ตอนที่แล้วตอนที่ 69 ผู้หญิงใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 71 เรดสกัลล์!

ตอนที่ 70 ทุกคน สนใจไปเที่ยวดาวเคราะห์ต่างดาวกันหน่อยไหม?!


ตอนที่ 70 ทุกคน สนใจไปเที่ยวดาวเคราะห์ต่างดาวกันหน่อยไหม?!

“ผู้หญิงใช้สุรุ่ยสุร่าย!”

เอริคสบถออกมาด้วยความขุ่นเคือง ใบหน้าแทบจะชิดกระจกของยานบิน

เขามองแครอลที่ทำลายยานบินของชาวครีไปถึงสามลำติด ๆ กัน ตอนนี้หัวใจของเขาราวกับถูกบีบจนเลือดไหล . . .

เอริคไม่ได้สนใจทรัพย์สินบนโลกนัก เพราะถ้าเขาอยากได้ เขาสามารถขุดทองทั้งหมดจากพื้นโลกมาได้อยู่แล้ว แต่คราวนี้มันต่างออกไป นั่นเป็นยานบินของชาวครี! ตอนที่เขาเข้ามาในยานลำนี้เขาต้องระมัดระวังอย่างยิ่งด้วยการเปิดช่องทางเล็ก ๆ กว้างเพียงสองเมตรและเลือกตำแหน่งที่สร้างความเสียหายน้อยที่สุดอย่างตั้งใจ แต่ผู้หญิงคนนี้กลับทำลายยานบินถึงสามลำในพริบตา . . .

อย่างไรก็ตาม การด่าออกไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะแครอลกำลังอยู่ในโหมดระเบิดพลังเต็มที่ ไม่มีใครหยุดเธอได้ในตอนนี้ เอริคเองก็ไม่อาจออกไปทะเลาะกับเธอเพราะยานบินไม่กี่ลำที่พังไปได้เช่นกัน

“ก็แค่ยานบินเก่า ๆ ใช่ ยานบินเก่า ๆ ใช่แล้ว ฉันยังมีเหลืออีกลำนึง . . .” เอริคยกมือกุมอกพยายามปลอบใจตัวเองอย่างเงียบ ๆ แต่ทันใดนั้นเขาก็เห็นร่างของแครอลที่เปล่งแสงสีแดงกำลังพุ่งตรงมาหาเขา . . .

“แครอล . . .”

“เอริค?” แครอลก็เห็นเอริคเช่นกัน ทำให้เธอหยุดอยู่หน้ากระจกของยานบินเอียงศีรษะมองโรแนนที่ถูกแขวนอยู่กลางอากาศ ก่อนจะหันไปมองรอบ ๆ แล้วพบช่องโหว่ที่ใต้ท้องยาน เธอจึงบินเข้าไปทางนั้นทันที

“แครอล! ยานบินของฉัน!” ทันทีที่พบกันเอริคตะโกนใส่แครอลด้วยความโกรธ

แครอลปลดโหมดระเบิดพลังแล้วพูดด้วยความงุนงง “ยานบินของนาย? หมายความว่ายังไง?”

เอริคชี้นิ้วอย่างสั่นเทาไปที่ซากยานบินสามลำด้านนอก ก่อนจะชี้ที่ตัวเองและพูดด้วยเสียงที่เจือไปด้วยความสะอื้น “ของฉัน . . . ของฉัน . . .”

แครอลกลอกตาอย่างเหนื่อยหน่าย “เอริค นั่นยานบินของชาวครี! พวกเขากำลังจะโจมตีโลกนะ!”

“ฉันควบคุมพวกมันไว้แล้ว! ขีปนาวุธพวกนั้นยิงออกมาไม่ได้หรอก!”

“ควบคุม? นายควบคุมยังไง?” แครอลทำหน้าไม่เชื่อในคำพูดของเขา

“ควบคุมยังไง? ก็แบบนี้ไง!” เอริคยื่นมือไปที่กระจก ทันใดนั้นแครอลรู้สึกว่ายานบินใต้เท้าสั่นสะเทือน ก่อนจะเริ่มเปลี่ยนทิศทางตามการเคลื่อนไหวของมือเอริค

เมื่อเอริคขยับมือไปทางซ้าย ยานบินก็ลอยไปทางซ้าย เมื่อเขาเคลื่อนมือไปทางขวา ยานบินก็ลอยไปทางขวา และเมื่อเขาผลักมือไปข้างหน้า ยานบินก็ลอยไปข้างหน้า

“นี่คือความสามารถของนายเหรอ? ควบคุมวัตถุ?” แครอลนึกถึงตอนที่เขาควบคุมสกรัลล์ที่ปลอมตัวเป็นมาเรียบนโลก

“ไม่ใช่วัตถุ แต่เป็นสนามแม่เหล็ก! แถมฉันยังทำให้ตัวเองเปล่งแสงเหมือนเธอได้ด้วยนะ!” พูดจบ สนามแม่เหล็กรอบ ๆ เอริคก็เริ่มปั่นป่วน ประกายไฟฟ้าขนาดเล็กปรากฏขึ้นจากอากาศ ก่อนจะรวมตัวกันกลายเป็นสายฟ้าขนาดใหญ่

สายฟ้าเริ่มล้อมรอบตัวเอริค พร้อมกับอากาศรอบ ๆ ที่ถูกไอออไนซ์และก่อตัวเป็นพลาสม่าสีฟ้าสว่าง

ทำให้ถ้ามองจากมุมมองไกล ๆ ในตอนนี้เอริคดูเหมือนกับเทพสายฟ้าที่ปรากฏออกมาจากในตำนานไม่ผิด เพราะตอนนี้เขามีสายฟ้าสว่างพุ่งจากหัว และหมอกบาง ๆ ลอยอยู่ใต้เท้าของเขา

ถึงแม้ว่าแครอลจะประทับใจกับพลังของเอริค แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเหนื่อยใจกับพฤติกรรมเหมือนเด็กของเขา ทำให้เธอได้แต่ส่ายหัวก่อนจะหันหลังเตรียมตัวจากไป

“เฮ้ จะไปไหน?” เอริครีบเรียกเมื่อเห็นแครอลกำลังจะจากไป

“กลับไปที่ห้องวิจัย ฟิวรี่กับคนอื่น . . .” สีหน้าของแครอลเริ่มหม่นหมองลงเมื่อคิดว่าฟิวรี่อาจจะไม่รอด

“ฉันช่วยพวกเขาแล้ว ตอนนี้พวกเขาน่าจะถึงโลกแล้วล่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นก็กลับโลกเถอะ ฉันยังต้องสะสางอะไรบางอย่าง!” แครอลดูฮึกเหิมขึ้นมาทันทีเมื่อรู้ว่าฟิวรี่กับคนอื่นปลอดภัย

“อ้อ เธอจะไปหา ยอน-ร็อกก์ ใช่ไหม? ฉันจับเขาไว้แล้ว ตอนนี้เขานอนสลบอยู่ในสวนหลังบ้านของฉัน”

“. . .” แครอล

พี่ชาย นายทำทุกอย่างแทนฉันหมดแล้ว แล้วต่อไปฉันจะทำอะไรล่ะ?

เอริคทำหน้าใสซื่อ “ยังมีอะไรอีกไหม?”

“ไม่มี กลับโลกกันเถอะ . . .”

“งั้นไปกันเถอะ แต่ฉันขอชี้แจ้งให้เข้าใจตรงกันก่อนว่ายานบินลำนี้เป็นของฉัน! แล้วก็ห้องวิจัยของดร.เวนดี้ ลอว์สัน นั่นก็ของฉันด้วย!”

ความโลภของเอริคทำให้แครอลขมวดคิ้ว “เอริค ฉันขอโทษนะ แต่ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะพาสกรัลล์ไปหาบ้านใหม่ ฉันต้องใช้ยานของดร.เวนดี้ ลอว์สัน”

“ฉันก็พูดตั้งแต่แรกแล้วนะ ยานหนึ่งลำแลกกับหนึ่งดาวเคราะห์! นี่เป็นข้อเสนอที่ฉันขาดทุนสุด ๆ แล้ว ถ้าพลาดโอกาสนี้ไปล่ะก็ จะไม่มีอีกแล้วนะ!” เอริคพูดพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย พร้อมยกนิ้วชี้ขึ้นมาแล้วส่ายไปมาอย่างยียวน

“ดาวเคราะห์? นายมีดาวเคราะห์เป็นของตัวเองจริง ๆ เหรอ?” แครอลมองเอริคด้วยสายตาสงสัย เพราะไม่ว่าจะดูยังไง เขาก็ไม่เหมือนเศรษฐีเจ้าของดาวเคราะห์ส่วนตัวเลย

“ไม่ใช่ว่าฉันเป็นเจ้าของ แต่ฉันบังเอิญรู้ตำแหน่งของดาวเคราะห์ที่ไม่มีเจ้าของอยู่ จะแลกไหมล่ะ?”

“ดาวเคราะห์ไม่มีเจ้าของ?” แครอลขมวดคิ้วคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “ฉันต้องไปดูดาวเคราะห์นั้นก่อน แล้วก็ต้องได้รับความเห็นชอบจากพวกสกรัลล์ด้วย”

“งั้นจะรออะไรอยู่ล่ะ? รีบกลับโลกกันเถอะ!” พูดจบเอริคก็เตรียมตัวบินออกจากช่องแยกของยาน แต่บินไปได้ไม่กี่เมตร เขาก็หยุดกึกแล้วกลับไปที่คอนโซลของยานเพื่อเปิดโหมดล่องหน

“นายอ่านภาษา ครี ออกด้วยเหรอ?”

เอริคยิ้มอย่างมีเลศนัย “ฉันเป็นคู่ปรับของพวกมันมานานแล้ว!”

. . .

เมื่อกลับมาถึงโลก พวกเขาทั้งสองก็ตามหาฟิวรี่และกลุ่มของเขาที่บ้านของมาเรียจนเจออย่างรวดเร็ว

“เฮ้ เพื่อนตาเป็นอะไรน่ะ?” เอริคถามพลางมองรอยข่วนที่ตาของฟิวรี่ทั้งที่รู้อยู่แล้ว

“เรื่องเล็กน่า เดี๋ยวก็หายเอง” ฟิวรี่โบกมืออย่างไม่ใส่ใจ แสดงออกว่าในฐานะสายลับที่ผ่านศึกมาโชกโชน แค่นี้ไม่สะเทือนเขาหรอก

เอริคส่ายหัวแต่ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม เขารู้ดีว่าแผลจากการติดเชื้อของแบคทีเรียที่มาจาก เจ้าแมวส้ม อาจถึงขั้นที่แม้แต่วาคานด้าก็ไม่อาจรักษาได้ บางทีนี่อาจเป็นชะตากรรม ทำให้ไข่ต้มคนนี้ต้องกลายเป็นไข่ต้มตาเดียวไปตลอดชีวิต

“แล้วแกนพลังงานอยู่ไหน?”

“อยู่ในท้องของเจ้าหนูนี่ไง” ฟิวรี่ตอบเสียงเรียบ ราวกับลืมความเจ็บปวดไปแล้ว ถึงแม้เจ้าแมวตัวนี้จะเพิ่งข่วนตาเขา แต่เขาก็ยังอุ้มมันขึ้นมาแล้วลูบไล้แก้มตัวเองอย่างรักใคร่

“เอ่อ มันกินเข้าไปจริง ๆ เหรอ?” เอริคอึ้งไปครู่หนึ่ง เพราะเขาต้องการมันด่วนมาก

“ถ้านายรีบจริง ๆ ก็ลองทำให้มันอาเจียนออกมาสิ แบบที่เห็นในทีวีไง” ทาลอสที่กำลังนั่งดูทีวีกับลูก ๆ บนโซฟาเสนอไอเดียขึ้นมา

เอริคทำตาเป็นประกาย แต่ฟิวรี่กลับดูร้อนรน เขากอดแมวสีส้มแน่นแล้วถอยหลังไปหนึ่งก้าว คล้ายจะปกป้องเจ้านายของตัวเอง

แต่เจ้าแมวไม่สนใจมันกระโดดลงจากอ้อมแขนของฟิวรี่ และเดินตรงมาที่เอริค

เอริคมองมันด้วยความระแวง คอยจับตาดูว่ามันจะอ้าปากปล่อยหนวดออกมาหรือเปล่า

เจ้าแมวส้มนั่งลงยอง ๆ ตรงหน้าของเอริค และเอียงคอจ้องมองเล็กน้อย ก่อนที่คอของมันจะขยับขึ้นลงและคายลูกบาศก์สีฟ้าออกมา

เทสเซอร์แร็ค!

อัญมณีอวกาศ!

เอริคไม่สนว่ามันสกปรกแค่ไหน และรีบหยิบมันขึ้นมา ก่อนจะสะบัดเมือกที่ติดอยู่ และถือขึ้นมาดูใกล้ ๆ ด้วยความตั้งใจ

แครอลและมาเรียที่กำลังคุยกันอยู่ไม่ไกลก็หันมามองแสงสีฟ้าที่ส่องประกายออกมาจากเทสเซอร์แร็คเช่นกัน พวกเธอกำลังสงสัยว่าเอริคจะทำอะไรต่อไป

เอริคจ้องเทสเซอร์แร็คอยู่นาน ก่อนจะหลับตาลง ทันใดนั้นพลังเหนือธรรมชาติของเขาก็ส่องประกายเปลี่ยนรูปร่างไปมาหลายร้อยครั้ง หลังจากนั้นเอริคก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง พร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก

“ทุกคน สนใจไปเที่ยวดาวเคราะห์ต่างดาวกันหน่อยไหม?”

โปรดติดตามตอนต่อไป …

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด