ตอนที่ 370 ข้ออ้างของไป๋จื่ออัน
ตอนที่ 370 ข้ออ้างของไป๋จื่ออัน
พูดตามตรงว่าถึงแม้ว่าไป๋จื่ออันจะให้ความสำคัญกับการต่อสู้จัดอันดับประจำปีครั้งนี้ก็จริง
ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อที่จะไม่แพ้ให้กับหลินชิงถัง ไป๋จื่ออันยังได้ให้ราชันย์วาฬเงายมโลกกับสุริยะอีกาสีทองวิวัฒนาการ ก้าวเข้าสู่ระดับเพชร
แต่จริงๆ แล้ว ไป๋จื่ออันไม่ได้ยอมรับหลินชิงถัง
ในความคิดของไป๋จื่ออัน หลินชิงถังก็เหมือนกับศัตรูในอดีตของเขา เป็นเพียงแค่สิ่งกีดขวาง
ตราบใดที่เอาชนะหลินชิงถังได้ เขาก็จะทิ้งห่างหลินชิงถัง ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายตามทัน
แต่จิตใจของหลินชิงถังนั้นแข็งแกร่งกว่าที่ไป๋จื่ออันคิด
เมื่อเผชิญหน้ากับความล้มเหลว หลินชิงถังแค่เงียบไปสักพัก เธอก็ปรับเปลี่ยนความคิด
ยิ่งไปกว่านั้น หลินชิงถังยังคงมีกำลังใจในการต่อสู้ เธอมองไป๋จื่ออันเป็นเป้าหมายต่อไป เหมือนกับว่าเธออยากจะใช้ไป๋จื่ออันเป็นหินลับมีด
ความเพียรแบบนี้ทำให้ไป๋จื่ออันประหลาดใจ
ยังไงซะอัจฉริยะก็มักจะมีความหยิ่งผยอง
ยิ่งเป็นอัจฉริยะมากขึ้นเท่าไหร่ พวกเขาก็จะยิ่งหยิ่งผยองมากขึ้นเท่านั้น
ดังนั้นเมื่ออัจฉริยะเหล่านี้เจอกับความล้มเหลว พวกเขาก็จะรู้สึกหดหู่ใจ หรือแม้แต่ล้มลง
เหมือนกับเฉิงเซวียนหมิงที่พ่ายแพ้ให้กับไป๋จื่ออัน
หลังจากที่แพ้ให้กับไป๋จื่ออัน จิตใจของเขาก็พังทลายลง
ไป๋จื่ออันจะไม่มีทางสนใจศัตรูแบบนี้
แต่อัจฉริยะอย่างหลินชิงถัง หลังจากที่พ่ายแพ้ให้กับไป๋จื่ออันแล้ว เธอกลับปรับเปลี่ยนความคิดได้อย่างรวดเร็ว แถมยังมีแนวโน้มที่จะแข็งแกร่งขึ้นไปอีก
มันน่าทึ่งมาก
อัจฉริยะที่ไม่ยอมแพ้ มีจิตใจที่แน่วแน่ และพรสวรรค์ที่ไม่อาจจะจินตนาการได้
นี่คือคุณสมบัติของผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด
ไป๋จื่ออันมั่นใจว่าในอนาคต ความสำเร็จของหลินชิงถังจะต้องสูงส่งมาก
คำพูดของหลินชิงถังทำให้ไป๋จื่ออันประทับใจ
ด้วยเหตุนี้เอง ไป๋จื่ออันจึงเริ่มมองหลินชิงถังเป็นคู่ต่อสู้
บางทีเขาจะไม่เหงาบนเส้นทางแห่งการเติบโต
ดังนั้นไป๋จื่ออันจึงพูดแบบนั้นออกมา
ยิ่งไปกว่านั้น ไป๋จื่ออันไม่อยากให้หลินชิงถังยอมแพ้อันดับที่สอง
ยังไงซะในมหาวิทยาภูตเร้นลับ ทรัพยากรที่ ‘สิทธิพิเศษของผู้แข็งแกร่ง’ มอบให้นั้นมีประโยชน์มาก
หลินชิงถังเงียบไปสักพัก จากนั้นก็พยักหน้าเล็กน้อย เธอยอมรับคะแนนพวกนั้น
หลังจากที่จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ไป๋จื่ออันกับหลินชิงถังก็เดินไปที่ทางเดินมิติ ออกจากโลกแห่งลูกแก้ว
แสงสว่างเปล่งประกาย
เมื่อไป๋จื่ออันมองเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจนอีกครั้ง เขาก็พบว่าตัวเองอยู่ในสนามกีฬา
ใบหน้าของคนหนุ่มสาวที่อยู่รอบๆ กำลังมองไป๋จื่ออันด้วยความโกรธ
นี่คือสนามกีฬามหาวิทยาลัย
ในที่สุดไป๋จื่ออันกับหลินชิงถังก็กลับมาแล้ว
“ไป๋จื่ออัน แกกล้าดียังไงถึงได้กลับมาที่นี่?!”
“นายกับหลินชิงถังร่วมมือกันต่อสู้กับพวกเรา ปล้นคะแนนของพวกเรา นี่มันผิดกฎการต่อสู้จัดอันดับประจำปีชัดๆ!”
“พวกเราได้รายงานเรื่องนี้ให้อธิการบดีโจวหยางซูแล้ว พวกนายต้องถูกลงโทษ!”
นักศึกษาใหม่ที่อยู่รอบๆ ตะโกนใส่ไป๋จื่ออันกับหลินชิงถังด้วยความโกรธแค้น
พวกเขารู้ดีว่าไป๋จื่ออันแข็งแกร่งมาก พวกเขาไม่ใช่คู่มือของไป๋จื่ออัน
แต่ครั้งนี้พวกเขามีที่พึ่ง
กฎของการต่อสู้จัดอันดับประจำปีไม่อนุญาตให้ร่วมมือกัน
การที่ไป๋จื่ออันกับหลินชิงถังร่วมมือกันเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่อาจจะปฏิเสธได้
ดังนั้นทางโรงเรียนจะต้องลงโทษไป๋จื่ออัน
นี่คือสิ่งที่ทำให้พวกเขามั่นใจ
“นักศึกษาทุกคนกระตือรือร้นมากจริงๆ”
ไป๋จื่ออันยิ้ม เหมือนกับว่าเขาไม่ได้สนใจ
พอเขาพูดจบ นักศึกษาทั้งหมดก็ยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก
พวกเขาไม่คิดเลยว่าไป๋จื่ออันจะหยิ่งผยองขนาดนี้
มันทำให้พวกเขาโกรธมากยิ่งขึ้น
“เงียบ!”
เสียงๆ หนึ่งดังขึ้นจากเวทีสูง
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ใช้ลำโพงก็จริง แต่มันก็ดังไปถึงหูของทุกคน มันน่าตกตะลึงมาก
นี่คือเสียงของอธิการบดีโจวหยางซู
ตอนนี้นักศึกษาใหม่ทั้งหมดก็เงียบลง พวกเขามองอธิการบดีโจวหยางซูอย่างเงียบๆ รอฟังคำตัดสินของอธิการบดีโจวหยางซู
“จัดการทีละเรื่องก่อน ก่อนอื่นก็ต้องยืนยันผลลัพธ์ของการแข่งขันก่อน!”
“นักศึกษาไป๋จื่ออันกับหลินชิงถัง นำลูกแก้วทั้งหมดที่พวกเธอได้รวบรวมมาออกมา ตรวจสอบผลลัพธ์!”
อธิการบดีโจวหยางซูมองไป๋จื่ออันกับหลินชิงถัง ก่อนจะพูดขึ้น
ถึงแม้ว่าผลลัพธ์จะปรากฏบนกระดานจัดอันดับแล้วก็จริง แต่ก็ยังคงต้องตรวจสอบอีกครั้ง
ไป๋จื่ออันจะไม่มีทางปฏิเสธ เขาหยิบถุงใบใหญ่ออกมา
หลินชิงถังก็ทำแบบเดียวกัน
อาจารย์หลายคนลงมือเปิดถุง นับคะแนนของไป๋จื่ออันกับหลินชิงถัง
“ไป๋จื่ออันได้ 1,510,000 คะแนน ส่วนหลินชิงถังได้ 1,500,000 คะแนน ยืนยันผลลัพธ์ถูกต้อง ตรงกับคะแนนบนกระดานจัดอันดับ!”
ไม่นานอาจารย์ก็ตรวจสอบผลลัพธ์เสร็จสิ้น พวกเขายืนยันว่ามันถูกต้อง
“คะแนนออกมาแล้ว จากคะแนนที่ได้ ที่หนึ่งในการต่อสู้จัดอันดับประจำปีครั้งนี้ก็คือไป๋จื่ออัน ส่วนที่สองก็คือหลินชิงถัง!”
“นี่คือผลลัพธ์ของการต่อสู้จัดอันดับประจำปี!”
“แต่นักศึกษาบางคนได้ร้องเรียน บอกว่าพวกเธอทั้งสองคนร่วมมือกันในการต่อสู้จัดอันดับประจำปีครั้งนี้ ฝ่าฝืนกฎการประเมิน!”
“พวกเธอทั้งสองคนจะแก้ตัวว่าอะไร?”
“ช่วยอธิบายให้นักศึกษาทุกคนฟังหน่อย ถ้าหากฝ่าฝืนกฎจริงๆ คะแนนของพวกเธอก็จะเป็นโมฆะ!”
อธิการบดีโจวหยางซูพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง
หลังจากที่ยืนยันผลลัพธ์การจัดอันดับของการต่อสู้จัดอันดับประจำปีแล้ว เขาก็เริ่มถามเรื่องการร่วมมือกัน
“อธิการบดี ผมคิดว่านักศึกษาพวกนั้นเข้าใจผิดกันนะครับ”
“ผมไม่ได้ร่วมมือกับหลินชิงถัง ผมแค่จัดการกับนักศึกษา 500 คนก็เท่านั้น”
“ยิ่งไปกว่านั้น พวกเราต่างก็ลงมือเอาชนะนักศึกษาคนอื่นๆ ก็เพื่อที่จะได้ต่อสู้!”
ไป๋จื่ออันพูดด้วยสีหน้าที่ไร้เดียงสา
ใครบอกว่าพวกเขาร่วมมือกัน? พวกเขาแค่จัดการนักศึกษาใหม่คนละ 500 คนเท่านั้น
นี่เรียกว่าร่วมมือกันเหรอ? ต้องบอกว่าสถานที่ต่อสู้ของเขากับหลินชิงถังบังเอิญอยู่ในพื้นที่เดียวกัน
พอนักศึกษาใหม่ทุกคนได้ยินแบบนั้น พวกเขาก็แทบจะอาเจียนเป็นเลือด
พวกเขาไม่เคยเห็นคนหน้าด้านแบบนี้มาก่อน
ใครๆ ก็มองออกว่าไป๋จื่ออันกับหลินชิงถังร่วมมือกันจัดการพวกเขา
แต่ไป๋จื่ออันกลับแก้ตัวแบบนี้ มันหน้าไม่อายจริงๆ
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง”
“ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะเป็นเพียงแค่เข้าใจผิด!”
“แบบนี้คะแนนของพวกเธอก็ยังมีผล!”
อธิการบดีโจวหยางซูรีบพูด เขาสรุปเรื่องนี้
ตอนนี้นักศึกษาใหม่ทั้งหมดต่างก็ตกตะลึง พวกเขามองอธิการบดีโจวหยางซูด้วยความตกใจ
อธิการบดีโจวหยางซูตาบอดรึไง? ถึงได้เชื่อคำแก้ตัวแบบนั้น?