ตอนที่ 802 นักศึกษาที่โดดเด่นที่สุด
ทุกคนล้วนคาดการณ์ว่าผู้ที่จะได้ตำแหน่งอันดับหนึ่งใน 10 ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่โดดเด่นแห่งเซี่ยงไฮ้ ปีนี้จะต้องเป็น เซวีย ฉีเหวิน หรือ เว่ย อวี้เตี๋ย
เซวีย ฉีเหวิน ใช้เวลาเพียง 3 ปีสร้างธุรกิจของตัวเองจนประสบความสำเร็จ ติด 1 ใน 10 บริษัทชั้นนำระดับประเทศในอุตสาหกรรมที่เขาอยู่
สิ่งนี้นับว่าโดดเด่นมากอยู่แล้ว และยังมีข่าวลือออกมาว่าเขามีเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน
ส่วน เว่ย อวี้เตี๋ย แม้ว่าบริษัทของเธอจะด้อยกว่าของ เซวีย ฉีเหวิน เล็กน้อย แต่เธอมาจากตระกูลเศรษฐีเก่าแก่ในต่างเมือง เธอเป็นทายาทรุ่นที่สามของ ตระกูลเว่ย
และด้วยความเป็นผู้หญิงที่สามารถเอาชนะพี่น้องชายหญิงจำนวนมากเพื่อขึ้นมาเป็นทายาทหลักของตระกูลเว่ย นั่นทำให้เธอได้รับการยอมรับอย่างมาก
มีไม่กี่ตระกูลใหญ่ในประเทศที่เลือกผู้หญิงเป็นทายาทหลัก
ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลเว่ย มีอิทธิพลอย่างมากในเซี่ยงไฮ้เพราะธุรกิจที่พวกเขาดำเนินการอยู่
ก่อนประกาศผลการจัดอันดับ 10 ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่โดดเด่นแห่งเซี่ยงไฮ้ สมาชิกตระกูลเว่ยบางคนถึงกับประกาศออกมาว่า
“อันดับหนึ่งปีนี้ จะต้องเป็นของ เว่ย อวี้เตี๋ย อย่างแน่นอน!!!”
บรรดาเศรษฐี และนักธุรกิจจำนวนมากยังแอบเปิดโต๊ะพนันลับๆ เดิมพันว่าใครจะได้อันดับหนึ่งระหว่าง เซวีย ฉีเหวิน กับเว่ย อวี้เตี๋ย
นี่จึงเป็นสาเหตุที่การประกาศอันดับปีนี้ได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ เพราะมันเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของพวกเขาโดยตรง
แต่เมื่อผลการจัดอันดับถูกประกาศออกมา ชื่อของผู้ที่ได้อันดับ 1 ใน 10 ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีความโดดเด่นในเซี่ยงไฮ้ กลับทำให้ทุกคนอึ้งจนพูดไม่ออก!
อันดับหนึ่ง : เย่เฉิน!!!
ทุกคนตกตะลึง ไม่เว้นแม้แต่ เซวีย ฉีเหวิน, เว่ย อวี้เตี๋ย และเหล่านักธุรกิจที่เดิมพันผลนี้ไว้
เย่เฉิน?!
นี่ใครกัน?!
ในงาน มีเพียงเศรษฐีบางคนเท่านั้นที่รู้จักชื่อ เย่เฉิน โดยส่วนใหญ่ไม่เคยได้ยินชื่อเขามาก่อนเลยด้วยซ้ำ
อันดับสองตกเป็นของ เว่ย อวี้เตี๋ย และส่วนอันดับสามนั้นคือ เซวีย ฉีเหวิน
ทันทีที่ผลการจัดอันดับถูกเผยแพร่ ก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง
แม้แต่บนโลกออนไลน์ก็มีคนมาให้ความสนใจ และสงสัยว่า :
‘เย่เฉิน คนนี้คือใคร?’
“บ้าเอ๊ย! ไอ้เชี้ยเวรนี่มันเป็นใคร”
“ห่านเอ๊ยย ฉัน.. ฉันได้แค่อันดับสามเท่านั้นเองเหรอวะ?!”
เซวีย ฉีเหวิน โกรธจนควบคุมตัวเองไม่ได้ เขาพลันปาโน้ตบุ๊กตรงหน้าทิ้งไปทันที
“ถ้าฉันแพ้ เว่ย อวี้เตี๋ย ฉันยังพอรับได้ เพราะตระกูลเว่ยมีเส้นสายที่แข็งแกร่งในเซี่ยงไฮ้ แต่ตอนนี้ฉันไม่เพียงแพ้เธอ ยังแพ้คนที่ไม่มีใครรู้จักอย่าง ไอ้เย่เฉิน อะไรนั่นอีก แบบนี้ฉันยอมไม่ได้!”
“ไป! ไปสืบมาให้ฉันเดี๋ยวนี้ว่า ไอ้เย่เฉิน อะไรนั่นมันมีดีอะไร ถึงกล้าเหยียบหน้าฉัน และเว่ย อวี้เตี๋ย ไว้ใต้เท้าของมัน!!!!”
“ให้ตายเถอะ..ความแค้นนี้ คอยดูฉันจะต้องเอาคืน!!!”
“เย่เฉิน…หึหึ”
เซวีย ฉีเหวิน กล่าวกับคนของเขาด้วยความโกรธ
อีกด้านหนึ่ง เว่ย อวี้เตี๋ย แม้จะไม่ได้แสดงอารมณ์เกรี้ยวกราดเหมือน เซวีย ฉีเหวิน
แต่ด้วยความที่เธอได้รับสมญานามว่า ‘ขงเบ้งหญิงแห่งตระกูลเว่ย’ เธอจึงควบคุมอารมณ์ได้ดีมาก
อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของเธอก็ยังแสดงความไม่พอใจออกมา
“ลุงจินคะ ช่วยไปสืบมาทีว่าผลการจัดอันดับนี้เป็นมายังไง”
เว่ย อวี้เตี๋ย สั่งผู้จัดการส่วนตัวด้วยน้ำเสียงเย็นชาไปราวกับน้ำค้างแข็งเช่นกัน ซึ่งภายในใจเธอเองก็ไม่มีความสุขอย่างมาก
“รับทราบครับ”
ลุงจิน รีบดำเนินการทันที
ในเวลาเดียวกัน เหล่านักธุรกิจในเซี่ยงไฮ้หลายคนก็เริ่มหาข้อมูล
ทุกคนอยากรู้ว่า เย่เฉิน คือใคร ทำไมถึงคว้าอันดับหนึ่งไปได้ และพวกเขาควรสร้างสัมพันธ์กับเขาหรือไม่
ในขณะที่ผู้คนต่างตื่นเต้นกับผลการประกาศ
เย่เฉิน กลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย
เขายังคงประชุมที่บริษัทเพื่อวางแผนการควบรวมกิจการระหว่างบริษัท ฟิวเจอร์ เกม และบริษัท วิจัย และพัฒนาเกม เฟยจ้ง
เมื่อการควบรวมเสร็จสมบูรณ์ บริษัท ฟิวเจอร์ เกม จะกลายเป็นบริษัทเกมขนาดใหญ่ที่แท้จริง
และแน่นอนว่าบริษัทเกมขนาดใหญ่ ย่อมไม่สามารถมีแค่เกมใหญ่เพียงเกมเดียวได้!
เย่เฉิน สั่งการให้พนักงานเริ่มคิดโปรเจกต์เกมใหม่ๆ
เขาต้องการเกมขนาดใหญ่ เพราะเกมเล็กๆ ที่พวกเขาเคยพัฒนาออกมานั้น ดูจะไม่เข้าขั้นสำหรับมาตรฐานของบริษัทในตอนนี้
หลังจาก เย่เฉิน ประชุมเสร็จไม่นาน เขาก็ได้รับโทรศัพท์หลายสายติดต่อเข้ามา
เป็นสายจากเหล่าเศรษฐี และนักธุรกิจใหญ่ในเซี่ยงไฮ้ที่เขารู้จักมาก่อน
“ขอแสดงความยินดีด้วยครับ ประธานเย่”
“ยินดีด้วยที่ได้ตำแหน่งอันดับหนึ่งในเซี่ยงไฮ้”
“ประธานเย่ เป็นคนหนุ่มที่มีความสามารถมาก ผมนับถือจริงๆ”
“ประธานเย่ เก่งเกินไปแล้ว…”
เย่เฉิน ได้แต่ทำหน้างุนงงกับคำแสดงความยินดีเหล่านี้
จนกระทั่งเขาถามไถ่ และได้รู้ว่า ตัวเองคือผู้ที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่โดดเด่นแห่งเซี่ยงไฮ้ ในปีนี้
ต่างจากความตื่นเต้นของคนรอบตัวเขา เย่เฉิน กลับรู้สึกเฉยๆ
‘ก็แค่ตำแหน่งหนึ่งเท่านั้นเองไม่ใช่เหรอ?’ เขาคิดในใจ
หากปีที่แล้วเขาอยู่ในเซี่ยงไฮ้ ตำแหน่งนี้คงตกเป็นของเขาตั้งแต่ตอนนั้นไปนานแล้ว
สุดท้าย เย่เฉิน ได้แอบรู้สึกสงสารคนหนุ่มสาวที่มีความสามารถในเซี่ยงไฮ้เหล่านั้น
เพราะตราบใดที่เขายังอยู่ที่นี่ ตำแหน่งอันดับ 1 ใน 10 ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่โดดเด่นแห่งเซี่ยงไฮ้ คงไม่มีที่ว่างสำหรับพวกเขาอีกต่อไป...
เว้นเสียแต่ว่าเขาจะย้ายออกจากเซี่ยงไฮ้ หรือแก่ตัวลงในอนาคต
เฮ้ออ.. เด็กน้อยผู้น่าสงสาร
หลังจากพูดคุยพลางขอบคุณบรรดาคนที่โทรมาแสดงความยินดี
เย่เฉิน ก็เดินทางกลับไปยังคฤหาสน์ ถานกง ของเขา
ในช่วงเย็น เย่เฉิน ได้รับสายจากบุคคลสำคัญอีกสายหนึ่ง
คราวนี้เป็นสายจากอธิการบดีของ มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ที่ เย่เฉิน กำลังศึกษาอยู่
“เพื่อนนักเรียน เย่ ขอแสดงความยินดีด้วยนะ ที่ได้อันดับ 1 ใน 10 ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่โดดเด่นที่สุดในเซี่ยงไฮ้”
“ตอนนี้ใกล้จะเปิดภาคการศึกษาใหม่แล้ว และปีนี้เรามีนักศึกษาใหม่ที่มีผลการเรียนดีเยี่ยมหลายคน”
“ทางเรากำลังจะจัดงานต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ และอยากให้ เพื่อนนักเรียน เย่ ในฐานะตัวแทนนักศึกษาที่โดดเด่นที่สุดของมหาวิทยาลัยเรา ช่วยขึ้นไปพูดคุยกับรุ่นน้องสักเล็กน้อย”
อธิการบดี พูดด้วยความสุภาพก่อนจึงอธิบายจุดประสงค์ของเขา
มหาวิทยาลัยมีนักศึกษาอย่าง เย่เฉิน ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก จึงอยากให้เขาใช้โอกาสนี้สร้างแรงบันดาลใจ(ข่มขวัญ) และทำให้รุ่นน้องที่อาจจะหยิ่งทะนงได้รู้ว่า ‘คนเก่งยังมีอีกมากมาย’ (เหนือฟ้ายังมีฟ้า)
เย่เฉิน ถือเป็นนักศึกษาที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยพวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
“ไม่ต้องจัดอะไรให้ยุ่งยากหรอกครับ เดี๋ยวผมขึ้นไปพูดไม่กี่คำก็พอ”
“อืม… ได้ครับ”
เย่เฉิน ตอบตกลง
เนื่องจากอธิการบดีก็ดีกับเขามาก ช่วงภาคการศึกษาที่แล้ว เย่เฉิน เคยขาดเรียนบ้างเพราะติดงานสำคัญ แต่กลับไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย ทั้งนี้เป็นเพราะเขาสนิทสนมกับ อธิการบดี
อย่างไรก็ตาม.. ช่วงเปิดเทอมใหม่เกรงว่าจะไม่สงบเช่นกัน
“ดี.. ขอบใจมากนะ เพื่อนนักเรียน เย่”
อธิการบดีกล่าวขอบคุณ เย่เฉิน อย่างสุภาพ
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนถึงวันเปิดภาคการศึกษาใหม่มาถึง..
เย่เฉิน ซึ่งในฐานะรุ่นพี่ เลือกที่จะวางตัวให้เรียบง่าย
เขาขับรถ Koenigsegg รุ่นธรรมดาๆ ไปมหาวิทยาลัยเท่านั้น
ในงานเลี้ยงต้อนรับน้องใหม่คืนนี้ เขายังต้องขึ้นเวทีกล่าวสุนทรพจน์ในฐานะตัวแทนนักศึกษาที่โดดเด่นที่สุด
ถ่อมตัวสักหน่อยก็ดี..
อีกอย่างหนึ่ง.. เขาไม่ใช่คนชอบโอ้อวดอยู่แล้ว