ตอนที่ 68 การเก็บเกี่ยวที่น่าตื่นเต้น!
ตอนที่ 68 การเก็บเกี่ยวที่น่าตื่นเต้น!
กลุ่มคนที่ประกอบไปด้วยมนุษย์โลกสี่คน สกรัลล์สองตัว และเจ้าแมวหลุมดำ ขับยานอวกาศดัดแปลงชั่วคราวทะลุชั้นบรรยากาศไปยังพิกัดที่ระบุไว้ ก่อนที่แครอลจะใช้เทคโนโลยีของครีที่ข้อมือปิดระบบพรางตัวของยาน ทำให้ยานของครีปรากฏให้ทุกคนเห็นในที่สุด
เมื่อมองยานอวกาศของครีที่ค่อย ๆ ปรากฏตรงหน้า เอริคก็หรี่ตามอง พร้อมกับดวงตาที่เปล่งประกายด้วยความโล�
‘ในที่สุดฉากน่าเบื่อก็จบลงเสียที ต่อไปคือช่วงเก็บเกี่ยวที่น่าตื่นเต้นเสียที’
นี่คือยานอวกาศของครีที่สมบูรณ์แบบ และยังเป็นยานวิจัยที่มีห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีล้ำสมัย รวมถึงอุปกรณ์เทคโนโลยีลับที่สามารถปิดกั้นความสามารถในการรับรู้สนามแม่เหล็กของเอริคได้อีกด้วย
ถ้าหากระบบพรางตัวยังไม่ถูกปิด เอริคก็ไม่มีทางสัมผัสได้ถึงความผันผวนของสนามแม่เหล็กจากยานลำนี้เลย
“ยานลำนี้เป็นของฉัน!” เอริคพูดออกมาอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่มีความคิดที่จะปิดบังความโลภ ทำให้ทุกคนบนยานอวกาศต้องตะลึง
ยังไม่ทันได้เริ่มต้นอะไรเลย เอริคก็แบ่งของที่ริบมาให้ตัวเองทั้งหมดแล้ว? ช่างไร้ยางอายเสียจริง!
“ไม่ได้! นี่เป็นของดร.เวนดี้ ลอว์สัน!”
“อย่าได้ฝัน! นี่เป็นความหวังสุดท้ายของสกรัลล์!”
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ? ฟังไม่ชัดเลย . . .”
“เฮ้ นายบ้าไปแล้วหรือไง?”
“เมี๊ยว . . .”
. . .
ทุกคนพากันพูดขึ้นพร้อมกัน แม้แต่เจ้าแมวก็ร้องเสียงเบา ๆ ราวกับจะค้านเอริคเช่นกัน
เอริคไม่สนใจพวกเขาเลยสักนิด เขายิ้มและจ้องมองยานอวกาศขนาดใหญ่ที่อยู่นอกหน้าต่าง ซึ่งยิ่งเขามองก็ยิ่งถูกใจจนแทบอยากจะยกมันกลับบ้านทันที
“เอริค! นายจะทำอะไร?” ฟิวรี่เดินเข้ามาดึงไหล่เขาและถามเบา ๆ ก่อนที่เขาจะพยายามส่งสัญญาณผ่านทางสายตาเป็นพัลวัน ในขณะเดียวกันเอริคที่ตรวจจับสนามแม่เหล็กอยู่ตลอดเวลาก็รู้เช่นกันว่ามีสกรัลล์สองตัวกำลังเล็งปืนมาที่เขา
“ฉันไม่ชอบให้ใครเล็งปืนใส่ฉัน!” เอริคขยับนิ้วเล็กน้อย ทันใดนั้นปืนในมือของสกรัลล์ทั้งสองตัวก็กลายเป็นเศษโลหะทันที ก่อนที่เขาจะหันกลับมามองทุกคนด้วยรอยยิ้ม “มีใครบอกฉันได้ไหมว่าเป้าหมายของยานลำนี้คืออะไร?”
“ช่วยพาสกรัลล์หนีการไล่ล่าของครี และพาพวกเขาไปหาบ้านใหม่” แครอลพูดด้วยสีหน้าตึงเครียด จ้องมองเอริคอย่างระแวดระวัง
“ถูกต้อง ถ้าอย่างนั้นฉันมีข้อเสนอให้” เอริคชี้ไปที่ยานนอกหน้าต่างพร้อมรอยยิ้ม “ยานลำนี้แลกกับบ้านที่ปลอดภัยสำหรับสกรัลล์ ข้อตกลงนี้เป็นไง?”
“บ้านใหม่? ที่ไหน?” ทาลอสจ้องมองเอริคด้วยความระมัดระวัง แต่ทันทีที่พูดจบ เขาก็รู้สึกเจ็บแปลบที่ใบหน้าโดยไม่เข้าใจว่าทำไม
“ดาวที่ไม่มีคนอยู่ ดาวที่เหมาะกับการอยู่อาศัยและอยู่ไกลจากครี!”
“อะไรนะ?!” ทุกคนต่างตกใจจนพูดไม่ออก
“ฟังไม่ผิดหรอก ดาวที่ปลอดภัยและเหมาะกับการอยู่อาศัย แลกกับยานเล็ก ๆ ลำหนึ่ง เป็นข้อตกลงที่ดีมากเลยใช่ไหมล่ะ?” เอริคยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“ข้าไม่เชื่อ!” ทาลอสทำหน้าบึ้ง “ข้าไม่เชื่อว่ามันจะมีดาวแบบนั้นจริง ๆ เว้นแต่เจ้าจะพิสูจน์ให้ข้าดู!”
เอริคมองทาลอสเหมือนคนโง่ “นายคิดว่าดาวเคราะห์คืออะไร? ลูกกอล์ฟ? จะใส่กระเป๋าพกติดตัวได้หรือไง?”
“ถ้าเจ้าพิสูจน์ไม่ได้ ข้าก็ไม่เชื่อ!” ทาลอสยังยืนยันหนักแน่น เพราะนี่คือเรื่องความเป็นความตายของเผ่าพันธุ์ของเขา
“เฮ้ พวกเรา! แก้ปัญหาตรงหน้าให้เสร็จก่อนดีไหม!” ฟิวรี่ขัดจังหวะข้อพิพาท และชี้ไปนอกหน้าต่างด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
แครอลมองตามนิ้วของฟิวรี่ออกไปด้านหน้า ก่อนที่หลังจากนั้นไม่นานสีหน้าของเธอจะเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม “ยานรบของหน่วยสตาร์ฟอร์ช ยอน ร็อกก์มาแล้ว!”
“บ้าจริง รีบขึ้นยานเร็วเข้า ครอบครัวของข้าอยู่ข้างบนนั้น!” ทาลอสตื่นตระหนก รีบกระโดดไปที่เบาะคนขับเพื่อควบคุมยานอวกาศ
“ยานลำนั้นฉันก็เอาด้วย!” เอริคมองยานที่กำลังใกล้เข้ามาด้วยความดีใจ และยับยั้งการเคลื่อนไหวของทาลอส
“เฮ้เพื่อน ฉันคิดว่านายควรไปหาหมอได้แล้ว ฉันรู้จักจิตแพทย์ที่เก่งมาก เขาเพิ่งแต่งงานไปไม่กี่วันก่อน” ฟิวรี่ตบบ่าเอริคด้วยความเป็นห่วง แววตาเหมือนกำลังดูแลเด็กพิเศษเต็มที่
เอริคผลักฟิวรี่ออกไปและเดินตรงไปที่ประตูห้องโดยสาร “พวกนายขึ้นไปก่อนเลย เดี๋ยวฉันตามไป!”
“นายพูดจริงเหรอ? นั่นมันอวกาศนะ!” ฟิวรี่ตกใจ และรีบจะเข้ามาห้าม แต่แครอลกลับเปิดประตูออกก่อน และเอริคก็ถูกดูดออกไปทันที
เมื่อปิดประตูอีกครั้งอย่างใจเย็น แครอลก็เห็นทุกคนมองเธอด้วยความตกตะลึง ทำให้เธอยักไหล่อย่างไร้เดียงสา “เขาอยากออกไปเอง”
. . .
“แครอล ฉันจะจำเรื่องนี้ไว้แน่!” เอริคพึมพำขณะลอยตัวอยู่ในอวกาศ จ้องมองยานบินที่กำลังลอยห่างออกไป
ยานของสตาร์ฟอร์ชใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ส่วนเอริคก็จัดทรงผมที่ยุ่งเหยิงให้เรียบร้อย จากนั้นยกมือทั้งสองขึ้นชี้ไปที่ยาน
ด้วยความทรงจำของแม็กนีโต เอริคมีประสบการณ์มากมายในการจัดการกับยานอวกาศของครี
การโจมตีตรง ๆ ด้วยพลังพิเศษใส่ยานที่สามารถกระโดดข้ามอวกาศได้เป็นสิ่งที่คนโง่เท่านั้นจะทำ ดังนั้นเอริคจึงเริ่มต้นด้วยการใช้การเหนี่ยวนำสนามแม่เหล็กเพื่อสแกนยานทั้งลำ จากนั้นเคาะนิ้วเพื่อปิดระบบของยานและเครื่องยนต์ พร้อมทั้งควบคุมให้ยานชะลอความเร็วลงอย่างช้า ๆ
เมื่อยานมาถึงตรงหน้าเอริค ความเร็วของมันก็ช้าจนเหมือนหอยทาก
เอริคยื่นหน้าเข้าไปใกล้กระจกของยานยิ้มให้ยอน ร็อกก์ ที่กำลังตกใจขณะกดปุ่มยิงขีปนาวุธ จากนั้นเขาแยกนิ้วออกเล็กน้อยและเปิดประตูของยานอย่างแรง
ยานของสตาร์ฟอร์ชนั้นมีขนาดใหญ่กว่ายานดัดแปลงชั่วคราวของเอริคมาก พื้นที่กักกันที่บริเวณทางเข้าถูกออกแบบมาอย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้ไม่ถูกดูดออกไปสู่อวกาศเหมือนก่อนหน้านี้
แน่นอนว่าเอริคไม่สนใจอาวุธของสตาร์ฟอร์ช ก่อนที่เขาจะปิดประตูยาน จัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย จากนั้นเปิดพื้นที่กักกันและเดินออกมาอย่างช้า ๆ “ตอนนี้ยานลำนี้เป็นของฉันแล้ว!”
“ท่านเป็นใคร? ยานลำนี้เป็นของหน่วยสตาร์ฟอร์ชแห่งจักรวรรดิ์ครี มัน . . .” ยอน ร็อกก์พูดด้วยความระมัดระวัง เขาไม่กล้าออกคำสั่งโจมตีเพราะรู้ดีว่าพวกเขาไม่สามารถต่อกรกับผู้ที่แข็งแกร่งพอจะอยู่รอดในอวกาศได้
เอริคส่ายหน้าและไม่พูดไร้สาระ เขาแบมือและเหรียญหนึ่งพุ่งออกจากฝ่ามือ ก่อนที่มันจะบินวนไปรอบ ๆ ยานอย่างรวดเร็ว สุดท้ายไปหยุดอยู่ตรงหน้าผากของยอน ร็อกก์
“บางทีชีวิตนายควรเก็บไว้ให้แครอลตัดสินใจ!”
หยดเลือดสีน้ำเงินหยดหนึ่งไหลออกมาจากเหรียญและตกลงบนคิ้วของยอน ร็อกก์ ทันใดนั้นดวงตายอนก็เบิกกว้างและไม่กล้าขยับตัว ส่วนสมาชิกคนอื่น ๆ ของสตาร์ฟอร์ชก็ค่อย ๆ ล้มลงทีละคน โดยที่ทุกคนล้วนมีรอยแยกแนวตั้งระหว่างคิ้วพร้อมกับเลือดสีน้ำเงินที่ซึมออกมาอย่างต่อเนื่อง
“นี่คือของที่ระลึกจากฉัน อย่าทิ้งมันล่ะ เอามันกลับบ้านไปด้วย!” เอริคชกยอน ร็อกก์จนหมดสติจากนั้นก็ควบคุมยานด้วยความสุขใจเพื่อบินกลับโลก
“ครั้งนี้ได้กำไรเต็ม ๆ ฮ่า ๆ!” เอริคหลับตาสัมผัสสถานการณ์ภายในยาน แต่เมื่อเห็นร่างไร้วิญญาณบนพื้น ดวงตาของเขาก็สว่างวาบขึ้นอีกครั้ง “เดี๋ยวก่อนนะ ศพของครียังสามารถนำไปสกัด GH-325 ได้ เก็บเอาไว้ขายให้ฟิวรี่ดีกว่า!”
โปรดติดตามตอนต่อไป …