ก่อตั้งองค์กรมือสังหารในโลกบำเพ็ญเพียร ตอนที่ 145 เจ้ามีตบะระดับใด?
ก่อตั้งองค์กรมือสังหารในโลกบำเพ็ญเพียร ตอนที่ 145 เจ้ามีตบะระดับใด?
เกือบหนึ่งชั่วยามให้หลัง
กลุ่มคนมากมายกำลังเดินทางไปยังชายแดนของราชวงศ์ราชันจินกัง
"ได้ยินมาว่าราชวงศ์ราชันจินกังมีสตรีงดงามมากมาย การใช้โลหิตของพวกนาง บางทีอาจจะทำให้วิชาร้อยหยินของข้าบรรลุระดับที่สูงขึ้น"
เฉียนเย่จวินมองไปยังที่ไกล แววตาของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย
"ขอรับ ท่านเฉียนเย่ สตรีของราชวงศ์ราชันจินกังล้วนงดงามยิ่งนัก ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีปราณหยินมากมาย"
ผู้บำเพ็ญชั่วร้ายคนหนึ่งที่มีแววตาดูมีเลศนัย กล่าวเสริม
"สตรีเหล่านั้นมีเพียงปราณหยินทั่วไป สิ่งที่ข้าต้องการคือสตรีบริสุทธิ์ที่มีปราณหยินที่บริสุทธิ์"
เฉียนเย่จวินมองดูมือขวาของตนเองอย่างตั้งใจ กล่าวพึมพำ
"พวกเจ้าได้ยินหรือไม่? หลังจากที่พวกเราเข้าไปในราชวงศ์ราชันจินกัง จงจับสตรีบริสุทธิ์เหล่านั้นเอาไว้ มอบให้ท่านเฉียนเย่"
ผู้บำเพ็ญชั่วร้ายคนนั้นหันกลับไป กล่าวกับผู้บำเพ็ญชั่วร้ายคนอื่น ๆ ที่อยู่ด้านหลัง
"ขอรับ!"
"ท่านเฉียนเย่ต้องการมากเพียงใด พวกเราก็จะจับมาให้มากเพียงนั้น"
เสียงตอบรับดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เฉียนเย่จวินยิ้มออกมา
สายตาของเขามองไปยังทิศทางหนึ่ง "โอ้ กลับมาแล้วหรือ?"
บุรุษวัยกลางคนที่ถูกเรียกว่าขวงชือ ค่อย ๆ ลงมาจากท้องฟ้า
"ข้าให้เจ้าตรวจสอบโดยรอบ แต่เจ้ากลับมาอยู่ที่นี่"
ขวงชือกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตร
เมื่อหลายนาทีก่อน พวกเขาเพิ่งจะเดินทางมาถึงที่แห่งนี้
แต่กลับพบว่าบนกำแพงเมืองไม่มีทหารแม้แต่คนเดียว
เขาจึงให้คนสองคนแยกย้ายกันไปตรวจสอบโดยรอบ
ไม่คิดเลยว่าเฉียนเย่จวินจะมาอยู่ที่นี่
"เฮ้อ การตรวจสอบก็ไร้ค่า ราชวงศ์ราชันเล็ก ๆ เช่นนี้ จะมีสิ่งใดให้ตรวจสอบ"
เฉียนเย่จวินกล่าวต่อ
"เจ้า!"
ขวงชือขมวดคิ้ว
เฉียนเย่จวินลุกขึ้นยืน "เอาล่ะ หลังจากที่พวกเราบุกโจมตีราชวงศ์ราชันจินกัง ข้าจะยกความดีความชอบทั้งหมดให้เจ้า เป็นการชดเชยที่ข้าไม่ได้ตรวจสอบโดยรอบ"
ขวงชือไม่เอ่ยวาจาใด ๆ
จากนั้นจึงหันหลังกลับ "อย่าให้รองเจ้าถ้ำต้องรอนาน รีบไปกันเถอะ"
"เพื่อความปลอดภัย พวกเจ้าจงตามข้ามา"
ขวงชือกล่าวกับผู้บำเพ็ญชั่วร้ายคนอื่น ๆ
"ขอรับ"
"เช่นนั้นข้าจะเป็นคนนำหน้า"
เฉียนเย่จวินยิ้มออกมา จากนั้นก็เหาะเหินไปยังกำแพงเมืองอย่างรวดเร็ว
ขวงชือขมวดคิ้ว
นิสัยของเฉียนเย่จวินทำให้เขารู้สึกไม่พอใจ
แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงยอมรับในพลังอำนาจของเฉียนเย่จวิน
เพราะเฉียนเย่จวินสามารถสังหารผู้อาวุโสระดับถ้ำพำนักของนิกายพยัคฆ์สงครามได้สองคน เรื่องนี้ทำให้ผู้คนมากมายในมณฑลฝูอวิ๋นต้องตกตะลึง
"แปลกยิ่งนัก ยังคงไม่มีผู้ใด"
เฉียนเย่จวินหรี่ตาลง
ก่อนหน้านี้เขาเห็นว่าบนกำแพงเมืองไม่มีผู้ใด
จึงคิดว่าอีกฝ่ายกำลังวางแผนซุ่มโจมตี
แต่จากสถานการณ์ในตอนนี้……
ยังคงไม่มีผู้ใด
กระทั่งบ้านเรือนที่อยู่ใต้กำแพงเมือง ก็ยังคงไม่มีเงาของผู้คน
"หรือว่าพวกเขากลัวพลังอำนาจของถ้ำโลหิต จึงหลบหนีไปแล้ว?"
เฉียนเย่จวินกล่าวกับตนเอง
"โยมผู้นี้ คงจะเป็นผู้บำเพ็ญแห่งถ้ำโลหิตกระมัง"
เสียงที่ไพเราะและอ่อนโยนดังขึ้นข้างหูเฉียนเย่จวิน
เฉียนเย่จวินรู้สึกตัว มองไปยังทิศทางที่เสียงนั้นดังมา
เห็นเพียงพระภิกษุหนุ่มรูปหนึ่งสวมชุดของพระภิกษุ ยืนอยู่บนถนน
แม้ว่าพระภิกษุหนุ่มจะหลับตาลง แต่เฉียนเย่จวินกลับรู้สึกว่าอีกฝ่ายกำลังมองดูเขา
"ลาหัวโล้นมาจากที่ใด?"
เฉียนเย่จวินขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นจึงตอบคำถามของพระภิกษุหนุ่ม "ใช่แล้ว ข้าเป็นคนของถ้ำโลหิต"
"พระภิกษุน้อยได้รับคำสั่งจากเจ้าศาลา ให้มารับศีรษะของโยม และนำพวกโยมไปยังดินแดนสุขาวดี"
ได้ยินเช่นนั้น เฉียนเย่จวินหัวเราะออกมาเสียงดัง "ลาหัวโล้น เจ้ารู้หรือไม่ว่าตนเองกำลังกล่าวสิ่งใด?"
กล่าวจบ เฉียนเย่จวินปลดปล่อยกลิ่นอายระดับตบะออกมาโดยไม่ปิดบัง
ปราณวิญญาณมากมายแผ่กระจายไปทั่วทุกสารทิศในรัศมีหลายสิบลี้
"ระดับถ้ำพำนักสี่ชั้นฟ้าหรือ?"
เย่หวู่ซินกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สงสัย
เฉียนเย่จวินคิดว่าอีกฝ่ายหวาดกลัว จึงยิ้มออกมาอย่างมีเสน่ห์ "ใช่แล้ว ลาหัวโล้น เจ้ากลัวหรือ?"
เย่หวู่ซินหลับตาลง ส่ายหน้าเบา ๆ
การกระทำนี้ ทำให้เฉียนเย่จวินโกรธแค้น
"ข้าเกลียดพวกเจ้าที่อ้างว่าเป็นเซียนผู้เที่ยงธรรมที่สุด การกระทำของพวกเจ้าช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก!"
'คมมีดผีร้าย!'
เงาของเฉียนเย่จวินที่อยู่ด้านหลัง เริ่มต้นเคลื่อนไหวอย่างน่าประหลาด มือขวาของเงาแปรเปลี่ยนเป็นใบมีดขนาดใหญ่
"ข้าต้องการศีรษะของเขา"
เฉียนเย่จวินกล่าว
เงาข้างกายหายวับไปในพริบตา
ความเร็วของมันน่าตกใจยิ่งนัก
เพียงพริบตาเดียว ก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังเย่หวู่ซิน
ใบมีดที่เย็นยะเยือก ฟาดฟันลงไป
"ป้องกัน… ป้องกันเอาไว้ได้หรือ?"
เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดนี้ ทำให้เฉียนเย่จวินตกตะลึง
ทุกคนเห็นว่าร่างกายของเย่หวู่ซินถูกปกคลุมด้วยแสงสีทองบาง ๆ
การโจมตีของเงาปะทะกับแสงสีทองนั้น ราวกับกำลังฟาดฟันชุดเกราะที่แข็งแกร่ง ไร้ผลโดยสิ้นเชิง
"โยมผู้นี้ใจร้อนเกินไปแล้ว"
เย่หวู่ซินกล่าวจบ ภายใต้สายตาของเฉียนเย่จวิน ก็เริ่มต้นลงมืออย่างกะทันหัน
มือขวาเคลื่อนไหว แขนเสื้อพลิ้วไหว
ด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า จับเงาที่อยู่ด้านหลังเอาไว้
ใช้นิ้วมือทั้งห้าบีบเบา ๆ
ปัง!
เงาระเบิดออก กลายเป็นฟองสบู่หายไป
เฉียนเย่จวินกระอักโลหิตออกมา สีหน้าซีดเผือด
ดูเหมือนว่าการที่เงาถูกทำลาย จะส่งผลกระทบต่อเขา
"เจ้… เจ้ามีตบะระดับใด?"
เฉียนเย่จวินมองไปยังพระภิกษุลึกลับผู้นี้ด้วยความจริงจัง
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าอีกฝ่ายแม้จะแสร้งทำเป็นอ่อนแอ แต่ระดับตบะก็คงไม่เกินระดับบำรุงจิต
ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะสามารถทำลายเงาของเขาได้ด้วยมือเปล่า การกระทำเช่นนี้มิใช่สิ่งที่ผู้บำเพ็ญระดับบำรุงจิตสามารถทำได้
ระดับตบะของพระภิกษุผู้นี้ บางทีอาจจะอยู่ในระดับถ้ำพำนัก!
เย่หวู่ซินได้ยินเช่นนั้น กลับไม่ได้ตอบคำถามของเฉียนเย่จวิน
แต่กลับยิ้มออกมาอย่างแผ่วเบา "พระภิกษุน้อยมีเพียงระดับวิญญาณโอสถ ไม่คู่ควรให้สนใจ"
"ระ… ระดับวิญญาณโอสถ!?" เฉียนเย่จวินตกใจอย่างยิ่ง จากนั้นก็รู้สึกตัว