บทที่ 55 ความหมายที่ลึกซึ้ง
เมืองหลวงมณฑล
เหอฉานยังคงเดินทางมาทําธุรกิจที่นี่
เธอไม่แปลกใจเมื่อเห็นว่าที่หนึ่งคือหมาผ่ามาแล้ว แต่กลับดีใจสุดๆ
หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและส่งวีแชทถึงหลี่หาน "พี่หลี่หาน ขอแสดงความยินดีด้วย "
หมู่บ้านหยวนซี
หลี่หานกําลังพาเด็กหมีกลุ่มหนึ่งไปจับกุ้งมังกรในทุ่งนา
วันนี้ต่างจากเมื่อวานคือเมื่อวานเป็นการหยิบ แต่วันนี้เป็นการจับ
ไม่ว่าจะจับโดยตรงในทุ่งนาที่น้ำไม่ลึก หรือเอามือเข้าไปในรูกุ้งมังกรเพื่อจับกุ้งมังกรที่อยู่ข้างในออกมา
กุ้งมังกรชอบเจาะรูบนคันนาอย่างมาก ที่ปากถ้ำมักจะเป็นโคลนใหม่แฉะซึ่งแยกแยะได้ง่าย
ปกติในรูกุ้งมังกรหนึ่งรูจะมีกุ้งมังกรสองตัว
หนึ่งตัวผู้หนึ่งตัวเมีย สามารถจับพร้อมกันโดยตรง
หลังจากจับกุ้งมังกรตัวใหญ่สองตัวแล้ว หลี่หานคาดว่าน่าจะใกล้ถึง 10 โมงแล้ว จึงล้างมือให้สะอาดและหยิบโทรศัพท์ออกมา ตั้งใจจะดูผลลัพธ์ที่ประกาศโดยทีมรายการช่องเด็กของCCTV
หือ?
มีข้อความใหม่ 2 ข้อความ
อันหนึ่งเป็นของเหอฉาน อีกอันหนึ่งเป็นของซูอวี่ฉิง
หลังจากอ่านข้อความทั้งสองนี้แล้ว ก็ไม่ต้องไปดูผลที่ทางรายการประกาศออกมาอีกต่อไป
สําหรับการชนะที่หนึ่ง หลี่หานไม่แปลกใจเลย นั่นเป็นเรื่องราวที่คลาสสิกมากในอีกโลกหนึ่ง
ส่งข้อความกลับไปที่เหอฉานและซูอวี่ฉิงตามลําดับ
จากนั้นเก็บโทรศัพท์มือถือแล้วจับกุ้งก้ามกรามต่อไป
……
เซี่ยงไฮ้
นิตยสารความสนุกสำหรับเด็ก
ห่าวเจี้ยนเฟิงตื่นเต้นมาก
"หมาป่ามาแล้ว" ได้รับรางวัลที่หนึ่งอย่างไม่คาดคิด
ด้วยวิธีนี้ นิตยสารความสนุกสําหรับเด็กของพวกเขาไม่เพียงแต่สามารถแสดงใบหน้าของตนได้เท่านั้น
ผู้ปกครองจํานวนนับไม่ถ้วนทั่วประเทศจะได้เห็น "หมาป่ามาแล้ว" ที่ได้รับการแนะนําโดยนิตยสารความสนุกสําหรับเด็กของพวกเขาอีกด้วย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะทําให้ชื่อเสียงของนิตยสารของพวกเขาเพิ่มมากขึ้น
ด้วยวิธีนี้ คุณสามารถสร้างระยะห่างกับนิตยสารอื่นได้อีกไกลโข
ไม่มีข่าวไหนที่ทําให้ห่าวเจี้ยนเฟิงตื่นเต้นไปกว่านี้แล้ว
……
เหล่าเสือที่จ้องมองแผ่นหลังของ "ความสนุกสำหรับเด็ก" ในเวลานี้ต้องการร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา
หลี่หาน?
ทำไมต้องเป็นหลี่หานอีกแล้ว?
สิ่งที่น่าหงุดหงิดอีกอน่างคือ ผู้แนะนําผลงานของเขาทําไมถึงเป็ผนความสนุกสำหรับเด็ก
เขาบอกว่าเขาขายผักอยู่ที่ตลาดสดไม่ใช่เหรอ?
ไม่ใช่ว่า "การแข่งขันระหว่างกระต่ายกับเต่า" เป็นเพียงเพราะความบังเอิญที่เกิดขึ้นในตลาดเหรอ?
ไม่ใช่ว่า "การแข่งขันระหว่างกระต่ายกับเต่า" อาจเป็นเพียงผลงานชิ้นเดียวของเขาเหรอ?
ไม่ใช่ว่าแม้ว่าเขาจะสร้างผลงานอีกครั้ง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมียอดเยี่ยมเท่ากับ "การแข่งขันระหว่างกระต่ายกับเต่า" เหรอ?
แล้วตอนนี้เกิดอะไรขึ้น?
ทำไมหลี่หานถึงโผล่มาอีก อีกทั้งยังคว้ารางวัลชนะเลิศด้วยนิทาน "หมาป่ามาแล้ว" ที่กดดันผู้มีชื่อเสียงด้านวรรณกรรมเด็กมากมายทั่วประเทศ
โผล่มาอะได้ แต่ทำไมต้องคว้าที่หนึ่งไปด้วย?
แค่คุณส่งบทความในนามส่วนตัวของคุณเอง ทําไมถึงติดป้ายแนะนําโดยนิตยสารสนุกสําหรับเด็กด้วย?
ด้วยวิธีนี้ นิตยสารความสนุกสำหรับเด็กจะปรากฏตัวในช่องเด็กของ CCTV และชื่อเสียงในหมู่ผู้บริโภคจะดีขึ้นเรื่อยๆ
ช่องว่างจะถูกขยายออกไปอย่างไม่ต้องสงสัย
เหล่าผู้ไล่ล่ากลุ่มหนึ่งอยากจะร้องไห้แต่ไร้น้ำตาจริง ๆ
อย่างไรก็ตาม พวกเขายังอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับ "หมาป่ามาแล้ว"
หลังจาก "การแข่งขันระหว่างกระต่ายกับเต่า" หลี่หานก็แต่งเรื่องที่ยอดเยี่ยมอีกเรื่องขึ้นมา
คราวนี้ไม่ใช่เต่าหรือกระต่าย แต่เปลี่ยนเป็นหมาป่าแล้ว
ทุกเรื่องต้องเกี่ยวกับสัตว์ทั้งหมดเลยรึไง
……
ผู้ปกครองนับไม่ถ้วนทั่วประเทศในเวลานี้ต่างอารมณ์ดีมาก
ฮ่าๆๆๆ
หลี่หานได้เข้าร่วมแข่งขันจริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ยังได้ที่หนึ่งอีกด้วย
กล่าวอีกนัยหนึ่ง การดัดแปลงละครเด็กของ CCTV ในครั้งนี้จะเป็นผลงานใหม่ของหลี่หาน "หมาป่ามาแล้ว"
พวกเขารู้ว่าถ้าหลี่หานเข้าร่วมการแข่งขัน มันจะทําให้พวกเขาประหลาดใจอีกครั้ง
แล้ว "หมาป่ามาแล้ว" เป็นเรื่องราวแบบไหนกันแน่ล่ะ?
ตอนนี้เหล่าผู้ปกครองก็อยากรู้มากเช่นกัน
……
ทีมงานรายการสำหรับเด็กของ CCTV ก็ดีใจมากที่ได้เจอเรื่องราว "หมาป่ามาแล้ว"
พวกเขาเชื่อว่าละครสำหรับเด็กที่ดัดแปลงมาจากเรื่องนี้ เมื่อออกอากาศแล้วจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างอย่างแน่นอน
เรื่องราวที่รวบรวมมาในครั้งนี้ มีอีกหลายเรื่องที่จริง ๆ แล้วค่อนข้างยอดเยี่ยม แต่เมื่อเทียบกับ "หมาป่ามาแล้ว" ก็ยังแย่กว่ามาก
พวกเขารู้ว่า ตอนนี้โลกภายนอกอยากรู้ว่า "หมาป่ามาแล้ว" เป็นเรื่องราวแบบไหนกันแน่
ดังนั้น ไม่นานหลังจากประกาศผล เนื้อหาทั้งหมดของ "หมาป่ามาแล้ว" ก็ถูกเผยแพร่อย่างเป็นทางการ
……
หลังจากหลิวเซียงเจี๋ยเห็นแล้ว ก็ถอนหายใจอีกครั้ง
ผลงานของเขาเมื่อเทียบกับ "หมาป่ามาแล้ว" ต่างกันลิบลับ
หลังจากนักเขียนวรรณกรรมเด็กที่เหลือในกลุ่มเห็นแล้ว พวกเขาก็เงียบ
พวกเขาไม่อยากยอมรับ แต่ก็ต้องยอมรับว่า "หมาป่ามาแล้ว" ดีกว่าผลงานของตัวเองมากจริง ๆ
นอกจากนี้ หากวิเคราะห์เรื่องราวทั้งหมดอย่างละเอียด จะพบว่า สิ่งที่มันต้องการสื่อถึง ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่การสอนเด็ก ๆ ให้เป็นคนซื่อสัตย์เฉยๆ
ในเรื่อง เด็กที่เลี้ยงแกะคนนั้นโกหกสองครั้งว่าหมาป่ามาเพื่อหลอกชาวบ้านเพื่อความสุข
จนไม่มีใครเชื่อเขาอีกเลยเมื่อหมาป่ามาถึงจริง
แกะของเขาถูกกัดตายทั้งหมด
เขาได้ลิ้มรสราคาของการโกหก
นี่เป็นการสอนเด็ก ๆ อย่างชัดเจนว่าการเป็นคนต้องซื่อสัตย์และต้องไม่โกหก
การโกหกจะทำให้คนอื่นเสียความไว้วางใจในตัวเอง
แต่ถ้าวิเคราะห์ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เหตุผลที่ชาวบ้านไม่ได้ไปช่วยเหลือเด็กเลี้ยงแกะในครั้งที่สามก็ไม่เหมาะสมใช่ไหม
ต้องรู้ด้วยว่า ถ้าหมาป่ามาจริง แล้วชาวบ้านไม่ได้ไปช่วย ชีวิตของแกะและเด็กเลี้ยงแกะจะตกอยู่ในอันตราย
และถ้าพวกเขาไปช่วย แม้ว่าเหล่าชาวบ้านจะพบว่าเด็กเลี้ยงแกะกําลังโกหกและล้อพวกเขาเล่นอยู่ แต่สิ่งที่สูญเสียไปก็เป็นเพียงกําลังกายและเวลาเท่านั้น
และแน่นอนความไว้วางใจระหว่างผู้คน
แต่ท้ายที่สุดแล้วชีวิตเป็นสิ่งสําคัญที่สุด ในสถานการณ์ที่ชีวิตของตนเองหรือคนอื่นถูกคุกคามและตนเองไม่สามารถตัดสินความถูกต้องและเท็จได้ ควรเลือกที่จะเชื่อมากกว่า
ไปช่วยก่อนแล้วค่อยว่ากัน
ดังนั้น การที่ชาวนาไม่ได้เลือกไปช่วยเหลือเป็นครั้งที่สาม นั้นไม่เหมาะสมหรือเหมาะสมกันแน่?
คําถามนี้ยากที่จะตอบและเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ แต่ก็ทําให้ทุกคนต้องฉุกคิด
นักเขียนวรรณกรรมเด็กกลุ่มหนึ่งกําลังคิดอยู่
สิ่งนี้ทําให้พวกเขาตระหนักว่าเรื่องราวของหลี่หานดูเหมือนจะไม่ง่ายอย่างที่เห็น
พวกเขาไม่อยากยอมรับข้อนี้จริง ๆ แต่ก็ต้องยอมรับ
……
สําหรับผู้ปกครองนับไม่ถ้วน พวกเขาไม่ได้วิเคราะห์ในเชิงลึกขนาดนั้น
แค่ต้องการให้เรื่องนี้ทําให้เด็ก ๆ เข้าใจว่า การเป็นคนต้องซื่อสัตย์ก็เพียงพอแล้ว
ผู้ปกครองหลายคนเล่าเรื่องนี้ให้ลูก ๆ ของพวกเขาฟังทันที
เด็ก ๆ อาจยากที่จะเข้าใจและต้องใช้เวลาในการตีความ แต่เรื่องราวนี้จะยังคงอยู่ในใจของพวกเขาอย่างแน่นอน
แล้วในท้ายที่สุด พวกเขาจะเข้าใจมันอย่างแท้จริง
……
*หมาป่ามาแล้ว狼来了 ชื่อไทยก็คือ เด็กเลี้ยงแกะนั่นเอง