ตอนที่ 75 ทำข้อตกลงกับเดธ!
ตอนที่ 75 ทำข้อตกลงกับเดธ!
เอริคเดินวนรอบอัญมณีวิญญาณหลายรอบโดยไม่มีท่าทีว่าจะหยิบมันขึ้นมา
“ทำไมเจ้าไม่หยิบมันขึ้นมา?” เสียงเบา ๆ ดังขึ้นจากทางด้านหลัง และเมื่อเอริคหันไปมองเขาก็เรดสกัลล์ ที่ปรากฏตัวขึ้นราวกับภูติผี
เอริคไม่ได้แปลกใจกับการปรากฏตัวของเขาแม้แต่น้อย “แล้วทำไมฉันจะต้องหยิบมันขึ้นมาด้วยล่ะ?”
“เจ้าได้รับการยอมรับแล้ว”
“ไม่ใช่หรอก มันเป็นเพราะแครอลต่างหากที่สละตัวเองเพื่อมัน ไม่ใช่ฉัน!” เอริคเหลือบมองเรดสกัลล์ด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ โดยไม่มีท่าทีหวั่นไหวแม้แต่น้อย
เรดสกัลล์ลอยนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อว่า “มีผู้ยิ่งใหญ่ท่านหนึ่งต้องการพบเจ้า”
“เจ้านายของนาย?” เอริคขมวดคิ้วแสดงสีหน้าถึงความไม่สบอารมณ์เหมือนนึกถึงสิ่งไม่ดีบางอย่าง
“นายท่านคือเจ้านายของวิญญาณทั้งปวง!” เรดสกัลล์พูดโดยไม่สนใจน้ำเสียงเสียดสีของเอริค
“เพราะมีนางหนุนหลังหรือไงนายถึงได้เย่อหยิ่งแบบนี้ ทั้งที่ตัวเองมีเพียงแค่จิตวิญญาณที่เหลืออยู่?”
“. . .” เรดสกัลล์เงียบไป
“การควบคุมแครอลเป็นความคิดของนางหรือเปล่า?” เอริคหยุดการเย้ยหยันและถามสิ่งที่เขาสงสัย
“ไม่ใช่ นายท่านไม่เคยแทรกแซงการดำเนินไปของจักรวาล นั่นเป็นการตัดสินใจของอัญมณีวิญญาณเอง”
คำตอบของเรดสกัลล์ทำให้เอริคยิ้มเยาะ “ไม่เคยแทรกแซงการดำเนินไปของจักรวาล? ไร้สาระ! ในบรรดาเทพผู้สร้างทั้งห้า นอกจากกาแล็คตัสที่พิเศษที่สุด นางนี่แหละที่แทรกแซงมากที่สุด!”
“ฉันจะพบนางได้อย่างไร?”
เรดสกัลล์ชี้ไปที่อัญมณีวิญญาณที่ลอยอยู่
เอริคจ้องมองเรดสกัลล์อยู่ก่อนหนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ ยื่นมือไปแตะอัญมณีวิญญาณ
ทันใดนั้นแสงสีเหลืองก็สว่างวาบ และเมื่อเอริคกระพริบตาและลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาก็พบว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ในมิติสีม่วง มีน้ำใสสะท้อนอยู่ใต้เท้า ไม่ไกลมากนักมีบ้านหลังเล็กมุงด้วยหญ้าคา และมีร่างเล็ก ๆ นั่งอยู่ด้านใน
เอริคเดินเข้าไปใกล้ร่างนั้นอย่างช้า ๆ ก่อนที่สีหน้าของเขาจะเริ่มเปลี่ยนไปด้วยความตกใจ และก้าวเท้ารวดเร็วขึ้นโดยไม่รู้ตัว
เมื่อมาหยุดอยู่ตรงหน้าร่างนั้น สีหน้าของเอริคก็เปลี่ยนเป็นดำสนิท
“สวัสดี เอริค” ร่างเล็กที่สูงเพียงแค่หนึ่งเมตรนิด ๆ เงยหน้าขึ้นมองเขา พร้อมกับผมยาวเรียบลื่นที่ถูกปล่อยลงมาจากด้านหลัง
“ท่าน . . .ทำไมถึงใช้ร่างของสกาย?” เอริคนั่งลงเพื่อให้ระดับสายตาเท่ากับอีกฝ่าย
“อะไร? เจ้าไม่ชอบเหรอ?” ร่างนั้นปัดผมยาวของนางเบา ๆ แล้วหัวเราะ
“ผมชอบซะที่ไหนกัน ท่านช่วยเปลี่ยนร่างทีเถอะ!”
“เจ้าช่างไร้หัวใจเสียจริง ในไทม์ไลน์นี้ วิญญาณนี้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งที่สุดกับเจ้า!” หลังพูดจบใบหน้าของสกายก็ดูเหมือนถูกเผาและสลายกลายเป็นเถ้าถ่าน
แน่นอนว่าเอริคไม่ได้แสดงท่าทีสะทกสะท้านอะไรร เพราะเขารู้ดีว่ามันไม่ใช่สกายจริง ๆ เพียงแค่ร่างที่ถูกยืมมาเพื่อปรากฏตัวตรงหน้าเขา
ในที่สุดร่างของสกายก็กลายเป็นเถ้าถ่านทั้งหมด ก่อนจะรวมตัวใหม่และกลายเป็นใบหน้าของอีกคนหนึ่ง . . .
แครอล!
“แล้วถ้าใช้ร่างนี้ล่ะ?” นางมองมือของตัวเองแล้วกำแน่น พร้อมกับแสงสีแดงจำนวนมหาศาลที่พลันปะทุออกมาจากร่างเหมือนกับพลังของแครอลเอง
“ท่านเทพแห่งความตาย คิดว่าการทำแบบนี้มันสนุกนักหรือไง?” ถึงแม้น้ำเสียงของเอริคจะสุภาพ แต่แววตาของเอริคกลับจ้องมองร่างนั้นอย่างตำหนิ
ใช่แล้ว ร่างที่อยู่ตรงหน้าของเขาก็คือ เทพแห่งความตาย เดธ หนึ่งในเทพผู้สร้างทั้งห้าของจักรวาล!
บางทีเธออาจจะไม่ใช่เทพแห่งความตายตัวจริง แต่เป็นเพียงอวตารที่อยู่ในจักรวาลนี้เท่านั้น
ก่อนหน้านี้เอริคเริ่มสงสัยตั้งแต่ที่พบเรดสกัลล์แล้ว เพราะเรดสกัลล์ที่ได้รับเซรุ่มซุปเปอร์โซลเยอร์ แม้จะแข็งแกร่ง แต่ไม่น่าจะมีความสามารถในการลอยตัว ทว่าเรดสกัลล์กลับมีพลังวิญญาณมหาศาลที่เอริคสัมผัสได้ในทันทีตั้งแต่เห็นเขา
“เจ้าคือวิญญาณเดียวที่หลุดรอดจากเงื้อมมือของข้า!” เทพแห่งความตายสลายแสงสีแดงรอบตัว และจ้องมองเอริคในร่างปกติของแครอล ทำให้เอริคถึงกับนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ
‘ฉันลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทเลย เทพแห่งความตายเป็นสิ่งมีชีวิตระดับพหุจักรวาล สิ่งที่อยู่ตรงหน้าฉันอาจเป็นเพียงอวตารของเธอในจักรวาลคู่ขนานนี้เท่านั้น’ เอริคคิดในใจ และหวนนึกถึงจักรวาลของ จักรพรรดิธานอส ที่มีอวตารของเทพแห่งความตายเช่นกัน ซึ่งอวตารนั้นชอบการยุยงให้เกิดการทำลายล้าง และทำลายทุกสิ่งในโลก!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เอริคก็ขนลุกและถามอย่างระมัดระวัง “ท่านเทพแห่งความตาย ท่านตั้งใจจะมาเอาวิญญาณของผมคืนไปอย่างนั้นเหรอ?”
“ไม่หรอก ข้ามาเพื่อพบเจ้าเท่านั้น เอริค วิญญาณของเจ้ามีความพิเศษอย่างยิ่ง” เทพแห่งความตายมองเอริคด้วยสายตาที่ทำให้เอริครู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
“แน่นอน ผมก็รู้ดีว่าวิญญาณของผมมันพิเศษมาก!” เอริคกลอกตา และแทบจะหลุดปากพูดว่าเขาคือ ‘ผู้เดินทางข้ามเวลา’
“เจ้าหมายถึงพวกนักเดินทางข้ามเวลา? ไม่ใช่เลย มีนักเดินทางข้ามเวลามากมายในพหุจักรวาลนี้ พวกเขานำสิ่งที่น่าสนใจต่าง ๆ มาสู่จักรวาลนี้ แต่เจ้านั้นแตกต่างจากพวกเขาอย่างมาก”
ดวงตาของเอริคเบิกกว้างทันที เขาไม่คาดคิดว่าเทพแห่งความตายจะพูดถึงคำว่า ‘นักเดินทาง’ ออกมาตรง ๆ สุดยอดตัวละครระดับนี้ช่างไม่ธรรมดาจริง ๆ!
“แล้วพวกเขานำอะไรมาบ้าง?”
“แนวคิดใหม่ ๆ พลังรูปแบบใหม่ ระบบพลังงานใหม่ ๆ และสิ่งอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น 'ระบบ' อะไรทำนองนั้น”
“. . .” เอริค
นี่นางกำลังพูดถึงพวกที่มี ‘ระบบโกง’ หรือเปล่าเนี่ย?
ที่แท้นักเดินทางข้ามเวลาในจักรวาลมาร์เวลทุกคนก็โชคดีแบบนี้กันหมด!
แล้วของฉันล่ะ? นักเขียน ของฉันหายไปไหน? นายกินมันเข้าไปหรือไง?!!
. . .
“เอริค เจ้าสนใจทำข้อตกลงกับข้าไหม?” น้ำเสียงของเทพแห่งความตายแฝงไปด้วยความเย้ายวน
“ท่านต้องการแลกเปลี่ยนกับอะไร? วิญญาณที่พิเศษของผมเหรอ?” เอริคถามด้วยความหวาดระแวง
“ไม่ใช่ ใช้อัญมณีวิญญาณต่างหาก” เทพแห่งความตายหัวเราะเบา ๆ ก่อนยื่นมือออกมาพร้อมกับอัญมณีสีเหลืองที่ปรากฏขึ้นในอากาศและลอยอยู่เบื้องหน้า
“อัญมณีวิญญาณ? ท่านต้องการสิ่งนี้ไปทำอะไร?” เอริคขมวดคิ้วอย่างงุนงง
“ข้ามีเหตุผลของข้าเอง เจ้าสนใจโอกาสในการฟื้นคืนชีพหรือไม่?”
“คืนชีพ?” ดวงตาของเอริคเบิกกว้างขึ้น
เทพแห่งความตายยิ้มอย่างมีเสน่ห์ “ใช่ โอกาสคืนชีพแลกกับการที่อัญมณีวิญญาณจะยังคงอยู่บนวอร์เมียร์ต่อไป สนใจไหม?”
เอริคยังไม่วางใจนัก และรีบถามต่อว่า “การคืนชีพแบบไหน?”
“คืนชีพอย่างสมบูรณ์แบบ เช่นเดียวกับแดร็กคูล่า”
“แต่ผมต้องการให้วอร์เมียร์เป็นบ้านใหม่ของเหล่าสครัลส์ ถ้าหากอัญมณีวิญญาณยังคงอยู่ที่นี่ พวกเขาไม่มีทางทนพลังของมันได้ พวกเขาจะต้องเสียสติแน่นอน”
“อัญมณีวิญญาณจะไม่ปลดปล่อยพลังงานใด ๆ ออกมาในระยะเวลา 10 ปี”
เอริครู้สึกสนใจทันที แต่ยังไม่ละโอกาสต่อรอง “สิบปีมันสั้นเกินไป เอาเป็นยี่สิบปีได้ไหม?”
“ตกลง!”
โปรดติดตามตอนต่อไป …