ตอนที่ 52 จัดการฮอว์คอาย!
ตอนที่ 52 จัดการฮอว์คอาย!
“บาร์ตันนี่เลือกที่ซ่อนตัวได้ดีจริง ๆ!” เอริคเอ่ยขึ้นขณะเพลิดเพลินกับวิวสวยงามนอกหน้าต่างรถ ตอนนี้เขารู้สึกผ่อนคลายและเบิกบานใจเป็นอย่างมาก
สถานที่ที่เขากำลังอยู่ในตอนนี้ก็คือ อุทยานแห่งชาติคอนกัส ซึ่งเป็นป่าแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ครอบคลุมพื้นที่ธรรมชาติสำคัญ 19 แห่ง รวมถึงเขตอนุรักษ์หมู่เกาะแอดมิรัลตี้ และพื้นที่ชมวิวมิสตี้ฟยอร์ด ที่นี่มีธารน้ำแข็งคอตตอนฟิลด์ รวมทั้งธารน้ำแข็งอื่น ๆ อีกหลายแห่ง
เนื่องจากตอนนี้เป็นช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ ทำให้ธารน้ำแข็งเริ่มละลายเล็กน้อย เสียงน้ำหยดไหลรินใต้แผ่นน้ำแข็งดังมาให้ได้ยินจากที่ไกล ยอดเขาในระยะไกลยังคงปกคลุมด้วยหิมะ แต่เนินเขาด้านล่างกลับถูกแต่งแต้มด้วยสีเขียวของป่าสน ทำให้ถ้ามองจากไกล ๆ มันจึงดูคล้ายลูกผักกาดยักษ์ที่ราดด้วยน้ำสลัดไม่มีผิด
พูดตามตรงตอนนี้เอริครู้สึกว่าเสียใจไม่น้อยที่ไม่ได้พาสกายมาด้วย . . .
“ไม่เป็นไร คราวหน้าค่อยพาเธอมาด้วยก็ได้!” เอริคพูดกับตัวเอง ขณะขับรถจากใจกลางเมืองจูโนไปตามถนนเลียบทางเรื่อย ๆ ชื่นชมความงดงามของธรรมชาติระหว่างทาง
เมื่อขับไปตามธารน้ำแข็งจนสุดเส้นทาง ถนนรองก็สิ้นสุดลง ต่อไปเป็นป่าดิบชื้นที่ยังไม่ได้รับการพัฒนา ดังนั้นเอริคจึงจอดรถเอาไว้ข้างทาง หยิบมีดยาวออกมาแขวนไว้ที่เอว พร้อมสะพายกระบอกลูกธนูไว้ด้านหลัง และถือธนูคอมพาวด์ไว้ในมือ ก่อนจะเดินลึกเข้าสู่ป่าราวกับพรานล่าสัตว์
จะไปเจอฮอว์คอายทั้งที ต้องพกธนูไปด้วยสิจริงไหม?!
บาร์ตันนั้นเติบโตในคณะละครสัตว์ตั้งแต่เด็ก ได้ฝึกดาบจากนักดาบฝีมือฉกาจอย่าง ‘ซอร์ดแมน’ ต่อมาเป็นศิษย์ของ ‘ทริกช็อต’ เพื่อฝึกฝนจนเชี่ยวชาญด้านยิงธนู ทำให้ในเวลาไม่นานเขาก็เก่งกาจจนแซงหน้าครูของเขาทั้งสองคน
ดังนั้นการพบลูกน้องในอนาคตคนนี้เป็นครั้งแรก เอริคจึงตั้งใจจะ ‘พิสูจน์ตัวเอง’ ด้วยการใช้กำลัง ในสิ่งที่บาร์ตันถนัดที่สุด
ระหว่างเดิน เอริคพยายามหลีกเลี่ยงสัตว์ป่าตัวใหญ่ ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าขับไล่พวกมันไป เมื่อเดินผ่านใต้ต้นไม้ใหญ่เอริคก็หยุดมองใบไม้บนพื้น ก่อนจะใช้มีดยาวค่อย ๆ แหวกเปิดเผยให้เห็นเถาวัลย์ที่ซ่อนอยู่ด้านล่าง
นี่คือกัปดัก!
มันเป็นกับดักที่ทำจากวัสดุในพื้นที่ เช่น เถาวัลย์และกิ่งไม้ ทั้งกลมกลืนกับธรรมชาติและรักษ์โลกสุด ๆ
“เจ้าหมอนี่ระวังตัวจัด เริ่มวางกับดักตั้งแต่สองกิโลเมตรแรกเลย!” เอริคปิดใบไม้กลับเหมือนเดิม ระบุทิศทางแล้วเดินต่อไป แต่ยิ่งเดินไปลึกมากเท่าไหร่กับดักมันก็ยิ่งมีมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่เขาก็หลบได้ทั้งหมดโดยไม่ทำลายกัปดักแม้แต่ชิ้นเดียว
จนกระทั่งในที่สุดเขาก็มาถึงตีนเขาลูกเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยหินและรอยแยก ซึ่งถ้าดูจากสัญญาณจากเครื่องติดตามดูเหมือนเครื่องติดตามมันจะอยู่ในรอยแยกที่กว้างพอให้คนเข้าไปได้ตรงหน้าของเขา
อย่างไรก็ตามเอริคกับมองรอยแยกนั้นเพียงครู่หนึ่งก่อนจะหยิบลูกธนูขึ้นมาเล็งไปยังยอดไม้ใหญ่ ก่อนจะดึงสายธนูจนตึงและปล่อยลูกธนูพุ่งแหวกอากาศออกไปอย่างรวดเร็วจนเจาะทะลุยอดไม้และบินไกลออกไป
บาร์ตันตัวตรงอยู่ตรงนั้น!
คนอย่างฮอว์คอายไม่มีทางหลงกลเครื่องติดตามง่าย ๆ และเขาก็รู้ตั้งแต่แรกแล้ว ดังนั้นเขาจึงใช้มันเป็นเหยื่อล่อศัตรูแทน นี่คือกลวิธีพื้นฐานของนักล่า
แต่เมื่อบาร์ตันเห็นลูกธนูพุ่งเฉียดศีรษะของตัวเองไป เขาก็รู้ทันทีว่าตำแหน่งนักล่าและเหยื่อได้เปลี่ยนไปแล้ว
ทันใดนั้นบาร์ตันก็รีบออกจากยอดไม้ เลื่อนตัวลงอีกด้านโดยใช้เถาวัลย์ ส่วนเอริคที่จับการเคลื่อนไหวของเขาได้ก็ยิงธนูออกไปอีกครั้ง
ฟิ้ว . . .
ลูกธนูพุ่งออกไปด้วยความเร็วสูง แลกระทบกับลำต้นไม้ส่งเสียงดัง ‘ปัง!’
บาร์ตันหยุดอยู่กับทันทีเมื่อเห็นลูกธนูอีกดอกพุ่งเข้ามาอย่างเฉียดฉิว และหยุดนิ่งอยู่ใต้หว่างขาของเขา ห่างจุดสำคัญเพียงไม่ถึงนิ้ว!
ลูกธนูอันแหลมคมได้เฉือนกางเกงของบาร์ตันจนขาดเป็นรู พร้อมกับลมหนาวพัดผ่านเข้าไปจนบาร์ตันสะดุ้ง และเผลอแตะโดนลูกธนูอีกครั้ง ความเย็นของโลหะทำให้เขาตัวสั่นทันที!
‘นี่มันปีศาจอะไรกันแน่!’ บาร์ตันคิดในใจด้วยความหวาดเสียว
เขาเชื่อมาตลอดว่าฝีมือการยิงธนูของตัวเองนั้นยอดเยี่ยมที่สุด แต่คนที่เขาเผชิญอยู่ตอนนี้กลับเหนือชั้นกว่าเขาแบบน่ากลัวมาก! แล้วยังธนูบ้าอะไรนี่อีก? ลูกธนูดอกเดียวสามารถเจาะทะลุต้นไม้ใหญ่ที่ต้องใช้คนโอบหลายคนได้ สไนเปอร์ไรเฟิลธรรมดายังทำไม่ได้เลย!
‘ฉันสู้เขาไม่ได้!’ เมื่อคิดได้ดังนี้บาร์ตันก็ไม่รอช้า ใช้แรงที่แขนขาพุ่งตัวลงจากลำต้นไม้ ก่อนที่ร่างของเขาจะโค้งเป็นเส้นโค้งในอากาศลงสู่พื้น และกลิ้งตัวหลายครั้งเพื่อลดแรงเฉื่อย หลังจากนั้นบาร์ตันก็ออกแรงวิ่งสุดกำลังเข้าสู่ด้านในของป่าดงดิบทันที
แน่นอนว่าเอริคก็รู้เช่นกันว่าบาร์ตันกำลังจะหนี ดังนั้นเขาจึงได้แต่ถอนหายใจในใจ ‘แค่สองดอกเอง ยังไม่ได้เล่นสนุกเลย เจ้าหมอนี่ก็หนีแล้ว!’
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ยอมให้เหยื่อหลุดมือไปได้เช่นกัน!
เอริคเอื้อมมือไปหยิบลูกธนูจากด้านหลังออกมาห้าดอก เล็งขึ้นฟ้าแล้วดึงสายธนูจนสุด ก่อนจะปล่อยลูกธนูพุ่งขึ้นฟ้าในทิศทางโค้งจนเป็นวงกลม
ในขณะเดียวกันทางด้านของบาร์ตันนั้นก็วิ่งเต็มฝีเท้า เปลี่ยนทิศทางและทำท่าแกล้งหลอกศัตรูเป็นระยะ ๆ ตอนนี้เขาวิ่งไปไกลหลายไมล์ พร้อมกับฟังเสียงรอบข้างอย่างระแวดระวัง แต่เมื่อไม่พบสิ่งผิดปกติ เขาก็เริ่มคลายความระแวงลง
แต่ทันใดนั้นเอง จู่ ๆ เขาก็ได้ยินเสียงลูกธนูพุ่งแหวกอากาศดังขึ้นมาบนเหนือหัวของเขา!
บาร์ตันหยุดอยู่กับที่ทันทีด้วยความตกใจ และพบว่าลูกธนูห้าดอกตกลงมาจากฟ้ารอบตัวเขาพุ่งปักลงดินอย่างแม่นยำจนเกิดรูปห้าเหลี่ยมโดยที่ตัวเขาอยู่ตรงกลาง โดยลูกธนูแต่ละดอกนั้นมีระยะห่างเท่ากันราวกับใช้ไม้บรรทัดวัด!
บาร์ตันกลืนน้ำลายอย่างหวาดระแวง และได้แต่ยืนนิ่งอยู่กลางวงธนูไม่กล้าขยับไปไหน
. . .
เมื่อเอริคสัมผัสได้ว่าบาร์ตันหยุดนิ่งแล้ว เขาก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อย และเก็บธนูไว้ด้านหลัง ก่อนจะเดินอย่างสบาย ๆ ไปหาบาร์ตัน
ซึ่งกว่าบาร์ตันจะได้ยินเสียงฝีเท้าของเอริค เขาก็เหงื่อท่วมกายแล้ว ในขณะที่เอริคกำลังเดินมาแบบไม่รีบร้อน
“คลินต์ บาร์ตัน!” เอริคพูดเรียบ ๆ ขณะยืนตรงหน้าบาร์ตัน
“นายเป็นใคร?” บาร์ตันมองสำรวจเอริคอย่างระแวดระวัง ก่อนเอ่ยอย่างไม่แน่ใจ “เอริค แลนเซอร์?”
“โอ้? นายรู้จักฉันด้วย?” เอริคเลิกคิ้วถามด้วยความแปลกใจ
“เคยเห็นนายในทีวี” บาร์ตันตอบ
เอริคเข้าใจทันที เพราะเดิมทีเขาก็เป็นถึงมหาเศรษฐีและบุคคลสาธารณะ ดังนั้นการปรากฏตัวในสื่อจึงเป็นเรื่องปกติ และไม่แปลกที่คนจะจำเขาได้
“นายต้องการอะไรจากฉัน?” บาร์ตันถามด้วยท่าทีระแวดระวัง
“ฉันต้องการบอดี้การ์ด และฉันคิดว่านายเหมาะสมที่สุด!” เอริคพูดด้วยรอยยิ้มบาง ๆ
“ห๊ะ?!” บาร์ตันมองธนูคอมพาวด์บนหลังเอริคด้วยความแปลกใจ “นายยังต้องการบอดี้การ์ดอีกเหรอ?”
“แน่นอนว่าฉันไม่ต้องการ แต่ลูกสาวของฉันต้องการ!”
บาร์ตันพยักหน้าเหมือนเข้าใจ แลพถามอย่างลังเลว่า “แล้วนายไม่ได้ตามฉันมาเพราะเรื่องนั้นจริง ๆ เหรอ? ถ้าไม่ใช่แล้วนายตามหาฉันเจอได้ยังไง?”
“เรื่องนั้น? เรื่องอะไร?” เอริคเลิกคิ้วอย่างสงสัย เขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าใครกันที่บีบบังคับให้ฮอว์คอาย อย่างบาร์ตันต้องหลบซ่อนตัว!
โปรดติดตามตอนต่อไป …