ตอนที่แล้วตอนที่ 56 ผนังแตกออก!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 58 น้ำท่วมวาคานด้า!

ตอนที่ 57 แย่แล้ว . . . วาคานด้า!


ตอนที่ 57 แย่แล้ว . . . วาคานด้า!

“แย่แล้ว!” เอริคอุทานด้วยความตกใจ พลางโบกมือไปทางนามอร์ พยายามใช้กล่องโลหะขังเขาอีกครั้ง แต่โชคร้ายที่น้ำทะเลก่อตัวเป็นมือยักษ์ขวางกล่องโลหะไว้ห่างจากนามอร์เพียงหนึ่งเมตร ทำให้กล่องไม่สามารถเข้าใกล้ได้เลย!

ทีชาก้าก็สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติเช่นกัน ก่อนที่เขาจะรีบพุ่งเข้าหานามอร์ แต่กลับถูกน้ำทะเลผลักกระเด็นออกไปไกล

เอริคพยายามควบคุมโลหะจำนวนมากอีกครั้งเพื่อห่อหุ้มนามอร์ แต่ก็ถูกน้ำทะเลปัดกลับไป แน่นอนว่าเอริคยังไม่ยอมแพ้ และพยายามยิงปืนแม่เหล็กไฟฟ้าอีกหลายครั้ง แต่ปืนแม่เหล็กไฟฟ้าเหล่านั้นก็ดูเหมือนจะจมหายไปในทะเลโดยไม่มีผลใด ๆ

พวกเขาทั้งสองพยายามเตรียมโจมตีอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่านามอร์ก็เริ่มหมดความอดทนแล้วเช่นกัน เขาคำรามอย่างเกรี้ยวกราด และกระแทกกำแพงที่มีรอยรั่วจนทะลุ ก่อนจะว่ายน้ำมุ่งหน้าไปยังส่วนลึกของทะเล

“กลับมานี่!” เอริคตะโกน และควบคุมโลหะให้ก่อตัวเป็นโซ่พันรอบเอวของนามอร์พยายามดึงเขากลับมา

ในขณะเดียวกันทีชาก้าก็กระโดดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว วิ่งไปบนโซ่ทวนกระแสน้ำ และในพริบตาก็คว้าขาของนามอร์ไว้ได้

แต่ในน้ำทะเล นามอร์ดูเหมือนมีกำลังไม่มีที่สิ้นสุด เขาง้างโซ่ที่พันรอบเอวออกอย่างง่ายดาย และต่อยทีชาก้ากระเด็นลงไปอีกครั้ง จากนั้นควบคุมน้ำทะเลให้กลายเป็นมือยักษ์จับตัวทีชาก้าไว้ในฝ่ามือ และบีบแน่นจนดูเหมือนจะบดขยี้ทีชาก้าให้ตาย!

ตอนนี้น้ำทะเลในฐานได้ลึกจนถึงระดับคิ้วแล้ว ดังนั้นเอริคจึงต้องเปิดเกราะสนามแม่เหล็กดันน้ำทะเลออก และกระโดดลงไปในทะเลลึก ก่อนที่เขาจะควบคุมโลหะอีกครั้งให้ก่อตัวเป็นหมัดเหล็กต่อยเข้าที่หลังของนามอร์อย่างแรงจนนามอร์เสียหลัก พร้อมกับน้ำทะเลที่ควบคุมอยู่หลุดลอยไป ทำให้ทีชาก้าอาศัยจังหวะนี้หลุดออกมาได้

ทีชาก้าเคาะชุดแบล็คแพนเธอร์สองครั้ง ส่งผลให้มีแสงสีน้ำเงินเรืองขึ้นบนหน้ากากเกิดเป็นเกราะบางกั้นน้ำทะเลไว้ จากนั้นเขาก็ว่ายตรงไปหานามอร์อีกครั้ง

ตอนนี้นามอร์หยุดลอยตัวอยู่ในน้ำ ผมยาวปลิวไสว ดวงตาเปล่งแสงสีแดง และอ้าปากคำรามด้วยความโกรธอย่างน่าประหลาด ถึงแม้จะอยู่ในน้ำ เอริคและทีชาก้าก็ยังได้ยินเสียงคำรามของเขาได้อย่างชัดเจน!

เอริคพยายามควบคุมโลหะให้เข้าใกล้นามอร์อีกครั้ง แต่พบว่าน้ำทะเลรอบตัวนามอร์กำลังหมุนวนอย่างรวดเร็ว ทำให้โลหะใดที่เข้าใกล้จะถูกบดขยี้ทันที

ทีชาก้าว่ายน้ำมาหาเอริค เคาะที่อกของเขาสองครั้งแล้วชี้ไปที่นามอร์ เอริคพยักหน้าเข้าใจและใช้พลังควบคุมชุดแบล็คแพนเธอร์ของทีชาก้าอีกครั้ง คราวนี้เขาพบว่าสามารถควบคุมได้เหมือนเดิม เพราะทีชาก้าปิดระบบเทคโนโลยีที่รบกวนสนามแม่เหล็กแล้ว

เอริคควบคุมชุดแบล็คแพนเธอร์ส่งทีชาก้าออกไปหานามอร์เหมือนกระสุนทะลุน้ำ ทำให้น้ำที่หมุนด้วยความเร็วสูงไม่สามารถทำอันตรายไวเบรเนียมได้ กลับช่วยสะสมพลังงานจลน์ให้ชุดแบล็คแพนเธอร์จนแสงสีน้ำเงินเปล่งประกายทั่วตัวทีชาก้า

ทีชาก้าพุ่งทะลุเกราะน้ำของนามอร์ และเข้าประจันหน้ากับนามอร์อีกครั้ง ทำให้ตอนนี้เอริคจึงมีเวลาควบคุมยานไวเบรเนียมให้มาหาเขา

ยานไวเบรเนียมเปลี่ยนรูปร่างตลอดเส้นทาง จนกระทั่งกลายเป็นกล่องโลหะขนาดใหญ่ครอบนามอร์และทีชาก้าเอาไว้

เมื่อนามอร์เห็นกล่องนั้น สีหน้าของเขาก็ดูเหมือนจะนึกถึงช่วงเวลาที่ถูกกักขังอยู่ใน ‘กรงขัง’ นานเป็นปี ทำให้ความโกรธเกรี้ยวบนใบหน้าจึงเพิ่มขึ้น ก่อนที่เขาจะเตะทีชาก้ากระเด็นออกไป และรีบว่ายขึ้นด้านบนอย่างรวดเร็ว

แน่นอนว่าเอริคไม่ปล่อยให้นามอร์หนีไปได้ และควบคุมกล่องไวเบรเนียมและทีชาก้าพร้อมกันติดตามนามอร์ขึ้นไป

ไม่นานนักพวกเขาทั้งสามก็พบกับชั้นหินที่ปิดกั้นเส้นทางด้านบน มันคือส่วนล่างของแผ่นทวีปแอฟริกา!

เอริคที่เห็นโอกาสอันดี เขาก็ควบคุมกล่องไวเบรเนียมให้กระจายตัว ปิดทุกเส้นทางของนามอร์ และห่อหุ้มเขาเอาไว้อย่างรวดเร็ว

ส่วนทีชาก้าก็ถูกโยนเข้าไปช่วยก่อกวนไม่ให้นามอร์หนีไปได้เช่นกัน

นามอร์มองไปที่กล่องไวเบรเนียมที่ค่อย ๆ เข้ามาใกล้ ทำให้เขาคำรามอย่างต่อเนื่อง จนน้ำทะเลรอบตัวพลุ่งพล่าน แต่ไม่สามารถพัดกล่องไวเบรเนียมออกไปได้

เมื่อพื้นที่รอบตัวเริ่มแคบลง นามอร์ก็เงยหน้ามองขึ้นและต่อยเข้าที่ชั้นหินด้านบนจนกรวดจำนวนมากตกลงมา ก้อนหินเล็ก ๆ ผสมกับน้ำทะเลทำให้ทัศนวิสัยพร่ามัวจนแทบมองไม่เห็นตัวเขา

แต่เอริคที่ใช้การรับรู้จากสนามแม่เหล็กตลอดเวลา ทำให้เขารู้ว่าตอนนี้นามอร์กำลังพยายามควบคุมน้ำทะเลเปิดช่องว่างในชั้นหินและพุ่งเข้าไป ดังนั้นเขาจึงรีบควบคุมไวเบรเนียมเปลี่ยนรูปร่างอีกครั้งให้กลายเป็นสว่าน แล้วเจาะตามไปทันที

หลังจากไล่ตามกันมาเป็นระยะทางหลายร้อยเมตร จู่ ๆ ความเร็วของนามอร์ก็เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน เขาทะลุชั้นหินเข้าไปในแม่น้ำใต้ดินอันมืดมิดได้สำเร็จ ทำให้เอริคและคนอื่น ๆ ที่เพิ่งเข้าสู่แม่น้ำสายนี้ นามอร์ก็ว่ายขึ้นนำหน้าไปอีกหลายไมล์แล้ว

ทันใดนั้นสว่านไวเบรเนียมก็เปลี่ยนรูปร่างอีกครั้ง กลายเป็นลำเรือทรงเพรียว พาเอริคและทีชาก้าตามไปด้วยความเร็วสูง

ในน้ำความเร็วของนามอร์เร็วกว่าเรือดำน้ำทั่วไปมาก แม้แม่น้ำใต้ดินที่มีลักษณะคล้ายเขาวงกตก็ไม่อาจเป็นอุปสรรคสำหรับนามอร์ได้เลย แถมมันยังกลับกลายเป็นเกราะธรรมชาติที่ช่วยขัดขวางการไล่ล่าของเอริคเสียอีก

ในช่วงแรก เอริคพยายามบังคับเรือไวเบรเนียมให้เลี่ยงก้อนหินใหญ่และสิ่งกีดขวางต่าง ๆ แต่ในที่สุดเขาก็รู้ว่าการทำเช่นนั้นมีแต่จะทำให้นามอร์หนีไปได้ไกลขึ้น เอริคจึงเปลี่ยนแผนขับลำเรือพุ่งตรงตามนามอร์โดยไม่สนสิ่งกีดขวางใด ๆ

นามอร์อยู่ข้างหน้า เอริคและทีชาก้าไล่ตามจากด้านหลัง พวกเขาทั้งสามเคลื่อนตัวไปตามแม่น้ำใต้ดินนานสามถึงสี่ชั่วโมง ก่อนจะทะลุผ่านชั้นหินขึ้นสู่ทะเลสาบน้ำใส

ทะเลสาบตุรคานา (Turkana) ตอนนี้พวกเขากลับขึ้นสู่ผิวน้ำอีกครั้งแล้ว!

อย่างไรก็ตามนามอร์ก็ยังคงหนีไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดหย่อน ก่อนที่จู่ ๆ เขาจะพุ่งตัวขึ้นจากทะเลสาบ และส่งเสียงคำรามสะท้านฟ้า ทำให้น้ำในทะเลสาบตุรคานาที่อยู่ใต้เท้าของเขาราวกับมีชีวิตขึ้นมา และไหลมารวมตัวกันจนยกตัวของเขาขึ้นสูง

เอริคและทีชาก้าไล่ตามมาทัน เอริคก็ควบคุมให้เรือลอยขึ้นจากทะเลสาบ และเปลี่ยนลำเรือไวเบรเนียมให้เป็นแท่นลอยน้ำพาพวกเขาทั้งสองไปยืนเผชิญหน้ากับนามอร์อีกฝั่ง

ทีชาก้าถอดหน้ากากออกเผยใบหน้าสีเข้มของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อ เขาปาดเหงื่อออกจากใบหน้า ก่อนจะหยิบลูกปัดคิโมยูออกมา ไม่นานหัวหน้ากองรักษาการหัวล้านของเขาก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอโฮโลแกรม

“เตรียมระดมกำลังกองบินรถ มีศัตรูบุกรุกวาคานด้า!”

เอริคมองทีชาก้าเงียบ ๆ โดยไม่พูดอะไร

ไม่นานนักเครื่องบินรบของวาคานด้าก็มาถึง เครื่องบินหลายร้อยลำที่ดูล้ำสมัยล้อมรอบนามอร์เอาไว้ พร้อมกับกระบอกปืนเปล่งแสงสีน้ำเงินแวววับที่พร้อมยิงได้ทุกเมื่อ

นามอร์ยืนอยู่บนผืนน้ำ แหงนหน้ามองขึ้น ดวงตาสีแดงฉานของเขาเปล่งแสงอย่างดุดัน ก่อนจะอ้าปากคำรามอีกครั้ง ทันใดนั้นน้ำในทะเลสาบตุรคานาก็พุ่งสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าราวกับมีแรงดึงดูดจากโลก

ทำให้นักบินของเครื่องบินรบวาคานด้าที่เห็นเช่นนั้นก็เปิดฉากยิงพร้อมกันทันที ส่งผลให้พื้นที่รอบตัวนามอร์ถูกปกคลุมด้วยแสงสีฟ้าเข้ม น้ำในทะเลสาบถูกระเหยอย่างต่อเนื่องจนเกิดเป็นหมอกสีขาว

“หยุดยิง!” ทีชาก้าออกคำสั่ง ทำให้นักบินรบจึงยุติการโจมตีทันที และน้ำในทะเลสาบก็กลับมาสงบอีกครั้ง พร้อมกับหมอกสีขาวที่ค่อย ๆ จางลง แต่ . . .

นามอร์ได้หายตัวไปแล้ว!

“เริ่มสแกน หาเขาให้เจอ!”

นักบินของเครื่องบินรบเริ่มฉายแสงสีน้ำเงินสแกนทะเลสาบอย่างละเอียด เอริคเองก็นิ่งเงียบใช้พลังกระจายคลื่นสนามแม่เหล็กเพื่อตามรอยนามอร์เช่นกัน

แต่ยิ่งเขาตรวจรอบ ๆ มากเท่าไหร่ คิ้วของเขาก็ยิ่งขมวดคิ้วลึกขึ้น . . .

นามอร์หายตัวไปแล้วจริง ๆ!

ขอบเขตการตรวจจับถูกขยายออกไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งแตะขอบเขตของวาคานด้า และในที่สุดก็พบร่างของนามอร์ที่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย!

“แย่แล้ว . . . วาคานด้า!”

โปรดติดตามตอนต่อไป …

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด