ตอนที่ 2 การล่ามอนสเตอร์

ตอนที่ 2 การล่ามอนสเตอร์

"2 ภารกิจงั้นเหรอ?"

"ข้าสามารถทำภารกิจที่ 2 ให้เสร็จก่อนได้"

ด้วยความแข็งแกร่งของ หลิน ยี่ การล่ามอนสเตอร์ระดับ 3 จึงเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก

แต่เขาต้องลงมืออย่างรวดเร็ว

ตอนนี้เป็นเวลาบ่าย อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะมืดแล้ว

ในช่วงเวลากลางคืน เหล่ามอนสเตอร์จะเข้าสู่สถานะบ้าคลั่ง ทำให้ความแข็งแกร่งของพวกมันเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า นอกจากนี้ เมื่อต้นไม้เก่าแก่ได้ตายลงทำให้ม่านพลังพังทลายลงด้วยเช่นกัน มีความเป็นไปได้สูงที่มอนสเตอร์เหล่านั้นจะเข้าโจมตีในเวลากลางคืน

เขาต้องรีบทำภารกิจที่ 2 ให้เสร็จเพื่อปลดล๊อค อาคาร [ต้นไม้สงครามโบราณ]

ในเวลานั้น เขาสามารถฝึกฝนกองกำลังเอลฟ์ต่อสู้ออกมา ปกป้องดินแดนร่วมกับเขาได้

ก่อนออกเดินทาง หลิน ยี่ เปิดหน้าต่างอาคาร [ต้นไม้แห่งชีวิต] และอัญเชิญเอลฟ์ออกมา 10 ตัว

เอลฟ์เหล่านี้ดูแปลกมาก

มันเป็นบอลแสงขนาดเท่าลูกบอล พวกมันเต็มไปด้วยพลังแห่งชีวิต

เอลฟ์เหล่านี้พูดไม่ได้ แต่พวกมันมีสติปัญญาและจิตสำนึก

หลังจากที่ถือกำเนิดจากต้นไม้แห่งชีวิต พวกมันก็บินเข้ามาล้อมรอบ หลิน ยี่ ในขณะเดียวกันก็แสดงท่าทางที่มีเป็นมิตรกับหลิน ยี่

ภายในร่างกายของ หลิน ยี่ พวกมันสัมผัสได้ถึงออร่าอันสูงสุดของเอลฟ์สุริยัน

ออร่านี้ทำให้พวกมันอยากเข้าใกล้

หลิน ยี่ ดึงเอลฟ์ตัวหนึ่งเข้ากอด

มันให้ความอบอุ่นและอ่อนนุ่มราวกับมาร์ชแมลโลว์ที่ถูกย่างด้วยไฟอ่อนๆ

...

[เอลฟ์]

[เผ่าพันธ์ : เอลฟ์]

[ระดับ : ระดับ 3]

[ความสามารถพิเศษ : รวบรวมทรัพยากร]

[ข้อมูลทหาร : เอลฟ์ไม่ใช่ทหารต่อสู้ มันเป็นร่างแรกเกิดของเอลฟ์ หากต้องการสร้างกองทัพเอลฟ์ขนาดใหญ่ ท่านต้องมีเอลฟ์มากกว่านี้]

....

[รวบรวมทรัพยากร : เอลฟ์สามารถรวบรวมทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับดินแดนของท่านได้]

.....

หลิน ยี่ มองไปรอบๆ เขาเห็นซากปรักหักพังโบราณอยู่ทุกหนแห่ง

ยกเว้นต้นไม้โบราณเหล่านั้น เขาก็ยังไม่พบทรัพยากรที่มีประโยน์อื่นๆ เลย อย่างเช่น เหมืองคริสตัลเวทมนตร์

เขาสั่งเหล่าเอลฟ์ไม่ให้วิ่งไปรอบๆ และให้อยู่ภายในอาณาเขตของต้นไม้แห่งชีวิต

เขารีบออกจากจัตุรัสทันที

เข้าสู่ซากปรักหักพัง เพื่อค้นหาเหล่ามอนสเตอร์ที่ซ่อนอยู่

หลังจากนั้นไม่นาน

หลิน ยี่ ก็มาถึงถนนที่อยู่ใกล้จัตุรัส

อาคารทั้ง 2 ฝั่งกลายเป็นซากปรักหักพัง มีเถาวัลย์สีเขียวปกคลุมที่ตายไปแล้ว และเศษหินภายในซากปรักหังพัง

สภาพแวดล้อมโดยรอบเงียบอย่างน่าขนลุก

เสียงที่ดังออกมา มีเพียงเสียงของ หลิน ยี่ ที่เหยียบไปบนรากไม้ผุๆ

ในอดีต ด้วยการสนับสนุนจากต้นไม้เก่าแก่ หลิน ยี่ ได้ออกมาสำรวจพื้นที่เหลือนี้หลายครั้งโดยไม่พบอันตรายใดๆ แต่ตอนนี้เขาไม่กล้าที่จะประมาท

เมื่อเดินทางขึ้นจุดหนึ่ง ไม้กายสิทธิ์สีเขียวก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา

นี่คือไม้กายสิทธิ์ที่ต้นไม้เก่าแก่ใช้กิ่งก้านของมัน ทำเพื่อหลิน ยี่ มันเป็นอุปกรณ์ระดับ ราชา

ระดับของอุปกรณ์ในทวีปมืดมีตั้งแต่ระดับต่ำไปจนถึงระดับสูง ไล่จากขั้นที่ 1 ไปถึงจนถึงขั้นที่ 9 ได้แก่ ระดับราชา ระดับพิเศษ ระดับศักดิ์สิทธิ์ ระดับกึ่งเทพ และระดับเทพแท้จริง

ดังนั้นอุปกรณ์ระดับราชาจึงนับว่าไม่เลวนัก

หลิน ยี่ โบกไม้กายสิทธิ์ในมือของเขา

ทันใดนั้น แสงสีแดงก็ส่องแสงเจิดจ้าออกมาจากทั่วตัวของเขา ในไม่ช้า มันก็กลายเป็นโล่เพลิงสีแดงชาน

นี้คือเวทย์ไฟ - โล่เพลิง

มันสามารถใช้ได้ตั้งแต่ระดับ 4 ถึงระดับ 6 ซึ่งมันคือเวทมนตร์ระดับ กลาง

นอกจากโล่เพลิงแล้ว หลิน ยี่ ยังเชี่ยวชาญเวทย์ไฟ อีก 3 เวทย์ ได้แก่ บอลไฟ , กำแพงไฟ และ หอกเพลิง

ในช่วงไม่กี่เดือนนับตั้งแต่ที่เขามายังโลกใบนี้ เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนั่งสมาธิการฝึกฝนเพื่อพัฒนาระดับของเขา

ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้มากขนาดนี้

ในบรรดาเวทมนตร์ทั้ง 4 เวทย์นี้ หอกเพลิง มีระดับสูงสุดและมีพลังทำลายล้างมากที่สุด มันเป็นถึงเวทมนตร์ระดับสูงและเป็นเวทมนตร์โจมตีเป้าหมายเดียวที่รุนแรงมาก

....

ห่างจากจัตุรัสออกไปไม่กี่กิโลเมตร ทันใดนั้น หลิน ยี่ ก็ได้ยินเสียงแปลกๆ

เมื่อตามเสียงนั้นไป เขามองเห็นหนูยักษ์หลายตัวที่มีร่างสีเข้มกำลังมองหาอาหารภายในซากปรักหักพัง ซึ่งอยู่หากออกไปหลายร้อยเมตร

"หนูหนองน้ำ!"

หลิน ยี่ ขว้างบอลไฟออกไปอย่างไม่ลังเล

บอลไฟมีขนาดประมาณ 1 เมตรแผดเผาด้วยเปลวเพลิงสีน้ำเงิน

ในไม่ช้า ลูกไฟก็ระเบิดตรงตำแหน่งที่เป้าหมายอยู่ โดยระเบิดเพลงแผ่ขยายออกหลาย 10 เมตร มีหนูหนองน้ำหลายตัวถูกเป็นเถาถ่านทันที

"หนูหนองน้ำเป็นมอนสเตอร์ระดบต่ำ"

"มีพวกมันเป็นจำนวนมากในหนองน้ำที่ถูกลืมนี่"

"หากมีไม่กี่ตัวพวกมันก็ไม่น่ากลัว แต่มันน่ากลัวเมื่อพวกรวมตัวกันเป็นฝูง"

หลิน ยี่ เห็นฉากที่หนูหนองน้ำถูกระเบิดเพลิงจากระยะไกล

ในเวลานี้ ทันใดนั้น หลิน ยี่ ก็สัมผัสได้ถึงพลังงานอย่างพุ่งเข้าสู่ร่างกายของเขา ค่อยๆเพิ่มพลังเวทมนตร์ให้เขา

"นี่มัน... การสังหารมอนสเตอร์จะได้รับค่าประสบการณ์งั้นเหรอ?"

หลิน ยี่ ถามระบบและได้รับคำตอบดีๆ กลับมา

เขาสามารสังหารศัตรู และได้รับค่าประสบการณ์ ซึ่งช่วยเพิ่มระดับให้กับเขาอย่างรวดเร็ว

ในเวลาเดียวกัน ถ้าเขามีทหารอยู่ใต้บังคับบัญชาเขายังสามารถได้รับส่วนแบ่งค่าประสบการณ์เมื่อทหารของเขาสังหารศัตรูได้ นี่เป็นสิทธิพิเศษของราชัน

ตามหลักแล้ว

ยิ่งราชันมีทหารมากเท่าไหร่ ศัตรูก็ยังถูกฆ่าเร็วขึ้นเท่านั้น และพวกเขาก็จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น...

ระดับของราชันก็ยิ่งเติมโตเร็วขึ้นเท่านั้น

"มันดีจริงๆ"

"การสังหารศัตรูจะช่วยเพิ่มค่าประสบการณ์ให้กับข้า ดังนั้นข้าไม่จำเป็นต้องนั่งสมาธิอีกต่อไป"

หลิน ยี่ ยิ้ม

พวกเขามาถึงสถานที่ซึ่งหนูหนองน้ำยักษ์ถูกสังหาร

มันยังคงมีเปลวเพลิงสีน้ำเงินไหม้อยู่ที่นั่น แต่เมื่อหลิน ยี่ เข้ามาใกล้เปลวเพลิงก็แยกออกจากกันโดยอัตโนมัติโดยไม่ได้ทำร้ายหลิน ยี่

ไม่รู้ว่าเปลวเพลิงจะมีจิตวิญญาณ หรือว่าเป็นของภูมิคุ้มกันธาตุไฟของเขา

ตราบใดที่มันเป็นธาตุไฟ ไม่ว่าจะเป็นเวทมนตร์ที่มนุษย์สร้างมาหรือมาจากธรรมชาติ มันก็ไม่สามารถทำร้ายเขาได้

นี้คือพรสวรรค์โดยกำเนิดของเอลฟ์สุริยัน

ถัดจากซากศพที่ไหม้เกรียมของหนูหนองน้ำ หลิน ยี่ พบบางสิ่งที่คล้ายกับคริสตัลสีเขียว

[คริสตัลเวทมนตร์ : ทรัพยากรสำหรับพัฒนาอาณาเขต ซึ่งสามารถได้จากการสังหารศัตรูและการขุดเหมือง]

"การอัพเกรดต้นไม้แห่งชีวิตต้องใช้คริสตัลเวทมนตร์ 1000 ชิ้น"

"เมื่อพิจารณาจากการสังหารศัตรูเมื่อกี้ น่าจะใช้เวลาไม่นานในการรวบรวม"

หลิน ยี่ เดินหน้าต่อไป

2 ชั่วโมงต่อมา หลิน ยี่ สังหารมอนสเตอร์ได้เกือบ 100 ตัว ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นหนูหนองน้ำขนาดยักษ์ มีมอนสเตอร์งูหลามหิน 3 ตัวซ่อนอยู่ในซากปรักหักพัง

งูหลามหิน เป็นมอนสเตอร์ระดับกลาง

งูหลามหินที่ตัวโตเต็มวัยมีความยาวประมาณ 4 เมตร โดยทั่วไปแล้วระดับของมันจะอยู่ระดับ 5

หลิน ยี่ ไม่จำเป็นต้องใช้ความพยายามมากนัก ในการสังหารงูหลามหินทั้ง 3 ตัว

"มีมอนสเตอร์เกือบ 100 ตัว แต่มีเพียง 6 ตัวเท่านั้นที่ไปถึงระดับ 3"

"ข้าต้องพยายามให้มากขึ้น!"

"ในทางกลับกัน ข้าเก็บเกี่ยวคริสตัลเวทมนตร์ได้ทั้งหมดกว่า 70 ชิ้น ความเร็วในการรวบรวมไม่เลวเลย"

หลิน ยี่ พูดขณะเดินเข้าไปในป่ารก

เวลาผ่านไปหลายปี แต่พื้นที่หลายแห่งในเมืองเอลฟ์โบราณถูกปกครองไปด้วยป่าที่คล้ายๆกัน มีต้นไม้โบราณที่มีความสูงหลายร้อยเมตร พวกมันยังเป็นแหล่งกำหนดมอนสเตอร์จำนวนมากอีกด้วย

"ด้วยต้นไม้โบราณสูงใหญ่เหล่านี้ ข้าไม่รู้ว่าจะมีพวกเอนท์เกิดมาบ้างไหมนะ?"

"น่าจะไม่"

"ถ้ามี พวกเอนท์มันก็คงถูกอัญเชิญมานานแล้ว"

เผ่าเอนท์ นั่นเป็นผู้พิทักษ์ของเอลฟ์ พวกเขาเกิดมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน

หากมีเผ่าเอนท์ที่อยู่รอบๆ หลิน ยี่ มันช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความเร็วในการล่ามอนสเตอร์ได้ไม่น้อย

หลังจากเข้าไปในป่า หลิน ยี่ ก็ยิงลูกไฟไปเพื่อเคลียร์ทาง

ในขณะที่สังหารมอนสเตอร์ที่ซ่อนอยู่ในป่า เขาเดินเข้าไปยังส่วนลึกของป่า

เมื่อเทียบกับในซากปรักหักพังแล้ว เห็นได้ชัดว่ามีมอนสเตอร์ในป่ามากกว่า

การล่ามอนสเตอร์ที่นี่สามารถเร่งภารกิจของเขาในการปลดล๊อค [ต้นไม้สงครามโบราณ] ได้