ตอนที่ 58 น้ำท่วมวาคานด้า!
ตอนที่ 58 น้ำท่วมวาคานด้า!
“อะไรนะ? เกิดอะไรขึ้นกับวาคานด้า?” ทีชาก้าถามด้วยความสับสนเมื่อได้ยินเสียงตะโกนของเอริค
แต่ก่อนที่เอริคจะตอบ มันก็มีข่าวร้ายดังขึ้นมาจากฝั่งวาคานด้าเช่นกัน “ฝ่าบาท! วาคานด้าเกิดน้ำท่วม!”
“น้ำท่วม?! เป็นไปได้ยังไง?” ทีชาก้านึกว่าตนเองฟังผิดไป แต่เขาก็ตั้งสติได้ทันที พร้อมกับใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีหน้ากังวลอย่างชัดเจน
“นามอร์! รีบกลับไปเดี๋ยวนี้!”
. . .
เมื่อทุกคนกลับมาถึงวาคานด้า น้ำท่วมก็สูงถึง 15-16 เมตรแล้ว ราวกับมีมือยักษ์ที่มองไม่เห็นกำลังโอบล้อมเอาไว้ น้ำถูกควบคุมให้อยู่ภายนอกเกราะพลังงานของวาคานด้าโดยไม่ไหลออกไปสู่ทุ่งหญ้ารอบข้าง
แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะนามอร์ต้องการปกป้องสิ่งแวดล้อม แต่เพราะวิธีนี้ทำให้น้ำสูงขึ้นเรื่อย ๆ
ชนเผ่าชายแดนต้องอพยพเข้ามาในเขตพลังงาน แม้เกราะพลังงานจะป้องกันความรุนแรงของน้ำท่วมได้ แต่ก็ทำลายพื้นที่ตั้งถิ่นฐานของชนเผ่าชายแดนจนสิ้นซาก
นามอร์ลอยตัวอยู่กลางอากาศบนเสาน้ำ ราวกับกษัตริย์ที่กำลังชมการทรมานศัตรูของตน
“นามอร์! เจ้าสมควรตาย!” ทีชาก้ายืนอยู่บนหลังคาเครื่องบินรบ เมื่อเห็นภาพนี้ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธ
นามอร์หันหลังกลับมามองไปยังเครื่องบินรบของวาคานด้าที่กำลังบินกลับมา และยิ้มอย่างเย้ยหยันก่อนจะดำลงใต้น้ำหายไป
“ค้นหา!” ทีชาก้าตะโกนสั่ง ทันใดนั้นเครื่องบินรบทั้งหมดก็แยกย้ายกันออกค้นหา ขณะที่เขาและเอริคมุ่งหน้ากลับไปยังพระราชวัง
ทันทีที่เข้าสู่พระราชวัง เอริคก็เห็นราชินีกำลังอุ้มเจ้าหญิงชูริตัวน้อย พร้อมกับเจ้าชายตัวเล็กสองคน ยืนอยู่ตรงหน้าหน้าต่างมองน้ำท่วมภายนอกด้วยความวิตกกังวล
“รามอนด้า!” ทีชาก้าก้าวเดินเข้าไปกอดราชินีของตัวเองเอาไว้แน่น
“ทีชาก้า เกิดอะไรขึ้น?” ราชินีจับแขนของสามีไว้แน่น และถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน
ทีชาก้าอ้าปากจะพูด แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี ทำให้เขาหันไปหาเอริค แต่พบว่าเอริคกำลังเบือนหน้าหนีไปอีกทาง ดังนั้นเขาจึงได้แต่ถอนหายใจเข้าลึก ๆ
“ฝ่าบาท เกราะพลังงานของเราใกล้จะรับไม่ไหวแล้ว!” ทหารองครักษ์หัวล้านวิ่งเข้ามาและคุกเข่าลงข้างหนึ่ง
“อะไรนะ? เป็นไปได้ยังไง?” ทีชาก้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ “เกราะของเรารับการโจมตีจากขีปนาวุธได้ แล้วทำไมจะต้านน้ำท่วมเล็กน้อยไม่ได้?”
“เพราะขีปนาวุธโจมตีแค่พื้นที่เล็ก ๆ แต่น้ำท่วมโจมตีเกราะทุกด้านพร้อมกัน!” เจ้าหญิงองค์โตแห่งวาคานด้าก้าวเข้ามาในห้องพร้อมถือแท็บเล็ตในมือ “น้ำเหล่านี้เคลื่อนไหวไม่หยุด กำลังโจมตีเกราะของเราทุกวินาที ทำให้พลังงานของเราถูกใช้ไปอย่างรวดเร็ว ทำให้อีกไม่นานมันจะไม่สามารถรองรับได้ และวาคานด้าจะจมลงใต้น้ำ!”
“เรามีเวลาแค่ไหน?” เอริคถามอย่างเร่งด่วน
“ไม่ถึงห้านาที!”
คำพูดของเจ้าหญิงองค์โตทำให้ทีชาก้าแทบสิ้นหวัง เขาไม่เคยคิดเลยว่าเพียงเพราะการตัดสินใจเล็กน้อยของเขาจะนำหายนะมาสู่ประเทศและประชาชนของตนเอง
นอกหน้าต่าง ชาววาคานด้าต่างมองน้ำท่วมภายนอกเกราะพลังงานด้วยความอยากรู้อยากเห็น พวกเขาเชื่อมั่นในเกราะพลังงานว่าจะสามารถป้องกันการโจมตีได้ทุกอย่าง โดยไม่รู้เลยว่าหายนะกำลังจะมาถึง
ระดับน้ำสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนเกือบ 40-50 เมตร ทำให้ตอนนี้วาคานด้าดูราวกับชามที่ถูกคว่ำอยู่ใต้น้ำ โดยที่น้ำท่วมสูงขึ้นถึงหนึ่งในสี่ของชามแล้ว
“ศูนย์ควบคุมหลักของเกราะพลังงานอยู่ที่ไหน? พาผมไปเดี๋ยวนี้!” เอริคไม่สนใจมารยาทอะไรทั้งสิ้นอีกต่อไป และคว้าแขนของเจ้าหญิงองค์โตบินขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว
เจ้าหญิงองค์โตตกใจในตอนแรก แต่ก็ปรับตัวได้อย่างรวดเร็วและชี้ทางให้อย่างคล่องแคล่ว
“รีบไปตามหานามอร์ และอย่าฆ่าเขา!” ก่อนจะบินจากไป เอริคกำชับทีชาก้าอีกครั้งโดยไม่แน่ใจว่าเขาจะฟังหรือไม่ และรีบบินไปพร้อมกับเจ้าหญิงองค์โต
ศูนย์ควบคุมหลักของเกราะพลังงานเป็นหนึ่งในระบบป้องกันที่สำคัญที่สุดของวาคานด้า และพื้นที่นี้ได้รับการปกป้องอย่างแน่นหนา
ด้วยการนำทางของเจ้าหญิงองค์โต เอริคจึงบินลงไปลึกใต้ดินอย่างรวดเร็ว และมาถึงบริเวณสายแร่ไวเบรเนียมในที่สุด
ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่เอริคได้เห็นสถานที่แห่งนี้ แม้เขาจะเคยสัมผัสพื้นที่นี้ผ่านพลังสนามแม่เหล็กมาแล้ว แต่เมื่อเห็นด้วยตาของตัวเองก็ยังอดตะลึงไม่ได้
พื้นที่ใต้ดินถูกขุดจนกว้างใหญ่จนมองไม่เห็นฝั่งตรงข้าม ที่ฝั่งหนึ่งของพื้นที่คือฐานหลอมไวเบรเนียมของวาคานด้า ซึ่งใช้สำหรับแปรรูปสายแร่ให้กลายเป็นไวเบรเนียมบริสุทธิ์จำนวนมหาศาลที่ถูกส่งมาตามรางรถไฟเพื่อนำมาหลอมในที่แห่งนี้
อีกด้านหนึ่งมีอุกกาบาตชื่อดังตั้งอยู่ เอริคจ้องมองมันอย่างไร้คำพูด ขณะที่พลังเหนือธรรมชาติของเขาเริ่มเคลื่อนไหว
อุกกาบาตก้อนนี้มีขนาดใหญ่มากจนยากจะบอกได้ว่าแท้จริงแล้วมันใหญ่เพียงใด ด้านหน้าของมันถูกขุดเจาะจนกลายเป็นเหมืองขนาดมหึมา อีกทั้งยังมีรางรถไฟหลายสายมุ่งเข้าสู่ภายใน แสดงให้เห็นว่ามีสายแร่จำนวนมากถูกขุดสำรวจอยู่ข้างใน
แสงสีน้ำเงินเรืองรองทั่วทั้งใต้ดิน เติมเต็มบรรยากาศด้วยความลึกลับ
“ศูนย์ควบคุมหลักอยู่ที่นั่น!” เจ้าหญิงองค์โตกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังและชี้ไปยังจุดหมายที่อยู่ลึกลงไป เอริคมองตามปลายนิ้วของเธอ และเห็นว่าศูนย์ควบคุมหลักนั้นตั้งอยู่ใต้ฐานของอุกกาบาตไวเบรเนียม!
หลังจากนั้นพวกเขาทั้งสองก็รีบเร่งรุดลงไปยังตำแหน่งนั้น และด้วยการนำทางของเจ้าหญิงองค์โต เอริคก็สามารถเข้าสู่ศูนย์ควบคุมหลักได้อย่างราบรื่น
ภายในห้องควบคุมมีขนาดไม่ใหญ่นัก มีพื้นที่ราว ๆ ไม่กี่ร้อยตารางเมตร และพื้นที่ส่วนใหญ่ก็ถูกรายล้อมด้วยองครักษ์ ส่วนพื้นที่สำหรับการควบคุมพลังงานเกราะมีขนาดไม่ถึง 100 ตารางเมตร ซึ่งเทียบเท่ากับบ้านหลังเล็ก ๆ
ในห้องนี้มีอุปกรณ์เพียงสองชิ้น ชิ้นหนึ่งตั้งอยู่ติดผนัง ดูคล้ายคอมพิวเตอร์เทคโนโลยีไวเบรเนียม หน้าจอแสดงผลข้อความภาษา วาคานด้า และข้อมูลตัวเลขมากมายจนชวนให้ตาลาย
ส่วนกลางห้องมีแท่นวงกลมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณสองเมตร บนแท่นนั้นมีกระเปาะโปร่งแสงกลับหัวอยู่ และรอบ ๆ กระเปาะมีสัญลักษณ์น้ำท่วมสีแดงติดอยู่
“นี่คือเกราะของวาคานด้า?” เอริคชี้ไปที่แท่นวงกลมแล้วหันไปถามเจ้าหญิงองค์โต และเมื่อได้รับการยืนยันจากเธอ เขาจึงเดินเข้าไปและวางมือลงบนแท่นนั้น
ทันใดนั้นการเหนี่ยวนำสนามแม่เหล็กก็แผ่ขยายออกไปตามแท่นวงกลม ไม่นานนักความลับทั้งหมดก็ถูกเปิดเผยต่อหน้าของเขา
ใต้ฐานของห้องนี้ยังมีระบบที่ซับซ้อนและใหญ่กว่าเดิมซ่อนอยู่ มันคือศูนย์กลางที่แท้จริงสำหรับควบคุมพลังงานเกราะ ส่วนที่อยู่บนพื้นผิวนี้เป็นเพียงแค่คีย์บอร์ดและจอแสดงผลเท่านั้น
“ผมต้องใช้ไวเบรเนียมบางส่วน หวังว่าท่านจะไม่ขัดข้อง!” เอริคนั่งลงขัดสมาธิบนพื้น มือทั้งสองยังคงวางอยู่บนแท่น พร้อมกับพลังพิเศษของเขาที่พุ่งทะยานออกมาผ่านแท่นวงกลม ไม่นานก็ปกคลุมไปถึงศูนย์ควบคุมพลังงานเกราะทั้งหมด และแผ่กระจายต่อไปยังทั่วทั้งวาคานด้า
ตอนนี้ทุกสิ่งในวาคานด้าปรากฏอยู่ในสายตาของเขา!
. . .
น้ำท่วมพุ่งสูงขึ้นถึง 100 เมตร ส่วนผู้คนในวาคานด้าก็เลิกทำงานไปนานแล้ว และพากันเงยหน้ามองน้ำมหาศาลที่ครอบคลุมท้องฟ้า พรร้อมกับความหวาดกลัวที่เริ่มแพร่กระจายอย่างเงียบ ๆ ท่ามกลางฝูงชน
บนเกราะพลังงาน แสงสีน้ำเงินในหลายจุดเริ่มจางลงเรื่อย ๆ เพื่อแจ้งเตือนถึงพลังงานที่กำลังใกล้จะหมดลง
“เกราะพลังงานจะรับไม่ไหวแล้ว!” เสียงหนึ่งตะโกนขึ้น ทำให้ฝูงชนหันมองไปยังทิศทางของเสียงทันที แต่แล้วจู่ ๆ รูขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นบนเกราะพลังงานที่เคยแข็งแกร่งดุจหินผา ทำให้น้ำมหาศาลพุ่งทะลุลงมาอย่างกับกระสุนใหญ่!
จากนั้นก็มีรูที่สอง ที่สาม ที่สี่ และอีกนับไม่ถ้วนตามมาติด . . .
ก่อนที่ในพริบตาเดียว เกราะพลังงานทั้งหมดก็พังทลายลงอย่างสมบูรณ์!
โปรดติดตามตอนต่อไป …