บทที่ 72 งานเลี้ยงฉลองรางวัล
บทที่ 71 อร่อยจริง คลิปแกะกล่อง (2/2)
"ต่อไปนี้ข้าจะสาธิตวิธีการใช้งานให้พวกเจ้าดูด้วยตัวเอง"
หลังจากพูดจบ เขาก็เชื่อมต่อจิตสำนึกของเขากับโทรศัพท์ทันที จากนั้นก็เข้าสู่หน้าจอหลักของโทรศัพท์
"ทุกคนดูสิ ไม่ว่าจะเป็นความเร็วในการเปิดเครื่องหรือความลื่นไหลในการใช้งาน รุ่นที่สองก็เหนือกว่ารุ่นแรกมาก ไม่กระตุกเลย"
"คุณภาพของรูปถ่ายก็ดีมาก ถึงขนาดเห็นขนอ่อนๆ บนใบหน้าได้เลย"
"ลองมาเล่นติ๊กต๊อกกันหน่อย เสียงแบบนี้ ภาพแบบนี้ โอ้โห สุดยอดไปเลย พอใช้รุ่นที่สองแล้วก็ไม่อยากกลับไปใช้รุ่นแรกอีกเลย"
......
หลังจากที่เขารีวิวไปพักหนึ่ง เขาก็ได้ข้อสรุป
"อย่างที่ข้าได้สาธิตให้ดูไปเมื่อครู่ ประสิทธิภาพของรุ่นที่สองนั้นเหนือกว่ารุ่นแรกมากกว่า 10 เท่า โดยเฉพาะในด้านความลื่นไหล"
บทที่ 72 งานเลี้ยงฉลองรางวัล
ขณะที่หลินเย่กำลังจัดงานเลี้ยงฉลองกับเหลยจุนและคนอื่นๆ เมื่อเขาเลื่อนไปเจอวิดีโอนี้ สีหน้าของเขาก็แข็งค้างทันที
วินาทีต่อมา เขาก็มองไปที่เหลยจุนที่อยู่ข้างๆ
"เด็กนั่นเจ้าจ้างมารึเปล่า?"
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเย่ เหลยจุนที่กำลังยกแก้วเพื่อดื่มฉลองกับหลินเย่ก็ตกตะลึง จากนั้นก็มองไปที่เอี้ยนหมิงบนหน้าจอโทรศัพท์ของหลินเย่ แล้วส่ายหัว
"ไม่ใช่ ข้าน้อยไม่รู้จักเขา"
"แล้วทำไมไอ้เด็กนี่ถึงได้พูดจาเข้าข้างเราอยู่ข้างเดียว แถมยังชมเกินจริงไปอีก ประสิทธิภาพของรุ่นที่สองก็ไม่ได้ดีเลิศอย่างที่เขาพูด"
"ช่างเถอะ ไอ้เด็กนี่ก็มีแววอยู่เหมือนกัน ปล่อยให้เขากินข้าวไปเถอะ"
หลังจากพูดจบ เขาก็หันไปพูดกับเหลยจุนอีกครั้ง
"เจ้าติดต่อคนนี้ทีหลัง จ่ายค่าโฆษณาให้เขาหน่อย แล้วต่อไปถ้าร้านสี่ทะเลออกผลิตภัณฑ์ใหม่อะไรก็ให้เขาทำรีวิวตามแบบนี้"
"รับทราบขอรับ นายน้อย"
"เอาล่ะๆ กินกันต่อ วันนี้ทุกคนทำงานหนักกันมาก เดี๋ยวข้าจะสร้างกลุ่มเล็กๆ แล้วแจกอั่งเปา 10,000 หินวิญญาณให้ทุกคน ปลายปีจะแบ่งปันผลกำไรตามยอดขายของสาขาต่างๆ ให้พวกเจ้าอีก แถมข้ายังจะให้ภูตเทพแห่งโชคลาภของพวกเจ้าเปิดสาขาเพิ่มอีก 30 สาขาภายในปีนี้ด้วย ต่อไปพวกเจ้าทุกคนจะมีโอกาสเลื่อนตำแหน่ง"
เมื่อหลินเย่ยกแก้วพูดประโยคนี้ พนักงานสาขาเมืองวาฬยักษ์ก็ตาเป็นประกายทันที ต่างก็แสดงสีหน้าซาบซึ้งราวกับจะคุกเข่าลงกราบหลินเย่ทันที
"สำนักมารของเรายิ่งวันยิ่งดีขึ้นจริงๆ"
หลังจากดื่มฉลองกับทุกคนรอบหนึ่งแล้ว หลินเย่ก็ตบไหล่เหลยจุนเบาๆ เหลยจุนก็รีบค้อมตัวลงยิ้มแย้ม
"เสี่ยวเหลย เจ้าทำผลงานได้โดดเด่นเป็นพิเศษในวันนี้ ดังนั้นข้าจึงตัดสินใจเลื่อนตำแหน่งให้เจ้าเป็นผู้จัดการเขตภาคเหนือของร้านสี่ทะเล ดูแลร้านทั้งหมดในภาคเหนือ"
"ถึงตอนนี้ภาคเหนือจะมีแค่ร้านเดียวที่เมืองวาฬยักษ์ แต่อนาคตคาดว่าอย่างน้อยก็น่าจะมีหลายสิบร้าน"
ทันทีที่พูดจบ เหลยจุนก็คุกเข่าลงกับพื้น สีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
"ขอบพระคุณท่านเจ้าสำนัก ขอบพระคุณท่านเจ้าสำนัก ข้าน้อยจะไม่ทำให้ท่านเจ้าสำนักผิดหวังอย่างแน่นอน"
"ลุกขึ้นๆ ต่อไปอย่าเรียกข้าน้อยๆ เลย เจ้าคือเสาหลักของสำนักมารของเรา อนาคตข้ายังมีภารกิจสำคัญกว่านี้จะมอบหมายให้เจ้าอีก"
หลังจากช่วยเหลยจุนลุกขึ้นจากพื้นแล้ว เขาก็นำเทียนจีรุ่นที่สองออกมาจากถุงเก็บของหลายสิบเครื่อง
"นี่เป็นรางวัลสำหรับพวกเจ้า คนละเครื่อง"
เมื่อหลินเย่นำเทียนจีรุ่นที่สองออกมา ทุกคนที่อยู่ที่นั่นก็ตาค้าง
งานเปิดตัวเมื่อครู่ไม่ได้ล้างสมองแค่ลูกค้าเท่านั้น พนักงานในร้านก็ถูกล้างสมองไปด้วยเช่นกัน ยิ่งบวกกับการโปรโมตบนอินเทอร์เน็ต ใครๆ ก็รู้ว่าเทียนจีรุ่นที่สองเครื่องหนึ่งสามารถขายได้หลายหมื่นหรือหลายแสนหยวน
ตอนนี้หลินเย่แจกให้พวกเขาคนละเครื่องเฉยๆ แบบนี้ ทำให้พวกเขารู้สึกตื่นเต้นยิ่งกว่าการแจกเงินโดยตรง
ทุกคนคุกเข่าลงทันที ต่างก็พูดจาแสดงความภักดีสารพัด แต่ในเวลานี้หลินเย่ก็พูดขึ้นอีกครั้ง
"เอาล่ะ ไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก นี่เป็นสิ่งที่พวกเจ้าสมควรได้รับ เอาเป็นว่าต่อไปนี้พวกเจ้าก็กินดื่มกันให้เต็มที่ ข้าจะไม่ขัดจังหวะพวกเจ้าแล้ว"
"ข้ารู้ว่าถ้ามีข้าอยู่ พวกเจ้าคงไม่กล้าปล่อยตัว ดังนั้นข้าจะกลับไปพักผ่อนก่อน"
หลังจากพูดจบ หลินเย่ก็พาภูตรับใช้สองตนที่ยังไม่อิ่มและมีสีหน้าไม่เต็มใจออกจากงานเลี้ยง เหลือไว้เพียงพนักงานสาขาเมืองวาฬยักษ์ที่เต็มไปด้วยความซึ้งใจ
"ฮือๆ ท่านเจ้าสำนักดีกับพวกเรามากจริงๆ"
"ใช่ คิดถึงพวกเราทุกอย่าง แถมยังแจกเงินแจกโทรศัพท์ให้เราอีก"
"สำนักธรรมะคงไม่มีใครปฏิบัติต่อศิษย์แบบนี้หรอกมั้ง"
"ใช่ คนทั่วไปต่างก็พูดว่าสำนักมารไม่มีความรัก นี่ไม่ใช่ความรักแล้วมันคืออะไรกัน ข้ารักสำนักมารมาก ชาติหน้าข้าก็จะเข้าสำนักมารอีก"
"ท่านเจ้าสำนักทั้งหล่อ ทั้งอ่อนโยน ทั้งเอาใจใส่ ผู้ชายแบบนี้ข้าคงไม่มีวาสนาได้ครอบครอง ฮือๆ"
.......
ในขณะที่ทุกคนกำลังซาบซึ้งใจ หลินเย่ก็พาภูตผีรับใช้สองตนมาถึงหน้าร้านสี่ทะเล
ทันทีที่ออกมา เขาก็อาเจียนออกมา
อุแหวะ...
"อาหารที่นี่ไม่อร่อยเลย เหล้าก็ไม่อร่อย อาหารทะเลก็ไม่ได้ทำความสะอาด ผิดหวัง ผิดหวังมาก"
เมื่อนึกถึงอาหารบนโต๊ะเมื่อครู่ เขาก็ส่ายหัว อาหารบนโต๊ะเมื่อครู่นั้นเอาไปให้หมากิน หมาอาจจะไม่ยอมกินด้วยซ้ำ
นี่แหละคือสาเหตุที่เขารีบร้อนอยากออกไป
"ไม่นะ ข้าว่าอร่อยดีออก" ภูตผีรับใช้หมายเลขหนึ่งพูดด้วยความคิดถึงรสชาติ
"ใช่ ข้าก็ว่าใช้ได้ ดีกว่าอาหารของสำนักราชาภูตเยอะเลย" ภูตผีรับใช้หมายเลขสองเสริมทันที
เมื่อได้ยินคำพูดของทั้งสอง หลินเย่ก็รู้สึกสงสารพวกเขาทันที ไม่สิ น่าจะสงสารทั้งสำนักมาร
หลายปีมานี้ไม่ได้กินอะไรอร่อยๆ เลย
"ไม่รู้ว่าในเมืองวาฬยักษ์นี้มีอะไรอร่อยๆ บ้าง ไปหาดูหน่อยสิ ถ้ามีปิ้งย่างกับเบียร์ก็ดีนะ"
พูดจบเขาก็นำภูตผีรับใช้สองตนเดินเล่นในเมืองวาฬยักษ์ยามค่ำคืน เดินไปเดินมาอยู่นาน สุดท้ายก็ต้องกลับไปนอนแบบเซ็งๆ
ทำไงได้ คนโบราณเข้านอนกันเร็วมาก เพิ่งจะเที่ยงคืนเอง ถนนก็ไม่มีแม้แต่เงาคน
"ไม่ได้ ข้าต้องหาวิธีทำเบียร์กับปิ้งย่างออกมาให้ได้ ไม่งั้นกลางคืนแบบนี้ไม่มีอะไรสนุกๆเลย"
"สิ่งล้ำค่าของข้า เนื้อวัวปิ้งของข้า เนื้อแกะย่างของข้า ไตแกะของข้า หอยนางรมย่างของข้า ต้นขาย่างของข้า..."
ขณะที่ท่องชื่ออาหารไปเรื่อยๆ หลินเย่ก็ค่อยๆ เข้าสู่ห้วงนิทรา
เช้าวันถัดมา ฟ้ายังไม่ทันสว่าง เขาก็ได้ยินเสียงจอแจเลือนลาง และเมื่อเวลาผ่านไป เสียงก็ดังขึ้นเรื่อยๆ ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างงัวเงีย
"ใครกัน ไม่มีมารยาทเอาซะเลย ตะโกนโหวกเหวกแต่เช้า"
"ภูตผี ภูตผี ออกไปตบปากมันที บอกให้มันหุบปาก"
ทันทีที่พูดจบ เสียงของภูตผีก็ดังมาจากข้างนอก
"นายน้อย ทำแบบนั้นไม่ได้หรอกขอรับ ถ้าต้องตบปากคนพวกนั้นทีละคน มือของพวกเราคงต้องหักแน่ๆ"
"หือ?" เมื่อได้ยินคำตอบของภูตผี หลินเย่ก็รู้สึกตัวขึ้นมาทันที
"มีคนมาเยอะมากเหรอ?"
"ใช่ขอรับ เยอะมาก เยอะสุดๆ"
"จะเยอะได้ขนาดไหนกัน?" หลังจากลุกขึ้นจากเตียงอย่างไม่เต็มใจแล้ว หลินเย่ก็เดินไปที่ข้างเตียงพร้อมกับหาว
ทันทีที่เขาเปิดหน้าต่างออกและเห็นภาพข้างนอก เขาก็ตกตะลึงกับภาพที่เห็น
ใต้ตึกร้านสี่ทะเลเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย คิวยาวเหยียดจากหน้าประตูร้านไปจนถึงนอกเมือง แล้ววกไปวนมานอกเมืองอีกหลายรอบ
นอกจากคนที่ต่อคิวอยู่บนพื้นแล้ว บนฟ้าก็ยังเต็มไปด้วยผู้ฝึกตน มองดูแล้วเหมือนฝูงตั๊กแตนบินผ่าน
"บ้าไปแล้ว! นี่มันเกิดอะไรขึ้น! ตัวตนสำนักมารของเราถูกเปิดเผยแล้วเหรอ?"
"ด้วยคุณภาพแบบนี้ รวมถึงฟังก์ชันพิเศษต่างๆ ราคา 8,888 หินวิญญาณ ถือว่าไม่แพงเลย ซื้อแล้วคุ้มแน่นอน ถ้าพอมีกำลังทรัพย์ ข้าขอแนะนำให้เพื่อนๆ ซื้อมาใช้สักเครื่อง"
ถ้าหากว่าเหลยจุนเป็นคนใน บทวิจารณ์ของเขาอาจจะทำให้ผู้ฝึกตนบางคนยังคงเคลือบแคลงสงสัย แต่การรีวิวอย่างเป็นกลางของเอี้ยนหมิงนี้ ทำให้ผู้ฝึกตนที่ยังลังเลอยู่ตัดสินใจได้ทันที
........
ศาลาซือไห่ เปลี่ยนชื่อเป็น ร้านสี่ทะเลนะครับ