิต…หัวใจที่เย็นชาของเธอก็ถูกความอบอุ่นจากเด็กหนุ่มตรงหน้าโอบกอดครั้งแล้วครั้งเล่า
“เซียวซิงหยู”
เสียงใสกังวานของเดลลูเต็มไปด้วยความจริงใจและแน่วแน่
“ขอบคุณนะที่ช่วยข้า ข้าไม่รู้จะขอบคุณยังไงดี”
“แต่ข้ารับรองได้เลยว่า ถ้าการช่วยเมดูซ่าล้มเหลว…ข้าจะทำทุกวิถีทางเพื่อคุ้มครองเจ้าให้ถอยกลับมาได้อย่างปลอดภัย”
คำพูดของเดลลูล้วนมาจากใจจริง
บางทีอาจเป็นเพราะหลังจากคืนนั้นที่ได้ใกล้ชิดกัน ในสายตาของเดลลูตอนนี้ ชีวิตของเซียวซิงหยูสำคัญกว่าชีวิตของเธอเสียอีก
เซียวซิงหยูยิ้มกว้างแล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจ
“ไม่ต้องคิดมากขนาดนั้นหรอก ฉันไม่ได้ช่วยเธอเพราะความหวังดีอย่างเดียวสักหน่อย”
“ถ้าช่วยเมดูซ่าได้ เมดูซ่าก็คงจะยอมสยบเเละ กลายเป็นอสูรของฉัน, นอกจากนี้ เมดูซ่าก็มีความลับเกี่ยวกับสงครามสังหารมังกรและจักรพรรดินีซ่างกวนหลาน ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งล้ำค่า”
“เพราะฉะนั้นพวกเราก็นับว่าต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ ดังนั้น…เธอไม่ต้องกดดันตัวเองมากขนาดนั้นหรอก”
เมื่อได้ยินเช่นนี้, เดลลูก็เงียบไป
เธอรู้ดีว่าเซียวซิงหยูพูดแบบนี้ก็เพื่อปลอบใจและลดความกดดันให้เธอ
กริ๊งงงงงง
ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“ฮัลโหล~ ครับอาจารย์เฉิน”
“เซียวซิงหยู, อย่านึกว่าเหลือเวลาอีกห้าวันก่อนถึงรอบชิงชนะเลิศแล้วนายจะขี้เกียจได้นะ รีบมาที่สนามกีฬาเพื่อฝึกซ้อมก่อนการแข่งขันซะ!” เฉินฉีเหนียนเร่งเร้า
ในตอนนี้อาจารย์เฉินฉีเหนียนและพี่น้องมู่หรงได้ไปถึงสนามกีฬากลางเมืองสี่วิญญาณเรียบร้อยแล้ว
ก่อนการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของการแข่งขันซูเปอร์โนวา เฉินฉีเหนียนตั้งใจจะให้ผู้เข้าแข่งขันทั้งสามคนได้ฝึกซ้อมร่วมกันให้มากที่สุด
อย่างแรกก็เพื่อฝึกซ้อมกลยุทธ์การทำงานเป็นทีม อย่างที่สองก็เพื่อทดสอบขีดจำกัดศักยภาพของเซียวซิงหยูในปัจจุบัน
เเน่นอนว่าเซียวซิงหยูคิดข้ออ้างไว้แล้วตั้งแต่เมื่อคืน เขาจึงพูดออกไปทันที
“อาจารย์เฉินครับ ผมออกจากบ้านมาหลายวันแล้ว ตอนนี้พี่สาวของผมคิดถึงผมมาก…ขอผมหยุดสักวันได้ไหมครับ ผมอยากกลับไปเมืองหลงอิ๋นเพื่ออยู่เป็นเพื่อนพี่สาวผม”
ตอนแรกเฉินฉีเหนียนไม่เห็นด้วย แต่สุดท้ายก็ทนการอ้อนวอนของเซียวซิงหยูไม่ไหว
“ก็ได้ๆ ฉันอนุญาตให้หยุด!”
เฉินฉีเหนียนในฐานะอาจารย์ประจำชั้น ย่อมรู้เรื่องสถานการณ์ครอบครัวของเซียวซิงหยูเป็นอย่างดี
ตั้งแต่เด็ก เซียวรั่วเสวี่ยและเซียวซิงหยูก็อยู่ด้วยกันมาโดยตลอด พวกเขาเป็นพี่น้องที่น่าสงสารคู่หนึ่ง…เฉินฉีเหนียนจึงไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธคำขอลาของเซียวซิงหยู เเละได้แต่ตอบตกลงเท่านั้น
“ขอบคุณครับอาจารย์เฉินที่อนุญาตครับ!”
“เซียวซิงหยู เหลือเวลาอีกห้าวันก่อนถึงรอบชิงชนะเลิศ ฉันให้เวลานายหยุดได้แค่สามวันนะ อีกสามวันต่อจากนี้นายต้องกลับมาเข้าร่วมการฝึกซ้อมก่อนการแข่งขัน!”
“วางใจได้ครับอาจารย์เฉิน ผมรับรองว่าก่อนเริ่มการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ผมจะปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนอย่างแน่นอน!”
เฉินฉีเหนียนยังอยากจะบ่นอีกสองสามประโยค แต่เซียวซิงหยูก็วางสายไปแล้ว
“เจ้าเด็กนี่ กล้าตัดสายฉันแบบนี้ได้ยังไง!”
มู่หรงหยางซั่วเข้ามาถามทันทีว่า “อาจารย์เฉิน เซียวซิงหยูจะมาเมื่อไหร่ครับ?”
“เจ้าเด็กนั่นขอลากลับไปเมืองหลงอิ๋นเพื่อไปหาพี่สาวเขา”
เมื่อมู่หรงซินซินได้ยินว่าเซียวซิงหยูขอลากลับบ้าน เธอก็หมดความสนใจที่จะฝึกซ้อมทันที
“อาจารย์เฉิน ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย วันนี้ขอไม่เข้าร่วมการฝึกซ้อมนะคะ ฉันจะกลับโรงแรม”
“ได้ๆ กลับไปพักผ่อนให้สบายเถอะ”
หลังจากที่มู่หรงซินซินจากไป สายลมเย็นๆ ก็พัดผ่านเหนือสนามกีฬากลางแจ้ง ในสนามที่ว่างเปล่าเหลือเพียงเฉินฉีเหนียนและมู่หรงหยางซั่วที่จ้องหน้ากัน
“อาจารย์เฉิน ผมก็รู้สึกไม่ค่อยสบายเหมือนกัน…”
“ลูกผู้ชายตัวจริง รู้สึกไม่สบายก็ต้องทน!”
“อาจารย์เฉิน ผมอยากกลับบ้านไปหาแม่…”
“ไม่อนุญาต อยู่ฝึกซ้อมซะ!”
มู่หรงหยางซั่วแทบน้ำตาไหล เเละถูกบังคับให้ฝึกซ้อมแบบ “สอนตัวต่อตัว”
“อาจารย์เฉิน คุณลำเอียงเกินไปแล้วนะครับ?”
“นายพูดว่าอะไรนะ?”
“ปะ…เปล่าครับ ไม่มีอะไร”
“ฮึ่ม…บ่นเยอะเพิ่ม, การฝึกเพิ่มพลังวิญญาณ อีก 8 ชุด, เพิ่มการทดสอบปฏิกิริยาอีก 5 ชุด, เพิ่มการฝึกดึงขีดจำกัดทางร่างกายอีก 40 นาที”
มู่หรงหยางซั่วทรุดลงกับพื้น น้ำตาไหลคลอเบ้า
"แย่แล้ว แบบนี้ก็มีแต่ฉันคนเดียวที่ซวยสิ!"
การฝึกครั้งนี้มีชื่ออันไพเราะว่า "ค่ายฝึกซ้อมก่อนการแข่งขัน"
แต่จริงๆแล้วมันคือการที่เฉินฉีเหนียนกดดันมู่หรงหยางซั่วคนเดียวให้ฝึกดึงขีดจำกัดของตนออกมา…ซึ่งมันก็เหมือนกับการจับแกะมาโกนขนยังไงยังงั้น
ไม่ถึงวัน มู่หรงหยางซั่วก็เหนื่อยจนเกือบจะหมดสติไป
…..
ดวงอาทิตย์คล้อยต่ำ
แสงสนจางๆ สีแดงเรื่อส่องลงบนชายหาดริมทะเล
เด็กหนุ่มคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นที่ชายหาด พร้อมกับสาวงามรูปร่างสะอดสะอางอยู่ข้างกาย
หญิงสาวสวมชุดเดรสยาวสีแดง เผยให้เห็นขาเรียวและเท้าขาวเนียน
เท้าทั้งคู่งามราวกับหยก แม้จะเหยียบลงบนผืนทรายที่ถูกคลื่นซะล้าง แต่ก็ไม่มีเม็ดทรายติดอยู่เลยแม้แต่เม็ดเดียว
ด้านหลังของหญิงสาวมีหางปุกปุยเก้าหางแกว่งไหวไปตามสายลม
"ลูลู่ ที่นี่คือหาดปี้หลัน"
"ฉันดูแผนที่มาแล้ว ถ้าออกเดินทางจากที่นี่ จะไปถึงเกาะน้ำแข็งเพลิง ซึ่งเป็นที่ตั้งกองบัญชาการกองทัพเรือ ได้เร็วที่สุด"
เมื่อวางแผนเส้นทางเรียบร้อยแล้ว ปัญหาต่อไปคือการเลือกพาหนะ
การเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่การท่องเที่ยวทางทะเล แต่เป็นการเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยคนจากลานประหาร
การเดินทางโดยเรือนั้น จะเป็นจุดสนใจได้ง่ายเกินไป…ในสถานการณ์เช่นนี้ เซียวซิงหยูจึงต้องการอสูรบินได้หรืออสูรธาตุน้ำที่ไว้ใจได้สุดๆ
ถึงแม้ว่าเทพธิดาเเสงศักดิ์สิทธิ์จะมีความสามารถในการบิน แต่เซียวซิงหยูจะไม่มีวันเรียกเธอออกมา
เพราะการออกทะเลครั้งนี้ เขาจะไม่ใช้ตัวตนของ "เซียวซิงหยู" แต่จะต้องใช้ตัวตนใหม่ จึงจะมีโอกาสรอดชีวิตกลับมาได้
เซียวซิงหยูเปิดแหวนมิติแล้วหยิบหน้ากากปีศาจออกมา
หลังจากสวมหน้ากากแล้ว เซียวซิงหยูก็เผยให้เห็นเพียงดวงตา ส่วนอื่นๆ ของใบหน้าถูกหน้ากากปิดบังไว้อย่างมิดชิด
จากนั้น, เซียวซิงหยูก็สวมเสื้อคลุมสีดำตัวใหญ่ยาว ชายเสื้อของเขาปลิวไสวไปตามแรงลมทะเลราวกับราชาปีศาจ
ในขณะนี้ ตัวตนของเขาไม่ใช่อัจฉริยะหนุ่มจากวิทยาลัยชิงหลงอีกต่อไป…แต่เป็นนักฆ่าลึกลับในชุดดำ ที่กำลังจะบุกโจมตีกองบัญชาการกองทัพเรือและช่วยคนจากลานประหารอย่างอุกฉกรรจ์
………………….