บทที่ 4 ตู้คีบไข่
บทที่ 4 ตู้คีบไข่
“หลินเซิน ฉันคุยกับนายอยู่นะ นายไม่ได้ยินเหรอ? เรียกนายว่าคุณชายน้อย ก็เพราะเห็นแก่หน้าพี่สามกับพี่สี่ของนาย อย่าคิดว่าตัวเองเป็นคุณชายจริงๆ ไปหน่อยเลย” ฉีเทียนฝูพูดอย่างโมโหเมื่อเห็นหลินเซินไม่สนใจเขา
“ไม่ต้องห่วงน่า วันนี้ฉันจะทำตัวเป็นคุณชายจริงๆ เอาเงินนี่ไปแลกเหรียญให้หมด” หลินเซินหยิบเงินปึกหนึ่งออกมาจากกระเป๋า วางลงบนเคาน์เตอร์
“เงินแค่นี้ก็อยากเป็นคุณชายแล้ว นายดูถูกใครเนี่ย? ฉันไม่ขายของให้นายหรอก ไสหัวไป” ฉีเทียนฝูงงไปครู่หนึ่ง พอรู้ตัวก็พูดอย่างเย็นชา
“นายไม่อยากขาย หรือกลัวว่าฉันจะรู้ว่าตู้คีบไข่ในร้านนายมีกลโกงกันแน่?” หลินเซินพูดอย่างใจเย็น
“ใครมีกลโกง? ตู้คีบไข่ของฉันที่คีบแน่น ไข่กลายพันธุ์ก็คุณภาพดี นายมันจะไปรู้อะไร” เมื่อได้ยินดังนั้น ฉีเทียนฝูโกรธจัด
ทั้งสองคนพูดจาเสียงดัง ทำให้ลูกค้าในร้านหันมามอง ฉีเทียนฝูไม่อยากเป็นจุดสนใจในสถานการณ์ที่หลินเซินใส่ร้ายเขา
“ถ้าไม่มีกลโกง นายกลัวอะไร ก็แลกเหรียญมาสิ” หลินเซินใช้นิ้วสามนิ้วกดเงินไว้ แล้วเลื่อนไปตรงหน้าฉีเทียนฝู
“ได้ งั้นนายก็คีบซะจนกว่าจะพอใจ” ฉีเทียนฝูจ้องหลินเซินอย่างโมโห คว้าเงินไป แล้วหยิบกล่องเหรียญมาวางกระแทกใส่หน้าหลินเซิน
หลินเซินรับเหรียญมา ไม่พูดพร่ำทำเพลง เดินตรงไปยังตู้คีบไข่ที่มีไข่กลายพันธุ์ที่ส่องประกายแสงอยู่
ตอนนี้ไม่มีใครอยู่หน้าตู้คีบไข่นั้น หลินเซินหยอดเหรียญแล้วเริ่มบังคับคันโยก
“เจ้านาย หลินเซินมันหยิ่งยโสมากเลยครับ จะปรับที่คีบให้หลวมลงไหมครับ มันจะได้รู้สำนึกบ้าง” พนักงานเดินมาหาฉีเทียนฝูแล้วพูดเบาๆ
“ไม่ได้ ไอ้หมอนั่นฉันรู้จักมันดี ภายนอกดูเหมือนเด็กหนุ่มใสซื่อไร้พิษสง แต่จริงๆ แล้วมันเจ้าเล่ห์มาก มันมาที่นี่ต้องมีแผนอะไรแน่” ฉีเทียนฝูคิดว่าตัวเองมองหลินเซินทะลุปรุโปร่ง “มันจงใจยั่วโมโหฉัน ถ้าฉันปรับที่คีบให้หลวมลง ลูกค้าหลายคนเห็นมันเสียเงินเยอะขนาดนี้แต่คีบไม่ได้ แถมมันยังโวยวายอีก แน่นอนว่าจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของเรา มาเล่นลูกไม้แบบนี้กับฉัน ไม่มีประโยชน์หรอก ปล่อยให้มันคีบไป จะคีบได้สักเท่าไหร่เชียว? ถือว่าเป็นการโฆษณาให้ร้านเราแล้วกัน”
“เจ้านายนี่สุดยอดจริงๆ” พนักงานผงกหัวซ้ำๆ พูดชมไม่หยุดปาก
“เลิกประจบสักที เฝ้าร้านไป” ฉีเทียนฝูหัวเราะดุด่า แล้วเดินออกมาจากหลังเคาน์เตอร์ มายืนดูหลินเซินคีบไข่อยู่ด้านหลัง
หลินเซินรู้ว่าฉีเทียนฝูมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้หันไปมอง แค่ตั้งใจคีบไข่ของตัวเอง
ต้องยอมรับว่าคุณภาพของไข่กลายพันธุ์ในตู้คีบไข่ของฉีเทียนฝูดีกว่าในร้านของเขาจริงๆ ในตู้คีบไข่นี้มีไข่กลายพันธุ์อยู่แปดฟอง ถึงจะเป็นไข่กลายพันธุ์ระดับเหล็กกล้าทั้งหมด แต่ไข่กลายพันธุ์ระดับเหล็กกล้าก็มีคุณภาพต่างกัน
พละกำลัง ความเร็ว ความแข็ง และความยืดหยุ่น เป็นค่าสำคัญที่ใช้วัดสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ ถึงแม้ว่าค่าสูงสุดของสิ่งมีชีวิตเหล็กกล้าคือสิบ แต่สิ่งมีชีวิตเหล็กกล้าส่วนใหญ่ไม่ได้มีค่าถึงสิบ ถ้าได้แปดเก้าก็ถือว่าดีมากแล้ว เรียกว่าเป็นของหายาก
ไข่กลายพันธุ์ที่หลินเซินใช้ในร้านส่วนใหญ่เป็นสัตว์ร้ายเขาเหล็ก สัตว์ร้ายเขาเหล็กที่โตเต็มวัยจะมีความเร็วประมาณแปด พละกำลังประมาณเจ็ด แต่ความแข็งแค่ห้ากว่าๆ ความยืดหยุ่นสูงหน่อยก็แค่หกกว่าๆ ค่าแบบนี้อยู่ในระดับกลางๆ ค่อนไปทางต่ำของสิ่งมีชีวิตเหล็กกล้า
ไข่กลายพันธุ์ในตู้คีบไข่นี้เป็นสัตว์ร้ายเกราะเหล็กกล้า ถึงความเร็วจะน้อย แค่ห้ากว่าๆ แต่พละกำลังและความแข็งมีมากกว่าแปด บางตัวถึงเก้า ความยืดหยุ่นก็มากกว่าเจ็ด พลังต่อสู้แข็งแกร่งกว่าสัตว์ร้ายเขาเหล็กมาก
สัตว์ร้ายเกราะเหล็กกล้าที่โตเต็มวัยมีขนาดเท่าช้าง แต่น้ำหนักมากกว่ามาก ใช้เป็นพาหนะก็ได้ เป็นสัตว์เลี้ยงต่อสู้ก็ได้ ขนส่งอุปกรณ์และสินค้าขนาดใหญ่ก็ได้ เป็นสัตว์เลี้ยงที่ใช้งานได้หลากหลาย
จริงๆ แล้ววัสดุที่ใช้สร้างฐานหลายแห่งก็ได้มาจากสัตว์ร้ายเกราะเหล็กกล้า มูลค่าสูงกว่าสัตว์ร้ายเขาเหล็กมาก
ตู้คีบไข่แต่ละตู้ใช้เหรียญไม่เท่ากัน ตู้ที่มีไข่สัตว์ร้ายเกราะเหล็กกล้านี้ต้องหยอดเหรียญสี่เหรียญถึงจะเล่นได้หนึ่งครั้ง เท่ากับสี่สิบหยวนต่อครั้ง ถือว่าเป็นตู้ที่ค่อนข้างแพงในร้านของฉีเทียนฝู
หลินเซินหยอดเหรียญลองคีบไปหลายครั้ง ทุกครั้งที่คีบไข่กลายพันธุ์ขึ้นมาได้ พอที่คีบเคลื่อนไปทางช่องออก ไข่กลายพันธุ์ก็หล่นลงไป คีบไปห้าครั้งก็ยังไม่ได้อะไร
“หลินเซิน ดวงนายไม่ดีนี่นา” ฉีเทียนฝูพูดเยาะเย้ยข้างๆ
“คนไม่มีฝีมือถึงต้องพึ่งดวง” หลินเซินไม่มองฉีเทียนฝู หยอดเหรียญอีกสี่เหรียญแล้วเริ่มคีบไข่
“เชอะ ไม่พึ่งดวงแล้วจะพึ่งอะไร? ให้เง็กเซียนฮ่องเต้ช่วยเหรอ?” ฉีเทียนฝูเบะปาก
“พึ่งเทคนิคไง” หลินเซินพูดพลางโยกคันโยกไปมา
ในฐานเสวียนเหนี่ยว หลินเซินเป็นคนแรกที่เปิดร้านคีบไข่ ก่อนหน้านั้นไม่ค่อยมีคนเล่นเครื่องนี้ ฉีเทียนฝูก็แค่เปิดร้านตามกระแส ก่อนหน้านี้ไม่เคยเล่นมาก่อน ความรู้เรื่องตู้คีบไข่ของฉีเทียนฝูยังน้อยกว่าหลินเซินมาก
หลังจากลองคีบไปห้าครั้ง หลินเซินก็รู้แล้วว่าตู้คีบไข่นี้ถูกตั้งค่าไว้แบบไหน
ที่คีบของที่นี่แน่นกว่าในร้านของหลินเซินจริงๆ สำหรับคนทั่วไป การจะคีบไข่ได้ก็ยังยากอยู่ จากการตั้งค่าความน่าจะเป็น ประมาณยี่สิบครั้งถึงจะคีบไข่ได้หนึ่งฟอง
แต่นั่นเป็นแค่ความน่าจะเป็นสำหรับคนทั่วไป เหตุผลที่หลินเซินตั้งค่าที่คีบให้หลวมมาก จนบางครั้งคีบไข่ไม่ขึ้น ก็เพื่อป้องกันพวกเซียนคีบไข่ ไม่ใช่ลูกค้าทั่วไป
ก่อนเปิดร้าน หลินเซินเคยศึกษาอยู่พักหนึ่ง เคยดูวีดีโอของเซียนคีบไข่หลายคน เขารู้ว่าเครื่องนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับดวงอย่างเดียว สำหรับเซียนคีบไข่ การจะคีบไข่กลายพันธุ์ออกมาด้วยความแข็งแรงของที่คีบแบบนี้เป็นเรื่องง่ายมาก
ส่วนตัวหลินเซินเอง ถึงจะไม่ใช่เซียนคีบไข่ขั้นเทพ แต่ก่อนเปิดร้าน เขาก็เล่นเครื่องนี้มาแล้ว เขาเปิดร้านเพราะชอบเล่น ดังนั้นจึงมีความชำนาญในระดับหนึ่ง
ที่คีบในเครื่องโยกไปมาตามการบังคับคันโยกของหลินเซิน ตอนนี้ตำแหน่งของที่คีบอยู่เหนือช่องออก ด้านล่างเป็นช่องออก ไม่ได้อยู่ตรงกับตำแหน่งของไข่กลายพันธุ์ฟองใด
เมื่อที่คีบโยกไปถึงมุมหนึ่ง หลินเซินก็กดปุ่มคีบ ที่คีบตกลงไปเฉียงๆ พอดีกับไข่กลายพันธุ์ฟองหนึ่งข้างๆ
ไข่กลายพันธุ์ถูกคีบขึ้นมา พอถึงข้างบน ก่อนที่ที่คีบจะขยับ ไข่กลายพันธุ์ก็หล่นลงมา
แต่ตำแหน่งเดิมของที่คีบอยู่เหนือช่องออกพอดี ไข่กลายพันธุ์ที่หล่นลงมาก็เลยตกลงไปในช่องออก แล้วกลิ้งออกมา
“เทคนิคเหวี่ยง!” สีหน้าของฉีเทียนฝูปลี่ยนไปเล็กน้อย
เขาเปิดร้านตามหลินเซิน แค่อยากแกล้งหลินเซินเฉยๆ ไม่ได้สนใจการคีบไข่จริงๆ แต่เทคนิคเหวี่ยงนี้เขาก็พอรู้บ้าง แค่ไม่คิดว่าหลินเซินจะใช้เทคนิคนี้ได้
“คีบไข่แบบนี้ก็ได้เหรอ?” เด็กหนุ่มที่กำลังคีบไข่อยู่ที่ตู้ข้างๆ ตะลึงร้องออกมา
หลินเซินเก็บไข่กลายพันธุ์ที่คีบได้ใส่กระเป๋า หันไปยิ้มให้ฉีเทียนฝู “ฉีเทียนฝู ฉันเปิดร้านคีบไข่เพราะฉันชอบเล่น ส่วนนายไม่ได้สนใจอะไรเลย การคีบไข่ของนายพึ่งดวง แต่ฉันพึ่งเทคนิค”
พูดจบ หลินเซินก็หยอดเหรียญอีกสี่เหรียญ แล้วคีบต่อ
การกระทำแบบเดิม ภาพแบบเดิม ที่คีบเหวี่ยงลงไปเฉียงๆ คีบไข่กลายพันธุ์ขึ้นมาได้อีกฟอง
ฉากเดิมๆ ภาพที่คุ้นเคย ไข่กลายพันธุ์ตกลงไปในช่องออกอีกแล้ว
ความแข็งแรงของที่คีบแบบนี้ไม่ได้ยากสำหรับหลินเซิน ถึงจะไม่ได้ทุกครั้ง แต่ก็สำเร็จประมาณห้าถึงหกในสิบครั้ง
ไม่นาน หลินเซินก็คีบไข่กลายพันธุ์ได้สี่ฟอง ลูกค้าเกือบทั้งร้านต่างมามุงดู
ทุกครั้งที่หลินเซินคีบไข่ได้ ก็จะมีเสียงฮือฮาจากคนรอบข้าง
“คีบไข่แบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอ?”
“ที่ผ่านมาฉันเล่นแบบไร้ประโยชน์สินะ ที่แท้ต้องคีบแบบนี้”
“…”
หน้าของฉีเทียนฝูดำคล้ำเหมือนโดนสาดหมึกกัดฟันกรอดๆ แต่ก็พูดไม่ออก