บทที่ 7 ทำลายสถิติโลก

บทที่ 7 ทำลายสถิติโลก

427……428……429……

ภายในฟิตเนส สายตาของสมิธที่เต็มไปด้วยความสงสัย ไป๋เย่กำลังทำสควอท ขาของเขาสั่นระริก

จากประสบการณ์ที่เคยดันร่างกายจนถึงขีดสุด ไป๋เย่รู้ตัวดีว่าอีกสิบครั้งเขาก็คงทรุดลง แต่สิ่งที่แตกต่างจากครั้งก่อนคือ ครั้งนี้เขาเพิ่มพลังภายในเข้ามาอีกสองสาย

เมื่อความเหนื่อยล้าเริ่มครอบงำ เขาฝืนร่างกายทำสควอทต่อไปอย่างยากลำบาก พลังภายในในดานเทียนหมุนเวียนไปตามเส้นประสาท ไหลไปทั่วร่างกาย ความเมื่อยล้าที่เคยรุมเร้าขาจึงค่อย ๆ จางหายไป

“มันใช้ได้จริง ๆ” ไป๋เย่คิดในใจอย่างมีความสุข รู้สึกประทับใจว่าสิ่งนี้เป็นไปตามที่อาจารย์หยู่ปู้ชุนได้อธิบายไว้ในหมายเหตุ ว่ามันสามารถฟื้นฟูพลังได้ จากนั้นเขาก็มีสมาธิและสังเกตสภาวะของพลังภายในตัวเอง

ภายในร่างกายของเขามีพลังภายในสองเส้นที่หมุนเวียนรอบหนึ่งรอบ ซึ่งทำให้สูญเสียไปหนึ่งในสิบ หรือประมาณสองเส้น นั่นหมายความว่าเขายังสามารถฟื้นฟูได้อีกเก้าครั้ง

หลังจากที่ร่างกายฟื้นตัวเล็กน้อย ไป๋เย่ก็เริ่มทำการสควอทต่อไป เมื่อเขาทำไปได้อีก 20 ครั้ง กล้ามเนื้อของเขาก็ถึงขีดจำกัดอีกครั้ง จากนั้นเขาก็เริ่มควบคุมพลังในดานเทียนให้ไหลลงมาเติมพลังให้กับร่างกาย

สมิธมองไป๋เย่ด้วยสายตาตกตะลึง ความเร็วในการทำสควอทของไป๋เย่ช้าลง ๆ จนถึงจุดหนึ่ง แล้วก็เร่งความเร็วขึ้นอย่างฉับพลัน แล้วก็ค่อย ๆ ช้าลง วนเวียนอยู่อย่างนี้

‘เกิดอะไรขึ้น ไอ้เด็กนี่มันกินยาอะไรเข้าไปวะ? เปลี่ยนไปขนาดนี้? ถ้าทำได้มากกว่านี้อีกนิด ก็สามารถไปเข้าร่วมบันทึกกินเนสส์บุ๊คได้แล้ว!’

สมิธไม่รู้ว่านี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่เขาต้องประหลาดใจกับไป๋เย่ ไอ้เด็กนี่มันสร้างเรื่องแปลก ๆ ใหม่ ๆ ได้เสมอ

ในที่สุด ด้วยสายตาที่เริ่มพร่ามัว สมิธเห็นไป๋เย่ใช้พลังภายในในดานเทียนจนหมดสิ้น ร่างกายทนไม่ไหว จึงทรุดตัวลงนั่งพับเพียบบนเสื่อโยคะ

คำอธิบาย:

คุณทำการออกกำลังกายแบบสควอทโดยไม่ใช้แรงช่วยด้วยจำนวนครั้งทั้งหมด 663 ครั้ง……

ทำซ้ำ 62 ครั้ง เพิ่มขีดจำกัดพลังงาน 0.1

ทำซ้ำ 32 ครั้ง เพิ่มขีดจำกัดร่างกาย 0.1

ทำซ้ำ 92 ครั้ง เพิ่มขีดจำกัดจิตใจ 0.1

‘จริงด้วย! ในสภาพร่างกายถึงขีดจำกัด การฝึกฝนจะมีประสิทธิภาพมากกว่าปกติหลายเท่า และพลังภายในก็ช่วยยืดเวลาการฝึกฝนได้นานขึ้น เหมือนได้ใช้ไอเท็มเพิ่มประสบการณ์หลายเท่าเลย’ ไป๋เย่สรุปในใจ

‘งั้นก็เริ่มจากฝึกฝนร่างกายจนถึงขีดจำกัด แล้วใช้พลังภายในฟื้นฟู ทำซ้ำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ก่อนวันจันทร์ที่ต้องไปเรียน คงเพิ่มค่าสถานะทั้งสามได้อีก 0.1 แน่ๆ’

ไป๋เย่นั่งพับเพียบบนเสื่อโยคะ สมิธมองด้วยสีหน้างง ๆ ไป๋เย่ก็ค่อย ๆ ฟื้นฟูพลังลมปราณที่ใช้ไปตอนเช้าทีละน้อย

การฟื้นฟูพลังลมปราณเร็วกว่าการเพิ่มขีดจำกัดพลังภายในมาก ยิ่งพลังลมปราณเหลืออยู่น้อยนิด แค่ไม่กี่นาทีก็เต็มแล้ว

เมื่อพลังภายในกลับมาเต็มเปี่ยม เขามองไปหาสมิธแล้วพูดว่า “ขาฉันไม่มีแรงแล้ว ช่วยอุ้มฉันหน่อยสิ”

“เอ่อ… คุณจะฝึกอะไรอีกเหรอครับ?” สมิธถาม

ไป๋เย่ไม่ตอบ แค่ชี้ไปที่เครื่องยกน้ำหนักข้าง ๆ

ด้วยวิธีนี้ ไป๋เย่ก็ค่อย ๆ ยกระดับตัวเองทีละขั้น ใช้โปรแกรมฝึกฝนหลากหลายท้าทายขีดจำกัดทางกายภาพของตัวเองอยู่ตลอดเวลา

ฝึกหนักจนทนไม่ไหว ไป๋เย่จึงใช้พลังภายในบรรเทาความเมื่อยล้า เมื่อพลังภายในหมดลงก็พักผ่อน รอให้พลังภายในกลับมาเต็มเปี่ยมจึงเปลี่ยนไปทำอย่างอื่น ระหว่างฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง เขาก็ค่อย ๆ ปรับตัวให้คุ้นเคยกับความเจ็บปวด

กลางคืน ไป๋เย่กลับไปนั่งฝึกวิชาคัมภีร์ม่านหมอกสีครามในห้อง เพื่อเพิ่มขีดจำกัดพลังลมปราณ

18 ชั่วโมงต่อมา หน้าจอแสดงผลขึ้นว่า：คุณทำการวิดพื้นโดยไม่ใช้เครื่องช่วยจำนวน 1392 ครั้ง ขีดจำกัดค่าสถานะร่างกายเพิ่มขึ้นเป็น 1.3!

24 ชั่วโมงต่อมา หน้าจอแสดงผลขึ้นว่า：คุณทำการวิดพื้นโดยใช้แรงเพิ่ม 30 กก. จำนวน 831 ครั้ง ขีดจำกัดค่าสถานะกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 1.4!

หลังจากอดนอนติดต่อกัน 27 ชั่วโมง ไป๋เย่ที่เหนื่อยล้าอย่างที่สุด จ้องมองไปข้างหน้า ดวงตาแน่วแน่ ชกหมัดตรงเป้าหมายลงบนเครื่องวัดแรงอย่างมั่นคง

หมัดพุ่งเข้าชน เสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วห้องยิม ตัวเลขบนเครื่องวัดแรงกระโดดขึ้นอย่างรวดเร็ว

200→300→400→500→600

สุดท้าย ตัวเลขหยุดลงที่ 672 ปอนด์ ท่ามกลางสายตาที่แสดงความไม่เชื่อของสมิธ

พร้อมกันนั้น ความรู้สึกเย็นสบายไหลทะลักเข้ามาในสมอง สติของไป๋เย่แจ่มใสขึ้น แม้ไม่ต้องดูหน้าจอ เขาก็รู้ว่าค่าสถานะจิตใจเพิ่มขึ้นเป็น 1.4 แล้ว

“พระเจ้าช่วย! เป็นไปได้ยังไง 672 ปอนด์ นี่มันเกินสถิติโลกไปแล้ว!” สมิธตะโกนด้วยความตกใจ ส่วนไป๋เย่เพียงมองไปที่หน้าจอค่าสถานะของตนเองโดยไม่เอ่ยวาจา

ชื่อ：ไป๋เย่

อายุขัย：18/120

กำลัง：1.4+

ความแข็งแกร่ง: 1.3+

จิตใจ: 1.4+

เสน่ห์: 1.4+

ค่าสถานะที่ยังไม่ใช้: 0.5

……

‘แค่พลัง 1.4 จะทำลายสถิติโลกของคนธรรมดาได้แล้วเหรอเนี่ย?’ ไป๋เย่รู้สึกว่าตัวเลขบนหน้าจอแปลก ๆ

เขาจำได้ว่าตอนพลังอยู่ที่ 1.2 ยังทำได้ไม่ถึงครึ่งของตอนนี้เลย แต่พอเพิ่มขึ้นแค่ 0.2 ร่างกายกลับแข็งแกร่งกว่าเดิมเป็นเท่าตัว

ยิ่งกว่านั้น หลังจากที่ไป๋เย่ลองศึกษาข้อมูลมาสองวัน เขาก็พบความลับบางอย่างของหน้าจอนี้ อย่างเช่น ค่าพลังไม่ได้หมายถึงแค่พละกำลังอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงความเร็วในการเคลื่อนไหวด้วย

ค่าร่างกายนั้นหมายถึงความยืดหยุ่น ความเร็วในการฝึกฝน และความเร็วในการฟื้นตัวของร่างกาย

ส่วนค่าจิตใจนั้นหมายถึงความตั้งใจ ความเร็วในการประมวลผลของสมอง การควบคุม ความจำ การสังเกต และความเข้าใจ

เหตุผลที่เขาเดาแบบนี้ก็เพราะว่าเมื่อค่าร่างกายของไป๋เย่เพิ่มขึ้น ความเร็วในการฝึกคัมภีร์ม่านหมอกสีครามก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ตอนค่าร่างกายถึง 1.3 ความเร็วในการรวมพลังลมปราณจี๋เซี่ยสีม่วงใช้เวลาแค่ 15 นาทีเท่านั้น ถึงขั้นที่อวิ๋นปู้ชุนยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะหาตัวจับยาก

แต่ที่น่าประหลาดใจกว่านั้นคือ ร่างกายของเขาดูเหมือนจะเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียว ตอนที่เขาทำสควอท พลังแขนก็จะเพิ่มขึ้นตามการฝึกขา ความเร็วในการฝึกฝนก็เช่นกัน

นั่นหมายความว่า แม้จะไม่ได้ฝึกตรงส่วนนั้นโดยเฉพาะ แต่ร่างกายก็ได้รับการฝึกฝนไปด้วย!

‘หน้าจอค่าสถานะนี่มันมีความลับอีกเยอะเลยที่ต้องค้นหา ทำไมไม่มีคู่มือการใช้งานอะไรเลยวะเนี่ย?’ ไป๋เย่บ่นในใจเบา ๆ

ไป๋เย่หันไปบอกสมิธว่า “วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ พรุ่งนี้วันจันทร์ ผมต้องไปโรงเรียน อาจจะต้องรอเลิกเรียนถึงจะมาฝึกได้ งั้นก่อนบ่ายสามคุณจัดการเวลาเองตามสะดวกเลยนะครับ”

“ครับ ๆ” สมิธตอบรับเสียงอ่อนน้อม

เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างน่าทึ่งของไป๋เย่ สมิธถึงกับนึกในใจว่าไป๋เย่กลายเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ไปเสียแล้ว

เพราะข่าวโฆษณาชวนเชื่อจากรัฐบาลทั่วโลก ทำให้มนุษย์กลายพันธุ์กลายเป็นเหมือนหนูตกถังข้าวสาร ตกเป็นเป้าหมายของคนทั้งเมือง เขาก็เลยลังเลว่าจะไปแจ้งตำรวจจับไป๋เย่ ส่งไปศูนย์กักกันมนุษย์กลายพันธุ์ดีไหม

แต่แน่นอน นั่นเป็นแค่ความคิดของเขาเท่านั้น ตอนนี้ไป๋เย่ก็คือลูกค้าของเขา การดูเขาออกกำลังกายก็แค่แปลกใจบ้าง ก็ว่าง ๆ สบาย ๆ เงินก็ได้ปกติ ไม่จำเป็นต้องยุ่งเรื่องของเขาเลย

หลังจากออกจากเนสแล้วแห่งนี้ ไป๋เย่รู้สึกว่าร่างกายแข็งแรงและจิตใจสดชื่นจากการพัฒนาตัวเอง เขาตัดสินใจเดินกลับบ้านทันที การออกกำลังกายอย่างเดียวเริ่มทำให้เขารู้สึกไม่พอใจ และเขามีความคิดบางอย่างที่อยากจะลองทำดู