ตอนที่แล้วตอนที่ 61 โล่!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 63 ฟิวรี่ต้องการความช่วยเหลือ!

ตอนที่ 62 เจ้าควรรู้สึกเป็นเกียรติ!


ตอนที่ 62 เจ้าควรรู้สึกเป็นเกียรติ!

“นายเป็นใคร?” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากมุมห้อง เป็นเสียงที่ลึกและแฝงด้วยความเก๋าเก่า

“กัปตัน?” เอริคลองเรียกดูอย่างไม่แน่ใจ แต่ในใจเขามั่นใจแล้วว่าใช่แน่นอน

“นายเป็นใคร? ฉันจะไม่ถามครั้งที่สาม!” เสียงยังคงหนักแน่นและเต็มไปด้วยความระมัดระวัง อีกฝ่ายยังคงหลบอยู่ในมุมมืดไม่ยอมเปิดเผยตัวออกมา

“เอริค แลนเซอร์! ประธานบริษัทอลิซ อินดัสตรีส์” เอริคกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบ ตอนนี้เขาไม่ได้ต้องการต่อสู้เลย สิ่งเดียวที่เขาต้องการคือหาคำตอบเกี่ยวกับอนาคตของเขา “กัปตัน ผมไม่ได้มีเจตนาร้าย กรุณาออกมาคุยกับผมหน่อย ผมมีเรื่องอยากปรึกษา”

“ไม่มีเจตนาร้าย? คนธรรมดาเขาไม่บุกรุกบ้านคนอื่นแบบนี้! นายรู้ไหม กฎหมายปราสาท (Castle Law) อนุญาตให้ฉันยิงนายจนพรุนได้เลย!”

“ผมเกรงว่าจะไม่มีปืนไหนในโลกที่ยิงผมจนพรุนได้น่ะสิ! หรือจะให้ผมเรียกคุณว่า สตีฟ โรเจอร์ส แทนดี?” เอริคกล่าวพร้อมเดินเข้าไปใกล้อย่างช้า ๆ

“ใคร? ฉันไม่รู้ว่านายพูดถึงอะไร!” เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของเอริค ชายผู้นั้นก็เลิกซ่อนตัวและค่อย ๆ เดินออกมา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยย่น ผมเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเทา แต่กล้ามเนื้อที่ยังคงแน่นตึงและสายตาที่แสดงถึงความมุ่งมั่นบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเขาคือใคร!

กัปตันอเมริกา สตีฟ โรเจอร์ส!

“ถ้านายยังไม่ไป ฉันคงต้องขอเชิญให้คุณออกไปด้วยหมัดของฉัน!” สตีฟจ้องมองเอริคอย่างระมัดระวัง พร้อมกับมือที่กำหมัดแน่น

“ผมไม่มีเจตนาร้ายและไม่อยากต่อสู้ ผมแค่อยากคุยกับคุณ . . .”

ไม่ทันที่เอริคจะพูดจบ สตีฟก็พุ่งเข้ามาอย่างเสือชีตาห์และปล่อยหมัดใส่หน้าเขา

หมัดนั้นของกัปตันอเมริกาห่างจากใบหน้าของเอริคเพียงสิบเซนติเมตร ก่อนที่มือของเอริคจะจับหมัดนั้นไว้ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าสตีฟจะออกแรงแค่ไหน หมัดก็ไม่สามารถขยับไปข้างหน้าได้เลย

แต่สตีฟก็ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ เขาใช้มืออีกข้างจับข้อมือของเอริคเพื่อใช้แรงเหวี่ยง พร้อมกับใช้เท้าทีบที่หน้าอกของเอริคอย่างเต็มแรง

เอริคบิดตัวหลบการโจมตีอย่างง่ายดาย พร้อมกับเหวี่ยงร่างสตีฟออกไป

สตีฟรีบลุกขึ้นมายืนอีกครั้ง และตั้งท่าพร้อมโจมตีอีกครั้ง ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่เอริคด้วยความระมัดระวัง

“กัปตัน มันไม่มีประโยชน์หรอก คุณไม่สามารถสู้กับผมได้ ผมเองก็ได้รับการฉีดเซรุ่มซูเปอร์โซลเยอร์มาเหมือนกัน และผมยังมีอะไรมากกว่านั้นอีก!” เอริคพูดพลางโบกมือเบา ๆ ทำให้โล่ของกัปตันอเมริกาอันโด่งดังลอยมาหยุดอยู่ตรงหน้าสตีฟ

สตีฟลังเลครู่หนึ่ง ก่อนจะรับโล่มาและยกขึ้นกันหน้าอกไว้ แต่ยังคงท่าทีระมัดระวัง “เวทมนตร์? หรืออะไรแปลก ๆ อีก? ฉันจะบอกให้นะ ฉันเคยเห็นอะไรที่แปลกกว่านี้มามากมาย!”

“อ้อ อย่างเช่นพวก ชายตัวเขียวมีกล้ามเป็นมัด ๆ? เทพเจ้าถือค้อน? เพลย์บอยในชุดเกราะเหล็ก? นักเวทที่ต่อสู้ระยะประชิด? แรคคูนพูดได้? และต้นไม้เดินได้ใช่ไหม?” เอริคพูดพลางยกมือขึ้นเหมือนยอมแพ้ “กัปตัน ผมรู้ว่าคุณมาจากอนาคต ผมขอย้ำอีกครั้งว่าผมไม่มีเจตนาร้าย ผมแค่อยากคุยกับคุณ!”

เมื่อเอริคเอ่ยถึงตัวละครที่คุ้นเคยทีละตัว สีหน้าของสตีฟก็เปลี่ยนไปอย่างช้า ๆ เขามองเอริคด้วยความตกใจ “นายเป็นใครกันแน่?”

. . .

“ผมมาจากจักรวาลคู่ขนาน!” ในที่สุดทั้งสองก็นั่งลง สตีฟรินกาแฟให้เอริค แต่ประโยคแรกของเอริคทำให้สตีฟตกใจจนชาหกเลอะไปทั้งตัว มันฟังดูเหลือเชื่อยิ่งกว่าการข้ามกาลเวลาของเขาเองเสียอีก

“จักรวาลคู่ขนานหมายถึงจักรวาลอื่นที่แยกตัวออกมาจากจักรวาลหนึ่งและดำรงอยู่คู่ขนานกัน ซึ่งมีทั้งความคล้ายคลึงและแตกต่างกันไป ตามกลศาสตร์ควอนตัม . . .” เอริคเริ่มอธิบายอย่างตั้งใจ กลัวว่าสตีฟจะไม่เข้าใจ

แต่สตีฟก็รีบยกมือขึ้นขัดจังหวะ “เอริค ฉันจบแค่มัธยมปลายนะ!”

เอริคอึ้งไปชั่วครู่ “ก็ได้ ผมจะพยายามอธิบายให้ง่ายขึ้น . . .”

“ไม่! สิ่งที่ฉันหมายถึงคือฉันจบแค่มัธยมปลาย แต่ฉันเข้าใจทั้งหมดที่นายพูด!” สตีฟพูดยิ้ม ๆ พร้อมยกถ้วยกาแฟขึ้นและส่งสายตาขำขันให้เอริค “ฉันเขียนการ์ตูนเลี้ยงชีพหลังแต่งงานกับคาร์เตอร์ และการ์ตูนพวกนั้นฉันก็ใช้เรื่องจักรวาลคู่ขนานมาเขียน!”

“เฮ้อ กัปตัน ผมแค่อยากรู้ว่าอนาคตของผมจะเป็นยังไง?” เอริคถามตรง ๆ โดยไม่สนใจมุกตลกของสตีฟ

“นายน่ะเหรอ?” สตีฟทำหน้าฉงน “ฉันไม่เคยได้ยินชื่อนายในอนาคตเลย”

“แล้วอลิซ อินดัสตรีส์ล่ะ?” เอริคถามอย่างกระวนกระวาย

“ไม่มี” สตีฟหยุดคิดด้วยความลังเล็กน้อย แต่ก็ยังส่ายหัว

“แล้วรถไฟแม็กเลฟลอยได้ล่ะ? มีบริษัทไหนสร้างขึ้นมาไหม?”

“รถไฟแม็กเลฟ?” สตีฟตบหน้าผากเบา ๆ ราวกับเพิ่งนึกขึ้นได้ “ฉันจำได้แล้ว! ฉันก็สงสัยอยู่ว่าทำไมมันถึงฟังดูคุ้น ๆ นายก็คือคนที่โชคดีพัฒนารถไฟแม็กเลฟนั่นเอง ฉันเคยเห็นข่าวนายในหนังสือพิมพ์ เขาบอกว่าจะมอบรางวัลโนเบลให้นายด้วย”

“กัปตัน ผมไม่สนใจรางวัลโนเบล!” เอริคพูดขัดอย่างรำคาญ “ผมแค่อยากรู้ว่า ในอนาคตนั้นมีร่องรอยการมีอยู่ของผมบ้างไหม?”

สตีฟนิ่งคิดอยู่สักพัก ก่อนจะค่อย ๆ ส่ายหัว “ฉันเกรงว่าจะไม่มี! ฉันไม่เคยได้ยินชื่อนายหรือบริษัทของนายเลย และในสหรัฐอเมริกาเองก็ไม่มีบริษัทไหนสร้างรถไฟแม็กเลฟขึ้นมาเช่นกัน!”

ไม่มีเขาอยู่ในอนาคต!

เอริคขมวดคิ้วแน่น รู้สึกว่านี่มันผิดปกติอย่างยิ่ง

เขามีตัวตนอยู่จริง แต่กลับไม่มีในความทรงจำของกัปตันอเมริกาตอนแก่ กล่าวอีกนัยหนึ่ง การมาถึงของเขาได้เปลี่ยนทิศทางของโลกไปโดยสิ้นเชิง อนาคตจะไม่เหมือนกับที่กัปตันอเมริกาจำได้อีกต่อไป!

แต่ถ้ามันเป็นเรื่องจริง แล้วเหตุใดกัปตันอเมริกาตอนแก่ยังมีตัวตนอยู่?

“กัปตัน ช่วยไปกับผมที่นิวยอร์กหน่อยได้ไหม? ผมคิดว่ามีเพียงเธอเท่านั้นที่จะตอบข้อสงสัยของผมได้”

“ไปนิวยอร์ก?” หลังจากได้ยินคำพูดของเอริค สตีฟก็ดูตกใจเล็กน้อย ใบหน้าฉายแววระลึกถึงอดีต ก่อนจะค่อย ๆ ส่ายหัว “ตั้งแต่แต่งงานกับคาร์เตอร์ ฉันแทบไม่ได้ออกไปไหนเลย”

แน่นอนว่าเอริคเข้าใจความหมายที่สตีฟต้องการจะสื่อ “กัปตัน ผมจะพาคุณบินไปแบบล่องหน ไม่มีใครเห็นคุณแน่นอน ผมสัญญา!”

. . .

“คุณคืออาจารย์ของสเตรนจ์เหรอ?” ภายในอาศรมเวทย์ในนิวยอร์ก สตีฟมองดูแอนเชียนวันอย่างสนใจ แม้เขาจะเคยมาที่นี่มาก่อน แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้พบกับปรมาจารย์ในตำนาน ผู้เป็นดั่งผู้พิทักษ์โลก

“ไม่ใช่ เขาเป็นลูกศิษย์ของข้าในอนาคต ปัจจุบันเขายังเป็นเพียงศัลยแพทย์ฝึกหัดอยู่” แอนเชียนวันกล่าวพลางมองสตีฟ ดวงตาของเธอแฝงด้วยแสงสีเขียววูบไหว

“ท่านแอนเชียนวัน ท่านรู้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น?” เอริคขัดจังหวะการพูดคุยระหว่างทั้งสอง ตอนนี้เขากระวนกระวายใจที่จะรู้คำตอบเป็นอย่างมาก

“เจ้าก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?” แอนเชียนวันหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะปิดพัดในมือและวาดวงกลมกลางอากาศ

“จักรวาลคู่ขนาน?!” เอริคเผลออุทานคำหนึ่งออกมาโดยไม่รู้ตัว ถึงแม้เขาจะมีข้อสรุปในใจแล้ว แต่ก็ยังยากที่จะเชื่อ

บนท้องฟ้าวงกลมที่ส่องแสงสีทองเริ่มพร่ามัว จากนั้นก็ค่อย ๆ แยกตัวออกเป็นสองวงกลมที่คล้ายกันมาก “ใช่แล้ว จักรวาลคู่ขนาน! เอริค เจ้าควรภูมิใจนะ ช่วงเวลาที่เจ้ามายังโลกใบนี้ ได้ก่อกำเนิดจักรวาลคู่ขนานขึ้นใหม่!”

โปรดติดตามตอนต่อไป …

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด