บทที่ 84 : วิ่งโลดท่ามกลางสายฝน (ตอนฟรี)
บทที่ 84 : วิ่งโลดท่ามกลางสายฝน (ตอนฟรี)
หลังจากกินอาหารมื้อดึกเสร็จ เซียวซิงหยูก็เดินไปยังร้านขายอสูรร้านหนึ่ง
พี่น้องมู่หรงเดินตามเซียวซิงหยูมา
มู่หรงหยางซั่วทำหน้าบึ้ง มองเซียวซิงหยูด้วยหางตาเป็นครั้งคราว พลางบ่นพึมพำอยู่ในปาก
ส่วนมู่หรงซินซินก็ยังคงเหมือนเดิม เธอไม่ได้พูดอะไร เดินตามเซียวซิงหยูอย่างเชื่อฟังเหมือนภรรยาตัวน้อยของเซียวซิงหยู
…..
“ซินซิน ทำให้เธอต้องเสียเงินแล้ว”
ครึ่งชั่วโมงต่อมา แหวนมิติของเซียวซิงหยูก็เต็มไปด้วยสมุนไพรราคาแพงต่างๆ…ซึ่งทั้งหมดนี่ต้องใช้เงินไปทั้งหมดถึงสิบห้าล้าน
สำหรับเซียวซิงหยูแล้ว นี่เป็นเงินจำนวนมหาศาล…แต่สำหรับคุณหนูตระกูลมู่หรงแล้ว นี่เป็นเพียงแค่ค่าขนมหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น
“แกซื้อสมุนไพรราคาแพงมากมายเเบบนี้…จะเอาไปทำอะไรกันเเน่?”
มู่หรงซินซินไม่ค่อยพูด แต่การกระทำของเซียวซิงหยูก็ทำให้เธอรู้สึกอยากรู้เช่นกัน
การที่เซียวซิงหยูซื้อสมุนไพรจำนวนมากเเบบนี้ก็เพื่อปรุงยาเม็ดมังกรวิญญาณ ที่สามารถเพิ่มพลังวิญญาณได้ในระยะเวลาสั้นๆได้
เซียวซิงหยูไม่สะดวกที่จะเปิดเผยความลับนี้ เขาจึงโกหกออกไปด้วยเรื่องอื่น
“นอกจากเป็นนักศึกษาใหม่ของวิทยาลัยชิงหลงแล้ว ผมยังเป็นเเพทย์พิเศษของกิลด์นภาด้วย”
“ผมจะใช้สมุนไพรพวกนี้พัฒนายาใหม่ๆ เพื่อช่วยให้อสูรที่ได้รับบาดเจ็บฟื้นตัวเร็วขึ้น…นอกจากนี้ยังเสริมสร้างคุณสมบัติพื้นฐานได้ด้วย”
เซียวซิงหยูพูดถึงตรงนี้ ก็หยุดไปครู่หนึ่ง แล้วเกิดความคิดใหม่ขึ้นมา
“ซินซิน ฉันจะไม่ให้เธอช่วยฉันฟรีๆ”
“ฉันจะพัฒนายาที่เหมาะสมกับค้างคาวปีกกระดูกและนักล่าปีศาจปีกหิมะ เพื่อเพิ่มพลังโจมตีและพลังป้องกันให้พวกมัน”
สมุนไพรที่เซียวซิงหยูซื้อมา แม้ว่าจะปรุงยาเม็ดมังกรวิญญาณถึงสองเม็ดแล้ว…ก็ยังพอมีเศษเหลืออยู่บ้าง
ด้วยความสามารถของเซียวซิงหยู, เขาสามารถนำเศษเหลือพวกนี้มาปรุงเป็นยาที่สามารถเสริมสร้างค่าสถานะของอสูรได้
เเละมู่หรงซินซินก็พยักหน้ารับเบาๆ
เมื่อเห็นเเบบนี้ มู่หรงหยางซั่วก็ทนไม่ไหว เเล้วเดินเข้ามา
“น้องสาว ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยสนใจผู้ชายคนไหน ทำไมถึงปฏิบัติกับเซียวซิงหยูเป็นพิเศษเเบบนี้หึ?”
“เเถมเธอยังให้มันใช้เงินของเธออีก…เธอจะเลี้ยงดูเซียวซิงหยูหรือไง?”
มู่หรงหยางซั่วพ่นคำพูดน่าอายออกมาอย่างไม่ได้คิดอะไรเลย
สถานการณ์เช่นนี้, มู่หรงซินซินจึงทำได้เพียงไม่สนใจพี่ชายที่พูดจาโผงผางคนนี้
มีเเค่เซียวซิงหยูที่แอบยิ้มเเล้วพึมพำว่า
“ถ้าถูกคุณหนูซินซินเลี้ยงดู มันก็น่าจะไม่เลวเหมือนกันนะ...”
…..
ยามค่ำคืน อุณหภูมิด้านนอกลดลงอย่างรวดเร็ว
เมื่อลมหนาวยะเยือกพัดผ่าน, มู่หรงซินซินก็รีบยกปกเสื้อขึ้นโดยไม่รู้ตัว
เซียวซิงหยูเงยหน้ามองท้องฟ้าที่มืดครึ้มเเล้วพึมพำ
“ดูจากสภาพอากาศแล้ว คืนนี้คงมีพายุฝนอีกเเล้ว…พวกเรารีบกลับโรงแรมกันเถอะ”
อีกหกวันก็จะถึงรอบชิงชนะเลิศของการเเข่งขันซูเปอร์โนวาแล้ว
ในช่วงหกวันนี้ ตัวแทนของวิทยาลัยชิงหลงจะพักอยู่ที่โรงแรมเท่านั้น
“หืมม…ระวัง!”
เซียวซิงหยูที่ตาไว รีบพยุงมู่หรงซินซินที่กำลังจะล้มได้อย่างพอดิบพอดี
“น้องสาว ไม่เป็นไรใช่ไหม?” มู่หรงหยางซั่วก็ตกใจเช่นกัน
“ไม่เป็นไร” มู่หรงซินซินขมวดคิ้ว พลางเอามือจับข้อเท้าซ้าย
เซียวซิงหยูสังเกตเห็นความผิดปกติ จึงก้มลงดูใกล้ๆ “ข้อเท้าแพลงนี่”
เซียวซิงหยูจำได้ว่าข้อเท้าซ้ายของมู่หรงซินซินมีอาการบาดเจ็บเก่า ทำให้ข้อเท้าแพลงได้ง่าย…ในระหว่างการแข่งขันแบบทีมระหว่างวิทยาลัยชิงหลงและวิทยาลัยไป๋หู่ มู่หรงซินซินก็แพลงข้อเท้าซ้ายเช่นกัน
ตอนนั้นการต่อสู้ดุเดือดมาก มู่หรงซินซินจึงไม่ได้แสดงอาการเจ็บปวดออกมา…เธออดทนจนจบการต่อสู้เพื่อให้สามารถคว้าชัยชนะมาได้
ในตอนนี้ มู่หรงหยางซั่วมีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด
“น้องสาว, ตั้งแต่เด็กจนโต ข้อเท้าซ้ายของเธอแพลงมารวมๆ กันก็ไม่ต่ำกว่ายี่สิบครั้งแล้ว”
“พี่ไปหายาก่อน…แถวนี้ต้องมีร้านขายยาเเน่ๆ...”
มู่หรงหยางซั่วมองไปรอบๆ ทันใดนั้นเขาก็เห็นร้านขายยาที่ยังเปิดอยู่ที่มุมถนน
อากาศหนาวมาก ลมหนาวในเมืองสี่วิญญาณไม่ใช่การโจมตีทางกายภาพธรรมดา…แต่เป็นการโจมตีด้วยเวทมนตร์
มู่หรงหยางซั่วไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวที่บาดเจ็บยืนตากลมหนาวได้นาน เขาจึงฝากน้องสาวไว้กับเซียวซิงหยู
“ซิงหยู ฝากส่งน้องสาวฉันกลับโรงแรมด้วย ฉันจะไปซื้อยาพลาสเตอร์แก้ข้อเท้าแพลงกับน้ำมันแก้ฟกช้ำ”
“พี่หยางซั่ววางใจได้ ผมจะส่งซินซินกลับโรงแรมอย่างปลอดภัยให้เอง”
มู่หรงหยางซั่ววิ่งไปที่ร้านขายยา ทิ้งโอกาสให้เซียวซิงหยูและมู่หรงซินซินอยู่ด้วยกันตามลำพัง
จากตรงนี้จะเห็นได้ว่า ถึงแม้ว่ามู่หรงหยางซั่วจะบ่นเซียวซิงหยูบ่อยๆ แต่จริงๆ แล้วเขาก็ไว้ใจเซียวซิงหยูมาก ถึงได้ฝากน้องสาวคนสำคัญไว้กับเซียวซิงหยู
ณ เวลานี้…ลมหนาวเริ่มพัดแรงจนพื้นดินมีน้ำแข็งเกาะบางๆ
“ซินซิน พื้นมีน้ำแข็งเกาะ…ตอนนี้มันลื่นมาก”
“ฉันรู้”
“เพื่อป้องกันไม่ให้เธอข้อเท้าแพลงซ้ำ อย่าเหยียบพื้นนะ”
“ถ้าไม่เหยียบพื้น เเล้วฉันจะกลับโรงแรมได้ยังไง?”
“ฉันจะแบกเธอไปเอง”
เซียวซิงหยูหันหลังให้มู่หรงซินซิน แล้วนั่งยองๆลง
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้, มู่หรงซินซินก็ยืนนิ่งเหมือนท่อนไม้ทันที
เธอมองเซียวซิงหยูที่อยู่ตรงหน้าอย่างสับสน, ตอนนี้หัวใจของเธอรู้สึกแปลกอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
“ซินซิน ยืนงงทำไม ขึ้นมาสิ~”
ปกติเซียวซิงหยูก็เป็นคนเสียงดังอยู่แล้ว…มันจึงไม่เเปลกที่ผู้คนที่เดินผ่านไปมาหันมามองตามเสียงของเขา
ในสายตาของคนอื่น เซียวซิงหยูและมู่หรงซินซินที่เป็นหนุ่มหล่อสาวสวย ดูเหมือนคู่รักที่กำลังอยู่ในช่วงหวานชื่น
ท่ามกลางสายตาคนอื่นๆ มู่หรงซินซินเริ่มรู้สึกเขินอายเป็นครั้งแรกในชีวิต
“มะ...ไม่ต้อง ฉันเดินเองได้”
มู่หรงซินซินตั้งใจจะฝืนเดินเอง แต่ความเจ็บปวดจากข้อเท้าซ้ายก็ทำให้เธอก้าวขาไม่ออก
“ขึ้นมาเร็ว ฉันจะแบกเธอเอง!” เซียวซิงหยูเร่ง
ถ้ามู่หรงซินซินไม่ขึ้นมา เซียวซิงหยูก็จะนั่งยองๆอยู่อย่างนั้นโดยไม่ยอมลุกไปใหน
มู่หรงซินซินทนความอึดอัดไม่ไหว จึงโน้มตัวลง พาตัวเองขึ้นไปอยู่บนหลังของเซียวซิงหยู
“กอดคอฉันไว้”
“อืม~”
เซียวซิงหยูลุกขึ้น ใช้แขนที่แข็งแรงโอบรอบต้นขาเรียวเล็กของมู่หรงซินซิน แล้วเดินไปทางโรงแรม
ลมหนาวพัดแรง กระแสลมที่รุนแรงเหมือนหมาป่าหิวโหยจากทุ่งหิมะที่กำลังไล่กัดกินผิวหนังของผู้คน
อย่างไรก็ตาม, มู่หรงซินซินที่อยู่บนหลังของเซียวซิงหยูกลับรู้สึกได้เเต่อุณหภูมิอันอบอุ่นของชายหนุ่มตรงหน้า
“หืม…ฝนตกงั้นเหรอ?”
“เหมือนจะใช่นะ”
เม็ดฝนเริ่มตกลงบนหัวของมู่หรงซินซิน จนทำให้ผมสีขาวของเธอเปียกปอน
ทันใดนั้น ฝนก็เริ่มตกกระหน่ำทั่วเมือง…ผู้คนรอบๆจึงวิ่งหลบฝนกันอย่างอลหม่าน
เซียวซิงหยูเร่งฝีเท้า วิ่งฝ่าสายฝนพร้อมกับมู่หรงซินซินที่อยู่บนหลัง
“เซียวซิงหยู นายเป็นนกกระจอกเทศหรือไงถึงวิ่งได้เร็วขนาดนี้!”
“ถ้าไม่วิ่งเร็ว เดี๋ยวเราสองคนก็เปียกโชกหมดสิ!”
ท่ามกลางสายฝนที่พรั่งพรู ใต้แสงไฟสลัวๆ หนุ่มน้อยแบกเด็กสาววิ่งไปตลอดทาง
เด็กสาวด้านหลังยกมือขึ้นมาบังฝนให้หนุ่มน้อย…ภาพเหล่านี้ จะกลายเป็นความทรงจำที่งดงามในอนาคต
…..
ยี่สิบนาทีต่อมา
เซียวซิงหยูแบกมู่หรงซินซินกลับมาถึงโรงแรม
มู่หรงซินซินนั่งพักอยู่ข้างเตียง ส่วนเซียวซิงหยูเดินเข้าไปในห้องน้ำเเล้วหยิบผ้าขนหนูผืนสะอาดออกมา
“ขอบคุณ ฉันทำเองได้”
“ไม่ต้องเกรงใจ ฉันช่วยเอง!”
เซียวซิงหยูเป็นคนใจดี เขาหยิบผ้าขนหนูมาคลุมหัวมู่หรงซินซิน แล้วขยี้เบาๆเพื่อเช็ดผมให้เธอจนแห้ง
“ซินซิน เสื้อผ้าเธอเปียกหมดแล้ว ถอดออกเถอะ ฉันช่วยเปลี่ยนให้”
“ฉันเปลี่ยนเองได้”
“ไม่เป็นไร พี่สาวฉันสอนฉันมาตั้งแต่เด็กว่าการช่วยเหลือผู้อื่นเป็นคุณธรรมอันสูงส่ง”
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป พอพี่ชายเธอกลับมา…เขาก็คงได้เซียวซิงหยูเป็นน้องเขยจริงๆเเน่
………………..