บทที่ 57 รู้สึกว่าไม่เคยกินปลาอร่อยขนาดนี้มาก่อนเลย
บทที่ 57 รู้สึกว่าไม่เคยกินปลาอร่อยขนาดนี้มาก่อนเลย
วันรุ่งขึ้น ยามเช้าตรู่
หลี่หานและพ่อตื่นแต่เช้า พกแหไปจับปลาที่อ่างเก็บน้ำ
การจับปลาด้วยแหนั้นมีประสิทธิภาพดีทีเดียว ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็จับปลาได้หลายสิบตัว
มีทั้งปลาตะเพียน ปลาไน ปลาเฉา หลากหลายขนาด
ปลาตัวที่เล็กเกินไปก็ปล่อยคืนลงอ่างเก็บน้ำ
ปลาตะเพียนและปลาไนเก็บไว้เฉพาะตัวที่ใหญ่กว่าสามนิ้วขึ้นไป ส่วนปลาเฉาเก็บเฉพาะตัวที่หนักเกินครึ่งกิโลขึ้นไป
ปลาได้มากพอแล้ว หลี่หานไม่คิดจะจับต่อ
เขากับพ่อช่วยกันเก็บแห
หลังจากที่เมื่อวานตัดสินใจว่าจะขายปลาวันนี้ หลี่หานก็ได้ทำถังน้ำอย่างง่ายที่สามารถผูกติดกับที่วางของบนรถมอเตอร์ไซค์
ตอนนี้ ถังน้ำก็บรรจุน้ำเต็มที่
หลี่หานเทปลาที่เพิ่งจับได้ทั้งหมดลงในถังน้ำ ปลาทุกตัวยังว่ายน้ำกระโดดโลดเต้นอย่างมีชีวิตชีวา
หลังจากที่คุณภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำถูกปรับเปลี่ยนด้วยหยดน้ำค้างกลั่น ปลาในนั้นไม่เพียงแต่อร่อยขึ้น แต่ยังมีพละกำลังแข็งแรงขึ้นด้วย
ดังนั้น หลี่หานจึงไม่ได้เตรียมอุปกรณ์ให้อากาศสำหรับถังน้ำ
ไม่มีความจำเป็น
ถังน้ำถูกผูกไว้ที่ที่วางของด้านหนึ่งของรถมอเตอร์ไซค์ อีกด้านหนึ่งวางตะกร้าไม้ไผ่ใส่ผัก ซึ่งบรรจุผักไว้เต็มแล้ว
วันนี้ หลี่หานตั้งใจจะขายทั้งผักและปลาไปพร้อมกัน
รถมอเตอร์ไซค์บรรทุกปลาและผักได้จำกัด หลี่หานอาจเปลี่ยนไปใช้รถกระบะที่สามารถบรรทุกปลาและผักได้มากกว่า
แต่เขาไม่คิดจะเปลี่ยน
เขาไม่ได้ต้องการทำธุรกิจขายผักขายปลาให้ใหญ่โต หรือต้องการกำไรมากมาย
เขาแค่ชอบ และขายไปตามสะดวกเท่านั้น
ไม่เป็นไร ถึงรถมอเตอร์ไซค์จะบรรทุกได้น้อยก็ตาม
ขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ ออกเดินทาง!
วันนี้ไม่ใช่วันตลาดนัดที่หมู่บ้านซวงหลง จึงต้องไปที่ตลาดในเมือง
ถึงตลาดนัดในเมืองที่จุดเดิม เวลาช้ากว่าปกติเล็กน้อย
"เอ๊ะ? น้องชาย มาแล้วเหรอ ฉันนึกว่าวันนี้เธอจะไม่มาอีกซะแล้ว ฮ่าๆๆ! ดีที่มานะ หลายวันมานี้ไม่ได้ซื้อผักของเธอเลย อยากซื้อผักของเธอจริงๆ อ้าว? น้องชาย นั่นถังน้ำเหรอ?"
หลี่หานขนของลงพลางตอบว่าใช่ เป็นถังน้ำ
"โอ้? น้องชาย ข้างในมีอะไร นั่นปลาหรือ? เธอจะเริ่มขายปลาด้วยเหรอ?"
หลี่หานหัวเราะ พูดว่า "ใช่ครับ จะเริ่มขายปลาด้วย"
"จริงเหรอ? งั้นปลาพวกนี้ของเธอจะอร่อยเหมือนผักของเธอไหม?"
"ป้าซื้อกลับไปลองชิมดูสักตัวก็รู้คำตอบแล้วครับ"
"ดี ๆ งั้นฉันจะซื้อสักตัวกลับไปลอง"
"ได้ครับ! รอสักครู่นะครับ เดี๋ยวจัดให้"
ระหว่างพูดคุย หลี่หานจัดแผงเสร็จแล้ว ด้านขวาเป็นผัก ด้านซ้ายเป็นปลา
เปิดฝาถังน้ำ คนแรกนั้นมองเห็นในถังมีปลาเต็มไปหมด หลายสิบตัวหลากหลายขนาด
ดูเหมือนจะมีปลาหลายชนิด ทั้งปลาตะเพียน ปลาไน ปลาเฉา ทั้งหมดอยู่รวมในถังเดียวกัน ไม่ได้แยก
น้องชายคนนี้ขายปลาแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ!
"น้องชาย ฉันเห็นมีปลาเฉาใช่ไหม?"
"ครับ มีครับ"
"ราคาเท่าไหร่ต่อกิโล?"
"ตั้งราคาตามท้องตลาดครับ กิโลละเก้าหยวน"
"ดีเลย งั้นขอปลาเฉาหนึ่งตัว เอาตัวใหญ่นะ"
"ได้ครับ ผมจับให้ อ้อ ผมไม่มีบริการแล่หรือทำความสะอาดนะครับ"
ปัจจุบันในตลาด ร้านขายปลามักจะมีบริการแล่ปลาฟรี
ทั้งฆ่าปลา ผ่าท้อง สุดท้ายยังหั่นเป็นชิ้นหรือเป็นแผ่นให้ด้วย
บริการครบครัน ลูกค้าก็สะดวก เอาเนื้อปลาที่หั่นเสร็จกลับบ้านได้เลย
บริการแบบนี้ หลี่หานไม่คิดจะทำ
คนนั้นหัวเราะ พูดว่า "ไม่เป็นไรจ้ะน้องชาย ไม่ต้องทำความสะอาด ฉันเอากลับไปทำเองที่บ้าน ฉันเดาไว้แล้วว่าเธอคงไม่ทำให้"
"ครับ งั้นผมจับปลาเฉาตัวใหญ่ให้นะครับ"
ปลาเฉาตัวที่ใหญ่ที่สุดหนักประมาณหนึ่งกิโลครึ่ง หลี่หานใช้สวิงตักปลาเฉาตัวนั้นขึ้นมา
นำไปชั่ง หนัก 1.45 กิโล ราคา 26.1 หยวน คิดเป็น 26 หยวนกลมๆ
ในตอนนี้ รอบๆ มีลูกค้ามากมายมายืนล้อม ทั้งลูกค้าประจำและลูกค้าใหม่
เห็นว่าวันนี้หลี่หานนอกจากขายผักแล้วยังขายปลาด้วย ทุกคนต่างประหลาดใจและดีใจ
ผักของหลี่หานอร่อยขนาดนั้น ปลาที่เขาขายก็ต้องน่าลองแน่นอน
และปลาก็เป็นของที่ทุกคนซื้อกินบ่อยๆ
ดังนั้น ทุกคนจึงตัดสินใจซื้อปลาสักตัวกลับไปลอง
ส่วนเรื่องที่หลี่หานไม่มีบริการทำความสะอาด ไม่เป็นไร พวกเขาเอากลับไปทำเองที่บ้านก็ได้
"ขอปลาไนหนึ่งตัวครับ"
"น้องชาย ฉันขอปลาตะเพียน ฉันจับเองนะ ฉันจะเอาตัวที่ใหญ่ที่สุดที่เห็นเมื่อกี้"
ทำไมทุกคนซื้อแค่ตัวเดียว?
เพราะหลี่หานมีกฎว่า ไม่ว่าปลาจะตัวใหญ่หรือเล็ก หนึ่งคนซื้อได้แค่หนึ่งตัว
ช่วยไม่ได้ รวมทั้งหมดมีแค่หลายสิบตัว ถ้าไม่จำกัดแบบนี้ แค่ไม่กี่คนก็อาจซื้อปลาไปหมดแล้ว
แน่นอน แม้จะจำกัดคนละตัว ก็ยังขายได้แค่หลายสิบคนเท่านั้น
ยังคงไม่พอกับความต้องการอีกมาก
แต่เรื่องนี้ หลี่หานก็ทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้
วันนี้ซื้อไม่ทัน ก็ต้องรีบมาแต่เช้าพรุ่งนี้แล้ว
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ปลาในถังเต็มๆ ขายหมดเกลี้ยง
ผักก็ขายหมด
เริ่มเก็บของ
"หลี่หาน ได้ยินว่าวันนี้เธอขายปลาด้วยเหรอ?"
นั่นเป็นเสียงของเติ้งชุย
หลี่หานเงยหน้าขึ้น เป็นเติ้งชุยจริงๆ
ยิ้มพูดว่า "อาจารย์เติ้งนี่เอง ครับ วันนี้ผมขายปลาด้วย เป็นปลาจากบ่อที่บ้านครับ"
"น่าเสียดายจัง ฉันมาสาย ฉันชอบกินปลามากเลยนะ" เติ้งชุยรู้สึกเสียดาย
หลี่หานพูดว่า "พรุ่งนี้ผมน่าจะมาอีก ถ้าอาจารย์เติ้งต้องการ พรุ่งนี้ผมเก็บไว้ให้หนึ่งตัวนะครับ"
"ดีเลย งั้นเก็บปลาเฉาให้ฉันหนึ่งตัวนะ"
"ได้ครับ ไม่มีปัญหา"
"อ้อใช่ ต้องแสดงความยินดีด้วยนะ! เรื่อง 'เด็กเลี้ยงแกะ' ได้อันดับหนึ่ง ตอนนี้ชื่อเสียงของเธอก็ดังขึ้นอีกมากเลยนะ"
"ขอบคุณครับ!"
"ก่อนหน้านี้เป็น 'การแข่งระหว่างกระต่ายกับเต่า' ตอนนี้ก็เป็น 'เด็กเลี้ยงแกะ' เธอเก่งมากในการแต่งนิทานแนวนี้นะ ต่อไปเธอจะแต่งนิทานแบบนี้อีกไหม?"
"อาจจะแต่งนะครับ แต่งนิทานเป็นครั้งคราวก็สนุกดีครับ"
"ดีแล้วล่ะ ฉันเห็นในอินเทอร์เน็ตมีผู้ปกครองหลายคนบอกว่า หวังว่าเธอจะมาทำงานด้านวรรณกรรมเด็กโดยเฉพาะนะ"
"ทำโดยเฉพาะคงไม่ล่ะครับ แต่งเป็นครั้งคราวก็พอครับ"
"อืม แบบนี้ก็ดีแล้ว"
คุยกันอีกสักพัก เติ้งชุยก็จากไป หลี่หานก็เก็บของเรียบร้อย ขี่รถมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน
ปลารอบแรกก็ขายไปแบบนี้ พรุ่งนี้มาอีกครั้ง น่าจะได้ฟังความเห็นจากลูกค้าที่ซื้อปลากลับไปวันนี้แล้ว
...
แน่นอนว่าเป็นเช่นนั้น
เช้าวันรุ่งขึ้น หลี่หานเหมือนเมื่อวาน ถือตะกร้าผักหนึ่งใบและถังน้ำใส่ปลามาที่ตลาดในเมือง
เพิ่งจอดรถมอเตอร์ไซค์ ก็ได้ยินคนพูดว่า "น้องชาย ในที่สุดก็มาแล้ว วันนี้ฉันจะซื้อปลาอีกตัว ปลาที่ซื้อกลับไปเมื่อวานอร่อยมากๆ เลย"
หลี่หานหันไปมอง เป็นคนที่ซื้อปลาเฉาตัวแรกเมื่อวานนั่นเอง
ตอนนี้เขาดูตื่นเต้นมาก
หลี่หานยิ้มพูดว่า "รสชาติดีใช่ไหมครับ?"
คนนั้นพูดว่า "ไม่ใช่แค่ดีธรรมดา ฉันรู้สึกว่าไม่เคยกินปลาอร่อยขนาดนี้มาก่อนเลย"
...
ขอเปลี่ยนเป็นชื่อ เด็กเลี้ยงแกะนะครับ เพื่อเพิ่มความอินและเข้าใจ