บทที่ 1 ประกายแห่งวิวัฒนาการก้าวข้ามขีดจำกัดที่ล้มเหลว
นิยายจากผู้แต่งเดียวกันกับ ‘Super god gene’ และ ‘ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆ’ ฝากติดตามกันด้วยนะครับ คาดว่าสามารถลงได้วันละ 10 - 20 ตอน เกิน 2 ทุ่มแล้วยังไม่ลง = วันนั้นหยุดนะครับ
เนื้อเรื่องช่วงแรกๆต้องใช้เวลาในการเกริ่นสักหน่อย อดทนอ่านหน่อยนะครับ
บทที่ 1 ประกายแห่งวิวัฒนาการก้าวข้ามขีดจำกัดที่ล้มเหลว
“บ้าไปแล้ว! มันมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ด้วยเหรอ? นี่มันขัดหลักวิทยาศาสตร์ชัดๆ!” หลินเซินจ้องสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ที่ยืนนิ่งราวกับรูปปั้นตรงหน้า ในดวงตาเต็มไปด้วยความทึ่งที่ยากจะเก็บซ่อน
มันคือสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ระดับเหล็กกล้า ดูคล้ายทั้งม้าและวัว ตัวของมันเปล่งประกายราวกับเหล็กหล่อ ในตอนนี้มันกำลังยืนอยู่ในท่วงท่า “อาชาเหยียบนางแอ่น” ไม่ขยับเขยื้อน ใครเห็นก็คงคิดว่าเป็นรูปปั้นเหล็กหล่อ
แต่หลินเซินมั่นใจอย่างยิ่งว่ามันไม่ใช่รูปปั้น เพราะไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ มันยังวิ่งชนข้าวของราวกับรถถัง และยังเกือบจะชนเขาล้มลงอยู่เลย
ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ระดับเหล็กกล้าที่ระดับต่ำที่สุด แต่พละกำลังและความเร็วของมันก็ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ปกติจะเทียบได้ ถึงแม้แต่ช้างหรือแรดที่มีพละกำลังมหาศาลตามธรรมชาติก็ไม่อาจเทียบเท่า
แต่หลินเซินเพียงแค่ใช้นิ้วจี้จุดไปที่ตัวมัน สัตว์ร้ายเขาเหล็กระดับเหล็กกล้าตัวนี้ก็เหมือนโดนจี้จุดหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้น
แน่นอนว่าหลินเซินไม่ได้จี้จุด เพราะในความเป็นจริงแล้ว วิชาจี้จุดในตำนานได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าไม่มีอยู่จริง
แม้ในยุคปัจจุบันที่มนุษย์สามารถฝึกฝนและวิวัฒนาการได้ ไม่ว่าพละกำลังจะแข็งแกร่งเพียงใด ถึงแม้จะสามารถใช้นิ้วเจาะทะลุแผ่นเหล็กได้ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะจี้จุดมนุษย์ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการจี้จุดสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ที่แข็งแกร่งราวกับเหล็ก
หลินเซินลูบนิ้วของตัวเอง ยังคงไม่อยากจะเชื่อว่าเขาทำได้จริงๆ
ไม่นานมานี้ เขาค้นพบไข่กลายพันธุ์ที่แปลกประหลาดมากในโกดัง ที่เรียกว่าไข่กลายพันธุ์ จริงๆ แล้วก็คือไข่ที่สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์วางไว้
นับตั้งแต่สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ปรากฏขึ้น จนถึงปัจจุบันก็ผ่านมาสองร้อยกว่าปีแล้ว มนุษย์ได้ศึกษาทั้งทฤษฎี วิธีการฝึกฝน และวิวัฒนาการโดยใช้สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์
ไข่กลายพันธุ์จึงไม่ใช่ของหายาก ไข่กลายพันธุ์ระดับต่ำบางชนิดมีมูลค่าไม่ต่างจากราคาอาหารหนึ่งมื้อ
หลินเซินทำธุรกิจค้าขายไข่กลายพันธุ์ เขาเคยเห็นไข่กลายพันธุ์มานับไม่ถ้วน แต่เขาไม่เคยเห็นไข่กลายพันธุ์ที่แปลกประหลาดแบบนี้มาก่อน
ไข่กลายพันธุ์ฟองนี้ราวกับถูกใส่โมเสก มันมีแสงสีเล็กๆ ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาปกคลุมทั่วทั้งฟอง ดูราวกับภาพฝันที่ไม่เป็นจริง
หลินเซินศึกษาอยู่นานก็ไม่พบความแตกต่างของไข่กลายพันธุ์ฟองนั้น แม้แต่ตอนที่ให้พนักงานในร้านดู พวกเขาก็ไม่เห็นโมเสกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาบนไข่กลายพันธุ์ ในสายตาของพวกเขา มันเป็นเพียงไข่กลายพันธุ์ระดับเหล็กกล้าสามัญที่เปล่งประกายโลหะสีดำ
ทำให้หลินเซินคิดว่าตัวเองตาฝาด จนกระทั่งหลังจากนอนหลับไป ไข่กลายพันธุ์ฟองนั้นก็กลับสู่สภาพปกติอย่างน่าประหลาด ไม่มีโมเสกอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม หลินเซินพบว่าในหัวของเขามีข้อมูลเพิ่มขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ
[ประกายแห่งวิวัฒนาการก้าวข้ามขีดจำกัดที่ล้มเหลว - จี้จุด: ส่งผลต่อสถานะของสิ่งมีชีวิตโดยการกดจุดเฉพาะบนร่างกาย]
หลังจากนั้น เรื่องต่างๆ ก็เริ่มแปลกขึ้นเรื่อยๆ ตราบใดที่หลินเซินจ้องมองสิ่งมีชีวิตใดๆ เป็นเวลานาน เขาจะเห็นจุดแสงปรากฏขึ้นบนร่างกายของสิ่งมีชีวิตนั้น ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ เขาก็สามารถมองเห็นจุดแสงเหล่านั้นได้ เพียงแต่จำนวนและตำแหน่งของจุดแสงจะแตกต่างกันไป
มนุษย์ปกติมีจุดแสงมากกว่าผู้วิวัฒนาการและสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ ยิ่งระดับชั้นยอดก็ยิ่งมีจุดแสงน้อยลง
หลินเซินอดใจไม่ไหว ในที่สุดวันนี้ก็ได้ทดลองกับสัตว์ร้ายเขาเหล็กที่เลี้ยงไว้ ผลลัพธ์ทำให้เขาทึ่ง เพราะเขาสามารถจี้จุดสัตว์ร้ายเขาเหล็กได้จริงๆ
หลินเซินยืนอยู่ด้านข้างของสัตว์ร้ายเขาเหล็ก เอื้อมนิ้วไปกดจุดแสงจางๆ บนร่างกายของมันอีกครั้ง สัตว์ร้ายเขาเหล็กที่เคยหยุดนิ่งราวกับรูปปั้นก็กลับมาวิ่งได้ในทันที พุ่งออกไปชนรั้วโลหะเสียงดัง พร้อมกับเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดเบาๆ
“ประกายวิวัฒนาการที่ล้มเหลวก็ยังน่ากลัวขนาดนี้ ถ้าเป็นประกายวิวัฒนาการที่สำเร็จล่ะ?” ในตอนนี้ความตื่นเต้นในใจของหลินเซินนั้นเกินจะบรรยาย ถ้าได้ใช้พลังจากประกายพวกนี้ล่าสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ มันคงเป็นอะไรที่น่าสนุกมาก
เหมือนนึกอะไรขึ้นได้ หลินเซินวิ่งออกจากคอกสัตว์ ปิดประตูแล้วรีบไปที่โกดัง เขาอยากไปดูว่ายังมีไข่กลายพันธุ์ที่มีประกายอยู่หรือไม่
ภายในโกดังขนาดใหญ่ ชั้นวางของเรียงรายไปด้วยไข่กลายพันธุ์มากมาย ไข่กลายพันธุ์เหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นของระดับต่ำ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น เพราะไข่กลายพันธุ์ฟองก่อนหน้านี้ที่มีประกายก็เป็นของระดับต่ำเช่นกัน อันที่จริงแล้วร้านของเขาไม่มีไข่กลายพันธุ์ชั้นยอดอยู่แล้ว
หลังจากดูไข่กลายพันธุ์ทั้งหมดในโกดังแล้ว ผลลัพธ์ก็ทำให้เขาผิดหวัง เขาไม่พบไข่กลายพันธุ์ที่ถูกปกคลุมด้วยโมเสกเลย
“เป็นอย่างที่คิด ไข่กลายพันธุ์พวกนี้ ตอนที่เข้าโกดัง ฉันเป็นคนวางมันไว้บนชั้นวางเอง ถ้าพวกมันมีประกาย ฉันก็น่าจะเห็นมันตั้งนานแล้ว” หลินเซินส่ายหัว รู้สึกว่าตัวเองโลภมากเกินไป แค่ประกายที่เจอก็ถือเป็นปาฏิหาริย์แล้ว จะหวังอะไรได้อีก
หลินเซินเก็บความตื่นเต้นไว้ในใจ แล้วไปที่ร้าน
ร้านที่เขาเปิดเป็นร้าน “คีบไข่” คล้ายกับร้าน “คีบตุ๊กตา” ที่เคยฮิตมาก่อน ในแต่ละตู้คีบไข่จะมีไข่กลายพันธุ์วางอยู่หลายฟอง สามารถหยอดเหรียญเพื่อคีบไข่กลายพันธุ์ภายในได้
แน่นอนว่าโอกาสในการจับได้นั้นต่ำมาก เรียกได้ว่าเป็นธุรกิจที่ได้กำไรแน่นอน
“พี่ห้า วันนี้คนน้อยอีกแล้ว” พนักงานสาวชื่อจ้าวลี่เห็นหลินเซินเดินเข้ามา ก็เดินออกมาจากหลังเคาน์เตอร์ มองไปยังร้านที่ว่างเปล่าด้วยความกังวล “พี่ห้า เราต้องหาวิธีเอาไข่กลายพันธุ์ชั้นยอดมาขายบ้างแล้ว ไม่งั้นลูกค้าจะหนีไปร้าน”ไข่สีรุ้ง“ที่อยู่ข้างๆ กันหมด”
“อืม” หลินเซินพยักหน้าเบาๆ แต่ไม่ได้พูดอะไรต่อ
เขาเป็นลูกคนที่ห้าในบ้าน มีพี่ชายสามคนและพี่สาวหนึ่งคน ดังนั้นจ้าวลี่จึงมักเรียกเขาว่าพี่ห้า
“ร้านไข่สีรุ้งข้างๆ พวกมันร้ายกาจมาก พนักงานของพวกเขาวันนี้มายืนเรียกลูกค้าหน้าร้านเราอย่างโจ่งแจ้ง แถมยังบอกว่าไข่กลายพันธุ์ในร้านเราเป็นของห่วย ที่คีบก็หลวม ถึงจับได้ก็ได้แต่ของห่วย...” จ้าวลี่พูดด้วยความโมโห
แต่หลินเซินไม่ได้สนใจฟังเธอบ่น เพราะแววตาของเขาถูกดึงดูดไปที่ตู้คีบไข่เครื่องหนึ่ง
เขาจ้องตู้คีบไข่นั้นไม่วางตา
แน่นอน ตู่คีบไม่ใช่เป้าสายตา ที่จริงแล้ว เขาถูกดึงดูดด้วยไข่กลายพันธุ์ฟองหนึ่งในตู้คีบไข่นั้นต่างหาก เพราะเขาเห็นโมเสกแปลกๆ นั้นอีกครั้ง!
“ยังมีอีกเหรอเนี่ย?” หลินเซินเดินไปที่ตู้คีบไข่เครื่องนั้นด้วยความประหลาดใจ จ้องมองไข่กลายพันธุ์ที่ปกคลุมด้วยโมเสกอยู่ภายใน แล้วพูดกับจ้าวลี่อย่างร้อนรน “ไปเอาลูกกุญแจมา”
หลังจากจ้าวลี่นำลูกกุญแจมาให้ หลินเซินก็เปิดตู้คีบไข่ นำไข่กลายพันธุ์ที่มีโมเสกออกมา ถือไว้ในมือแล้วพิจารณาอย่างละเอียด
ถึงแม้ว่าไข่กลายพันธุ์ฟองนี้จะมีชนิดและขนาดต่างจากฟองก่อนหน้า แต่แสงสีของโมเสกก็แทบจะเหมือนกัน
“พี่ห้า ไข่กลายพันธุ์ฟองนี้มีอะไรผิดปกติเหรอคะ?” จ้าวลี่ถามด้วยความสงสัย
“เธอไม่รู้สึกว่าไข่กลายพันธุ์ฟองนี้มันแปลกไปจากเดิมเหรอ?” หลินเซินไม่ได้ตอบ แต่ถามกลับ
“มันต่างตรงไหนเหรอคะ? ก็แค่ไข่ปีศาจมีดน้อยระดับเหล็กกล้าไม่ใช่เหรอ?” จ้าวลี่มองซ้ายมองขวา ก็ไม่เห็นความแตกต่างของไข่กลายพันธุ์ฟองนี้ ใบหน้ายิ่งเต็มไปด้วยความสงสัย
“ฝากดูร้านให้ดี ฉันมีธุระต้องกลับก่อน” หลินเซินไม่ได้พูดอะไรต่อ เดินออกไปพร้อมกับไข่กลายพันธุ์
ในใจเขาเต็มไปด้วยความสงสัย เพราะช่วงนี้ธุรกิจไม่ดี ไข่กลายพันธุ์ในตู้คีบไข่เหล่านี้ก็วางไว้นานเป็นอาทิตย์ หรืออาจจะนานกว่านั้น เขาเคยดูมันมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ก่อนหน้านี้ก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรผิดปกติ ทำไมจู่ๆ ถึงมีไข่กลายพันธุ์ที่มีโมเสกแบบนี้อีกละ?
หลินเซินไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ ถึงมีไข่กลายพันธุ์ที่มีโมเสกแบบนี้เพิ่มขึ้นมาอีกฟอง หลังจากกลับบ้านแล้วเขาก็ศึกษามันอยู่นาน แต่ก็ไม่รู้วิธีที่จะถ่ายโอนประกายมาสู่ตัวเอง
จริงๆ แล้วหลินเซินก็ยังไม่รู้ว่าโมเสกบนไข่กลายพันธุ์ฟองก่อนหน้าถ่ายโอนมาสู่เขาได้อย่างไร
ก่อนหน้านี้เขาอุ้มไข่กลายพันธุ์ฟองนั้นศึกษามันอยู่นาน ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมีโมเสก ต่อมาเขาก็เหนื่อยจนหลับไปโดยวางไข่กลายพันธุ์ไว้ข้างๆ ตื่นขึ้นมาอีกทีโมเสกบนไข่กลายพันธุ์ก็หายไป และในหัวก็มีข้อมูลของประกายเพิ่มขึ้นมา
“ดูเหมือนต้องลองอีกครั้ง หวังว่ามันจะได้ผลนะ” หลินเซินนอนลงบนเตียง วางไข่กลายพันธุ์ไว้ข้างๆ ครุ่นคิดอยู่นาน พลิกตัวไปมาจนนอนไม่หลับ ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ในที่สุดเขาก็ผล็อยหลับไป
เมื่อหลินเซินตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น สิ่งแรกที่เขาทำคือรีบดูไข่กลายพันธุ์ที่อยู่ข้างๆ ตัว
เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า หลินเซินก็รู้สึกเหมือนได้กินรากโสมเข้าไป รูขุมขนทั่วร่างกายราวกับกำลังโห่ร้องด้วยความยินดี
โมเสกบนไข่กลายพันธุ์ฟองนั้นหายไปแล้ว และในหัวของเขาก็มีข้อมูลของประกายเพิ่มขึ้นมาอีกอันหนึ่ง!