ตอนที่แล้วตอนที่ 62 เจ้าควรรู้สึกเป็นเกียรติ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 64 คนที่ตกลงมาจากบนท้องฟ้า!

ตอนที่ 63 ฟิวรี่ต้องการความช่วยเหลือ!


ตอนที่ 63 ฟิวรี่ต้องการความช่วยเหลือ!

จักรวาลคู่ขนานใหม่ถือกำเนิดขึ้น ซึ่งนับเป็นเรื่องใหญ่สำหรับทั้งพหุจักรวาล

แต่ในจักรวาลเดียวกันนั้น มีเพียงผู้ทรงอำนาจบางคนหรือผู้ที่มีผู้ทรงอำนาจหนุนหลัง เช่น แอนเชียนวันเท่านั้นที่สามารถรับรู้ได้ ทำให้เรื่องนี้ ‘ตัวละครเล็ก ๆ’ อย่างกัปตันอเมริกาและเอริคคงจึงไม่มีทางรู้ตัวเลย

ตามที่แอนเชียนวันอธิบาย เหตุการณ์ใหญ่แบบนี้จะมีผู้ทรงอำนาจระดับสูงจัดการ ส่วนคนตัวเล็กตัวน้อยอย่างพวกเขาก็ควรทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป และไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของคนอื่น

ซึ่งความเห็นนี้ตรงใจของกัปตันอเมริกามากที่สุด สำหรับเขาการกลับมาจากอนาคตและได้ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างสงบสุขกับคนรัก คือสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต เพื่อสิ่งนี้เขายอมละทิ้งเกียรติยศและความเชื่อ ยอมซ่อนตัวในห้องใต้ดินตลอดทั้งวัน แม้โลกภายนอกจะวุ่นวายเพียงใดขอแค่ได้อยู่กับคาร์เตอร์ก็เพียงพอแล้ว

ส่วนห้องลับใต้ดินนั้น สร้างขึ้นโดยฮาเวิร์ด สตาร์ค เพื่อกัปตันอเมริกาโดยใช้พลังจาก เทสเซอร์แร็ค หรือที่เรียกว่า อัญมณีอวกาศ ในการเปิดพื้นที่ที่คล้ายกับมิติกระเป๋าเล็ก ๆ

. . .

หลังส่งกัปตันอเมริกา ผู้พร้อมจะใช้ชีวิตแบบ ‘ปลาเค็ม’ ต่อไปกลับอังกฤษ เอริคก็กลับมาที่วิลล่าของตัวเอง และเปิดเบียร์หนึ่งขวดเอนกายนิ่ง ๆ บนโซฟาด้วยใบหน้าที่ดูขมขื่นขึ้นเรื่อย ๆ

ก่อนจากไปแอนเชียนวันได้บอกข่าวอีกชิ้นที่เขาไม่รู้ว่าควรดีใจหรือเสียใจดี

มีผู้ทรงอำนาจหลายคนที่สังเกตเห็นจักรวาลนี้ หรือไม่ก็เห็นเขา!

การชนกันของจักรวาลคู่ขนานสองแห่ง การกำเนิดจักรวาลคู่ขนานใหม่ และการเข้ามาแทรกแซงของ ตุลาการสามหน้า ทั้งหมดนี้ทำให้จักรวาลคู่ขนานที่เพิ่งเกิดขึ้นมีความพิเศษ

สำหรับผู้ทรงอำนาจบางคนที่เบื่อหน่าย เช่น ซิตโตแร็คซึ่งไม่มีอะไรทำในแต่ละวันนอกจากโยนหินไปทั่ว เมื่อเขาพบจักรวาลคู่ขนานใหม่เข้า เขาก็แอบมองดูด้วยความสนใจ และที่น่าตกใจก็คือ หินของเขายังอยู่ในจักรวาลนี้ด้วย!

แต่ปัญหาก็คือ ‘เด็กโง่’ ที่เก็บหินของเขาไปไม่ได้รับผลกระทบจากเวทมนตร์ของเขา ซ้ำยังกลายเป็นคนดีขึ้นเรื่อย ๆ!

‘ไอ้ตายเถอะ! เด็กภายใต้บัญชาของข้ากลายเป็นคนดีงั้นเหรอ? ข้าเป็นปีศาจแห่งความโกลาหล เป็นต้นกำเนิดแห่งความชั่วร้าย! จะมีคนดีอยู่ใต้บัญชาของข้าได้ยังไง?’ ซิตโตแร็คคิดอย่างไม่พอใจ

นั่นจึงทำให้ จักเกอร์นอท ต้องเผชิญปัญหาใหญ่ เมื่อซิตโตแร็คเริ่มดึงพลังเวทมนตร์คืน พลังของเขาจึงเริ่มอ่อนแอลงเรื่อย ๆ ถึงแม้ว่าเขาอาจจะยังไม่รู้ตัวตอนนี้ แต่กระบวนการนี้จะเร่งขึ้นจนในที่สุด เขาจะไม่เหลือแม้แต่ความเป็นมนุษย์ปกติ

‘แล้วจักเกอร์นอทจะทำอย่างไร?’ เอริคครุ่นคิด เพราะในสองจักรวาลสามชีวิต จักเกอร์นอทเคยเป็นลูกน้องคนสำคัญของเขา ถ้าหากปล่อยไว้เช่นนี้นั่นก็หมายความว่าเขาจะต้องช่วยจักเกอร์นอทให้ได้

แต่จะช่วยยังไง? การเผชิญหน้ากับซิตโตแร็คโดยตรงคงเป็นไปไม่ได้ เพราะเขาเป็นผู้ทรงอำนาจระดับพหุจักรวาล ซึ่งตอนนี้เอริคยังไม่สามารถทนได้แม้เพียงแค่กวาดสายตามองของอีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำ

‘หรือจะเปลี่ยนสีดี? เปลี่ยนจากจักเกอร์นอท เป็นฮัลค์?’ เอริคเลิกคิ้วขึ้น ตอนนี้มันพลันมีความคิดที่บ้าบิ่นผุดขึ้นมาในหัว และยิ่งคิดก็ยิ่งดูเหมือนจะเป็นไปได้

‘หรือบางทีอาจไม่ต้องเปลี่ยนสี ถ้าฉันจำไม่ผิด นายพลรอสส์ก็เคยกลายเป็นเรดฮัลค์ไม่ใชหรอ?’ เอริคพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ ราวกับตัดสินใจชะตากรรมของเรดฮัลค์ในอนาคตไว้ในใจเรียบร้อยแล้ว

ทันใดนั้น เสียงใสของเด็กหญิงคนหนึ่งก็ดึงเขาออกจากภวังค์

“เอริค! กลับมาแล้วหรอคะ?!”

ตอนที่เอริคกลับมาถึงบ้านท้องฟ้ายังมืดอยู่ แต่ตอนนี้มันฟ้าสางเรียบร้อย เอรินหันไปมองที่ประตู และเห็นเจ้าหญิงตัวน้อยในชุดคลุมหมีกำลังยืนอยู่ด้วยตาง่วง ๆ มือหนึ่งถือหมีเท็ดดี้ ส่วนอีกมือถูตาเบา ๆ เท้าเล็ก ๆ ของเธอเหยียบพื้นเย็น พร้อมกับผมดำยาวสลวยปกลงบนบ่าอย่างไม่เป็นระเบียบ

น่ารักเหลือเกิน!

สายตาของเอริคเป็นประกาย ราวกับอยากจะเข้าไปอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาและกอดให้เต็มอ้อมอก

“เอ่อ . . . สกาย ทำไมถึงตื่นเช้าจัง? หิวเหรอ?”

“ไม่ค่ะ . . . หนูยังไม่ได้นอนเลยต่างหาก . . .” สกายเม้มปากเล็กน้อยด้วยความลังเล ก่อนจะเหลือบมองเอริคแล้วบอกความจริง

“ยังไม่ได้นอนเลย?!” เอริคเด้งตัวขึ้นทันที ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมาเสียงดังอย่างไม่พอใจ “จะเช้าแล้วทำไมถึงยังไม่นอนอีก?”

สกายหดคอเล็กน้อย มองเอริคด้วยสายตาหวาด ๆ “คุณลุงบาร์ตันสอนวิชา . . . วิชายิงธนูตอนกลางคืนให้หนูค่ะ หนูก็เลยซ้อมอยู่ . . .”

“บาร์ตัน!” เอริคตะโกนเสียงดังอย่างกะทันหันจนสกายสะดุ้ง พร้อมกับน้ำตาเริ่มคลอเบ้าเหมือนจะร้องไห้

“โอ้ ขอโทษนะ สกาย ฉันไม่ได้ตั้งใจทำให้ตกใจ มันไม่ใช่ความผิดของหนู ฉันแค่มีเรื่องต้องคุยกับลุงบาร์ตันของหนู เข้าใจไหม? ตอนนี้หนูรีบไปนอนได้แล้ว” เอริคปลอบสกายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนจนเธอยอมกลับเข้าห้องไปนอน จากนั้นเขาก็เริ่มเปิด ‘การสนทนาอย่างจริงจัง’ กับบาร์ตัน

สกายหลับยาวจนถึงสี่โมงเย็น และเมื่อเธอตื่นขึ้นมา เธอก็ตกใจที่เห็นบาร์ตันมีรอยคล้ำใต้ตาคล้ายหมีแพนด้า แต่ด้วยความฉลาดของเธอเพียงแค่คิดสักครู่ก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น และแลบลิ้นให้บาร์ตันด้วยท่าทีขอโทษ

. . .

ไม่กี่วันถัดมา เอริคดูเหมือนจะปล่อยตัวเองให้ขี้เกียจ เขาอยู่บ้านและมักมีเรื่องให้แกล้งต่อสู้กับบาร์ตันเสมอ บางครั้งเขาก็เพิ่มท่าทางแปลก ๆ ที่เท่แต่ไร้ประโยชน์ในระหว่างการต่อสู้ จากนั้นก็ใช้ความแข็งแรงของร่างกายบดขยี้บาร์ตัน ทำให้สกายซึ่งเป็นมือใหม่มองด้วยสายตาชื่นชมอย่างสุดใจ ทำให้ความรู้สึกหลงตัวเองของเอริคจึงได้รับการเติมเต็มอย่างเต็มที่

ในขณะเดียวกันพี่เลี้ยงและครูสอนพิเศษที่เจนนิเฟอร์จ้างมาก็มาถึงแล้วเช่นกัน ด้วยเหตุนี้เองสกายจึงถูกส่งไปเรียนที่โรงเรียนประถมที่แพงที่สุดในนิวยอร์ก บาร์ตันจึงโล่งใจ เพราะเขาต้องไปรับส่งสกายที่โรงเรียนทุกวัน และรอยแพนด้าใต้ตาอาจทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้ เอริคเลยยกเลิก ‘การประลองประจำวัน’

ตอนนี้บริษัท อลิซ อินดัสตรีส์ ได้เดินหน้าไปในทิศทางที่มั่นคงนานแล้ว มีคนรับผิดชอบทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องใหญ่หรือเล็ก เอริคในฐานะประธานจึงมีหน้าที่เพียงตัดสินใจในเรื่องสำคัญ ๆ เท่านั้น ทำให้ตอนนี้เขากลายเป็นคนว่างงานเต็มตัว

ซึ่งงานประจำวันของเขาตอนนี้คือการเป็น NPC เพื่อให้สกายทำภารกิจ ‘พูดสิบประโยคต่อวัน’ ให้สำเร็จ

‘สิบประโยคต่อวัน’ ได้กลายเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่งในชีวิตของสกาย เธอถึงกับซื้อสมุดโน้ตเล่มเล็ก ๆ มาไว้จดบันทึกว่าในแต่ละวันเธอพูดไปกี่ประโยคแล้ว

. . .

วันหนึ่งในขณะที่เอริคยังคงใช้ชีวิตแบบ ‘ปลาเค็ม’ อยู่ จู่ ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นทำลายความสงบในวิลล่าของเขา

“เอริค นี่ฟิวรีนะ ฉันต้องการความช่วยเหลือจากนาย!”

โปรดติดตามตอนต่อไป …

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด